วิเคราะห์คดี "ลุงวิศวะ" มีความผิดอย่างไร และพอจะคาดเดาจุดจบของคดีนี้ได้
จากข่าวที่ จขกท. เขียนไว้ว่า ...ศาลสั่งออกหมายจับ "ลุงวิศวะ" ยึดเงินประกัน 8.7 แสน ภายใน 1 เดือน หากจับกุมตัวไม่ได้นัดอ่านคำพิพากษาลับหลัง
วันนี้มาวิเคราะห์กันว่า ลุงวิศวะ มีความผิดอย่างไร และพอจะคาดเดาจุดจบของคดีนี้ได้ โดยตัดประเด็นอื่นออกไป ไม่ว่าจะเป็นโจ๋ หรือเป็นใคร นั่นคือทางพฤตินัย
มามองที่สาเหตุและจุดเริ่มต้น
1.โจ๋จอดรถซื้อของ ขวางทางออกที่รถลุงวิศวะจะออกได้ (ซึ่งลุงก็เริ่มใจร้อนรู้สึกหงุดหงิดแน่นอน)
2. ฝ่ายโจ๋โวยวายไม่ขอโทษ ไม่รีบขยับรถให้ลุงออก ต้องรอเพื่อนครบก่อนแล้วออกไป
3.จริงๆ เรื่องจบแล้ว แต่ ตามข้อ1. ลุงวิศวะ เริ่มรู้สึกหงุดหงิด ไม่พอใจแล้ว ลุงขับรถตาม บีบแตรไล่ นั่นหมายความว่า เป็นเริ่มที่จะก่อให้เกิดเหตุทะเลาะวิวาท
4. โจ๋ขับปาดหน้าลุงกลับ นั่นคือการสมัครใจที่จะก่อให้เกิดเหตุทะเลาะวิวาท โดยเริ่มทั้ง 2 ฝ่ายจนถึงจุดเดือด
5.โจ๋ขับปาดหน้าลุง แล้วจอดรถกันทั้ง2 ฝ่าย โจ๋ลงมาต่อว่า เปิดประตู เดินไปชกลุงในรถ จริงๆ ลุงเลี่ยงที่จะทะเลาะวิวาทก็ทำได้ โดยไม่ต้องจอดรถ ไปจอดในที่อื่นๆ ที่ปลอดภัย แล้วเอาหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ไปแจ้งความ จะดีกว่า
6. ลุงมีปืน ขึ้นลำพร้อมใช้ (มีเสียงในคลิปตามข่าว) ชาวบ้านธรรมดาการมีปืนในเมืองไทยแม้ทำได้ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ (ยกเว้น 3 จว ชายแดนใต้ กับกฎหมายพิเศษ) ยิ่งการพกพาปืนไปในที่สารธาณะนี้ผิดกฎหมายชัดเจน
7. เมื่อมีปืนจิตใจจะฮึกเหิมมากกว่าปกติ เมื่อหัวร้อน ควบคึมสติไม่ได้ มีเหตุร้ายจวนตัวพร้อมที่จะยิ่งใครก็ได้ คนที่ไม่ได้ฝึกฝนเรื่องการยิงปืน ยิงออกไปผู้รับลูกปืน มีโอกาศเสียชีวิตสูง (แม้ตำรวจเอง มีปืนอยู่ข้างเอว มีเหตุจวนตัว ก็ต้องตัดสินใจที่จะใช้ยามจำเป็นเท่านั้น เพราะได้รับการฝึกฝนในการควบคุมสติ ในการใช้ปืน )
8. ตรงข้ามกันหากลุงไม่มีปืน ลุงคงหาวิธีเลี่ยงปะทะกับโจ๋อย่างแน่นอน หรือ ลุงไม่จับปืน ควบคุมสติได้ ไม่คิดยิงโจ๋ ที่เข้ามาชกในรถตัวเอง ปิดประตู ปิดกระจกรถตนทั้งหมด ไม่ออกนอกรถ ขับรถออกไป เรื่องดังกล่าวคงไม่เกิดขึ้น
9. ตรงข้ามกันอีก ลุงพกปืนในรถ ขึ้นลำพร้อมใช้ แบบนี้ หากปืนลั่น ไปโดนคนในรถ ลุงก็มีความผิดเช่นกัน
10. ในที่สุดเป็นคดีความลุงตกเป็นจำเลย ศาลอุทธรณ์พิพากษา ลุงมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา จำคุก 15 ปี ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 10 ปี ฐานพาอาวุธปืนฯ ปรับ 4,000 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงปรับ 2,000 บาท รวมจำคุก 10 ปี และปรับ 2,000 บาท ให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทน 340,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี
11. ล่าสุดหนักเลย ลุงหนี...ไม่มาฟังคำพิพากษา ศาลจึงสั่งออกหมายจับ ลุงวิศวะ ยึดเงินประกัน 8.7 แสน ภายใน 1 เดือน หากจับกุมตัวไม่ได้นัดอ่านคำพิพากษาลับหลัง
12. เมื่อลุง หรือจำเลยหลบหนีหรือจงใจไม่มาฟัง ศาลรอการอ่านไว้จนกว่าจำเลยจะมาศาล แต่ถ้ามีเหตุสงสัยว่าจำเลย หลบหนีหรือจงใจไม่มาฟังให้ศาลออกหมายจับจำเลย เมื่อได้ออกหมายจับแล้วไม่ได้ตัวจำเลยมาภายในหนึ่งเดือน นับแต่วันออกหมายจับ ก็ให้ศาลอ่านคำพิพากษาหรือคำสั่งลับหลังจำเลยได้ และให้ถือว่าจำเลยได้ฟังคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นแล้ว
เราพอจะคาดเดาได้บ้างแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคดีนี้ ในมุมของกฎหมาย ก็มีหลายความผิด ทั้ง โจทย์ และจำเลย โดยที่ต่างกรรม ต่างวาระ ใครทำความผิดใด แค่ไหน อย่างไร ก็ต้องรับโทษไปตามความผิดของตน
ปล. ใบพกพา ทั่วราชอาณาจักร หรือ ในเขตจังหวัด หรือ ป.12 ผู้ใดประสงค์มีใบพกพาต้องยืนคำร้องแบบ ป.1 ต่อเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต ใบพกจะออกให้ตามแบบ ป.12 บุคคลที่ควรออกใบอนุญาตให้มีใบพกนั้นนอกจากจะเป็นผู้มีใบป.4 แล้ว ต้องมีคุณสมบัติตามระเบียบที่กระทรวงมหาดไทย กำหนด ตัวอย่างเช่น เป็นเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติหน้าที่ควบคุมทรัพย์สินของรัฐบาล ข้าราชการตั้งแต่ หัวหน้าแผนกหรือเทียบเท่าขึ้นไป ผู้มีหน้าที่ในการปราบปรามหรือการปฏิบัติงานในการฝ่าอันตราย ข้อยกเว้นในการพกปืน