ครม.ไฟเขียว! แก้กฎหมายให้ทำแท้งหญิงตั้งท้องไม่เกิน 12 สัปดาห์
หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย เมื่อวันที่ 19 ก.พ. 63 ว่า การกำหนดให้หญิงที่ทำแท้งหรือยอมให้ผู้อื่นทำแท้งมีความผิดอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.301 “เป็นการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของหญิงเกินจำเป็น” ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญ ม.28 ที่บุคคลย่อมมีสิทธิเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย
ล่าสุด ครม. ได้เห็นชอบร่างแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา เพื่อให้สอดคล้องกับวินิจฉัยของศาล โดย :
1) แก้ไขเพิ่มเติม ม.301 ให้หญิงที่มีอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ สามารถทำแท้งได้ เพราะเป็นระยะเวลาที่ปลอดภัย ไม่มีความเสี่ยงเกิดอาการแทรกซ้อนและเป็นอันตรายแก่ชีวิต ตามความเห็นของแพทย์
2) ลดอัตราโทษ ม.301 หญิงที่ทำแท้งหรือยอมให้ผู้อื่นทำแท้ง เมื่อตั้งครรภ์นานเกิน 12 สัปดาห์ ให้เหลือโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
3) แก้ไข ม.305 ให้ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมทำแท้งแก่หญิงตั้งครรภ์ได้ โดยไม่มีความผิด ถ้า :
• หญิงตั้งครรภ์ต่อไป จะเสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพกายหรือจิตใจ
• ทารกคลอดออกมา แล้วเสี่ยงผิดปกติทางกายหรือจิตใจ จนถึงขนาดพิการอย่างร้ายแรง
• หญิงมีครรภ์เนื่องจากถูกละเมิดทางเพศ
• หญิงที่มีอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ ยืนยันที่จะยุติการตั้งครรภ์
หลังจากนี้ ร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว จะเข้าสู่กระบวนการเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาโดยด่วน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ก่อนวันที่ 12 ก.พ. 64 เนื่องจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะมีผลบังคับใช้ 1 ปี มิเช่นนั้นจะไม่มีผลทางกฎหมายไปโดยปริยาย
การปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการทำแท้ง เป็นการส่งเสริมการคุ้มครองสิทธิของผู้หญิงและชีวิตของทารกในครรภ์อย่างมีดุลยภาพ อีกทั้งสร้างความมั่นใจต่อบุคลากรการทางการแพทย์ในการให้บริการยุติการตั้งครรภ์โดยสมัครใจ ลดแรงจูงใจของผู้หญิงในการไปหาหมอเถื่อนเพื่อทำแท้ง ซึ่งผิดกฎหมายและไม่ปลอดภัยต่อชีวิต และในส่วนที่กฎหมายอนุญาตให้ทำแท้งทารกในครรภ์ที่มีความเสี่ยงที่จะคลอดออกมาแล้วพิการแต่กำเนิด จะช่วยลดภาวะตึงเครียดให้กับครอบครัวที่ไม่มีความพร้อมที่จะเลี้ยงดูบุตรที่มีสภาพพิการได้