คดีฆ่าหั่นศพสุดอื้อฉาวของจีน ปัจจุบันยังหาฆาตกรไม่เจอ (คำเตือน:ภาพน่ากลัวมาก)
คดีฆ่าหั่นศพ เตียวอ้ายชิง หรือ คดีฆ่าหั่นศพ หนานจิง "119" คดีเตียวอ้าวชิง เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2539 สถานที่เกิดเหตุคือเมืองหนานจิง มณฑลเจียงซู เหยื่อเป็นนักศึกษาหญิงชั้นปีที่ 1 เตียวอ้ายชิง จากมหาวิทยาลัยหนานจิง 9 วันหลังจากการหายตัวของเธอ มีคนพบชิ้นส่วนศพ ในตอนเช้าตรู่ของวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2539 ผู้พบคือพนักงานทำความสะอาดถนนหัวเฉียว เมืองหนานจิง ฆาตกรต้องการกำจัดศพทิ้ง จึงนำศพมาต้มจนสุก และหั่นเป็นชิ้น ๆ มากกว่า 2,000 ชิ้น และโยนทิ้งใกล้ใจกลางเมืองหนานจิง หลังจากเกิดเหตุ กำลังตำรวจออกค้นหาเบาะแสอย่างต่อเนื่อง แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่พบฆาตกร
ผู้ตายคือ เตียวอ้ายชิง เพศหญิง เกิดเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2519 ในช่วงเวลาที่เธอถูกฆาตกรรม เธอเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ของแผนกวิชาเลขานุการสมัยใหม่และการประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยหนานจิง วิทยาเขตกู่โหล เธอเรียนและใช้ชีวิตอยู่ในวิทยาเขตกู่โหล เธออายุยังไม่ถึง 20 ปีเต็มเมื่อตอนที่ถูกฆ่า เธออาศัยอยู่ในหอพักที่ 4 ในวิทยาเขตกู่โหล ซึ่งมีคนพลุกพล่านอยู่ตลอดเวลา พ่อของเธอ เตียวยื่อชาง อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเตียวเช่อ เขตเซินเกา เมืองเจียงเหยียน มณฑลเจียงซู
เตียวอ้ายชิงเป็นเด็กสาวที่เพิ่งมาจากพื้นที่ชนบททางตอนเหนือของมณฑลเจียงซู มาถึงเมืองหนานจิงได้ประมาณ 3 เดือนกว่าๆ เท่านั้น ไม่น่าจะมีศัตรูที่ไหน และก็มีเงินไม่มากนัก จึงมีการคาดเดาแรงจูงใจของฆาตกรอย่างกว้างขวาง มีการเผยแพร่บทความเรื่อง "แนวความคิดเกี่ยวกับคดีฆ่าหั่นศพที่เมืองหนานจิง" ผู้เขียนคาดเดาว่า ผู้ตายอาจจะไปเกี่ยวข้องกับลัทธิอะไรบางอย่าง อย่างไรก็ตาม หลายคนให้ข้อสังเกตว่า ศพที่หั่นออกมาเป็นชิ้นๆ นั้นเพียงเพื่อทำลายหลักฐานเท่านั้น และฆาตกรต้องเก่งในการฆ่าสัตว์ มีทักษะในการทำอาหารหรืออาจจะอยู่ในวงการแพทย์
ตามความทรงจำของเพื่อนของเตียวอ้ายชิงก่อนที่เธอจะเสียชีวิต เธอสูงประมาณ 1.65 เมตร หุ่นปานกลาง ผมสั้น ตาชั้นเดียว สายตาสั้นเล็กน้อย ต้องสวมแว่นตาเมื่ออ่านและเขียนหนังสือ มีไฝที่มุมปากบนขวา เมื่อเธอพูด จะมีเสียงทุ้มเล็กน้อย พูดเร็ว รายละเอียดอย่างหนึ่งคือ เธอมีลายมือสวย
คืนวันที่ 10 มกราคม 2539 เตียวอ้ายฉิงออกไปข้างนอกหลังจากรับประทานอาหารเย็น และไม่กลับมาอีกเลย สถานที่สุดท้ายที่พยานเห็นเธอคือถนนชิงเต่า เธอสวมเสื้อแจ็คเก็ตสีแดง
19 มกราคม 2539 หลังจากหิมะตกหนัก มีคนพบศพของเตียวอ้ายชิง คือหญิงทำความสะอาด พบถุงบนถนนหัวเฉียว ใกล้ซินเจี๋ยโข่วในเมืองหนานจิง ในถุงบรรจุไปด้วยชิ้นเนื้อปรุงสุกมากกว่า 500 ชิ้น เมื่อเธอกำลังเก็บกวาดชิ้นเนื้อ ก็พบว่ามีนิ้วมือมนุษย์ 3 นิ้วปนอยู่ในนั้น จึงรีบรายงานทันที ต่อมาพบชิ้นส่วนอื่น ๆ ของร่างกายบนถนนสุ่ยจั่วกัง และภูเขาหลงหวางซาน ทั้งหมดถูกห่อด้วยผ้าปูที่นอนและอยู่ในถุง เป็นชิ้นเนื้อที่ต้มสุกแล้ว คาดว่าถูกหั่นเป็นชิ้น ๆ มากกว่า 2,000 ชิ้น มีดที่ใช้ต้องมีความคมมาก และเห็นได้ว่าฆาตกรมีความโหดเหี้ยมมาก
คดีนี้มีอายุความเพียง 20 ปี และในวันที่ 19 มกราคม 2559 คดีก็หมดอายุความ หลังจากนั้นแม้ว่าจะจับตัวฆาตกรได้ ก็ไม่สามารถเอาผิดเขาได้แล้ว แต่เร็ว ๆ นี้ ในช่วงบ่ายของวันที่ 20 มกราคม สำนักงานสอบสวนคดีอาญาของกระทรวงความมั่นคงออกมาให้ความเห็นบนเว่ยปอว่า คดีนี้จะถูกสอบสวนให้ถึงที่สุด
อ้างอิงจาก:
https://www.163.com/dy/article/D86OSHDA0515B08O.html
https://www.weybb.com/wjzm/621.html
https://www.jichengguandao.com/yule/16201.html
รู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่
"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชน
ทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจาย
เขมรวิเคราห์ "จุดอ่อนของ T-50TH คืออะไร?"
"ซินแสดัง" เผยดวงเมืองประเทศไทย ปี 2569..ยิ่งรบ ยิ่งแข็งแกร่ง ศัตรูแพ้ราบคาบ
บริษัทแอปเปิลถูกปรับเงิน 116 ล้านดอลลาร์
จรวดจีนฟัดจรวดจีน เปิดคลังอาวุธลับสมรภูมิสระแก้ว เมื่อไทย-เขมรต่างงัดไม้เด็ด "สายเลือดมังกร" มาดวลกัน
ขณะกำลังกินซาลาเปาไส้ไข่ ชายคนหนึ่งต้องตกใจ เมื่อพบวัตถุอันตรายอยู่ข้างใน
📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำ
เกาหลีแฉเอง! จีนเมินช่วยกัมพูชา ทัพฟ้าไทยจัดเต็มบินถล่มรังลับในเขมร
สยายปีกรับทรัพย์! เลขเด็ด "นกตาทิพย์" แนวทางรวยงวดใหม่ 2 มกราคม 2569
ภาพมันฟ้อง !! กัมพูชาไม่สนมรดกโลก ตั้งฐานทหารบนยอดพระวิหาร ใกล้ตัวปราสาท ใช้โจมตีไทย แต่ถูกทหารไทยตอบโต้ ถล่มเละเหลือแต่ซาก
ชายหนุ่มถูกจับกุมฐานขโมยไม้พิคเคิลบอล
พุทธศาสนาในรัสเซีย
เผยคลิป ทหารไทยใช้ปืนใหญ่ยิงทำลายบังเกอร์ทหารกัมพูชาบริเวณหน้าบ้านเรือนในพื้นที่บ้านหนองจาน หลังพบฝ่ายกัมพูชาใช้เป็นฐานปฏิบัติการยิงปืน ค. ตอบโต้ฝ่ายไทย
วลีสุดปังปี 2025: จากหน้าจอสู่บทสนทนาที่ไม่มีคำว่าตกเทรนด์

















