ระบบป้องกันภัยทางอากาศแบบ VL MICA (VERTICAL LAUNCH SHORT RANGE AIR DEFENCE SYSTEM) ของกองทัพบกไทย ที่จัดซื้อด้วยงบ 3,520 ล้านบาท จำนวน 1 ระบบ
ระบบป้องกันภัยทางอากาศแบบ VL MICA (VERTICAL LAUNCH SHORT RANGE
AIR DEFENCE SYSTEM) ของกองทัพบกไทย ที่จัดซื้อด้วยงบ 3,520 ล้านบาท จำนวน 1 ระบบ
จากภาพ จะเห็นรถแท่นยิง 2 คัน จากเดิมที่ต้องการ 4 คัน แต่ติดเรื่องงบประมาณ, รถควบคุมและสั่งการ และรถเรดาร์ควบคุมการยิงแบบ Airbus Defence and Space TRML-3D/32 ที่มีระยะการตรวจจับมากกว่า 200 กิโลเมตร
โดยในปีพ.ศ. 2557 กองทัพบกไทยได้เลือกระบบป้องกันภัยทางอากาศระยะปานกลางแบบ VL-MICA จากประเทศฝรั่งเศส เพื่อทดแทนระบบ SPADA ที่ประจำการมานานกว่า 23 ปี โดยใช้งบทั้งสิ้น 3,520 ล้านบาท ระบบนี้ประกอบด้วยรถที่บังคับการ 1 ระบบ และแท่นยิงอาวุธปล่อยนำวิถี จำนวน 2 ระบบ ซึ่งลดจากความต้องการเดิมที่ต้องการแท่นยิง 4 ระบบโดยแท่นยิง VL-MICA แต่ละระบบมีท่อยิงจรวด 4 นัด สำหรับอาวุธปล่อยนำวิถี VL-MICA EM นำวิถีแบบ Active Radar Homing หรือ VL-MICA IR นำวิถีแบบ Infrared โดยกองทัพบกไทยจะนำระบบอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศ VL-MICA ใช้งานร่วมกับตรวจการณ์และป้องกันภัยทางอากาศ 3D แบบ TRML-3D/32 ของบริษัท Airbus Defence and Space มีระยะการตรวจจับที่ 200 กิโลเมตร ซึ่งเรดาร์ TRML-3D/32 นี้ กองทัพบกไทยได้นำเข้าประจำการที่ศูนย์ต่อสู้ป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก ๒ ศปภอ.ทบ.๒ ค่ายสุรนารี นครราชสีมาแล้ว
โดย MBDA กล่าวว่าระบบ VL-MICA มีความอ่อนตัวในการใช้งานกับระบบ Radar ได้หลายแบบโดยทำหน้าที่เป็นเพียงระบบตรวจจับส่วนหนึ่ง โดย VL-MICA รุ่นนำวิถี Radar นั้นมีพื้นฐานเดียวกับรุ่นอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ และรุ่นยิงจากเรือผิวน้ำที่ทำการยิงได้อย่างอิสระ ซึ่งระบบนำวิถีแบบ Active Radar Homing ของ VL-MICA มีข้อเปรียบที่จรวดสามารถทำงานเพื่อนำวิถีเข้าหาเป้าหมายได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องใช้ Radar ควบคุมการยิงชี้เป้าให้ตลอดเวลาเหมือนระบบที่นำวิถีแบบ Semi-Active Radar Homing
VL-MICA มีน้ำหนัก 112 กิโลกรัม ยาว 3.1 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 160 มิลลิเมตร หัวรบหนัก 12 กิโลกรัม ใช้กลไกการระเบิดแบบการกระทบเป้าหมายโดยตรงหรือการระเบิดหน้าเป้าหมาย เครื่องยนต์แบบมอเตอร์จรวดของแข็ง มีระยะยิง 20 กิโลเมตร ที่ความสูง 9 กิโลเมตร และมีความเร็วกว่า 3 มัค (1.02 กิโลเมตรต่อวินาที หรือ 61.25 กิโลเมตรต่อนาที - 3,675 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) โดยแท่นยิง VL-MICA 1 ระบบ สามารถตั้งห่างกัน 20 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 40 ตารางกิโลเมตร
โดยส่วนตัวผม ในอนาคตเมื่อเหล่าทัพต่างๆ ได้รับการจัดสรรงบประมาณมากขึ้น ผมยังสนับสนุนให้จัดหาระบบต่อสู้อากาศยานระยะไกลแบบต่างๆทั้ง HQ-9, S-300VM, S-350E Vityaz รวมไปถึง Aster 30 ทั้งนี้ในเรื่องระบบต่อสู้อากาศยานของประเทศเรายังอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง จึงควรจัดหามาประจำการโดยเร็วที่สุด