มีหลายคนกำลังมองหาวิถีของการลงทุนด้วยการซื้อ กองทุน ซึ่งต่างก็รู้ดีว่าการลงทุนในกองทุนนั้นมีความเสี่ยง แต่ก็อยากจะลองเสี่ยงดูบ้างถ้าแลกกับผลตอบแทนหรือเงินปันผลที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยของบัญชีเงินฝากอย่างออมทรัพย์ หรือบัญชีเงิน ฝากประจำ แล้วจะเลือกลงกองทุนตัวไหนดีที่ปลอดภัยและคุ้มครองเงินต้นหรือเงินลงทุนเหมือนบัญชีเงิน ฝากประจำ วันนี้ SCB มีกองทุนมาแนะนำเผื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่สนใจการออมเงินในรูปแบบของการลงทุน
กองทุนที่คุ้มครองเงินลงทุนเหมือนบัญชีเงิน ฝากประจำ จาก SCB
เป็นกองทุนที่มีระดับความเสี่ยงที่ระดับปานกลาง – ค่อนข้างต่ำอยู่ในระดับ 4 เป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ เน้นการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีคุณภาพและลงทุนในเงินฝาก และให้ผลตอบแทนที่ดีทั้งในและต่างประเทศ เช่น ตราสารหนี้ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารที่อยู่ระดับที่สามารถลงทุนได้ ตราสารหนี้ภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการเงิน และลงทุนในต่างประเทศไม่เกินร้อยละ 20 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ซึ่งการลงทุนในต่างประเทศนี้ผลกำไรก็จะขึ้นอยู่กับ อัตราแลกเปลี่ยนเงิน เงินของสกุลเงินต่างประเทศที่ไปลงทุนด้วย หากเกิดการขายในช่วงที่ อัตราแลกเปลี่ยนเงิน ในสกุลเงินบาทไทยแข็งค่ากำไรที่จะเข้าประเทศก็จะน้อยและมูลค่าของเงินก็จะลดน้อยลงตามไปด้วย ซึ่งทั้งนี้การตัดสินใจก็ขึ้นอยู่กับผู้บริหารจัดการกองทุนจะเห็นสมควรแต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่ภายใต้เงื่อนไขว่าจะไม่ทำให้เกิดความเสียหายกับผลประกอบการของกองทุน
การซื้อขายของทุน หากมีการขายกองทุน เงินลงทุนจะ โอนเงิน เข้าบัญชีที่ผูกไว้ภายใน 2 วันทำการ (T+2) มีค่าธรรมเนียมใน การโอน 10 บาท/1000 หน่วยลงทุน
เป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงปานกลาง – ค่อนข้างต่ำความเสี่ยงอยู่ในระดับ 4 ซึ่งคุ้มครองเงินลงทุน เป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ที่ลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น ตราสารหนี้ภาครัฐ ตราสารหนี้ภาคเอกชน ตราสารหนี้ภาคสถาบันการเงิน ตราสารตลาดเงิน เงินฝากหรือตราสารเทียบเท่าเงินฝากทั้งในและต่างประเทศในสัดส่วนที่เหมาะสมของแต่ละช่วงเวลา
การซื้อขายกองทุน-การชำระเงินค่าขายคืนหรือการโอนเงิน SCB เข้าบัญชีที่ผูกกองทุนภายใน 1 วันทำการ (T+1)
เป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงปานกลาง – ค่อนข้างสูง ความเสี่ยงอยู่ในระดับ 5 เป็นกองทุนรวมผสม เน้นการกระจายการลงทุนในตราสารแห่งทุน ตราสารหนี้ หรือตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน เงินฝาก หรือหน่วยลงทุนของกองทุน เช่น กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนอีทีเอฟ (ETF) กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน หน่วยทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) หน่วย private equity เป็นต้น ตลอดจนหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างตามที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนดหรือให้ความเห็นชอบ โดยกองทุนจะพิจารณาปรับสัดส่วนการลงทุนได้ตั้งแต่ร้อยละ 0 ถึงร้อยละ 100 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม ซึ่งสัดส่วนการลงทุนขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนและตามความเหมาะสมกับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ
การซื้อขายกองทุน-การชำระเงินค่าขายคืนหรือการโอนเงินเข้าบัญชีที่ผูกกองทุนภายใน 3 วันทำการ (T+3)
ซึ่งการออมในรูปแบบของการซื้อกองทุน ตัวผู้ลงทุนต้องทำแบบสอบถามเพื่อประเมินความเสี่ยงด้วยตัวเองก่อนตัดสินใจลงทุน เพราะแต่ละกองทุนมีอัตราความเสี่ยงของกองทุนที่ไม่เท่ากัน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ money exchange ได้ที่
https://www.scb.co.th/th/personal-banking/foreign-exchange-rates.html