ทำความรู้จักวัคซีนจากจีนซิโนแวค...ความหวังก้าวแรกของคนไทยปราบโควิด19
เชื่อว่าหลายคนคงได้ยินชื่อของ “ซิโนแวค” (Sinovac) บริษัทผู้ผลิตวัคซีนสัญชาติจีนกันมาบ้างแล้วตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ในฐานะผู้ผลิต วัคซีน “โคโรนาแวค” (CoronaVac) หนึ่งใน วัคซีนตัวเต็งของจีน ที่ได้รับการจับตามองเป็นอย่างมากเนื่องจากมีการร่วมวิจัยและพัฒนาในหลายภูมิภาคนอกประเทศจีน อีกทั้งยังมีข้อตกลงร่วมผลิตในต่างประเทศ รวมทั้งในอินโดนีเซีย ที่เป็นชาติสมาชิกอาเซียน วันนี้ เราจึงต้องมาทำความรู้จักวัคซีน “โคโรนาแวค” กันให้มากยิ่งขึ้น
- วัคซีนของ Sinovac ใช้วิธีการพัฒนาด้วยการนำเอาอนุภาคไวรัสที่ตายแล้ว (Inactivated vaccine) มากระตุ้นภูมิคุ้มกันไวรัสในร่างกายมนุษย์ โดยมีข้อดีคือไม่ต้องเสี่ยงต่อการตอบสนองของโรคขั้นรุนแรง ขณะที่ Pfizer และ Moderna ใช้เทคโนโลยีพัฒนาวัคซีนแบบ mRNA หรือใช้รหัสพันธุกรรมบางส่วนของไวรัสเพื่อมากระตุ้นภูมิคุ้มกัน
- ข้อดีของวัคซีนจาก Sinovac ที่เห็นได้ชัดคือการเก็บรักษาในระดับอุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส หรือเก็บในตู้เย็นมาตรฐานทั่วไปได้ ซึ่งคล้ายคลึงกับวัคซีนจาก AstraZeneca และมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดของอังกฤษ
- ไทยสั่งซื้อวัคซีนโควิด-19 จาก Sinovac จำนวนทั้งหมด 2 ล้านโดส โดยคาดว่าจะจัดส่งถึงไทย 200,000 โดสในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ และ 800,000 โดสในช่วงปลายมีนาคม และอีก 1 ล้านโดสในช่วงปลายเมษายน
- นอกจากไทยแล้ว มีอินโดนีเซียและสิงคโปร์ที่ลงนามสั่งซื้อวัคซีนจาก Sinovac แล้ว ขณะที่มาเลเซียและฟิลิปปินส์กำลังอยู่ระหว่างการหารือข้อตกลงสั่งซื้อวัคซีนดังกล่าว
จำนวนโควต้าการสั่งซื้อวัคซีนจากประเทศไทย 2 ล้านโดสแรก ใครได้ฉีดบ้าง?
1. ภายในเดือน ก.พ. จะได้รับวัคซีน จำนวน 2 แสนโดส ใช้สำหรับ กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ สาธารณสุขด่านหน้า (รวมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน) และเจ้าหน้าที่ทำงานภาคสนามในพื้นที่ควบคุมสูงสุด เช่น จ.สมุทรสาคร จ.ระยอง จ.ชลบุรี เป็นต้น จำนวน 20,000 คน และในกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อที่มีภาวะแทรกซ้อนสูง (ความดันโลหิตสูง, เส้นเลือดหัวใจตีบ หัวใจเต้นผิดจังหวะ, เบาหวาน , โรคไตเรื้อรัง, หอบหึด ปอดอักเสบเรื้อรัง, ตับแข็ง ตับอักเสบ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง และโรคอ้วน) และกลุ่มจำเป็นอื่นๆ จำนวน 180,000 คน
.
2. ภายในเดือน มี.ค. จะได้รับวัคซีน จำนวน 8 แสนโดส ซึ่งจะเป็นการฉีดวัคซีนเข็มที่สองให้กับกลุ่มผู้ที่ได้รับวัคซีนชุดแรก 2 แสนโดส และในส่วนที่เหลืออีก 6 แสนโดสนั้น จะกระจายไปยังกลุ่มจังหวัดควบคุมสูงสุด ชายแดนตะวันตกและภาคใต้ เป็นบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า (รวมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน) จำนวน 60,000 คน และในกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อมีภาวะแทรกซ้อนสูงและกลุ่มจำเป็นอื่น ๆ จำนวน 540,000 คน
.
3. ภายใน เม.ย. จะได้รับวัคซีนอีก 1 ล้านโดส โดยจะฉีดวัคซีนเข็มที่สองให้กับผู้ที่ได้รับการฉีดในเดือน มี.ค. จำนวน 6 แสนโดส และในส่วนที่เหลืออยู่ 4 แสนโดส จะพิจจารณาฉีดในกรณีที่มีการระบาดต่อไป
.
หมายความว่าภายในไตรมาสแรกจะมีผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนอย่างครบถ้วน 2 เข็ม แล้วอย่างน้อย 8 แสนคน