หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ฟิลเลอร์คางหรือผ่าตัดดี? ปัญหาคางแบบนี้ควรเลือกทำอะไรดีนะ

โพสท์โดย jenniea

ปัญหาคางแบบไหนควรคิดเสริมคาง แล้วจะเลือกผ่าตัดหรือฉีดฟิลเลอร์คางดีนะ?

 

 

“อยากเสริมคางแต่เราใช่คนที่มีปัญหาคางแน่หรือเปล่า ผ่าตัดหรือฉีดฟิลเลอร์คางแบบไหนดีกว่ากัน?”

นี่คงเป็นสิ่งที่หลายคนกังวลเพราะกลัวว่าทำไปแล้วเกิดได้คางยาวกว่าเดิมจะยุ่ง แต่ต่อจากนี้ไปคุณจะเข้าใจคางตัวเองมากขึ้น จนตอบได้ว่าควรเสริมคางหรือไม่ รวมถึงเลือกได้อย่างไม่ลังเลว่าจะผ่าตัดหรือฉีดดีกว่ากัน แล้วจะรู้ได้อย่างไร ก็ตามเราไปศึกษาพร้อม ๆ กันในบทความนี้นั่นเอง

 

ปัญหาคางแบบไหนควรได้รับพิจารณาเสริมคาง

ก่อนจะไปตัดสินใจเลือกผ่าตัดทำศัลยกรรมเสริมคาง หรือฉีดฟิลเลอร์เสริมคาง เรามาทำความรู้จักกับปัญหาคางสักเล็กน้อย ได้แก่

เสริมคางด้วยวิธีผ่าตัดศัลยกรรม VS ฉีดฟิลเลอร์คางแบบไหนดีกว่ากัน

อันที่จริงควรดูความต้องการของผู้อยากเสริมคาง ควรมองถึงความปลอดภัยของตนเองเป็นสำคัญ

ผ่าตัดศัลยกรรมเสริมคาง

การผ่าตัดทำศัลยกรรมค่อนข้างมีความเสี่ยง ซึ่งต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด มีการใช้ระยะเวลาผ่าตัดค่อนข้างนาน ข้อดีอยู่ที่เราจะได้คางอยู่แบบถาวรนาน 3 – 4 ปีเลยด้วย แต่ก็ต้องพักฟื้นนาน ดูแลแผลแบบเข้มข้น จะปรับแก้ไขรูปทรงค่อนข้างยาก เน้นแพทย์ที่มีฝีมือเฉพาะทางช่วยให้ได้จมูกที่เป็นธรรมชาติ รูปทรงสวยไม่ต้องแก้ ราคาค่อนข้างสูงแต่จบในครั้งเดียว

ฉีดด้วยสาร Hyaluronic Acid (HA) หรือทำฟิลเลอร์ 

ค่อนข้างใช้เวลาในการฉีดไม่นานเลย ฉีดเสร็จสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้นเหมือนผ่าตัดศัลยกรรม ไม่ต้องวางยาสลบที่อาจมีความเสี่ยงถึงแก่ชีวิตได้ สามารถสลายไปเองตามธรรมชาติ ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ราคาย่อมเยาแต่ก็ต้องมาเติมบ่อยครั้ง เติมซ้ำได้ไม่ติด อยู่ได้ไม่ถาวร กรณีที่ต้องการคางยาวมากกว่า 0.5 – 1 ซม. วิธีนี้ไม่สามารถทำได้ สรุปแล้วเลือกฉีดคางดีไหม หรือผ่าตัดศัลยกรรมดีกว่าคุณเองเท่านั้นที่ตอบได้

 

ข้อควรระวังในกรณีที่ต้องการฉีดสาร Hyaluronic Acid (HA)

อย่างที่บอกว่าใครต้องการคางยาวมากกว่า 0.5 – 1 ซม. ไม่แนะนำให้ฉีดคางเพราะจะไม่ได้ผลแม้จะใช้ฟิลเลอร์คางที่ได้มาตรฐานแล้วก็ตาม อาจเกิดปัญหาคางแหลม คางเป็นก้อน ไหล ย้อยผิดรูปได้ กรณีที่มีประวัติแพ้สาร Hyaluronic Acid (HA) รุนแรง เป็นภูมิแพ้รุนแรง เลือดออกง่าย เกิดแผลเป็นง่ายให้ไม่แนะนำ หรือหญิงให้นมลูก หญิงตั้งครรภ์เองก็ด้วย

จะเห็นได้ว่าการเสริมคาง ไม่ว่าจะ ผ่าตัดทำศัลยกรรม หรือฉีดฟิลเลอร์คางล้วนมีข้อดี ข้อเสียแตกต่างกันออกไป เราในฐานะผู้เลือกใช้บริการควรประเมินและพิจารณาตนเองให้ดีว่าแบบไหนจะตอบโทย์กับเรามากที่สุด อย่างใครต้องการคางยาวมากกว่า 1 ซม. อยากได้คางถาวรเลือกผ่าตัดดีกว่า แต่หากใครต้องการคางเล็กน้อย ไม่อยากพักฟื้นนาน ฉีดเสร็จเที่ยวต่อได้แนะนำฉีดคางดีกว่า

โพสท์โดย: jenniea
อ้างอิงจาก: Galderma Thailand
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
jenniea's profile


โพสท์โดย: jenniea
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 มาแน่! คนทั่วไปรับผ่านดิจิทัลวอลเล็ต กระตุ้นเศรษฐกิจปี 2568ชาวต่างด้าวข้ามฝั่งมาคลอดฟรี คนไทยเสียงแตก งานนี้ใครได้ ใครเสีย
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
น้องเต้าหู้แจกไข่ให้ชาวบ้าน แต่กลับเจอมนุษย์ป้ารุมเข้ามาจัดการ ทำเอาน้องอึ้งจนพูดไม่ออก เห็นแล้วรู้สึกอายแทนจริงๆน้ำใจยิ่งใหญ่! หนุ่มไร้เงินขอติดรถกลับบ้าน เจอผู้ให้เต็มคันสุดอบอุ่น
กระทู้อื่นๆในบอร์ด โฆษณา ประชาสัมพันธ์
นอนไม่หลับเกิดจากอะไรบ้าง? เจาะลึกสาเหตุพร้อมเรียนรู้วิธีแก้ไขUlthera ยกกระชับหน้าเด็ก แบบที่ไม่ต้องผ่าตัด ปลอดภัย เห็นผลมากขึ้นริ้วรอย แก้มหย่อนคล้อย ปัญหาของอายุ แก้ไขด้วยฟิลเลอร์ร่องแก้มเลเซอร์รักแร้สู่ผิวใต้วงแขนเนียนขาว ไร้ขนหมดกังวลเรื่องกลิ่นตัว
ตั้งกระทู้ใหม่