ครูใหญ่ อรรถพล เสนอ ให้ใช้คำว่า "ข้าราษฎร" แทนคำว่า "ข้าราชการ"
เมื่อวันที่ 10 ก.พ.64 ที่ สน.ปทุมวัน กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ การชุมนุม “รวมพลคนไม่มีจะกิน ตีหม้อไล่เผด็จการ” ของ กลุ่มราษฎร และ เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน ซึ่งเคลื่อนพลมาจากหน้า หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครไปยังเพื่อกดดันให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยเพื่อน นั้น
เวลา 20.02 น. นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือ ครูใหญ่ กล่าวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ปล่อยตัวเพื่อนที่ถูกควบคุมตัว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปล่อยเพื่อนทีละคนออกมาจาก สน.ปทุมวัน ทั้งนี้ยังเหลืออีก 2 คนที่ไม่ได้รับการปล่อยตัว
นายอรรถพลกล่าวว่า อย่าให้ฉันต้องร้าย หมดเวลาตุมุ ติมิแล้ว วันนี้มีเพื่อนของเราถูกจับ ถูกกุมตัว ตำรวจคัดค้านการประกัน นี่คือการใช้ ม.112 เป็นไม้ตายสุดท้าย ปรบมือให้ไม้ตายสุดท้ายหน่อย
นายอรรถพล กล่าวต่อว่า การที่พม่าออกมามากขนาดนั้น เพราะตื่นตัวทางการเมืองเป็นอย่างมาก ถามว่า คนไทยตื่นตัวอย่างนั้นหรือยัง เผด็จการไทย ฉลาดกว่าเผด็จการพม่านิดนึง คือเผด็จการไทย ใช้วิธีปกครอง แบบกด แล้วปล่อย กดไว้อึดอัดก็ปล่อย จนเราชินกับการกดหัว แล้วลูบหลังมาหลายสิบปี แต่ต่างจากเผด็จการพม่า ที่กดอย่างเดียว เมื่อประชาชนได้ลืมตาอ้าปาก จะกดอีกจึงยาก ดังนั้น เราอย่าชินกับการถูกกดขี่ และการถูกกดทับ การถูกกดขี่ไม่ใชเรื่องปกติ และเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ใช่เรื่องปกติ
“ต่อจากนี้ เราอาจต้องต่อสู้ยกใหญ่ ถ้าเราไม่สู้วันนี้ สู้ตอนนี้ เราจะสู้อีก 5-10 ปี หรือแก่แล้วยอมตายไปในประเทศนี้หรือ ย้ำอีกครั้ง อย่าชิน อย่างชินกับความปกติเหล่านี้ แล้วออกมาสู้ร่วมกัน”
ทั้งนี้นายอรรถพลได้เสนอคำเรียกขานของข้าราชการและพระมหากษัตริย์ว่า
เราจะใช้แค่คำว่ากษัตริย์ ไม่ใช้คำว่าพระเจ้าแผ่นดิน ไม่ใช้คำว่าพระเจ้าอยู่หัว ไม่มีสมมติเทพ เป็นคำว่าราชา หรือ King ไม่ใช่ God (พระเจ้า) เราจะยกเลิกการเรียกข้าราชการ มาเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หรือถ้าจะให้ดีกว่านั้นต้องเรียกข้าราษฎร...สน.ปทุมวัน ต้องไม่ใช้สถานที่ราชการ แต่ต้องเป็นรัฐสถาน...จงกลับไปบอกพ่อแม่พี่น้องของเราว่า ข้าราชการ นั่นคือสถานะของกษัตริย์ และการเรียกขานที่เราจะทำให้ถูกต้อง
"เราต้องปฏิรูป ไม่ใช่การล้มล้าง แต่เราต้องการปฏิรูปให้หายปฏิกูล" นายอรรถพล กล่าวทิ้งท้าย
อ้างอิงจาก: สำนักข่าวราษฎร - Ratsadon News