กำหนดวันฉาย ดินแดนไร้เสียง 3: A Quiet Place Part III มีนาคม 2566 สิ้นสุดการผจญภัยของครอบครัวกระเตงลูก
ดินแดนไร้เสียงสอง ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง ทำรายได้ทั่วโลกไปแล้ว 141 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เฉพาะที่อเมริกาเองก็ได้ไปแล้ว 91 ล้านภายใน 2 สัปดาห์ คะแนนนักวิจารณ์และประชาชนก็ออกมาดี นักวิจารณ์ให้เฉลี่ย 71 เต็มร้อย ประชาชนกว่าสองหมื่นคนให้เฉลี่ย 7.9 เต็มสิบ หนังดีขนาดผู้กำกับหนังสยองขวัญสุดคลาสสิกหมอผีเอ็กซอร์ซิสท์ยังยกย่องในทวิตเตอร์ตัวเองให้ภาคนี้เป็นหนังสยองขวัญคลาสสิก มีเนื้อหาต่อจากภาคแรกเมื่อ 3 ปีที่แล้ว(เวลาในเรื่องต่อกันครับ บางคนงงว่า 3 ปีลูกไม่โตขึ้น) ภาคแรกปี 2018 คะแนนนักวิจารณ์ได้ 82 ประชาชน 7.5 ทำเงินทั่วโลกปิดโปรแกรมไป 341 ล้าน จากทุนสร้างแค่ 17 ล้าน
ก่อนหน้าที่ภาค 2 จะฉาย เอมิลี่ บลั้นท์ นางเอกและภรรยาเจ้าของเรื่อง พูดว่าสามีเธอคือ จอห์น คราซินสกี้ มีไอเดียสำหรับภาคต่อแล้ว เป็นการยืนยันว่ามีงานสร้างแน่ และขณะนี้เมื่อหนังภาคสองประสบความสำเร็จอย่างเป็นที่แน่ชัด คณะผู้สร้างก็ได้ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการว่า ภาคต่อไปนั้น อาจไม่ใช่ A Quiet Place III หรือดินแดนไร้เสียงสาม ถึงอาจจะใช้ชื่อเดียวกัน แต่เนื้อหาก็จะไม่ต่อกัน จะออกไปในลักษณะภาคแยก โดยที่จอห์น เป็นเจ้าของไอเดียเรื่องใหม่ก็จริง แต่งานเขียนบทและกำกับจะตกเป็นหน้าที่ของเจฟ นิโคลส์ น่าจะไปกล่าวถึงครอบครัวและกลุ่มคนอื่นๆ บ้าง ครอบครัวนี้อาจไม่ได้ยกแพ็คไปผจญภัยในภาคต่อไป ดาราที่ได้ไปต่อแน่นอนตอนนี้มีเพียงกองทัพสัตว์ประหลาดต่างดาวเท่านั้น กำหนดวันฉายไว้ที่อเมริกาไว้แล้วที่ 23 มีนาคม 2023
ขณะนี้กำลังรอเข้าฉายในประเทศไทย วันพฤหัสบดีที่ 17 เดือนนี้ โดยเปลี่ยนเวลาเลื่อนขึ้นมาเร็วกว่าเดิมแทนที่ฟาสท์ 9 แล้วผลักฟาสท์ไปไว้ปลายเดือน
นักเขียนบทความที่เราอ่านมาบอกว่าความสำเร็จของจอห์น คราซินสกี้ทั้งสองภาคกับเรื่องนี้คือ เขาไม่ใช่นักทำหนังสยองขวัญ เขาอินกับความเป็นชีวิตและครอบครัวมากกว่า เรื่องนี้จึงเต็มไปด้วยจิตวิญญานความรัก ความเป็นห่วง ความผูกพัน การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เป็นครอบครัวอันอบอุ่น เป็นสเน่ห์และแรงดึงดูดอย่างดีของหนัง ในขณะเดียวกัน จอห์นก็รู้ว่าจะทำให้คนรู้สึกตกใจกลัวได้อย่างไร
(บทความนี้เต็มไปด้วยคำสอดแทรกจากผู้โพสท์เยอะอยู่นะครับ ไม่ต้องแปลกใจหากไปที่ต้นฉบับแล้วอาจไม่เจอบางกลุ่มคำหรือประโยค ขนาดคนเขียนบทความต้นฉบับที่เราอ่านยังสอดแทรกความคิดเห็นส่วนตัวของตัวเองเพิ่มเติมจากบทสัมภาษณ์และข้อความที่ปะติดปะต่อมาเองด้วยเช่นกัน)