หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ฟาวิพิราเวียร์ ยาสู้ไวรัสโควิด เพียงพอหรือไม่

เนื้อหาโดย บอกข่าว เล่าเรื่อง

ฟาวิพิราเวียร์ ยาสู้ไวรัสโควิด เพียงพอหรือไม่ หากปรับแนวทางการจ่ายยา ผู้ป่วยได้ยาช้าเกินไป จะส่งผลต่อยอดผู้เสียชีวิตหรือไม่

ในขณะที่หลายพื้นที่พบว่าฟาวิพิราเวียร์เริ่มจะหายากในบางช่วง ทว่าเมื่อวันที่ 3 พ.ค. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กทม.จัดซื้อยาต้ายไวรัสชนิดนี้มาได้ 50,000 เม็ด และได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี อีก 50,000 เม็ด รวมเป็น 100,000 เม็ด

เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา กทม. มีแนวคิดที่จะให้ยาชนิดนี้แก่ผู้ป่วยระดับสีเขียว (ผู้ป่วยติดเชื้อที่ไม่มีอาการหรืออาการน้อยมาก) ที่เข้ามากักตัวที่โรงพยาบาลสนามตั้งแต่วันแรกทุกคน ๆ ละ 50 เม็ด ซึ่งทำให้แพทย์หลายคนออกมาแสดงความกังวลถึงความจำเป็นและอาจก่อให้เกิดภาวะดื้อยา

ท้ายที่สุดหลังจากมีการหารือร่วมกับกลุ่มแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ก็มีการสรุปว่าผู้ป่วยระดับสีเขียวจะได้รับยาชนิดนี้ก็ต่อเมื่อเข้าเกณฑ์การประเมินของแพทย์ คือ เป็นผู้ป่วยที่มีปริมาณไวรัสในร่างกายมากกว่าผู้อื่นและเสี่ยงต่อการลุกลามของโรค ซึ่งเชื่อว่ากลุ่มคนเหล่านี้หากได้รับยาตั้งแต่แรกและรักษาต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 5-10 วัน จะช่วยป้องกันไม่ให้อาการทรุดลงจนกลายเป็นผู้ป่วยระดับสีเหลืองหรือสีแดง

ล่าสุด กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขออกมาระบุว่า ยังไม่แนะนำให้ใช้ยาฟาร์วิพิราเวียร์สำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่มีอาการ ยกเว้นผู้ที่มีโรคร่วม และ/หรือมีปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ โดยให้เหตุผลว่ายังมีข้อมูลสนับสนุนทางวิชาการไม่เพียงพอที่ยืนยันถึงประโยชน์ของการให้ยาโดยเร็วตั้งแต่ยังไม่มีอาการ

รศ.นพ.นิธิพัฒน์ กล่าวอีกว่า ในระหว่างดำเนินการนี้ เกิดศึกระลอกสามตามมาอย่างรวดเร็ว จำนวนผู้ป่วยเพิ่มแบบทวีคูณควบคู่ไปกับยอดการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ โดยมีอัตราการใช้ระหว่าง 20-70% แล้วแต่ความสะดวกการเข้าถึงยาในพื้นที่ เป็นที่มาของความฉิวเฉียดของการมียาสำรองใช้เกือบไม่เพียงพอ 

แนวทางการรักษาผู้ป่วยด้วยยาฟาวิพิราเวียร์
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ชี้แจงวันนี้ (6 พ.ค.) ว่า จากการลงความเห็นของผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่า ผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการและไม่มีโรคร่วมจะยังคงไม่ให้ยารักษาเฉพาะ โดยมีรายละเอียดตามลำดับ ดังนี้
• ผู้ติดเชื้อยืนยัน ไม่มีอาการและไม่มีโรคร่วม จะไม่มีการให้ยาเฉพาะ และไม่มีวิธีการรักษาเฉพาะ
• ผู้ติดเชื้อยืนยัน มีอาการเล็กน้อย หรือไม่มีอาการแต่มีโรคร่วม/ปัจจัยเสี่ยง มีการปรับเปลี่ยนให้สามารถยาฟาวิพิราเวียร์ได้ตามดุลยพินิจของแพทย์
• ผู้ติดเชื้อยืนยันที่มีอาการเล็กน้อย มีความเสี่ยง และปอดอักเสบเล็กน้อย ผู้เชี่ยวชาญเห็นว่าการให้ยาฟาวิพิราเวียร์ควบคู่กับการให้ยาสเตียรอยด์ในผู้ป่วยที่เริ่มมีอาการรุนแรงจะสามารถลดอาการรุนแรงได้
• ผู้ติดเชื้อยืนยัน ปอดอักเสบรุนแรง จะมีการให้ยาฟาวิพิราเวียร์ สเตียรอยด์ และโลพินาเวียร์/ริโทนาเวียร์ ควบคู่กันไป
• เกณฑ์การให้ยาต้านไวรัส โดยเฉพาะฟาวิพิราเวียร์ เราให้เร็วขึ้นแต่ยังไม่ถึงกับให้ทุกคนนะครับ

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: มยุริญ ผดผื่นคัน
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ดวงดาวในจักรวาล มีกี่ดวง?สถานที่ท่องเที่ยว Unseen ของเมียนมาร์ ป่าเจดีย์กั๊กกู่ อายุ 2,000 ปี แห่งรัฐฉาน"มัสมั่น"อาหารใต้ ที่ขึ้นชื่อเมนูอร่อยที่สุดในโลกด่วน! เครื่องบินตกหลุมอากาศ ลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินสุวรรณภูมิ เจ็บ 30 เสียชีวิต 1ฟิลิปปินส์กล่าวหาจีน ทำหอยมือเสือลดลงพาไปรู้จักเห่าช้าง สัตว์เลื้อยคลานที่อยู่ในวงศ์เ...้ย
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
พาไปรู้จักเห่าช้าง สัตว์เลื้อยคลานที่อยู่ในวงศ์เ...้ยสถานที่ท่องเที่ยว Unseen ของเมียนมาร์ ป่าเจดีย์กั๊กกู่ อายุ 2,000 ปี แห่งรัฐฉานทำไมคนอินเดีย ถึงไม่ใช้มือซ้ายจับมือ?จังหวัดที่มีปริมาณผลผลิตลำไย มากเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
ไบเดน ลั่น การบุกกาซ่าไม่ใช่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์สตาร์ลิ้งค์ ให้บริการในอินโดนีเซียจีนตอกย้ำ ไต้หวันคือส่วนหนึ่งของจีนสนามบินเปิด ห้องรับรองสัตว์เลี้ยง แห่งแรกของจีน
ตั้งกระทู้ใหม่