คนยากจนในปลายราชวงศ์ชิงมีความเป็นอยู่อย่างไร? เหมือนในซีรี่ย์หรือไม่?
เพื่อนๆ ที่สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับคนยากจนในปลายสมัยราชวงศ์ชิง ว่าจะมีลักษณะอย่างไร? จะเหมือนกับในซีรี่ย์จีนที่เราดูกันหรือเปล่า? ในบทความนี้มีรูปมาให้ดูกัน
(ขอทานที่ท่าเรือ) ทุกคนรู้ดีว่าราชสำนักในช่วงปลายราชวงศ์ชิงนั้นเน่าเฟะและไม่สามารถต่อต้านการรุกรานของมหาอำนาจต่างชาติได้ การใช้ชีวิตของผู้คนในยุคดังกล่าวยากลำบากอย่างยิ่ง โดยเฉพาะภาระภาษีอันหนักหน่วงยิ่งทำให้ชีวิตของประชาชนแย่ลง นี่คือชุดภาพถ่ายที่สะท้อนสภาพความเป็นอยู่ที่แท้จริงของคนยากจนในช่วงปลายสมัยราชวงศ์ชิง
(ขอทานอีกคนหนึ่ง) ในภาพนี้เป็นขอทานคนหนึ่งยืนอยู่บนถนน เขากำลังเตรียมจะขอทาน การเป็นขอทานในเวลานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย บางครั้งมีคนขอทานบนถนนมากกว่าคนเดินเท้าเสียอีก หลายคนอาจไม่เชื่อ แต่นี่คือประวัติศาสตร์จริง
(คนหาบของ) งานประเภทขนหาบสินค้า เป็นหน้าที่ของกุลี ในสมัยนั้นการคมนาคมยังไม่สะดวกและผู้คนจากชนบทอาจไม่เคยเข้ามาในเมืองเลยตลอดชีวิต เพื่อให้ได้ซึ่งสินค้าในเมือง อาชีพกุลีจึงได้เกิดขึ้นมา พวกเขามีหน้าที่ขนสินค้าเกี่ยวกับของใช้ในชีวิตประจำวันที่จำเป็นในเมืองไปยังชนบท
(ผู้คนในสลัม) “ในประเทศจีน หากคุณเห็นเด็กและผู้ใหญ่หลายสิบคนกำลังแย่งกองขี้วัวกัน อย่าแปลกใจเลย” นี่คือคำอธิบายของมิชชันนารีเกี่ยวกับคนยากจนในช่วงปลายราชวงศ์ชิงโดยไม่มีการกล่าวเกินจริง ในเวลานั้นขี้วัวเป็นปุ๋ยที่สำคัญ หลายคนเก็บไว้ และมีคนหลายสิบคนที่ต้องการแย่งชิง
(คุณยายนั่งอยู่หน้าบ้าน) ในรูปถ่ายเก่าๆ นี้สีหน้าของคุณยายดูเจ็บปวด ดูจากภาพจะเห็นได้ว่า เท้าของคุณยายได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากความยากจน คุณยายจึงไม่ได้ไปหาหมอ เมื่อเวลาผ่านไปเท้าของคุณยายก็แย่ลง และเธอทำได้เพียงอดทนต่อความเจ็บปวดที่ทรมาน นอกจากนี้เสื้อผ้าของคุณยายยังทั้งเก่า ขาดและสกปรกอีกด้วย
(หนีจากความแห้งแล้ง) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2418 ปริมาณน้ำฝนในจีนตอนเหนือทั้งหมดมีน้อยกว่าปีก่อนๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีการอนุรักษ์น้ำยังด้อยพัฒนาจะได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก หลังจากผ่านไปหนึ่งหรือสองปี ความแห้งแล้งก็มาถึงจุดสูงสุด ในปี พ.ศ. 2420 และ พ.ศ. 2421 มณฑลที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดคือ มณฑลซานซี, เหอหนานและมณฑลอื่นๆ โดยเฉพาะมณฑลซานซี เนื่องจากไม่มีการจัดการเกี่ยวกับการอนุรักษ์น้ำที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ จึงทำให้เกิดภาวะขาดแคลนอาหาร
(คุณยายและหลานชาย) จากการสถานการณ์ความแห้งแล้งดังกล่าวซึ่งยากที่ใครจะจินตนาการถึง ผู้คนยากไร้ต้องทนทุกข์ทรมานอย่างหนัก หลังเกิดภัยแล้ง ผู้คนกว่า 10 ล้านคนอดตาย และอีกกว่า 20 ล้านคนอพยพหนีไปอยู่ที่อื่น เพื่อความอยู่รอด บางคนต้องกินเปลือกไม้และรากหญ้าเพื่อประทังชีวิต หลังจากผู้คนอดตาย ไม่มีใครจัดการศพของพวกเขา จึงส่งผลให้เกิดโรคระบาด
(ยายในกระท่อม) แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับที่เห็นในภาพยนตร์และซีรี่ย์จีนโบราณใช่ไหม? นี่คือความจริงในประวัติศาสตร์ เมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้นมา มีบางพื้นที่เกิดการกินเนื้อมนุษย์ขึ้น ภายหลังหญิงคนหนึ่งถูกจับได้ เธอถามเจ้าหน้าที่ที่สอบปากคำเธอว่า: สุนัขกินเนื้อมนุษย์เป็นเรื่องที่ถูกกฎหมาย เหตุใดพวกเธอที่อดยาก กินเนื้อมนุษย์บ้างจึงเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย?
(แม่และลูกชายไปขอทาน) ภาพนี้ยิ่งดูยิ่งเศร้า ในภาพแม่กำลังอุ้มลูกไปขอทาน เป็นไปได้ว่า ถ้าไม่ใช่เพราะที่บ้านไม่มีอาหารกิน แม่จะไม่ยอมพาลูกไปขอทานอย่างแน่นอน สีหน้าของแม่ดูอมทุกข์และอ่อนเพลีย เพราะเธอป่วยด้วย
(ชายผู้รอเครื่องเซ่น) ชายคนหนึ่งนั่งรออยู่ข้างศาลเจ้า และหวังว่าจะมีคนมาไหว้ เพื่อที่เขาจะได้เอาเครื่องเซ่นไหว้นั้นไปรับประทาน
ที่มา: http://www.qulishi.com/article/202006/416282.html