เดียวยายพาไปนะลูก#สยองวันกลับบ้าน
เรื่องราวนี้เป็นเรื่องเล่าของพี่สะไภ้ผม...
พี่สะไภ้ผมชื่อจอย
สมัยยุค 90 พี่จอยแกเป็นสาวที่พลัดถิ่นต้องไปเป็นสาวเย็บผ้าที่ กทม. ตั้งแต่วัยสาวแรกรุ่น...ไปทำอยู่หลายปี สมัยก่อนการติดต่อ คือ จดหมาย.
.เพราะโทรศัพท์ยุคนั้น ถ้าจะมีก็แค่โทรศัพท์บ้าน แล้วยิ่งพี่จอย ไปเป็นสาวโรงงานเย็บผ้า..การติดต่อได้ทางเดียวคือ จดหมาย
จึงทำให้พี่จอยไม่ได้รู้ข่าวคราวทางบ้านที่ นครศรีธรรมราชเลย
จนถึงเทศกาลปีใหม่ 2536 พี่จอยได้กลับบ้าน
พี่เล่าว่าวันนั้นนั่งรถทัวส์จากสายใต้มาลง ปากทางเข้าบ้าน เวลา ตี 5
ซึ่งจุดลงใกล้บ้านคุณยายของพี่จอย ซึ่งสมัยเด็กพี่จอยจะอยู่บ้านคุณยายบ่อย..
พี่จอยจึงถือโอกาสนี้แวะบ้านยายก่อนเข้าบ้าน...
พอไปถึงบ้านคุณยาย พี่จอยก็เห็นคุณยายนั่งอยู่ที่แคร่หน้าบ้าน(ปกติคนต่างจังหวัดมักตื่นเช้า เพราะเขาว่าตื่นสายหยายไม่ทัน คือตื่นสายจะช้าไปสำหรับการทำงาน)
พี่จอยจึงเข้าไปกอดคุณยาย นั่งทักทายพูดคุยกัน...
แล้วพี่จอย ก็ขอตัวกลับไปบ้าน
ยายบอกเดียวเดินไปส่งเพราะยังมืดอยู่อันตราย...
พี่จอยกับยายเดินไปถึงบ้าน...ยายก็ขอตัวกลับ
. พี่ไปถึง พี่ชายพี่จอยก็ถามว่า...ถึงกี่โมง แล้วเข้ามาคนเดียวไม่กลัวหรือยังมืดอยู่เลย?
พี่จอยบอก...เออพอดีแวะบ้านยายสา คุยกับแก แล้วแกก็เดินมาส่ง...แกยังแข็งแรงอยู่เลยนะ อายุ 80 ปีแล้ว
พี่ชายดูหน้าซีดตกใจ แต่ไม่พูดอะไร...
พี่ชายบอกน้องสาวไปนอนก่อนนั่งรถมาเหนื่อย...
8 โมง เช้า พี่จอยตื่นมาอาบน้ำ กินข้าวกินปลาเสร็จ
พี่จอยก็ทำกล้วยบวชชี...
ทำเสร็จ ตักใส่ถ้วย...แล้วกำลังถือเดินออกจากบ้าน
พี่ชายเห็นเลยถามว่า...จะเอากล้วยบวชชีไปใหน
พี่จอยบอกพี่ชายว่า...เอาไปให้ยายสานะ แกชอบกิน
พี่ชายเลยบอกพี่จอยว่า...ไม่ต้องหรอกแกไม่กินละ
พี่จอยสงสัย...ทำไมละเมื่อก่อนแกชอบจะตาย
พี่ชายบอกไปว่า...อืมมม แกตายได้ 5 เดือนแล้วละ....
พี่จอยตกใจตัวชา รู้สึกขนลุกขึ้นหัว
แล้วเมื่อคืนใครมาส่งเราละ....
...............................................
วิญญานยายสาคง รอคอยหลานสาวแกกลับบ้านมาหาแก แกจึงปรากฏออกมาเพื่อเจอกันครั้งสุดท้ายนั่นเอง