10 อันดับปลาที่อันตรายที่สุดในโลก
10. ปลาบึก
ปลาบึก เป็นปลาน้ำจืดขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง ไม่มีเกล็ด อาศัยอยู่ในแม่น้ำโขงตั้งแต่ประเทศจีน, ลาว, พม่า, ไทย เรื่อยมาตลอดความยาวของแม่น้ำรวมไปถึงแควสาขาต่าง ๆ เช่น แม่น้ำงึม, แม่น้ำมูล, แม่น้ำสงคราม แต่ไม่พบในตอนปลายของแม่น้ำโขงที่เป็นน้ำกร่อย ซึ่งเป็นจุดที่ไหลออกทะเลจีนใต้ เป็นปลาที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์เนื่องจากการจับปลามากเกินไป คุณภาพน้ำที่แย่ลงจากการพัฒนาและการสร้างเขื่อนบริเวณต้นน้ำ ปัจจุบันสหภาพระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติจัดปลาบึกอยู่ในกลุ่มเสี่ยงขั้นวิกฤติต่อการสูญพันธุ์ (critically endangered) และติดอยู่ในบัญชี ไซเตส กลุ่ม 1 ชนิดสัตว์ป่าและซากของสัตว์ป่าท้ายบัญชีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่า และพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (ไซเตส) (ลำดับที่ 909)
9. Torpedo
ปลาชนิดนี้อาศัยอยู่ตามก้นทะเล มี 69 สายพันธุ์ กระแสไฟฟ้าเกิดขึ้นในร่างกาย ปริมาณไฟฟ้าต่างกัน ขั้นต่ำ 8 โวลต์ สูงสุด 220 โวลต์
8. ปลาสิงโตปีก
ปลาสิงโตปีก หรือ ปลาสิงโตปีกจุด มีครีบอกแผ่กว้างมีก้านครีบแข็งยื่นยาวออกไป และมีเยื่อยึดระหว่างก้านครีบ ครีบหางโค้งมน พื้นลำตัวมีสีน้ำตาลอ่อน มีจุดสีดำแต้มบนเยื่อยึดระหว่างก้านครีบอก ครีบหลังมีก้านครีบแข็งทั้งหมด 13 ก้าน ซึ่งแต่ละก้านสามารถเคลื่อนไหวเป็นอิสระ โดยมีครีบเป็นตัวยึดติดไว้ ในก้านครีบหลังมีบางก้านซึ่งมีเข็มพิษและภายในบรรจุถุงพิษ รวมถึงครีบอื่น ๆ เช่น ครีบก้น, ครีบอก ด้วย หากถูกแทงจะได้รับความเจ็บปวดมาก เมื่อแทงเข้าไปในเนื้อเยื่อของผู้ที่โดนแทงจะก่อให้เกิดความปวดแสบปวดร้อน เพราะมีผลต่อระบบกล้ามเนื้อ ก่อให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น เป็นอัมพาต หรืออัมพาตชั่วคราว รวมถึงเป็นแผลพุพองได้ด้วย
7. ปลาไหลไฟฟ้า
มีรูปร่างเรียวยาวคล้ายปลาไหล ตามีขนาดเล็ก ลำตัวสีน้ำตาลเขียวเข้ม ใต้ท้องสีเหลือง หัวมีขนาดใหญ่ ปากกว้าง ใต้ท้องมีครีบยาวตั้งแต่ส่วนอกไปจนถึงปลายหาง ชอบอยู่ตามบึงน้ำตื้น ๆ หมกโคลนเลน หรือซ่อนตามวัชพืชในน้ำ ชอบน้ำนิ่งและเก่า (ค่า pH สูง) มีขนาดโตเต็มที่เกือบ 2 เมตร ที่ใหญ่ที่สุดพบถึง 2.5 เมตร น้ำหนักมากกว่า 44 ปอนด์ มีความสามารถพิเศษคือ ปล่อยไฟฟ้าได้สูงถึง 800 โวลต์ หรืออาจมากกว่านั้น
6. ปลาฉลามหัวบาตร
มีรูปร่างอ้วนป้อม หัวกลมป้านมีขนาดใหญ่ ข้อที่สองครีบหลังเป็นกระโดงรูปสามเหลี่ยมมุมป้าน มีนิสัยดุร้าย กินปลาและสัตว์ต่าง ๆ ในน้ำเป็นอาหาร รวมทั้งอาจทำร้ายมนุษย์ได้ด้วย พบอาศัยในทะเลเขตอบอุ่นและเขตร้อนทั่วโลก โดยเฉพาะบริเวณชายฝั่ง ขนาดโตเต็มที่ได้ถึง 3.5 เมตร น้ำหนักหนักได้ถึง 316.5 กิโลกรัม
5. ปลาปิรันยา
ปลาปิรันยากินเนื้อเป็นอาหาร มักอยู่รวมกันเป็นฝูงขนาดใหญ่ พบในแม่น้ำอเมซอน และแม่น้ำหลายสายในทวีปอเมริกาใต้ มีฟันที่แหลมคมรูปสามเหลี่ยมขนาดใหญ่ มีส่วนหัวขนาดใหญ่ มีกล้ามเนื้อบริเวณกระพุ้งแก้มแข็งแรง ใช้สำหรับกัดกินเนื้อของสัตว์ที่ตกลงไปอยู่ใกล้ที่อยู่เป็นอาหาร โดยเฉพาะสัตว์ที่ตื่นตระหนกตกใจ หรืออยู่ในภาวะอ่อนแอบาดเจ็บ เสียงตูมตามของน้ำที่กระเพื่อม จะดึงดูดปลาปิรันยาเข้ามาอย่างว่องไว ซึ่งปลาปิรันยาจะใช้ฟันที่แหลมคมกัดกินเนื้อของสัตว์ใหญ่จนทะลุไปถึงกระดูกสันหลังได้เพียงไม่กี่นาที ความดุร้ายของปลาปิรันยาแตกต่างกันออกไปตามแต่ชนิด[2] แต่เชื่อว่าปลาปิรันยาทุกชนิดสามารถตรวจจับกลิ่นเลือดในน้ำแม้เพียง 50 แกลลอน เหมือนกับปลาฉลาม
4. ปลาฉลามขาว
ปลาฉลามขาว จัดอยู่ในไฟลัมสัตว์มีแกนสันหลัง มีขนาดตัวที่ค่อนข้างใหญ่ พบได้ตามเขตชายฝั่งแถบทะเลใหญ่ มีความยาวประมาณ 6 เมตร น้ำหนักประมาณ 2,250 กิโลกรัม ทำให้ปลาฉลามขาวเป็นปลากินเนื้อที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นสิ่งมีชีวิตสปีชี่ส์เดียวในสกุล Carcharodon ที่ยังคงสืบทอดเผ่าพันธุ์อยู่ในปัจจุบัน โดยเป็นปลาที่ถือกำเนิดมาแล้วนานกว่า 16 ล้านปี
3. Sebastes (ปลาหิน)
ปลาชนิดนี้เติบโตบนชายฝั่งทางตอนใต้ของออสเตรเลียมีลักษณะเหมือนหินหรือปะการังในทะเล พิษของปลาหินสามารถทำให้เกิดความเจ็บปวดอย่างรุนแรงและช็อกและเสียชีวิต
2. ฟูงุ
ฟูงุ หรือบางครั้งคนไทยสะกดว่า ฟูกุ หรือ ฟุกุ เป็นคำภาษาญี่ปุ่นที่หมายถึงปลาปักเป้าและอาหารที่ทำจากมัน ตามปกติจะอยู่ในสกุลทากิฟูงุ (Takifugu), สกุล Lagocephalus และสกุล Sphoeroides ในวงศ์ปลาปักเป้าฟันสี่ซี่ (Tetraodontidae) เนื่องจากมีสารพิษที่มีชื่อว่าเตโตรโดท็อกซิน จึงต้องเตรียมอย่างระมัดระวังโดยเอาส่วนที่มีพิษออกและไม่ให้พิษซึมเข้าเนื้อ
1. Chironex fleckeri
Chironex fleckeri นับเป็นแมงกะพรุนที่มีพิษที่มีอันตรายที่สุดในโลกและมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีพิษร้ายแรงกว่าแมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกสหลายเท่า และมีขนาดใหญ่กว่า C. yamaguchii ซึ่งอยู่ในสกุลเดียวกันหลายเท่า และถึงแม้จะตายแล้วก็ยังคงมีพิษอยู่
ที่มา: https://kknews.cc/science/o86pqo6.html