คาร์ล กุสตาฟ จุง นักจิตวิทยาชาวสวิส บอก พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่สมบูรณ์แบบที่สุดในโลก แต่ก็เป็นที่น่าเศร้าใจที่คนส่วนใหญ่กลับไม่นำพา
ศาสนาพุทธ เปิดกว้าง
คนที่นับถือพุทธจะเข้าโบสถ์คริสต์ จะเข้ามัสยิด จะไปร่วมงานพิธีหรือกิจกรรมต่างๆของศาสนาอื่น จะเคารพศาสดาของศาสนาอื่น จะเคารพใคร ไม่มีข้อห้าม จะแต่งงานกับคนต่างศาสนาก็ไม่บังคับให้ใครต้องเปลี่ยนมานับถือพุทธตาม
ศาสนาพุทธไม่ได้สอนให้นับถือศาสดาเป็นหลัก แต่ให้นับถือคำสั่งสอนเป็นหลัก ไม่บังคับให้ต้องเชื่อตามคำสอน แต่ให้ไตร่ตรองก่อนเชื่อ สอนไม่ให้ละเมิดผู้อื่น สอนให้มีเมตตากรุณา สอนให้ให้อภัย สอนให้มีศีล สมาธิ ปัญญา สอนให้พ้นทุกข์ สอนให้เชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม ไม่มีใครกำหนดชีวิตเรา แต่เรากำหนดชีวิตของตัวเราเอง
พระพุทธเจ้าศาสดาของศาสนาพุทธ ท่านไม่ได้คิดค้นคำสั่งสอนขึ้นมาเอง แต่ค้นพบจากธรรมชาติ และนำมาสั่งสอนมนุษย์ ศาสนาพุทธจึงมีความเป็นวิทยาศาสตร์ โดยยึดถือหลัก "เหตุและผล" เช่นเดียวกับหลักของวิทยาศาสตร์ ในอนาคตชาติที่ผู้คนมีความเจริญทางด้านจิตใจ เช่นแถบยุโรป จะหันมานับถือศาสนาพุทธกันมากขึ้น เพราะเป็นศาสนาที่สามารถตอบโจทย์ชีวิตคนได้ เป็นศาสนาแห่งปัญญา คำสอนสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตัวเองด้วยการปฎิบัติ
คนไทยโชคดีเหลือเกินที่เกิดมาในดินแดนแห่งพุทธศาสนา แต่ก็เป็นที่น่าเศร้าใจที่คนส่วนใหญ่กลับไม่นำพา ไม่น้อมนำคำสั่งสอนมาประพฤติปฎิบัติ ไม่นำมาใช้เป็นหลักในการดำเนินชีวิต แต่ไปใช้กิเลสตัญหานำพาชีวิต ทำให้สังคมไทยเสื่อมลงอย่างน่าใจหาย บ้านเมืองวุ่นวาย นับวันๆผู้คนก็ยิ่งถอยห่างออกจากศาสนากันมากขึ้น ขาดศีลธรรมกันมากขึ้น ถือเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อความมั่นคงของชาติและพุทธศาสนาของประเทศไทย
อ้างอิงจาก: กรกช วัฒนศาสตร์