“ คนหลงทางนั้นเข้าใจผิด คิดว่าเจ้าชายสิทธัตถะเห็นแก่ตัว ทิ้งลูก เมีย เพื่อความสุข ส่วนตัว “
“ คนหลงทางนั้นเข้าใจผิด คิดว่าเจ้าชายสิทธัตถะเห็นแก่ตัว ทิ้งลูก เมีย เพื่อความสุข ส่วนตัว “
แท้จริง เจ้าชายในตอนนั้น รู้เห็นตามความเป็นจริงแล้วว่า มนุษย์เรานั้นเกิดมาแล้ว ต้อง ประสบกับความทุกข์ ต้องแก่ เจ็บป่วย และตายไป ท่านจึงออกบรรพชาแสวงหาทางหลุดพ้น เพื่อกลับมาโปรดทุกคน ไม่เฉพาะลูกเมียตนเท่านั้น
-ทรงบำเพ็ญทุกข์อยู่ถึง 6 ปีเต็ม จะหาว่าเป็นความสุขได้อย่างไร
-หลังตรัสรู้แล้ว ก็กลับมาโปรด ลูก เมีย จนได้เป็นพระอรหันต์ นับว่าลูก เมียก็ได้เดินตามแนวทางเดินเดียวกับพระองค์
-หลังตรัสรู้แล้ว ก็กลับมาโปรดครอบครัว วงศ์ญาติทั้งหลาย
-หลังตรัสรู้แล้ว ก็มิได้ทรงโปรดให้แต่คนรู้จัก แต่ยังทรงมีน้ำพระทัยเอื้อเฟื้อแสดงธรรมแก่สัตว์โลกด้วย
-หลังตรัสรู้แล้ว ทรงแสดงธรรมโปรดสั่งสอน อีกเกือบ 45 ปี เพื่อผู้อื่นจนเข้าสู่นิพพาน
มาพิจารณาธรรมกัน คนเราเกิดมาแล้ว ในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิตย่อมประสบกับความทุกข์ ธรรมของพระพุทธองค์เป็นเครื่องมือให้รับมือกับความทุกข์
ลองสังเกตุคนที่นำธรรมไปศึกษาและปฏิบัติจนเห็นผล จะเป็นคนมีสติ รู้เท่าทันความทุกข์ ใช้ชีวิตได้โดยปกติ แม้ว่าโลกจะเลวร้ายลงไปแค่ไหนก็ตาม
ท่านทั้งหลาย วันนี้ได้อ่านข้อความนี้แล้ว
-ให้ระลึกถึงคุณของพระพุทธองค์ที่สละตนเพื่อเผยแพร่ธรรมตลอดช่วงเวลาชีวิตของพระองค์
-ให้ระลึกถึงคุณของพระสงฆ์ สาวกผู้ปฏิบัติดีแล้วของพระพุทธองค์
-ให้ระลึกถึงคุณของพระธรรมที่พระพุทธองค์แสดงไว้ดีแล้ว แม้พระพุทธองค์จะไม่อยู่แล้ว แต่พระธรรมของพระพุทธองค์จะเป็นศาสดาแทนสืบต่อไปจนกว่าพวกเราจะเข้าสู่นิพพาน
ทุกชีวิตล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลาย จงใช้ชีวิตที่เหลือด้วยความไม่ประมาทเถิด