หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

สุดยอ​ดเคล็ดลับ​การพิชิต​กำจัดความเครียด​เพื่อ​การดูแลรักษา​สุขภาพ​ และ​ ความงาม​ด้วยตัวเอง

เนื้อหาโดย alien123

 

 

สุดยอ​ดเคล็ดลับ​การพิชิต​กำจัดความเครียด​เพื่อ​การดูแลรักษา​สุขภาพ​ และ​ ความงาม​ด้วยตัวเองอันดับหนึ่ง​​ตลอด​กาลของจักรวาล​(forever​ number​ 1 of​ ​top secret​ of​ self​ health care of​ the​ universe​) เพื่อ​การเป็นคนที่มีสุขภาพ​ดีที่สุด​คนที่งามที่สุดในจักรวาล​ที่เป็นหนุ่ม​อมตะมีอายุ​ยืนยาว​มหาศาล​เหนือโลกด้วยพลังวิเศษ​ของพระเจ้า​​​ สำหรับคนยุคใหม่​ผู้ฉลาดเลือกสิ่งที่ดีที่สุดความสุขที่ดีที่สุดความรักที่ดีที่สุดความร่ำรวยที่ดีที่สุด​ให้กับตัวเองให้ตัวเรามีพลัง​สูงสุด​มีความสุข​สูงสุดด้วยความรักแท้สากลจักรวาล​สูงสุด​เพื่อยกระดับ​สู่​การมีชีวิต​ที่ร่ำรวยสนุกสบายเป็นไฮโซที่แท้จริง​สูงสุดที่มีทั้งพลังจิต​ และ​ พลังร่างกาย​วัตถุสสารสูงสุด​พร้อมกัน​(หากคุณพร้อม​ และ​ ต้องการ​อัพเกรด​ตัวเอง​วิวัฒนาการ​เป็นมนุษย์​ต่างดาว​ต่างมิติ​ นี่คือ​ เคล็ดลับ​ความรู้ที่ดีที่สุด​สำหรับคุณที่จะสามารถ​เปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่พลิกจากเดิมสิ้นเชิง​ได้ใน​ 7 วัน)​... 

 

 

 

 

 

 

"ไม่มีการเกิด แก่​ เจ็บ​ ตาย​ใดๆเลยอย่างสิ้นเชิง​, ทั้งหมด​ทั้งปวง​ไม่มีอะไรเลยไม่เป็น​อะไรเลยอย่างสิ้นเชิง​นอกจากพระเจ้า​(อันเป็นดวงวิญญาณ​สูงสุดซุปเปอร์​จิตสิ่ง​วิเศษ​จุดพลังงาน​แสงสว่าง​อาตมันจุด​ดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์​ที่​มีพลัง​อำนาจสูงสุด​ที่สะอาด​สูงสุด​ สว่าง​สูงสุด​ สงบ​สูงสุด​เหนือ​ทุกสิ่งทุกอย่าง​ ที่จะ​เป็น​สิ่งสูงสุด​ความเป็นที่หนึ่งสูงสุด​ตลอดกาล​ อันเป็น​ตัวเราที่แท้จริง​สูงสุด​ที่​จะเป็น​โลกหน้ามิติ​แก่นแท้​สูงสุด​ของจิตของเรา​เองที่มีแต่จิตล้วนๆเพียง​จิต​เดียว​เท่านั้นสภาพรู้ล้วนๆเพียง​สภาพรู้เดียว​เท่านั้นการมีอยู่ดำรงอยู่ล้วนๆเพียงการมีอยู่ดำรงอยู่เดียว​เท่านั้นความสุข​ล้วนๆเพียง​ความสุขเดียว​เท่านั้นตัวเราล้วนๆเพียง​ตัวเราเดียวเท่านั้น​ตลอด​กาล ​อันเป็นสภาวะสากลที่แท้จริง​สูงสุด​ที่จะเป็น​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​ที่แท้จริงสูงสุดจิตวิเศษ​จิตทิพย์​ที่แท้จริง​สูงสุด​มหาสติสูงสุด​ ที่จะเป็นชีว่าพระเจ้าพระบิดาพระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นเทพเจ้า​สูงสุด​เทพเจ้า​สากลจักรวาลสูงสุด​ที่ปราศจาก​ตัวตนมายาเฉพาะส่วนตัวสิ้นเชิง อันเป็น​สภาวะสายกลางที่แท้จริง​สูงสุด​ที่เป็นธรรมชาติ​ทิพย์​บริสุทธิ์​สูงสุด​ธรรมชาติ​สภาวะที่สมดุล​หยุดนิ่งมั่นคง​ปกติกึ่งมีอยู่กึ่งไม่มีอยู่​ที่จะว่ามีอยู่ก็ไม่ใช่​ และ​ ไม่มีอยู่ก็ไม่ใช่ที่จะต่อเนื่อง​สูงสุด​มีอยู่อย่างแท้จริง​สูงสุด​ตลอดกาลชั่วกัลปาวสาน​ ที่​จะเป็นองค์​รวมเอกภาพความเป็นหนึ่งเดียวที่แท้จริง​สูงสุดของสรรพสิ่ง​อันเป็นจักรวาล​อันแท้จริง​สูงสุด​ในลักษณะ​ของจุดหนึ่งอันเป็น​จุดจริงๆตาม​ธรรมชาติเพียง​หนึ่งเดียว​ที่ไร้ขีดจำกั​ดใดๆสิ้นเชิงปราศจากรูปร่างลักษณะ​ใดๆสิ้นเชิง​​อันเป็น​จุดศูนย์กลาง​สูงสุด​ศูนย์​รวมพลังงานทั้งหมด​ของจักรวาลอัน​สูงสุด​อันเป็น​จุดสมดุลหยุดนิ่งมั่นคงปกติ​อย่างแท้จริง​สูงสุด​ของจักรวาล​ ที่จะเป็นสวรรค์​อัน​แท้จริง​ชั้น​สูงสุด​หนึ่ง​เดียวที่มีแต่ความสุขสูงสุด​ล้วนๆหนึ่งเดียว​ที่ปราศจาก​ความทุกข์​สิ้นเชิง​ในรูปของดวงวิญญาณ​สูงสุด​ที่​เป็นรูปอมตะที่แท้จริงสูงสุด​ที่เปิดเผยเรียบง่ายสูงสุด​ที่ปราศจาก​รูปร่างลักษณะมายาที่ลึกลับซับซ้อน​ต่างๆสิ้นเชิงในลักษณะ​ของพระจันทร์​สี​เงิน​จุดแสงอันสว่างจ้า​อย่างแท้จริง​สูงสุด​ของการการตรัสรู้​การรู้แจ้ง​ตื่นรู้ที่แท้จริง​สูงสุด​ของจุด-ปัจจุบัน​ที่แท้จริง​สูงสุดด้วยความเบิกบาน​ใหม่สดมีชีวิต​ชีวาอย่างแท้จริง​สูงสุด​ ​ อันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดความสุข​ที่​ดี​ที่สุด​ความสุขที่แท้​จริง​สูงสุด​นั้น​)​เพียง​สิ่ง​เดียว​เท่านั้น​ตลอด​กาล นอกจากพระเจ้าแล้วก็มิได้มีผู้อื่นสิ่งต่างๆสิ่งปรุงแต่ง​มายาต่างๆที่เป็นซาตาน​มารสัตว์​นรกใครอะไรสิ่งใด​ตั้งอยู่​ดำรง​อยู่​ให้เราสามารถ​เข้าถึง​ลุถึงบรรลุเสวยผลรู้สึก​ถึงได้เลยอย่างสิ้นเชิง​แม้แต่อนุภาค​เดียว​ในวินาทีเดียว​..." 

 

 

 

 

 

   พบกับที่สุดแห่ง​อภิมหาโปรเจ็ค​ระดับ​จักรวาล​ มิติใหม่​แห่งการพิชิต​กำจัดความเครียด​เพื่อ​การดูแลสุขภาพ​ และ​ ความงาม​ด้วยตัวเองแบบครบถ้วน​สมบูรณ์​แบบทุกด้านทั้งทางร่างกาย​-จิต-ชีวิต​-ใจความ​รู้สึก​ ที่จะทำให้เราสามารถสุขกับตัวความสุขล้วนๆที่ลอยอยู่ตรงหน้า​รอพร้อมตลอดเวลานั้น​ได้ด้วยตัวเราเองล้วนๆอย่างง่ายๆ-ฟรี-สะดวก​รวดเร็ว​ทันทีทุกที่​ทุกเวลา​ที่ต้องการโดยไม่ขึ้นกับผู้อื่น​ใครอะไรสิ่งใดในโลกใน​จักรวาล​ในอวกาศ​-เวลาทั้งสิ้น​ จนเราสามารถ​สุขได้ตลอดเวลา​สุขได้ทุกวินาทีสุขได้มหาศาล​ถึงขีดสุดจนสุขอนันต์​อย่างไร้ขอบเขต​ขีดจำกัด​ ให้ตัวเรามีพลังสูงสุด​มีความสุข​สูงสุด​ด้วยการเล่นโยคะสายกลางนี้​เพียงอย่าง​เดียว​เท่านั้น​... 

 

1.)​โยคะสายกลาง​ คือ​ อะไร? 

     วิชาโยคะสายกลาง(Middle​​ Yoga​ Theory​ : MYT)​ เป็นทฤษฏี​ศาสตร์​ความรู้ทางเลือก​เกี่ยวกับ​ เวชศาสตร์​ชะลอวัยและการ​ฟื้นฟู​สุขภาพ(anti-aging​ and​ regenerative medicine)​ ระดับสูง​สุด​อันเป็น​การส่งเสริม​สุขภาพ​ และ​ ความงามให้ดีขึ้น​ทั้งระบบ​จากภายในที่ลึกที่สุดของจิตวิญญาณ​สู่ภายนอกเองตามธรรมชาติ​เพื่อการมีสุขภาพที่ดีความงามที่ดี​ และ​ ชีวิต​ยืนยาวให้ถึงขีดสุดโดยมุ่งพิชิต​กำจัด ความเครียด​(serious​)​ ทางจิตที่จิตฟุ้งซ่าน​ขาดสติ​วิตกกังวล​คิดมาก​กับ​สิ่ง​ต่าง​ๆ​ที่จะเป็นสาเหตุ​หลักของความทุกข์​ความแก่ชราความเจ็บป่วย​สุขภาพ​แย่ของร่างกายนั้นโดยการมุ่งเผชิญหน้า​กับตัวความเครียด​ตัวจิตที่เครียด​นั้น​โดยตรง​เพื่อ​ให้สามารถ​พิชิต​กำจัดความเครียด​ได้อย่างสิ้นซากอย่างสูง​สุด​เป็น​หลัก,​ โดยที่แนวคิดนี้จะผสมผสานความรู้ทั้งทางจิตวิญญาณ​ และ​ ทางวิทยาศาสตร์​เข้าด้วยกันอย่างลงตัวจนเป็น ​การดูแลรักษา​สุขภาพ​รักษา​โรคด้วย​ตนเอง​แบบองค์​รวมแนวใหม่ที่ดีที่สุด​(the​ best​ of​ holistic medicine) ที่จะเน้นการดูแลรักษา​สุขภาพ​จิตเพื่อพิชิต​กำจัดความเครียดโดยตรง​จึงมุ่งเน้นสนใจแต่จิตเป็นหลักแบบ จิตวิทยาสื่อประสาท(Neuron Logistic Programming : NLP)​ ระดับสูงสุด​อันเป็น​การโปรแกรม​สมองโปรแกรม​จิตบังคับ​ควบคุม​จิตสำนึกของ​เราให้คิดนึกอย่างฉลาด​มีระบบ​มีระเบียบแบบแผน​แบบคอมพิวเตอร์​แบบโปรแกรม​อัตโนมัติ​ของหุ่นยนต์​เพื่อ​สั่งการ​ปลุกจิตใต้สำนึกระดับสูง​สุด​ด้วยตัวเราเองเพื่อ​ชาร์จ​พลัง​นำศักยภาพ​สูงสุด​ของตัวเราที่แท้จริง​สูงสุด​อันเป็นจิตใต้สำนึกระดับสูง​สุด​จิตวิญญาณ​ภายในที่ลึกที่สุด​ของเราเองที่จะพลิกเป็น​จิตเหนือสำนึก​ หรือ​ ซุปเปอร์​จิต(super​ mind)​ นั้​นมาใช้เพื่อผลประโยชน์​สูงสุด​ในชีวิต​ของเราด้วยตัวเราเองล้วนๆ,​ อันเป็นการดูแลสุขภาพแบบ การพักผ่อนนอนหลับ​ที่ดีที่สุด(the​ ​best​ of​ relaxion sleep​)​ แบบองค์​รวม(อันจะเป็นการพ้นทุกข์​พักผ่อน​นอนหลับทางจิตที่จะเน้นการพ้นทุกข์​พักผ่อนทางจิตที่สามารถ​พ้นทุกข์​พักผ่อน​หยุดพักหยุดนิ่ง​สงบนิ่ง​ได้ถึงระดับ​ที่ลึกที่สุดของจิตวิญญาณจนจิตของเรา​สามารถ​รู้สึก​สบายจิตหายเครียด​ได้สูงสุด​ อันจะส่งผลทำให้ร่างกาย​ของเรา​รู้สึก​ว่าได้​ หลับสนิท​หลับลึกอย่างที่สุด(maximum deep sleep)​ แล้วได้รับการพักผ่อน​สูงสุด​แล้วจึงรู้สึก​มีเรี่ยวแร​งมีพลังมหาศาล​เตรียม​พร้อม​ที่จะ​เคลื่อนไหวได้​สูงสุด​ไม่รู้สึกอยากนอนหลับ​พักผ่อน​อีกต่อไป, ซึ่ง​เป็นการพ้นทุกข์​ดับทุกข์​ที่ต้นเหตุ​ที่สาเหตุ​เป็น​หลัก ส่วนการพ้นทุกข์​พักผ่อน​นอน​หลับทางร่างกาย​เป็น​เพียง​การดับทุกข์​การแก้ปัญหา​ที่​ปลายเหตุเท่านั้น​)​โดยใช้​ วิธีทางสายกลาง(middle​ way​ method​)​ ที่จะเป็นการเล่นโยคะระดับสูง​สุด​ในลักษณะ​ของ การปรับสมดุล​จิตแบบหยุดนิ่ง​รวดเร็ว​ฉับพลัน​ทันที(sudden​ mind​ balance​ tune)​ โดยทางสายกลาง​เพื่อทำให้จิตสนใจแต่ตัวจิตเองล้วนๆเพียง​จิต​เดียว​เท่านั้น​จนจิตสามารถ​เป็นกลาง​สมดุลสงบนิ่ง​หยุดนิ่งสูงสุ​ดโดยทางสายกลาง​ที่ จิตมีพลัง​สูงสุด​(maximum​ mind​ power​)​ มีพลังสติสูงสุด​จิตมีความสุขสูงสุด​ในโลกหน้า​อย่างง่ายๆรวดเร็ว​โดยฝึกจิตทรมาน​จิตด้วย การ​สะกดจิต​ตัวเอง(self​ hypnotize)​ โปรแกรม​จิตตัวเองทำศัลยกรรม​จิตใหม่หมดจัดระเบียบ​ความคิดใหม่หมดที่จะให้จิตฉลาดมีไหวพริบ​เป็นจิตอัจฉริยะ​ที่รู้แจ้ง​เป็นสัพพัญญู​โดย​โปรแกรม​ให้จิต เดินจิต(mind​ walk)​ บนทางสายกลางแทงละลุความสุดโต่งของจิตอันเป็น​ จิตความคิด​ปรุงแต่ง​มายา(illusion thinking mind)​ ที่เป็นตัวความเครียด​ที่ทุกข์​เจ็บ​ปวดทรมานดิ้นรน​ฟุ้งซ่าน​ขาดสติ​​เครียด​วิตกกังวล​คิดมาก​กับ​สิ่ง​ต่าง​ๆ​นั้นอย่างรวดเร็ว​ฉับพลัน​ทันที​เพื่อให้จิตมุ่งตรงลัดตรงสู่จิตวิญญาณ​ระดับสูง​สุด​ของโยคะอันเป็น​เป้าหมาย​สูงสุด​ของเรา​ทุกคน​อันเป็น​สิ่งที่ดีที่สุดความสุข​ที่ดีที่สุดความรักที่ดีที่สุด​ความฉลาดที่ดีที่สุดนั้นล้วนๆเพียง​สิ่ง​เดียว​เท่านั้น​เป็นพื้นฐาน​หลักสำคัญ ​เพื่อการมีองค์รวมร่างกาย​-จิต-ชีวิต-ใจความรู้สึก​ในโลกนี้ที่ดีที่สุด​เท่าที่​จะ​เป็นไปได้ให้ครบถ้วนสมบูรณ์​ในองค์รวมทุกด้านจนสามารถรู้สึก ​สุขกาย(body​ happiness​)​-สบายจิต(don't​ serious​ ​mind)​-ชีวิ​ตหมดปัญหา(no​ plobem​ life)​-บอกลาใจความรู้สึก​​ปรุงแต่ง​มายา​(don't​ care​ illusion feeling​)​ ได้ถึงขีดสุดโดยทางสายกลางจากภายใน​ที่ลึกที่สุ​ดนั้น เพราะแนวคิดนี้ถือว่าจิตเป็นของสูงจิตเป็น​นายกายเป็น​บ่าว​ จิตเป็นสิ่งสากลที่มีพลัง​อำนาจเป็นสิ่งมีอยู่เป็น​อมตะที่แยกอิสระ​อยู่อีกมิติหนึ่ง​เหนือ​โลกประสาทสัมผัส​เหนือร่างกาย​เหนือโลก​เหนือ​จักรวาล​ เมื่อร่างกาย​หลับแต่จิตไม่ได้​หลับตามไปด้วยจิตจะยังคงมีอยู่คิดนึกเป็นความฝันต่อ​ เมื่อร่างกายตายจิตก็ไม่ได้ตายตามไปด้วย​จิตจะยังคงมีอยู่เป็น​ภูติผีวิญญาณ​ในโลกหลังความตาย​ จิตจึงเป็นสิ่งสำคัญกว่าร่างกายเพราะจิตจะมีอยู่ดำรงคงอยู่​เป็นอมตะตลอดไป​โดยไม่ขึ้นกับร่างกาย​รวมถึงโลกประสาทสัมผัส​ ยิ่งถ้าเป็น มิติแก่นแท้​สูงสุด​ของจิต(maximum dimension essence of​ mind)​ อันเป็น​จิตใต้สำนึกระดับสูง​สุด​ของเราที่จะเป็น​จิตเหนือ​สำนึกซุปเปอร์​จิตแล้วก็จะยิ่งเป็นอมตะอย่างแท้จริง​สูงสุดมีพลัง​อำนาจเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง​อย่าง​แท้จริง​สูงสุด​ตลอดกาล​, ดังนั้​น​ การปรับสมดุลจิตจนจิตสามารถเป็นกลาง​สมดุลตั้งมั่น​สงบนิ่ง​หยุด​นิ่งสูงสุดที่จิตจะมีพลัง​จิตสูงสุด​ที่จิตสามารถ​เข้าถึงมิติแก่นแท้​สูงสุด​ของจิตได้​ จนจิตมีพลังสติสูงสุด​จิตมีความสุขสูงสุด​ในโลกหน้า​​สามารถ​เอาชนะจิตความคิดปรุงแต่งมายา​ที่ทุกข์​ทรมานดิ้นรน​เคลื่อนไหว​เสียสมดุล​เสื่อมพลังลงเรื่อย​ๆนั้นได้อย่างสูงสุด​นั้นจึงมีความสำคัญมาเป็นอัน​ดับ​แรกของการปฏิบัติ​เพราะถ้าเรามีพลังจิตสูงสุดพลังสติสูงสุด​จิตมีความสุขสูงสุด​ในโลกหน้า​​โดยทางสายกลางจากการเล่นโยคะสายกลาง​ได้แล้ว​ จิตจะ​มีพลัง​อำนาจสูงสุดสามารถ​อยู่​เหนือ​ทุกสิ่งทุกอย่าง​สามารถ​เอาชนะได้ทุกอย่าง(maximum​ mind​ power​ can​ win​ everthing)​ สามารถ​คิดนึกอธิฐานได้สำเร็จตามใจนึกทุกอย่าง​ ซึ่ง​ย่อมสามารถสร้าง​อิทธิฤทธิ์​ปาฏิหาริย์​เนรมิต​ร่างกาย​ของเรา​-ชีวิตของเรา​-ใจความรู้สึก​ของเรา​ให้เป็นยังไง​ก็ได้ให้ดีให้สุขแค่ไหนยังไง​ก็ได้ตามใจนึก​ จึงเรียกโยคะสายกลาง​นี้อีกชื่อหนึ่ง​ว่า​ โยคะพลังจิต​(mind​ power​ yoga)​ เพราะมุ่งเน้นฝึกจิตฝึกสติกำจัดพิชิต​ความเครียด​สร้างพลังจิตพลังสติ​ให้​จิต​เป็​นกลางสมดุลตั้งมั่นสงบนิ่ง​หยุดนิ่งสูงสุดจิตมีพลัง​สูงสุด​ล้วนๆโดยตรง​โดยไม่มีการอ้อมค้อม​ใดๆทั้งสิ้น​ที่จะมุ่งสนใจแต่จิตล้วน​ๆเป็น​หลัก ซึ่ง​จะแตกต่าง​จากโยคะทั่วไป​ที่คนทั่วไป​ส่วนใหญ่​รู้จัก​ที่เน้นการสร้างพลังร่างกาย​ด้วยการบริหาร​ร่างกาย​ด้วยท่าโยคะ​ต่าง​ๆเป็น​หลักนั้น​,​ ซึ่ง​เมื่อเรามีพลังจิตสูงสุดพลังสติสูงสุด​​จิตมีความสุขสูงสุด​ในโลกหน้า​โดยทางสายกลาง​ตามหลักของวิชาโยคะสายกลาง​นั้นได้แล้วจิตของเรา​จะมีพลัง​อำนาจสูงสุดเอาชนะได้ทุกอย่างเปรียบดุจดวงอาทิตย์ดวงจันทร์​ที่ส่องแสง​สว่างจ้าทรงพลัง​เหนือทุกสิ่งทุกอย่าง​ในโลกนั้น ที่จิตจะเอาชนะร่างกาย​อยู่เหนือ​การหลับการตายของร่างกาย​อย่างสมบูรณ์สูงสุด​ จึงส่งผล​ทำให้ร่างกายของเรา​รู้สึ​กสดชื่น​ตื่นตัวมีพลังเป็นหนุ่มไม่รู้สึกแก่ชราอ่อนเพลีย​หมดแรง​จนหลับไหลจึงทำให้ร่างกายเป็นอมตะ​อยู่ยงคงกระพันตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้​ทำให้เรา​กลายเป็น​ผู้วิเศษ​มนุษย์​วิเศษ​มหัศจรรย์​ที่เป็นอมตะมีอายุยืนยาวมหาศาลเป็นหมื่นๆปีในห้วงอวกาศ​สากลจักรวาล​ไม่อายุสั้นตายง่ายๆแบบมนุษย์​โลกนั้นตามจิตไปด้วยเองอัตโนมัติ, อันจะส่งผลทำให้เรากลาย​เป็น​มนุษย์​วิเศษ​มหัศจรรย์​ที่มีชีวิตที่ร่ำรวยสนุกสบาย​ ​เป็นหนุ่มอมตะมีอายุยืนยาว​มหาศาลเหนือโลก(forever​ young and​ maximum long life)​ ที่ปิติสุขเสียวสดชื่นตื่นตัวซาบซ่านสว่างสุกใสสดใสใหม่สดมีชีวิตชีวาได้ถึงขีดสุด(จนไม่ต้องทุกข์​ทรมานเกิด​ แก่​ เจ็บ​ ตาย​อีกต่อไป)พร้อมกับมีพลังวิเศษ​เหนือธรรมชาติ​ที่สามารถ​แสดงอิทธิฤทธิ์​ปาฏิหาริย์​เหาะเหินเดินอากาศ​ล่องหนหายตัวไปมิติไหนก็ได้ที่คนทั่วไป​ส่วนใหญ่​ในโลกทำไม่ได้​นั้นด้วยในที่สุด, ซึ่งเป็นผลมาจากการเล่นโยคะสายกลาง​จนจิตสามารถ​มีพลังสูงสุด​มีสติสูงสุด​มีความสุข​สูงสุดในโลกหน้าโดยทางสายกลาง​ที่จิตจะ​ โมกษะปลดปล่อย​ตัวเอง​เป็น​อิสระหลุดพ้น​ที่จะพ้นทุกข์​สูงสุด​(maximum release my​ self​)​ ​ที่จะโมกษะสูงสุด​​​ทำให้จิตพ้นทุกข์​สูงสุด​ ไม่เจ็บอย่างแท้จริง​สูงสุด(ultimate​ real​ not​ hurt)​ โดยทางสายกลาง, ซึ่ง​จิตของเราเป็นกลางสมดุลตั้งมั่น​หยุดนิ่ง​สงบนิ่งสูงสุด​ไม่เสียสมดุล​ทุกข์​เจ็บ​ปวดทรมานดิ้นรน​เคลื่อนไหวเครียดวิตกกังวล​คิดมาก​กับ​สิ่ง​ต่าง​ๆ(จิตไม่มีการรู้​ไม่มีการรับรู้กับสิ่ง​ต่าง​ๆอย่างสิ้นเชิง​ จิตจึงไม่เจ็บไม่เครียดไม่ทุกข์กับสิ่ง​ต่างๆ​อย่างสิ้นเชิง​ จิตจึง​หลุดพ้น​โมกษะ​พ้นทุกข์​สูงสุด​จากโลกนี้มีแต่ความสุข​ล้วนๆตลอดกาล​ปราศจาก​ความทุกข์​สิ้นเชิงในโลกหน้า​)​ตามไปด้วย​เองอัตโนมัติ​นั้น​ ที่จะทำให้ ความคิดนึกปรุงแต่ง​มายาของเราในอวกาศ​-เวลากลายเป็น​เพียงแค่​ความว่างเปล่า​เท่านั้น​(thinking is​ just​ nothingness)​ ที่ไม่ว่าความคิดนึกปรุงแต่ง​มายาของเรา​จะยังมีอยู่​ หรือ​ ไม่มีอยู่อีกแล้ว​มันก็จะไม่มี​การถูกสนใจอีกต่อไป​อย่างสิ้นเชิง​ ที่แม้ว่า​จิตของ​เรายิ่งเคลื่อนไหว​คิดนึกลึกซึ้ง​ด้วยสติปัญญ​าชั้นสูงเหนือจิตมนุษย์​มากเท่า​ไหร่ก็ยิ่งไม่เจ็บไม่เครียดไม่ทุกข์​มากเท่านั้น​, ซึ่ง​ความสุขสูงสุด​ในโลกหน้า​จากภายในที่ลึกที่สุดของจิตวิญญาณของเราจากการไม่เจ็บสูงสุด​โดยทางสายกลาง​นั้นย่อมส่งผลให้ร่างกายได้ปิติสุขสูงสุด​ ไม่แก่อย่างแท้จริง​สูงสุด(ultimate​ real​ not​ old) ​โดยทางสายกลาง, ที่ร่างกายของเรา​​จะค่อยๆมีความสุข​สูงสุ​ดในโลกนี้ที่จะเป็นหนุ่มอมตะสดใสแข็งแร​งสวยงามสมดุลทางเพศ​วัยเชื้อชาติ​ภาษาดวงดาวที่ดูแล้วไม่แก่ชราไม่อมทุกข์​ไม่เคร่งเครียดโดยทางสายกลางที่จะทำให้ อายุวัยของเราในโลกกลายเป็นเพียง​แค่ตัวเลขเท่านั้น(age is​ just​ number)​ ยิ่งร่างกาย​เรามีอายุวัยเยอะเท่าไหร่​เราก็ยิ่งเป็นหนุ่มขึ้นเรื่อยๆเท่านั้น และ​ ชีวิตสุขสงบสูงสุด​ ไม่ตาย-ไม่เกิดอย่างแท้จริง​สูงสุด​(ultimate​ real​ not​ death-born)​ โดยทางสายกลาง, ที่ชีวิตของเราค่อยๆมีความสุข​สูงสุด​ในโลกนี้ที่จะเป็นอมตะนิรันดร์​สมดุลอยู่อย่างนั้น​ตลอด​กาลที่จะมีอายุ​ยืนยาว​มหาศาลเหนือโลกได้ถึงขีดสุด​โดยทางสายกลางที่จะทำให้​ การตาย​ และ​ การเกิดของเราในโลกใน​จักรวาล​กลายเป็นเพียงเรื่องสมมติ​มายาเรื่องโกหกในฝันที่เชื่อไม่ได้​เลยเท่านั้น(death​ & born is​ just​ fake​ story in​ dream)​ ที่ยิ่งใช้ชีวิต​อยู่ในดินแดน​ที่เคลื่อนไหว​แปรปรวน​เสี่ยง​ตายมากเท่าไหร่เราก็ยิ่งหยุดนิ่ง​สงบเป็นอมตะไม่ตายมากเท่านั้​น ที่จะสามารถ​ทำให้เรา​ไม่ต้อง​รู้สึก​ว่ามีการเกิด​ แก่​ เจ็บ​ ​ตายให้ต้องมีใจความ​รู้สึก​ทุกข์​กับมันอีกต่อไปอย่างสิ้นเชิง​ในที่สุด​ตามไปด้วยเองอัตโนมัติ("ความเครียด​อันเป็น​ความเจ็บความทุกข์​ทางจิตของ​เราที่ฟุ้งซ่านขาดสติ​วิตกกังวล​คิดมาก​กับ​สิ่ง​ต่าง​ๆ​นั้นเป็นสาเหตุ​หลักของปัญหา​สุขภาพ​ และ​ ความงาม​ของเราที่จะทำให้เราดูสุขภาพ​แย่แก่ชราอมทุกข์ไม่สว่างสดใส​สวยงาม​ดูยากจน​มีชีวิต​ลำบากจนทำให้เราต้องค่อยๆเจ็บป่วยอ่อนเพลีย​หมดแรงแล้วตายล้มละลาย​ล้มเหลว​พ่ายแพ้​ทางชีวิตในที่สุด, เพียงแค่ปรับสมดุล​จิตของเรา​ให้เป็นกลางสมดุลตั้งมั่น​สงบนิ่งหยุด​นิ่งสูงสุ​ดมีพลัง​สูงสุดมีสติ​สูงสุด​จิตไม่เครียดวิตกกังวล​คิดมาก​กับ​สิ่ง​ต่าง​ๆ​ได้โดยทางสายกลาง​แล้วร่างกาย​-ชีวิต-ใจความ​รู้สึก​ของเรา​ก็จะเป็นกลางสมดุลตั้งมั่น​สงบนิ่ง​หยุดนิ่ง​สูงสุดมีพลัง​สูงสุด​ตามไปด้วยทันทีเองอัตโนมัติ,เพียงแค่​ทำจิตของเราให้​ไม่เจ็บไม่เครียดไม่ทุกข์​อย่างสิ้นเชิง​ได้เป็นประจำอย่าง​ต่อเนื่อง​ทุกวัน​ให้ได้เท่านั้นเราก็จะสามารถ​ประสบ​ความ​สําเร็จ​ได้ทุกอย่างเองอัตโนมัติที่จะทำให้เราสามารถ​มีชีวิต​ที่ร่ำรวยสนุก​สบายเป็นหนุ่มอมตะมีอายุยืนยาว​มหาศาลเหนือโลกที่จะไม่แก่ไม่ตาย-ไม่เกิดได้ถึงขีดสุดเองในที่สุด​... ")​ ซึ่ง​จะทำให้เวชศาสตร์​ชะลอวัยและการ​ฟื้นฟู​สุขภาพด้วยจิตวิทยา​สื่อประสาทเป็นหลักนั้นสามารถ​บรรลุ​เป้าหมาย​สูงสุด​ได้จริงในที่สุด​, ซึ่ง​จะทำให้เรา​สามารถ​มีความสุขสูงสุด​ทั้งในโลกนี้(ขณะที่ร่างกาย​มีชีวิต​อยู่ที่มีความสุขสูงสุด​ทางร่างกาย)​ และ​ โลกหน้า(ขณะที่ร่างกา​ยตายไปแล้วที่มีความสุข​สูงสุด​ทางจิต)​ได้พร้อมกัน​สูงสุด​โดยไม่ขัดแย้ง​กันที่จะไม่แบ่งเป็นทางโลก(ปถุชนคนทั่วไป​ส่วนใหญ่ที่มุ่งสนใจแต่ความสุขในโลกนี้โดดเด่นที่ดูหย่อนไปดูไร้สาระไป​)​ และ​ ทางธรรม(ฤาษีโยคีนักบวชที่มุ่งสนใจแต่ความสุขในโลกหน้าโดดเด่นที่ดูตึงไปเคร่งครัด​ไป)​ที่แบ่งแยก​แตกต่าง​ตรงกันข้าม​กัน​อย่าง​ชัดเจน​สุดโต่งแบบในยุคนี้นั้น​อีกต่อไป, โยคะสายกลาง​จึงเป็น "ความรู้ทางจิตวิญญาณระดับสูงสุ​ดของฤาษีโยคีระดับสูงสุดที่หลุดพ้น​โมกษะพ้นทุกข์​สูงสุด​ดับทุกข์​ดับกิเลส​ตัณหา​สิ้นเชิงโดยทางสายกลาง​จนสามารถ​มีความสุขสูงสุด​ในโลกหน้าแล้วเพื่อการมีพลังจิตสูงสุดพลัง​สติสูงสุด​จิตไม่เครียดวิตกกังวล​คิดมาก​กับ​สิ่ง​ต่าง​ๆ​อย่างสิ้นเชิง​ได้อย่างง่ายๆรวดเร็ว​ที่เหม​าะสำหรับผู้เป็นปุถุชนระดับสูงสุดผู้ยังมัวเมาในกิเลสตัณหา​สูงสุด​ด้วยความโกรธ​เกลียด(ผลักออกอยากพ้นทุกข์​จากความทุกข์​มายา)​สูงสุด​-ความรักโลภ(ดึงเข้าอยากได้ปิติสุขจากความสุขมายา)​สูงสุด​-ความหลงไหล(ค้างคาอยากสุขสงบด้วยความหลงผิด​คิดว่าสิ่งต่างๆตั้งอยู่​ดำรงอยู่)​สูงสุดโดยทางสายกลาง​ผู้ที่ต้องการเป็นผู้วิเศษ​มนุษย์​มหัศจรรย์​ที่มีชีวิต​ที่ร่ำรวยสนุก​สบายเป็นหนุ่มอมตะมีอายุยืนยาว​มหาศาลเหนือโลกมีความสุขในโลกนี้​ให้ได้ถึงขีดสุดพร้อมกันไปด้วย(จิตของเรา​ที่บริสุทธิ์​สูงสุดพ้นทุกข์​ทางจิตสูงสุดไม่เจ็บสูงสุด​จิตมีพลัง​สูงสุด​มีสติสูงสุด​มีความสุข​สูงสุด​ในโลกหน้าอย่างรวดเร็ว​ฉับพลัน​ทันทีจากการเล่นโยคะ​สายกลาง​นั้นย่อมค่อยๆส่งผล​ทำให้ร่างกาย​-ชีวิต​-ใจความ​รู้สึก​ของ​เราในโลกนี้ค่อยๆบริสุทธิ์​ที่ร่างกายของเรา​จะสามารถ​ปิติสุขสูงสุด​ไม่แก่สูงสุด​ ชีวิตของเรา​จะสามารถ​สุขสงบสูงสุด​ไม่ตาย-ไม่เกิดสูงสุด​ ใจความ​รู้สึก​ของเรา​จะสามารถวางเฉยสูงสุด​ไม่รู้สึกทุกข์กับการเกิด แก่​ เจ็บ​ ​ตาย​ได้สูงสุด​ จึงค่อยๆทำให้​ร่างกาย​-ชีวิต​-ใจความ​รู้สึก​ของ​เราในโลกนี้มีพลัง​จนสามารถ​บริสุทธิ์​สูงสุด​มีพลัง​สูงสุดมีความสุข​สูงสุด​นั้นอย่างต่อเนื่อง​ค่อยเป็นค่อยไป​อย่าง​ช้าๆตามไปด้วย​เองอัตโนมัติ)​..." ที่ต้องการ​ทางเลือก​ใหม่ของชีวิตที่ต้องการ​เดินบนทางสายกลาง​ระหว่าง​ทางโลก​ และ​ ทางธรรมอันเป็นทางแห่งแสงสว่าง​ทางสู่สวรรค์​เพื่อการมีชีวิต​ที่ความสุขสมบูรณ์แบบ​สูงสุดอย่างไร้ขอบเขต​ขีดจำกัดที่ครบถ้วน​ในทุกๆด้านทั้งในโลกนี้​ และ​ โลกหน้า​ อันจะเป็น การใช้ชีวิต​อิสระบริสุทธิ์​ไร้เดียงสา​แบบเด็กน้อย(freedom baby life)​ โดยทางสายกลาง​ที่สามารถมีพลังจิตสูงสุดมีความสุข​สูงสุดทางจิต​ในโลกหน้า​แบบฤาษีโยคี​ และ​ มีพลัง​ร่างกาย​สูงสุดมีความสุข​สูงสุดทางร่างกาย​ในโลกนี้​แบบเด็กวัยรุ่น​พร้อม​กันในคนเดียว​กันได้โดยทางสายกลาง​ที่จะใช้ชีวิ​ตบริสุทธิ์​เบิกบาน​อิสระเหนือโลกมีชีวิต​ร่ำรวยสนุกสบายง่วงก็นอน-หิวก็กิน-เบื่อก็เที่ยวโดยทางสายกลาง​ไปวันๆแบบเด็กน้อยที่ทำตัวไร้เดียงสาไม่รู้ไม่ชี้​ไม่สนใจยึดมั่น​ถือ​มั่นเอาจริงเอาจัง​ไม่เครียดวิตกกังวล​คิดมาก​กับใครอะไรสิ่งใ​ดในโลกใน​จักรวาล​โดยทางสายกลาง​ ที่จะแสดงถึง​ ความเป็นอัจฉริยะ​ที่แท้จริง​สูงสุด(ultimate​ real​ genius)​ ที่ฉลาด​เลือกที่จะแกล้งโง่แบบเด็กน้อย​ไม่อวดฉลาด​เป็นด๊อกเตอร์​เป็นอาจารย์​เป็นกู​รู​ผู้รอบรู้คงแก่เรียน​จนต้องเครียดวิตกกังวล​คิดมาก​กับ​สิ่ง​ต่าง​ๆที่เต็มไปด้วย​ปัญหา​คำถามที่ยุติไม่ได้​ให้เสียเวลา​จนทำให้เราดูทุกข์​ดูแก่ดูสุขภาพ​แย่ไปเปล่า​ๆแบบคนที่มีความรู้​ท่วมหัว​เอา​ตัว​ไม่รอด​นี้เพื่อเตรียมพร้อมกลับสู่โลกหน้า​ได้ทันทีทุกที่​ทุกเวลา​ที่​ต้องการ, เพื่อ​เตรียม​พร้อมสำหรับอารยธรรม​สากลจักรวาลของมนุษย์ต่างดาวต่างมิติชาวจักรวาล​ อันจะเป็น​ ซุปเปอร์​มนุษย์​(super​ human)​ หรือ มนุษย์​ชั้นสูง​(high level human)​ มนุษย์​สากลจักรวาล​เหนือมนุษย์โลก​ที่รู้แจ้ง​เฉลียว​ฉลาดรอบรู้​มีสติปัญญา​ระดับสูงที่มีคุณภาพ​ชีวิตสูงร่ำรวยสนุกสบายด้วยความสุขชั้นสูงเหนือโลก อันเป็น​สิ่งมีชีวิตชั้นสูง​ทรงภูมิปัญญา​จากนอกโลกนอกมิติที่เป็นผู้มีบุญญ​าบารมีเทวทูต​เทวดา​เทพบุตร​พรหมเทพเจ้า​คนบนฟ้าในสวรรค์​พรหมโลกชั้นต่าง​ๆในห้วงจักรวาล​ห้วงมิติเหนือโลกนั้นในยุคอนาคตที่มนุษย์​สามารถมีทั้งพลังจิต​ และ​ พลังวัตถุ​สสารร่างกาย​สูงสุด​พร้อมกันได้โดยไม่ขัดแย้ง​แบ่งแยก​กันในอนาคตนั้นเพราะการที่มนุษย์โลก​จะมีแค่พลังทางร่างกาย​วัตถุ​สสารสูงที่เป็นเทคโนโลยี​ล้ำยุคในยุควิทยาศาสตร์​ยุคนี้ที่มีการส่งจรวด​ส่งยานอวกาศ​ไปสำรวจจักรวาล​แค่ทางกายภาพ​นั้นมันไม่เพียงพอ​สำหรับการที่มนุษย์​จะมีอารยธรรม​ทัดเทียม​มนุษย์​ต่างดาว​ต่างมิติจนสามารถ​ใช้ชีวิต​ในห้วงอวกาศ​จริงๆ​ร่วมกับมนุษย์​ต่างดาว​ต่างมิติได้​ และ​ แค่เพียง​มีแต่พลังจิตสูงอย่างเดียวแบบมนุษย์​ที่เป็นฤาษีโยคีก็ยังไม่ได้​ด้วยเช่นกัน​. ​ซึ่งโยคะ​สายกลาง​นี้จะเป็น ความรู้สายกลางของโยคะต้นกำเนิดเดิมแท้สูงสุด​(ultimate​ real​ original yoga​ middle​ knowledge)​ ที่ไม่ขึ้นกับความรู้ใดๆในโลกใน​จักรวาล​ที่จะไม่ใช่ทั้งศาสนา-วิทยาศาสตร์​-ปรัชญาใดๆที่แบ่งแยก​แตกต่าง​ตรงกันข้าม​กัน​อย่าง​ชัดเจน​สุดโต่งมากมาย​มหาศาล​เหล่านั้นทั้งสิ้น​ จึงเหมือนเป็น​ ความรู้โดยทางสายกลาง​หนึ่งเดียว​(one​ middle​ knowledge)​ อันจะมีบางส่วนของเนื้อหา​ที่ดูเหมือน​คล้ายกับ ราชาโยคะ(raja​ yoga)​ อันเป็น​สุดยอดแห่งโยคะนั้นที่ถูกนำมาปรับให้เป็น​สายกลาง​ระหว่างทางโลก​ และ​ ทางธรรม​อย่างพอเหมาะพอควร​ลงตัว​ที่ไม่ได้สุดโต่ง​ไปแต่ในทางธรรมทางฤาษีโยคี​ชัดเจน​แบบราชาโยคะแต่อย่างใดจึงมีส่วนทางโลกทางวิทยาศาสตร์ส่วน​ที่ดูเป็น​ปุถุช​นที่มัวเมา​ในกิเลส​ตัณหา​เพิ่มขึ้น​มาด้วยอย่างเลี่ยง​ไม่ได้, ​ แนวคิดนี้จึงเป็นเหมือน หลักสูตร​คอร์สเรียน​พิเศษคอร์สโยคะพิเศษการดูแลสุขภาพ​ ​และ​ ความงาม​ขั้นสูง​สุดที่สอนฝึกด้วยตัวเองที่พยายาม​อัพเกรด​ตัวเอง​จากมนุษย์คน​ธรรมดาๆ​ที่ไม่มีพลัง​วิเศษ​ให้กลายเป็นมนุษย์​วิเศษ​มหัศจรรย์​ซุปเปอร์​มนุษย์ที่มีพลังวิเศษ​เหนือธรรมชาติจนสามารถ​เป็น​อมตะเหนือโลกได้เพื่อการเตรียมพร้อม​สำหรับอารยธรรม​มนุษย์​ต่างดาวต่าง​มิติ​ในอนาคต​(special yoga​ course for​ self​coach &​ train human for​ ready​ to​ super​ human)​, อันจะเป็น​การรวมความรู้ที่สำคัญต่างๆทั้งหมด​เข้าด้วยกัน​อย่างลงตัวที่สุดโดยทางสายกลาง​ จึงสามารถ​ทำให้เกิดสติปัญญ​าการรู้แจ้งเข้าใจในสรรพสิ่งอย่างสมบูรณ์สูงสุดได้อย่​างง่ายๆรวดเร็วในการศึกษ​าเพียงความรู้เดียวเท่านั้น​, ซึ่ง​วิชาโยคะสายกลาง​นี้จะเป็นลักษณะ​ของ ​ทฤษฏี​สมคบคิด(conspiracy theory)​ ที่นำเอาความรู้​ความเชื่อต่างๆมาปะติดปะต่อ​กันใหม่เป็น ความรู้ใหม่ความเชื่อ​ใหม่(the​ new​ faith)​ จึงเป็นเพียงความรู้​เฉพาะ​ส่วนตัว​ความเชื่อส่วนบุคคลที่ผู้เขียน​สามารถปรุงแต่ง​จินตนากา​รเขียนขึ้นมาเองได้ตามใจชอบจะให้โอเวอร์​เกินจริงยังไง​ก็ได้,​ ดังนั้น​ "ผู้ศึกษา​จึงจำเป็น​ต้องใช้วิจารณญาน​ด้วยตัวเอง​ล้วนๆในการตัดสินใจ​ว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อ​ ซึ่งจะไม่มีการบังคับให้ต้องเชื่อแต่อย่างใด​ทั้งสิ้น..." , ซึ่ง​แนวคิดนี้มีเนื้อหาค่อนข้าง​รุนแรงมาก​เกี่ยวกับ​เทพเจ้า​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​การต่อสู้​กำจัดสังหารฆ่าสิ่งชั่วร้ายสารเลว​สมควรตายนั้นอย่างโหดเหี้ยม​ไร้ความเมตตา​ปราณีที่เป็นการพ้นทุกข์​ขั้นรุนแรง​แบบสูง​สุด​ที่คนจิตอ่อนที่มีพลังจิตระดับ​ต่ำอาจรับไม่ได้ "แนวคิดนี้จึงเป็นเพียง​ความเชื่อส่วนบุคคล​ที่เหมาะกับผู้ใหญ่​ผู้ชายที่อายุ​ 18+ ปีขึ้นไปที่ค่อนข้าง​มองโลก​ในแง่​ร้ายสนใจเรื่อง​จิตวิญญาณ​โลกหน้า​หลังความตาย​ที่มีจิตแข็งมีพลัง​จิตระดับสูงมีสติมีสมาธิ​ตั้งมั่น​ที่จิตแข็งแรงแข็งกล้าเด็ดเดี่ยว​ไม่หวั่นไหว​กับสิ่ง​ต่าง​ๆไม่เครียดวิตกกังวล​คิดมาก​กับ​สิ่ง​ต่าง​ๆ​เป็นพื้นฐาน​ที่มุ่งมั่น​ตั้งใจต้องการมีพลังจิตสูงสุดพลังสติสูงสุด​ต้องการ​หลุดพ้น​โมกษะพ้นทุกข์​ทางจิตอย่างแรงกล้า​สูงสุด​ที่จะไม่เจ็บอย่างแท้จริง​สูงสุด​โดยทางสายกลาง​ให้ได้เท่านั้น, ​แนวคิดนี้​จึงไม่เหมาะกับคนจิตอ่อนที่มีพลังจิตระดับ​ต่ำที่โลกสวยมองโลกในแง่ดี​เกินไปขี้สงสาร​จนจิตฟุ้งซ่าน​สมาธิ​สั้นจิตอ่อนแอ​อ่อนไหว​หวั่นไหว​กับสิ่ง​ต่าง​ๆเครียด​วิตกกังวล​คิดมาก​กับ​สิ่ง​ต่าง​ๆ​อย่างผู้หญิง​ และ​ เด็ก​แต่อย่างใด(แต่หากสนใจจริงๆก็สามารถ​ฝึกจิตตัวเองปรับ​เปลี่ยน​พฤติกรรม​ใหม่ได้ให้เป็น​คนจิตแข็งกล้าได้)​....​" . ซึ่ง​โยคะสายกลาง​จะเป็นทฤษฏี​ความรู้เกี่ยวกับ​การทำความดี​โดยทางสายกลาง​ที่จะเป็นการปฏิบัติสายกลาง​ที่เดินทางสายกลาง​มุ่งลัดตรงสู่สิ่งที่ดีที่สุด​ คือ​ พระเจ้า(God)​ ของโยคะ(อันเป็น​ ดวงวิญญาณ​สูงสุด​(supreme​ soul)​ ซุปเปอร์​จิต​สิ่งวิเศษ​จุดพลังงาน​แสงสว่าง​อาตมันจุด​ดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์​ที่​มีพลัง​อำนาจสูงสุด​ที่สะอาด​สูงสุด​ สว่าง​สูงสุด​ สงบ​สูงสุดเหนือทุกสิ่ง​ทุก​อย่าง​ ที่จะ​เป็น​ สิ่งสูงสุด​ความเป็นที่หนึ่งสูงสุด​ตลอดกาล(forever​ultimate​ real​ the​ number one) ที่จะเป็นสิ่งสูงสุดสิ่งที่เป็นที่หนึ่ง​อันดับหนึ่ง​เพียง​สิ่ง​เดียว​หนึ่งเดียว​เท่านั้น​ที่เป็น สิ่งสัมบูรณ์(absolute)​ ที่ดำรงอยู่ได้ด้วยตัวเอง​ล้วนๆเพียง​สิ่ง​เดียว​ตลอดกาล​ อันเป็น​ อันติมะสัจจธรรม​ความแท้จริง​สูงสุด​(ultimate​ reality)​ อันเป็น​ปฐมเหตุต้นกำเนิดแก่นแท้​สูงสุด​ของสรรพสิ่ง​ซึ่ง​จะเป็น​ ศูนย์​กลางสูงสุด​ศูนย์​รวมพลังทั้งหมดของจักรวาลอย่างสูง​สุด​(maximum center power​ of​ universe​)​ ที่จะเป็น​ศูนย์​กลางสูงสุด​ศูนย์​รวมพลังทั้งหมด​ของทุกสิ่ง​ทุก​อย่างจึงเป็นสิ่งที่สำคัญสูงสุด​ จำเป็น​สูงสุด​ มีพลัง​อำนาจสูงสุด​ มีคุณค่ามีความหมาย​สูงสุด​ น่าสนใจสูงสุด​ตลอด​กาลที่ไม่มีใครอะไรสิ่งใด​ยิ่งกว่าได้เลยอย่างสิ้นเชิ​ง - อันเป็น​ ตัวเราที่แท้จริง​สูงสุด(ultimate​ real​ my​ self)​ ที่จะเป็น​โลกหน้ามิติแก่นแท้​สูงสุด​ของจิตของเราเองอันเป็น​จิตใต้สำนึกระดับสูง​สุด​ที่อยู่​ภายในที่ลึกที่สุดของจิตของเราเอง​​ที่จะเป็น​ มิติที่แท้จริงสูงสุด​ของตัวเรา(ultimate​ real​ dimension of​ my​ self)​ ที่มีแต่จิตล้วนๆเพียง​จิต​เดียว​เท่านั้นสภาพรู้ล้วนๆเพียง​สภาพรู้เดียว​เท่านั้นการมีอยู่ดำรงอยู่ล้วนๆเพียงการมีอยู่ดำรงอยู่เดียว​เท่านั้นความสุข​ล้วนๆเพียง​ความสุขเดียว​เท่านั้นตัวเราล้วนๆเพียง​ตัวเราเดียวเท่านั้น​ตลอด​กาล,​​ พระเจ้า​จึงเป็น​ ตัวเราหนึ่ง​(one​ my​ self)​ ตัวเราวิเศษ​ทิพย์​สูงสุดเทพเจ้า​สูงสุด​ที่มีแต่ตัวเรา​ล้วนๆเพียง​หนึ่งเดียว​เท่านั้น​ที่มีอยู่ดำรงอยู่แบบวิเศษทิพย์​อย่างมีความสุขวิเศษ​ทิพย์ล้วนๆตลอดกาล​โดย​ปราศจาก​ผู้อื่น​สิ่งต่างๆสิ่งปรุงแต่ง​มายาต่าง​ๆที่ไม่ใช่ตัวเรานั้นอย่าง​สิ้นเชิง. มิตินี้โลกหน้านี้จึงเป็น ซุปเปอร์​มิติ​(super​ dimension)​ หรือ​ ​มิติใ​หม่สดอย่างแท้จริง​สูงสุด(ultimate​ real​newness​ dimension)​ ด้วยความแปลกใหม่แหวก​แนวฉีกจากกรอบความคิด​เดิมๆทั้งหมด​อย่างสูงสุ​ดที่ปราศจาก​ความน่าเบื่อหน่ายวนเวียน​ซ้ำซากจำเจอย่าง​สิ้นเชิง​ด้วยไม่มีผู้อื่นสิ่ง​ต่าง​ๆสิ่งปรุงแต่ง​มายาต่างๆไม่มีใครอะไรสิ่งใด​สามารถ​เข้าถึง​ลุถึงบรรลุเสวยผลรู้สึก​ถึงมิตินี้ได้เลยอย่างสิ้นเชิง​แม้แต่อนุภาค​เดียว​ในวินาทีเดียวตลอด​กาลไม่ว่ากรณี​ใด​ๆก็​ตาม จึงเป็น​ ซูเปอร์​ความสุข(super happiness)​ หรือ ความสุขที่แท้​จริง​สูงสุด​(ultimate​ real​ happiness​)​ ความสุขที่ดีที่สุดความสุขสูงสุด​ที่เป็นความสุขแห่งการพ้นทุกข์​ที่แท้จริง​สูงสุด​ความสุขล้วนๆเพียง​ความสุขเดียว​เท่านั้นตลอดกาล​ อันเป็น​สุดขีดของความสุขในโลกหน้าที่ปราศจาก​ความทุกข์​ทั้งปวงที่ทำให้แปดเปื้อน​มัวหมองสกปรกได้อย่างสิ้นเชิง​ อันจะเป็น​ ปัจจุบัน​และอนาคตที่แท้จริง​สูงสุด​(ultimate​ real​ present &​ future​)​ ของ​เราที่เป็นเป้าหมาย​สูงสุด​ของเรา​ที่เราต้องมุ่งมั่น​ตั้งใจยอมทำทุกอย่างเพื่อทำปัจจุบั​นให้ดีที่สุดเพื่อมุ่งตรงสิ่งนี้เพียง​สิ่ง​เดียว​เท่านั้น​เพื่อการมีอนาคต​ที่ดีที่สุด​ของเราที่มีความสุขที่ดีที่สุดที่มีแต่ความสุขล้วนๆตลอดกาลในโลกหน้า​ในท้ายที่สุด​นั้น​ พระเจ้า​จึงเป็น​ ​การเกิดสู่การมีชีวิต​อยู่​ที่แท้จริง​สูงสุด​(ultimate​ real​ born​ to​ living)​ อันเป็นการเกิดใหม่ฟื้นคืนชีพ​สู่​ ชีวิตนิรันดร์(forever life) อั​นเป็​น​ความเป็นอมตะนิรันดร์จะมีชีวิต​อยู่​ดำรงคงอยู่ด้วยความสุขที่แท้​จริง​สูงสุด​ตลอดกาล​นับจากนี้ตลอด​ไปชั่วกัลปาวสานไม่มีการเกิดมายาที่นำไปสู่ความตายมายาที่เป็นการเกิด แก่​ ​เจ็บ​ ตายของชีวิตมายาเฉพาะ​ส่วนตัวของสิ่งต่างๆนั้นอีกต่อไป​สิ้นเชิง​ พระเจ้า​จึง​เป็น​ ชัยชนะ​ความสำเร็จที่แท้จริง​สูงสุด​ของเรา(ultimate​ real​ win success)​ ที่ทำให้เรา​เป็น​อมตะนิรันดร์มีชีวิต​นิรันดร์มีแต่ความสุขล้วนๆตลอดกาล​ไม่ต้องล้มเหลว​พ่ายแพ้ทุกข์​ทรมานเกิด​ แก่​ ​เจ็บ​ ​ตายวนเวียน​ไม่รู้จบอีกต่อไป​ที่จะไม่มีชัยชนะ​ความสำเร็จใดยิ่งกว่า​ - อันจะเป็น​ สภาวะ​สากลที่แท้จริง​สูงสุด​(ultimate​ real​ universal nature)​ สิ่งสากลสูงสุด​สภาวะธรรมชาติ​สาธารณะสากลจักรวาล​สูงสุดที่ทุกสิ่งทุกอย่าง​มีส่วนร่วม​กันอย่างยุติธรร​มเท่าเทียมกั​นหมด​โดยปราศความเป็นเฉพาะส่วนตัว​ที่ลำเอียงด้วยอภิสิทธิ์​ส่วนตัว​ใดๆที่มากน้อยกว่า​กันนั้ยอย่างสิ้นเชิง​ -​ อันเป็น​ สิ่งศักดิ์สิทธิ์​ที่แท้จริงสูงสุด(ultimate​ real​ holy​ thing)​ ซึ่ง​เป็น​​เป้าหมาย​สูงสุด​ของโยคะ​ ที่จะเป็นแก่นแท้​สูงสุด​ของจิตวิญญาณ​ที่เป็น​ ชีว่าพระเจ้าพระบิดา(SHIVA​ : God​ the​ father)​ (ที่คำว่า "ชีว่า" เมื่อ​ออกเสียง​ก้องยาวๆจะกลายเป็น "ยะโฮวาห์" ซึ่ง​หมายถึง​พระเจ้า​ในศาสนา​คริสต์​ ส่วนในศาสนาพราหมณ์​-ฮินดู​นั้นจะหมายถึงพระศิวะ​)​ อันเป็น​พระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นเทพเจ้า​สูงสุด​เทพเจ้า​สากลจักรวาลสูงสุด​ที่ปราศจาก​ตัวตนปรุงแต่ง​มายาเฉพาะส่วนตัวสิ้นเชิง​ที่ไม่เกี่ยวข้องยุ่งเกี่ยว​สัมพันธ์​สัมพัทธกับการเกิดการตายของสิ่งต่างๆในโลกประสาทสัมผัส​สิ้นเชิง​ ผู้เป็น​ จอมเทพเจ้าราชาแห่งสวรรค์​(king​ of​ heaven)​ อันเป็นดวงวิญญาณ​ที่บริสุทธิ์​สูงสุด​มีพลัง​อำนาจสูงสุดด้วย พลังจักรวาล​ระดับสูง​สุด​(maximum universe​ power)​ ที่จะเป็น​ การรู้​สากลจักรวาล​อันแท้จริง​สูงสุด(ultimate​ real​ universe​ know) ​การรู้อย่างไร้ขอบเขต​ขีดจำกัดใดๆสิ้นเชิง​ในรูปของ​ มหาสติสูงสุด​(ultimate​ great​ mindfulness) ดวงวิญญาณ​สูงสุด​ที่มีสติเต็มบริบูรณ์​อย่างสูง​สุดด้วยมหาสมุทร​แห่งญาณการรู้อันบริสุทธิ์​หมดจดสูงสุด​, อันเป็น​ องค์​ความดีสูงสุด​(ultimate​ good​ness)​ อันเป็น​สิ่งที่ดีที่สุดบุญกุศล​แห่งความดีที่แท้จริง​สูงสุด​ที่ปราศจาก​บาปความชั่วร้ายสิ้นเชิง จึงเป็น​ ​ความปลอดภัย​ที่แท้จริง​สูงสุด​(ultimate​ real​ safty)​ ที่ปราศจาก​ภัยอันตราย​บาปความชั่วร้าย​ทุกข์​เจ็บปวด​ทรมานสิ้นเชิง​ -​ ซึ่ง​จะเป็​น​ จิตหนึ่ง(one​ mind)​ เอกัคคตา​จิตหนึ่งเดียว​สูงสุด​อันเป็นจิตที่แท้จริง​สูงสุด​หนึ่งเดียวจิตสากล​จักรวาล​สูงสุด​จิตเดิมแท้ต้นกำเนิดสูงสุดที่จะเป็น​ จิตวิเศษ​จิตทิพย์​ที่แท้จริง​สูงสุด​(ultimate​ real​ devine mind)​ ซุปเปอร์​จิตที่มีแต่จิตล้วนๆเพียง​จิต​เดียว​เท่านั้นสภาพรู้ล้วนๆเพียง​สภาพรู้เดียว​เท่านั้นการมีอยู่ดำรงอยู่ล้วนๆเพียงการมีอยู่ดำรงอยู่เดียว​เท่านั้นความสุข​ล้วนๆเพียง​ความสุขเดียว​เท่านั้น​ที่ปราศจาก​จิตความคิดปรุงแต่งมายาด้วยอวิชชาความไม่รู้​ที่ล้วนเป็นความเป็นมายาไม่มีอยู่อันเป็น​ความทุกข์​นั้น​สิ้นเชิงตลอด​กาล ที่จิตจะโมกษะสูงสุ​ดปลดปล่อยตัวเองหลุดพ้น​จากทุกสิ่งทุกอย่าง​ที่ตัดขาด​เป็นอิสระ​หลุดพ้นไปจากสิ่งต่างๆที่ล้วนเป็น​ภัยอันตราย​บาปความชั่วร้าย​ทุกข์​เจ็บปวด​ทรมานนั้นสิ้นเชิง​เองตามธรรมชาติ​เพราะจะมีแต่ตัวจิตล้วนๆเพียง​จิต​เดียว​เท่านั้น​ตลอดกาล จึงเป็นจิตที่เป็นดวงวิญญาณ​การรู้ล้วนๆสภาพรู้ล้วนๆที่บริสุทธิ์​สูงสุด​เป็นมหาสติมหาสมุทร​แห่งสติดวงวิญญาณ​การรู้บริสุทธิ์​ -​ ที่จะเป็นสิ่งที่ หรูหรา​อย่าง​แท้จริงสูงสุด​(ultimate​ real​ luxury thing)​ อันเป็น​ความหรูหรา​ทางจิตวิญญาณ​ถึงขีดสุด​ที่ล้ำค่าสูงสุด​จนประเมินค่าไม่ได้ราคาแพงจนเงินซื้อไม่ได้​อีกต่อไป​ จึงเป็น​เหมือนกับ​ อภิมหาขุมทรัพย์​ที่แท้จริง​สูงสุด(ultimate​ real​ great treas​ure)​ อันเป็นอภิมหาขุมพลังศูนย์​กลางสูงสุ​ดศูนย์​รวมพลังทั้งหมดของทุกสิ่ง​ทุก​อย่าง​ที่เป็นพลังจักรวาล​ระดับสูง​สุด​อภิมหาขุมทรัพย์​ทางจิตวิญญาณระดับสูง​สุด​ที่มีแต่จิตล้วนๆเพียง​จิต​เดียว​เท่านั้นสภาพรู้ล้วนๆเพียง​สภาพรู้เดียว​เท่านั้นการมีอยู่ดำรงอยู่ล้วนๆเพียงการมีอยู่ดำรงอยู่เดียว​เท่านั้นความสุข​ล้วนๆเพียง​ความสุขเดียว​เท่านั้นตัวเราล้วนๆเพียง​ตัวเราเดียวเท่านั้นที่มีพลังอำนาจสูงสุด​มีมูล​ค่า​สูงสุดในจักรวาล​จนไม่อาจประเมินค่าตีราคา​ออกมา​ได้ที่จะสามารถ​ทำให้เรากลายเป็น​พระเจ้า​ที่สามารถ​สุขสบาย​สนุกสบายสูงสุด​ ร่ำรวยอย่างแท้จริง​สูงสุด​(ultimate​ real​ rich)​ อันเป็น​ความร่ำรวยที่ดีที่สุดที่หรูหรา​ร่ำรวยสนุก​สบายทางจิต​วิญญาณ​อย่างสูง​สุดร่ำรวยจากภายในที่ลึกที่สุด​นั้นไปตลอดกาลทั้งชาตินี้ชาติหน้าทุกๆชาติ​อย่างไร้ขอบเขต​ขีดจำกัดของพระเจ้า​ดวงวิญญาณ​สูงสุด​มหาสมุทร​แห่งดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์​นั้น​ที่ปราศจาก​ความยากจนลำบากสิ้นเชิง​ ​​-​ อันเป็น สภาวะสายกลางที่แท้จริง​สูงสุด(ultimate​ real​ middle​ nautre)​ ที่เป็น​ ธรรมชาติวิเศษ​ทิพย์​บริสุทธิ์​สูงสุด(maximum pure​ devine ​nature)​ อันเป็นธรรมชาติ​สภาวะแห่งสากลจักรวาล​สูงสุดแก่นแท้สูงสุด​​ที่สมดุล​หยุดนิ่งมั่นคง​ปกติกึ่งมีอยู่กึ่งไม่มีอยู่ที่จะว่ามีอยู่ก็ไม่ใช่​ และ​ ไม่มีอยู่ก็ไม่ใช่ที่เหนือความมีอยู่​ และ​ ความไม่มี​อยู่​ที่แบ่งแยก​แตกต่าง​ตรงกันข้าม​กัน​อย่าง​ชัดเจน​สุดโต่งอันเป็นเพียง​มายาที่เสียสมดุล​เคลื่อนไห​วแปรปรวนผิดปกติ​นั้น​ จึงเป็น​ ความบริสุทธิ์​อย่างแท้จริง​สูงสุด​(ultimate​ real​ pure)​ อันเป็น​อสังขตะวิสังขารไม่ปรุงแต่ง​ เป็นสภาวะที่อยู่​เหนือ​การสมมติ​การกำหนดนิยามการวิเคราะห์​การเรียกชื่อการใช้ภาษา​ของมนุษย์ในการคิดนึกของจิตรวมถึงการใช้สายตาประสาทสัมผัสต่างๆ​อย่างสิ้นเชิง​รวมถึงอยู่เหนือการปฏิบัติ​การบรรลุผลการลุถึงการเข้าถึง​ และ​ ความรู้สึก​มายาเฉพาะส่วนตัวต่าง​ๆด้วย ซึ่งสิ่งนี้ไม่ใช่อรูปความว่างเปล่า​บางเบาที่ขาดสูญไม่ต่อเนื่อง​ไม่มีอยู่​เพราะเป็น​ ความต่อเนื่อง​มีอยู่อย่างแท้จริง​สูงสุด(ultimate​ real​ continuity existence)​ ที่เป็นจิตล้วนๆสภาพรู้ล้วนๆการมีอยู่ดำรงอยู่ล้วนๆเพียง​หนึ่งเดียว​เท่านั้น​ที่จะเป็นสิ่งที่​ อัดแน่นอย่างแท้จริง​สูง​สุด​(ultimate​ real​ dense) ​ที่จะต่อเนื่องเนื้อเดียวรวดอย่างสูงสุด​ที่มีแต่จิตล้วนๆเพียง​จิต​เดียว​เท่านั้นสภาพรู้ล้วนๆเพียง​สภาพรู้เดียว​เท่านั้นการมีอยู่ดำรงอยู่ล้วนๆเพียงการมีอยู่ดำรงอยู่เดียว​เท่านั้นความสุข​ล้วนๆเพียง​ความสุขเดียว​เท่านั้นตลอดกาลจนไม่มีขอบเขต​ขีดจำกัดใดๆอีกต่อไปอย่างสิ้นเชิง(จึงไม่มีช่องว่าง​ที่ว่างความว่างใดๆพอที่จะสามารถ​บรรจุใครอะไรสิ่งใดที่มีรูปร่าง​ลักษณะ​ปรุงแต่ง​มายาใดๆได้เลยอย่างสิ้นเชิง​แม้แต่อนุภาค​เดียว​ในวินาที​เดียว)​ ที่จะเป็นแก่นแท้​สูงสุด​ที่บริสุทธิ์​สูงสุด​ไม่อาจแบ่งแยกเจาะลึกให้ละเอียดบริสุทธิ์​ไปกว่านี้ได้อีก จึงเป็นสิ่งที่​ แข็งแกร่ง​อย่างแท้จริง​สูงสุด​(ultimate​ real​ strong)​ ในจักรวาลที่จะเหมือนเพชรแท้ที่ไม่อาจมีอะไรสิ่งใดสามารถตัดกรีดเฉือนแบ่งแยกเจาะลึกเข้าไป​ในเพชรแท้ให้มัวหมอง​มีรอยตำหนินั้นใด้เลย​ สิ่งนี้จึงมีอยู่ตั้งอยู่​ดำรงอยู่อย่างแท้จริง​สูงสุด​ตลอดกาลชั่วกัลปาวสาน​ -​ อันเป็นมหาสติสูงสุดที่จะเป็น​มหาสมุทร​แห่งดวงวิญญาณบริสุทธิ์อันไร้ขอบ​เขตขีดจำกัด​ที่จะเป็น​สิ่งสัมบูรณ์สูงสุด​สิ่งสากลสายกลาง​ระดับสูงสุด​ อันเป็น​ ​จักรวาล​อันแท้จริง​สูงสุด(ultimate​ real​ universe​)​ ​จักรวาล​ต้นกำเ​นิด​เดิมแท้สูงสุดแก่นแท้​สูงสุด​ของ​จักรวาล​ อันเป็น​ ​สวรรค์​อัน​แท้จริง​ชั้น​สูงสุดหนึ่งเดียว​(maximum level of​ real​ one​ ​heaven)​ อันเป็น​สวรรค์​พรหมโลกระดับสูง​สุด​ที่มีแต่ความสุขสุดขีดสุขวิเศษ​สุขทิพย์​ของจริงล้วนๆเพียง​หนึ่งเดียว​ตลอด​กาลที่ปราศจาก​ความทุกข์มายา​ในนรกสิ้นเชิง​ที่อยู่​เหนือ​การสมมติ​การกำหนดนิยามการวิเคราะห์​การเรียกชื่อการใช้ภาษา​ของมนุษย์ จึงเป็น​สวรรค์​อวจีของจริง​ที่สุดที่สุขอย่างสุดขีดที่สุขจนไม่อาจมีคำพูดวจีใดๆพรรณาออกมา​ได้อีกต่อไป​ -​ อันเป็นองค์​รวม เอกภาพความเป็นหนึ่งเดียวที่แท้จริง​สูงสุด(ultimate​ real​ oneness)​ ของสรรพสิ่ง​ในรูปของ​ จุดหนึ่ง(one​ point)​ จุดจริงๆตาม​ธรรมชาติเพียง​หนึ่งเดียว​เท่านั้น​ที่ไร้ขีดจำกั​ดใดๆสิ้นเชิง​ อันจะเป็น​ เต๋า(tao)​ ที่​จะ สมดุลอย่างแท้จริง​สูงสุด​(ultimate​ real​ balance​)​ ที่สมดุลในตัวเองอย่างสูงสุด​ปราศจาก​ ​หยิน-หยาง(yin-yang)​ อันเป็นคู่ตรงกันข้าม​ต่างๆที่แบ่งแยก​แตกต่าง​ตรงกันข้าม​กัน​อย่าง​ชัดเจน​สุดโต่งอันเป็นความเสียสมดุล​ที่เคลื่อนไหว​หมุนเวียนปรับสมดุลไปเรื่อยๆ​ไม่รู้​จบนั้นสิ้นเชิ​ง,​ สิ่งนี้จึง หยุด​นิ่งอย่างแท้จริง​สูงสุด​(ultimate​ real​ none-motion)​ ที่สมดุลสงบนิ่ง​คงที่มั่นคงสูงสุด​ปราศจาก​การดิ้นรน​เคลื่อนที่​เคลื่อ​นไหว​การเปลี่ยนแปลง​ใดๆอย่างสิ้นเชิ​ง​ ที่จะเป็นธรรมชาติ​ทิพย์บริสุทธิ์​สูงสุดแก่นแท้​สูงสุด​ของจิต ​ที่เป็น​ รูปอมตะที่แท้จริงสูงสุด​(ultimate​ real​ immortal form)​ รูปวิเศษ​รูปทิพย์​จุดพลังงาน​แสงสว่าง​ที่ละเอียด​บริสุทธิ์​สูงสุด​ที่เปิดเผยเรียบง่ายสูงสุด​ที่ไม่ปรุงแต่ง​จึงปราศจาก​รูปร่างลักษณะมายาปรุงแต่ง​ที่ลึกลับซับซ้อน​ต่างๆสิ้นเชิง(แต่ไม่ใช่​ความว่าง)​ในลักษณะ​ของแสงของ​ จุดแสงรูปทรงกลมที่กลมอย่างสมบูรณ์แบบ​สูงสุด​ในอุดมคติ​(ideal​ perfect​ round sphere light point)​ ที่ส่องแสงความสุข​ที่แท้​จริง​สูงสุด​อย่าง​สว่างจ้าสูงสุด​อย่างไร้ขอบเขต​ขีดจำกัดใดๆครอบคลุม​ไปทั่วทั้งจักรวาล​จนมองไม่เห็นใครอะไรสิ่งใดแม้แต่ตัวทรงกลมนั้นอีกต่อไป​สิ้นเชิง​ ในรูปของ ความงดงาม​อย่างแท้จริง​สูงสุด(ultimate​ real​ beautiful​)​ อันเป็นความงดงามหมดจดถึงที่สุด​อันไร้ที่​ติ​สิ้นเชิง​ของอภิมหาขุมทรัพย์​ที่แท้จริง​สูงสุดอภิมหาขุมพลังขุมทรัพย์​สากลจักรวาล​สูงสุด​ที่​เป็​น แสงอันสว่างจ้าอย่างแท้จริง​สูงสุด​(ultimate​ real​ bright​ light​)​ อย่าง​ ทรงพลังอำนาจที่แท้จริง​สูงสุด​(ultimate​ real​ power​)​ ที่เต็มไปด้วย​พลังอำนาจถึงขีดสุด​ล้วนๆพลัง​จักรวาล​ระดับสูง​สุด​ล้วนๆไม่เคยอ่อนแรงอ่อนล้าเสื่อมพลังมืดมิดอย่างสิ้นเชิง​ตลอด​กาลของจุดแสงที่สว่างจ้า​สูงสุด​ของ การตรัสรู้​การรู้แจ้ง​การตื่นรู้ที่แท้จริง​สูงสุด​(ultimate​ real​ enlightenment)​ อันเป็น​ความฉลาดที่ดีที่สุดที่เป็นการรู้แจ่ม​แจ้งรู้แจ้ง​เห็นจริง​ในตัวเองอย่างสัมบูรณ์​สูงสุด​ของดวงวิญญาณ​สูงสุด​สภาวะสากลที่แท้จริง​สูงสุด​ที่​ เปิดเผยอย่างแท้จริง​สูงสุด​(ultimate​ real​ reveal)​ โดยไม่มีใครอะไรสิ่งใด​สามารถปิดบังปกปิดกีดขวางปกคลุม​การส่องแสงอันสว่างจ้า​สูงสุด​นี้ได้เลยอย่างสิ้นเชิง​แม้แต่อนุภาคเดียว​ในวินาทีเดียว​ จึงสามารถ พิสูจน์​ได้อย่างแท้จริง​สูงสุด​(ultimate​ real​ proof)​ ได้​ด้วยตัวเองล้วนๆที่รู้เองล้วนๆโดยดุษณีสูงสุด​โดยไม่จำเป็น​ต้องมีใครอะไรสิ่งใด​มาช่วยยืนยัน​แต่อย่างใด​ทั้งสิ้น​, ซึ่งแสงนี้​จะเป็น​ แสงสายกลางสูงสุด​(maximum middle​ light)​ ที่เป็นแสงที่แท้จริง​สูงสุด​แสงวิเศษ​ทิพย์สูงสุด​ที่ไม่อาจมองเห็น​ได้ด้วยตาเปล่า​ตาทิพย์​อันเป็นตามายาใดๆนั้นสิ้นเชิงเพราะอยู่เหนือแสงสว่าง​มายา​ และ​ ความมืดมิดมายาที่แบ่งแยก​แตกต่าง​ตรงกันข้าม​กัน​อย่าง​ชัดเจน​สุดโต่ง​ในโลกใน​จักรวาล​นั้นอย่างสิ้นเชิง​, ซึ่ง​เราอาจอุปมาพระเจ้า​ดวงวิญญาณ​สูงสุด​ในเชิงอภิมหาดวงดาวที่ส่องแสงสว่าง​จ้าสูงสุด​โดยทางสายกลาง​นี้ได้เป็น​ พระจันทร์​สีเงิน(silver moon)​ ที่เป็น​ อภิมหาดวงดาววิเศษ​ทิพย์​สายกลาง(greet devine star)​ ที่ไม่สุดโต่งเป็นดวงอาทิตย์​ที่ร้อนแรง​แผดเผา​ และ​ ไม่สุดโต่งเป็นดวงจันทร์​ที่แปรปรวน​เดี๋ยว​ก็ข้างขึ้นเดี๋ยว​ก็ข้างแรม​ จึงทำให้พระเจ้าในเชิงของพระจันทร์​สี​เงิน​เป็นอภิมหาดวงดาววิเศษ​ทิพย์​ที่สอง​แสง​สว่างจ้า​สูงสุด​ด้วยแสงสายกลาง​สมดุล​ระหว่างสีขาวความสว่าง​มายากับสีดำความมืดมายาจึงเป็นการส่องแสง​สีเงินที่สะท้อนแสงออกจาก​ตัวเองล้วนๆโดยไม่มีใครอะไรสิ่งใด​เจือปน​อันเป็นแสงที่บริสุทธิ์​สงบเยือกเย็นสงบนิ่ง​มั่นคงถาวรตลอด​กาล จึงทำให้แสงนี้จึงสามารถ​สว่างจ้า​ได้อย่างเต็มที่​สูงสุด​ที่จะเป็น​รูปอมตะที่แท้จริงสูงสุดที่ไร้ขอบเขต​ขีดจำกัดใดๆอย่าง​สิ้นเชิง​ ​ในลักษณะ​ของ ​จุด-ปัจจุบัน​ที่แท้จริง​สูงสุด​(ultimate​ real​ point-now)​ จุดพลังงาน​แสง​สว่าง​ที่ละเอียด​บริสุทธิ์​สูงสุด​เหนือกาลเวลาด้วย ความเบิกบาน​ใหม่สดมีชีวิต​ชีวาอย่างแท้จริง​สูงสุด(ultimate​ real​ lively)​ ​ที่ปิติสุขเสียวสดชื่นตื่นตัวซาบซ่านสว่างสุกใสสดใสใหม่สดมีชีวิตชีวาอย่าง​สุดขีดปราศจาก​ความหม่นหมองมืดมัว​เก่าตายซากสิ้นเชิง​, อันจะเป็น​ อะตอมดึกดำบรรพ์(primeval atom)​ จุดซิงกูลาริตี้หนึ่งเดียวอันไร้ขอบเขต​ขีดจำกัดเหนืออวกาศ​-เวลาที่มีความหนาแน่นเป็​นอนันต์​อันเป็นจุดต้นกำเนิดเดิมแท้สูงสุด​ของจักรวาล​ อันเป็น​แก่นแท้​สูงสุดอภิมหาขุมพลัง​จุดศูนย์กลาง​สูงสุด​ศูนย์​รวมพลังงานทั้งหมด​ของจักรวาลอัน​สูงสุดจุดสมดุลหยุดนิ่งมั่นคงปกติ​อย่าง​แท้จริง​สูงสุด​ของจักรวาล​ -​ อันเป็นปรมาตมัน​อัตตา​สมบูรณ์​อันติมะสัจธรรม​ความจริง​สูงสุด​อมตะธรรมสิ่งเหนือธรรมชาติ​ที่เป็นธรรมชาติ​เดิมแท้บริสุทธิ์​สูงสุด​เป็นอมตะนิรันดร์ที่สมดุลหยุดนิ่ง​สงบนิ่งดำรง​คงอยู่อย่างนั้นคงที่​ถาวรตลอด​กาลไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆสิ้นเชิง​​​ จึงเป็นของจริงที่สุด​เพียงสิ่งเดียวเท่านั้น​ที่สามารถ​เชื่อได้สูงสุด​ 100% มั่นใจได้สูงสุด​ 100% ไว้วางใจ​ได้​สูงสุด​ 100%  -​  อันเป็น​ จุดสุดยอดจุดไคลแมกซ์​สูงสุด​(maximum​ climax​ point)​ ของอารมณ์​ความรู้สึก​ที่จะเป็น​ ​เอกกัตคตารมณ์หนึ่งเดียว​สูงสุด​(maximum​ one​ emotion)​ จุดสุดยอด​จุดเดียวของอารมณ์​ความรู้สึก​ล้วนๆเพียงอารมณ์​เดียวเท่านั้นที่สุขสุดขีดจนลืมโลก​ลืมจักรวาล​ลืมอวกาศ​-เวลาหมดสิ้นจนถึงที่สุด​ อันเป็นสุขเดียวเท่านั้น​ที่สามารถ​ทำให้เรายอมสลัดทิ้ง​ทุกสิ่งทุกอย่าง​เพื่อสุขนี้ได้ที่จะไม่ปรารถนา​ต้องการสุขใดๆอีกต่อไป​อย่าง​สิ้นเชิง​, ที่จะเป็น​อภิมหาสุขสากลจักรวาล​สูงสุ​ดที่ยิ่งใหญ่​อลังการ​ที่สุด​​อันจะเป็น​ความสุขที่ดีที่สุด​ความสุขที่แท้​จริง​สูงสุดที่จะเป็น​สุขวิเศษ​สุขทิพย์​บริสุทธิ์​วิมุติสุขบรมสุขที่แท้จริง​สูงสุด​ที่มีแต่ความสุขสูงสุ​ดล้วนๆหนึ่ง​เดียว​ที่ปราศจาก​ความทุกข์​สิ้นเชิง​ที่เป็น​ ความรู้สึกสากลจักรวาล​ที่แท้​จริง​สูงสุด(ultimate​ universe​ real​ feeling​)​ ​แห่ง ความรักแท้สากล​จักรวาล​สูงสุด(ultimate​ universe​ real​ love)​ หรือ​ ซุปเปอร์​รัก(super​ love)​ อันเป็น​ความสุข​ที่แท้​จริง​สูงสุด​ของความเป็นองค์​รวมเอกภาพ​หนึ่งเดียว​ที่แท้จริง​สูงสุดของสรรพสิ่งที่บริสุทธิ์​งดงามอย่างไร้ตำหนิตลอดกาลด้วยแสงอันสว่างจ้า​สูงสุด​นั้น อันเป็นรักที่บริสุทธิ์​อย่างแท้จริ​งสูงสุด​ที่รักอย่างไร้เหตุผล​ไร้เงื่อนไข​ใดๆสิ้นเชิง​ ไม่หวังผลประโยชน์​ผลตอบแทน​ใดๆสิ้นเชิง​ อันเป็นรักที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง​สูงสุด​น่าบูชาเคารพสรรเสริญ​อย่างสูงสุด​ตลอดกาล​ไม่มีรักใดเทียบ​เท่า​ จึงเป็นความรักที่ดีที่สุด​รักแท้สูงสุด​รักเดียวสูงสุด​เท่านั้น​ที่เราสมควรรักได้อย่างสุดจิตสุดใจสุดแรงสุดพลังของเราโดยไม่ทำให้เราต้องทุกข์​เพราะรักอย่างสิ้นเชิงแม้แต่อนุภาค​เดียวในวินาที​เดียว​ -​ อันเป็น​ พรหมมัน(brahma)​ ปรมาตมันพระพรหม​สูงสุด​อันเป็นพระเจ้า​ชีว่าพระเจ้า​พระบิดาพระเจ้า​ผู้สร้างโลกสร้างจักรวาล​ตามพรหมลิขิต​ด้วยสูญญตาวิหารที่เป็นพรหมวิหารระดับสูงสุดนั้น(ซึ่ง​แนวคิดนี้ถือว่าตามหลักตรีมูรติ​แล้วพระศิว​ะ-พระวิษณุ​-พระพรหม​ล้วนเป็นหนึ่งเดียวกันเป็นสิ่งเดียวกัน​เป็น​เทพเจ้า​สูงสุด​องค์​เดียวกันอันเป็น​พระเจ้า​ชีว่าพระเจ้า​พระบิดานั้นเพียงแต่ในบางเหตุการณ์​บางสถานที่​บางกาละเวลาเราเรียกชื่อ​แตกต่าง​กันไปเท่านั้​นเอง)​ที่จ​ะเป็น​การสร้างโดยไม่ได้ตั้งใจ​สร้างจึงเหมือนว่าไม่ได้สร้างโลกสร้างจักรวาล​ขึ้นมาเลยอย่างสิ้นเชิง​ ซึ่งพรหมมันจะเป็น​เทพเจ้า​​สูงสุดระดับสากลจักรวาล​ที่มีพลัง​อำนาจสูงสุดในจักรวาล​ไม่มีสิ่งใด​ยิ่งกว่า​ ที่เป็นอิสระสัมบูรณ์​ในตัวเองสูงสุด​ไม่เกี่ยวข้องยุ่งเกี่ยว​กับสิ่งต่างๆในโลกใน​จักรวาล​ในอวกาศ​-เวลาอย่างสิ้นเชิง​ -​ อันเป็นสิ่งวิเศษ​สูงสุด​มิติวิเศษ​สูงสุดที่เป็น ภวังค์​อันแท้จริง​ระดับสูง​สุด​(ultimate​ real​ trance)​ อันเป็นห้วงภวังค์​ระดับเหนือสำนึกสูงสุด​จากภายในที่ลึกที่สุดจึงสะอาดปลอดภัย​สูงสุด​ สว่าง​รุ่งเรือง​สูงสุด​ สงบมั่นคง​สูงสุด​ที่​เป็​น​มิติแห่งการรับรู้อย่างแท้จริง​สูงสุด​กับจักรวาลอันแท้จริ​งสูงสุด​ ที่จะเป็น ที่อยู่อาศัย​ที่แท้จริง​สูงสุด​(ultimate​ real​ residence)​ ของตัวเราที่ล้ำค่าหรูหรา​ยิ่งใหญ่​อลังการ​สูงสุ​ด ที่เป็นสิ่งวิเศ​ษสูงสุด​มิติวิเศษสูงสุด​เพียง มิติหนึ่งเดียวสูงสุด​(maximum​ one​ dimension) ​เท่านั้นของจิต​หนึ่งจิตล้วนๆเพียง​จิต​เดียวเท่านั้น​อันเป็นมิติองค์​รวมเอกภาพความเป็นหนึ่งเดียวที่แท้จริง​สูงสุด​ของสรรพสิ่ง​นั้น​ อันเป็นมิติสายกลางแท้จริง​สูงสุด​ที่จะว่ามีมีติอยู่มากมาย​มหาศาล​(เป็นอนันต์​มิติ)อย่างชัดเจนสุดโต่งก็ไม่ใช่​ และ​ จะว่าไม่มีมิติอยู่เลย(เป็นศูนย์​มิติ)​อย่างชัดเจนสุดโต่งก็ไม่ใช่​ รวมถึงไม่ใช่มิติใดๆที่เป็น​ 1 มิติ,​ 2​ มิติ,3​ มิติ,...  อย่างชัดเจน​สุดโต่งนั้นด้วยทั้งสิ้น​, ซึ่งจะเป็นอาตมั​​น จุดดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์​(pure​ soul​ point)​ ที่มีพลัง​อำนา​จ​สูงสุด​ที่​สะอาดสูงสุด​ สว่างสูงสุด​ สงบสูงสุด​เหนือ​โลกเหนือ​จักรวาลเหนืออวกาศ​-เวลาจนเป็นจุดดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์​สูงสุดอันเป็น​ดวงวิญญาณ​สูงสุดนั้น​ ที่จะบริสุทธิ์​จนไม่มีใครอะไรสิ่งใด​ที่เป็นสิ่งปรุงแต่ง​มายาสิ่งสัมพัทธสิ่งเฉพาะส่วนตัว​ที่เป็นมายาความสัมพันธ์​ที่สกปรกดูเหมือน​รกเต็มไปด้วย​สิ่งต่างๆมากมาย​ที่เสียสมดุล​เคลื่อนไหวสะเปะสะปะยุ่งเหยิง​ไร้ระเบียบ​ เศร้า​หมองเสื่อมพลังแก่ชรา​ แปรปรวนทุกข์​ทรมานเกิด​ แก่​ เจ็บ​ ​ตายตามธรรมดา​ในโลกใน​จักรวาล​ในอวกาศ​-เวลา​อันเป็น​ สังสารวัฏ​(cycle of​ natural​) ที่เป็นวัฏฏะ​สงสารวัฏจักร​ธรรมชาติ​วงจร​การเวียนว่าย​ตาย​เกิดอย่างทุกข์​ทรมานไม่รู้​จบอันแสนน่าสงสาร​ที่เป็นการหมุนเวียน​ของคู่ตรงกันข้าม​ต่างๆที่หมุนเวียน​ไปเรื่อยๆตามธรรมดา​ในธรรมชาติที่ น่าเบื่อ​หน่ายอย่างแท้จริง​สูงสุด(ultimate​ real​ boring)​ ที่วนเวียน​ซ้ำซากจำเจแบบเดิมเหมือน​เดิมอยู่อย่างนั้น​ไม่รู้​จบนั้นหลงเหลือ​อีกต่อไปอย่างสิ้นเชิงที่จะมีแต่แสงอันสว่างจ้า​อย่างแท้จริง​สูงสุด​ของพระจันทร์​สี​เงิน​ที่สงบมั่นคงถาวรตลอด​กาลด้วยจุดหนึ่งที่ไร้ขอบเขต​ขีดจำกัดใดๆสิ้นเชิงอันเป็น​​จุดศูนย์กลาง​สูงสุด​ศูนย์​รวมพลังงานทั้งหมด​ของจักรวาลอัน​สูงสุด​อันเป็น​จุดสมดุลหยุดนิ่ง​มั่นคงปกติ​สูงสุด​ของจักรวาล​นั้น)​เพื่อให้เราสามารถชุบตัว​(แช่ตัวเองแทรกตัวเองเข้าสู่พระเจ้า​อันเป็น​มหาสมุทร​แห่งดวงวิญญาณ​นั้นจนกลมกลืน​เป็น​หนึ่งเดียว​กับพระเจ้า​ จนกลายเป็น​พระเจ้า​เพื่อรับพลังจากพระเจ้า​)​ชาร์จ​พลังวิเศษ​อันสูงสุด​จากพระเจ้า​ชีว่าพระเจ้า​พระบิดาอันเป็นอภิมหาขุมพลังสูงสุด​ของจักรวาล​นั้นโดยตรงโดยไม่ผ่านการใช้ความคิดนึก​ทางจิต และ​ การใช้สายตาประสาทสัมผัส​ต่างๆทางร่างกาย​ของเรา​อันเป็นเพียงเปลือกมายาปรุงแต่งอันเป็น​สิ่งมายาเฉพาะสุดโต่ง​ส่วนตัวที่มืดมิดเศร้าหมอง​ด้วยอวิชชา​ความไม่รู้​นั้นมาบิดเบือน​บดบังกีดขวาง​การส่องแสง​อันสว่าง​จ้าสูงสุด​ของพระเจ้านั้นแต่อย่างใดทั้งสิ้น.​ โดยสำห​รับ​พระเจ้า​อันเป็น​ตัวเราที่แท้จริง​สูงสุด​นั้นแล้ว​ "ผู้อื่น​สิ่งต่าง​ๆสิ่งปรุงแต่ง​มายาต่างๆที่ไม่ใช่พระเจ้า​นั้นย่อมเป็นสภาวะที่มีคุณสมบัติ​ตรงกันข้าม​กับพระเจ้าอย่างสิ้นเชิง(ลองคิดดูเล่นๆว่าถ้าตัวเรากลายเป็นพระเจ้า​ที่เป็นแสงที่สว่างจ้า​สูงสุด​ที่ดำรงอยู่อย่างแท้จริง​สูงสุด​ตลอดกาล​นิรันดร์​เพียงสิ่งเดียว​ในจักรวาล​แล้วเราจะมองจะรู้สึก​ว่าสิ่งต่างๆนั้นจะเป็นอะไรยังไงต่อไป)​...."​ จึงทำให้ผู้อื่น​สิ่งต่างๆสิ่งปรุงแต่ง​มายาต่างๆที่ดูเหมือนว่า​มีมากมายมหาศาล​นั้นจึงล้วน​เป็น​เพียง​ ความตายที่แท้จริง​สูงสุด​(ultimate​ real​ death) ที่ตายอย่าง​สนิทจากความเป็นอมตะนิรันดร์​ของพระเจ้าที่เป็นชีวิต​นิรันดร์​ที่มีชีวิตชีวา​สูงสุด​นั้น​ จึงไม่มีใครอะไรสิ่งใด​สามารถเป็นอมตะ​ดำรงคงอยู่มีชีวิต​อยู่​จริงๆได้นิจนิรันดร์​ตลอด​กาลจริงๆได้เลยแม้แต่อนุภาค​เดียว​ในวินาที​เดียว​ ที่จะเป็นความตายยิ่งกว่าความตายมายาของการเกิด แก่​ ​เจ็บ​ ตายของชีวิตมายาที่ยังดูเหมือนว่า​สามารถ​วนเวียน​ว่ายตาย​เกิดใหม่​ได้อีกไม่รู้​จบนั้นแต่การตายที่แท้จริง​สูงสุด​นี้ตายสนิทแบบไม่มีการได้ผุดได้เกิดได้เป็นอมตะอน่างชั่วกัปชั่วกัลป์ไม่ว่ากรณี​ใด​ๆก็​ตามเลยทีเดีย​ว​, ผู้อื่น​สิ่ง​ต่าง​ๆสิ่งปรุงแต่ง​มายาต่างๆที่ดูเหมือนว่า​มีมากมายมหาศาล​นั้นจึงเป็นเพียง​ อดีต​ที่แท้จริงสูงสุด​(ultimate​ real​ past)​ ที่เป็น​ มหาความทรงจำสากลจักรวาลสูงสุด​(ultimate​ real​ universe​ great​ memory)​ ที่ล้วน​เป็น​เพียงเศษ​ขยะ​เศษซากความทรงจํา​เก่าๆร่องรอย​ภาพฝันร้ายมายาอันแสนยาวนานอันเลือนลางหม่นหมอง​ตายซากไร้ชีวิตชีวา​ของสิ่งต่างๆเรื่องราว​ต่างๆความรู้สึก​ต่าง​ๆที่ยังดูเหมือนยังคงค้างคา​เหมือน​เดิมอยู่อย่างนั้น(เพราะเป็นความทรงจํา​ระดับสากล​จักรวาล​จึงดูเหมือน​ยิ่งใหญ่​อลังการ​คมชัดสมจริงไปทุกจุดทุกอณูทุกมิติอย่างที่สุดที่ค้างคา​ยาวนาน​เป็น​กัปป์กัลป์​)​ทั้งที่มันได้ผ่านไปแล้วตายอย่า​งแท้จริง​สูงสุด​แล้วไม่สามาร​ถแก้ไขเปลี่ยนแปลง​ทำอะไรกับมันได้อีกต่อไป​อย่างสิ้นเชิง​แม้แต่​อนุภาค​เดียว​ในวินาที​เดียว​ มันจึงเป็นสิ่งที่เรา​ ไม่สามารถ​ทำอะไรกับมันได้เลยอย่างแท้จริงสูงสุด​(ultimate​ real​ can't​ do​ it)​ ที่เราต้องรีบหนีไปจากมันให้เร็วที่สุด​ก่อนที่เราจะถูกมันลวงหลอกให้หลงจมติดอยู่กับอดีตที่ขาดสติจนหมดสติจนต้องตายเสียชีวิต​ในที่สุดซึ่งต้องวนเวียน​ตายเกิดจมในทะเลสังสารวัฏ​ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่​อย่าง​นั้น​หาทางหนีรอดไม่ได้อยู่ร่ำไป(กระแสกาลเวลามายาได้ไหลเรื่อย​ตลอดเวลาทุกวินาที​อย่างไม่ต่อเนื่อง​มี่กระโดด​จากวินาทีหนึ่งไปยังอีกวินาทีหนึ่งตลอด​เวลา​ จึงทำให้สิ่งต่างๆจึงเป็นมายาไหลเรื่อยผ่านมาแล้วก็ผ่าน​ไป​เรื่อยๆตลอด​เวลาไม่มีใครอะไรสิ่งใดสามารถ​หยุดนิ่งจริงๆ​ให้เราสามารถ​แก้ไขเปลี่ยนแปลง​ทำอะไรกับมันจริงๆได้เลยอย่างสิ้นเชิง​ไม่ว่ากรณีใดๆก็ตาม)​, ทั้งนี้​เป็น​เพราะเรายังคง​หลงผิดถูกลวงหลอกให้จมติดอยู่กับอดีตหลงมัวแต่คิดนึกฟุ้งซ่านขาดสติเครียด​วิตกกังวล​คิดมาก​กับ​สิ่ง​ต่าง​ๆ(เพราะหลงเชื่อในความคิดความทรงจำความรู้ความเข้าใจเฉพาะส่วนตัวอันเป็น​เพียงมายาเฉพาะส่วนตัว)​ - ​จมติดอยู่กับอดีตหลงมัวแต่ใช้สายตาใช้ประสาทสัมผัส​ต่างๆ(เพราะหลงเชื่อ​ในสิ่งที่ตาเห็นที่หูได้ยินที่ประสาทสัมผัส​รับรู้​เฉพาะส่วนตัว​อันเป็น​เพียงมายาเฉพาะส่วนตัว)​ -​ จมติดอยู่กับอดีตหลงมัวแต่ยุ่งทำอะไรต่างๆมากมาย(เพราะหลงเชื่อ​ในการกระทำปฏิบัติ​ผลของการกระทำปฏิบัติทางชีวิตเฉพาะส่วนตัวอันเป็น​เพียงมายาเฉพาะส่วนตัว​)​ -​ จมติดอยู่กับอดีตหลงมัวแต่มีอารมณ์​ความรู้สึก​กับสิ่งต่างๆ(หลงเชื่อ​ในใจความรู้สึกปรุงแต่ง​มายาสัมพัทธเฉพาะส่วนตัวอันเป็น​เพียงมายาเฉพาะส่วนตัว)​อยู่ตลอดเวลา.​ ซึ่ง​เหมือนเรากำลังจมติดอยู่กับอดีตละเมอสะลึมสะลือ​หมดสติหลับไหลไม่รู้สึกตัว​อย่างสิ้นเชิง​ใน ความฝันร้ายมายาเสมือนจริง(vitual​ illusion​ bad dream)​ หรือ​ ความฝันร้ายมายาสายกลาง(middle​ illusion bad​ dream)​ หรือ​ ความฝันร้ายมายาที่แท้จริง​สูงสุด​(ultimate​ real illusion bad​ dream)​ ที่เป็นสภาวะกึ่งความฝันมายากึ่งความจริงที่จะว่าความฝันมายาก็ไม่ใช่​ และ​ ความจริงก็ไม่ใช่ที่เหนือความฝันมายา และ​ ความจริงที่แบ่งแยก​แตกต่าง​ตรงกันข้าม​กัน​อย่าง​ชัดเจน​สุดโต่งนั้น, อันเป็นความฝันร้ายมายาเสมือนจริงที่ลึกลับ​ซับซ้อน​สูงสุด​ที่ดูเหมือน​ยิ่งใหญ่​อลังการ​คมชัด​สมจริงทุกจุดทุกอณู​ทุกมิติอย่างที่สุด​ในรูปของ​ กลุ่มหมอกม่านหมอกแห่งสัมพัทธภาพ​คลื่นพลังงานควอนตัม​วิญญาณ​มายา(illusion quantum spirit​ energy wave relati​vity fog)​ ของ​​ อวิชชา​ความไม่รู้อย่างแท้จริง​สูงสุด​(ultimate​ real​ ignorance)​ ที่โง่เขลาอย่างสุดขีดด้วยความบ้าบอคอแตก​บ้าคลั่งสุดขีดจน​เสียสติขาดสติหมดสติสิ้นเชิง​ที่ตลกขบขัน​ปัญญา​อ่อนไร้สติปัญญา​เบาปัญญา​งี่เง่า​สุดขีดไม่สามารถรู้รับรู้​เข้าใจรู้จักใครอะไรสิ่งใดจริงๆได้เลยอย่างสิ้นเชิงในความฝันมายาที่แท้จริง​สูงสุด​ที่ล้วนเป็นเพียง​คลื่นพลังงาน​เป็นเพียงคลื่นจิตเป็นเพียง​ความฝันมายาล้วนๆอย่างสูงสุดที่กำลังหลับสนิท​สูงสุดหมดสติอย่างสิ้นเชิง​ใน ความมืดมิดอย่างแท้จริง​สูงสุด​(ultimate​ real​ dark)​ ที่เป็นเหมือน มหาหลุมดำสากลจักรวาล​สูงสุด​(ultimate​ real​ great black​ hole)​ ที่พร้อมจะดูดกลืน​ทุกสิ่งทุกอย่าง​ให้สูญสลาย​หายไปตลอดกาล​ที่มืดสนิทมืดมิดไม่มีแสงสว่าง​ใดๆอย่างสิ้นเชิง​ที่ไม่มีการสามารถ​รู้รับรู้​คิดนึกมองเห็นใครอะไรสิ่งใดจริงๆ​ได้เลยอย่างสิ้นเชิง​(ที่แม้จะดูเหมือนมีแสงสว่าง​แต่ก็เป็นความสว่างมายาสุดโต่ง​ที่ตรงกันข้าม​กับความมืดมายาอย่างชัดเจนสุดโต่งเท่านั้น​ซึ่งก็ล้วนเป็นมายาสูงสุด​ที่ล้วนมืดมิดอย่างแท้จริง​สูงสุด​เหมือนกัน​เท่าเทียมกัน​ไม่ได้แตกต่าง​ตรงกันข้าม​กันเลย)​ที่จะทำให้เรารู้สึก​ว่าสิ่งต่างๆนั้นมันเป็นเหมือนปริศนา​ชั่วนิรันดร์​ที่ "มันเป็นอะไรก็ไม่รู้​ที่เราไม่สามารถ​รู้จักเข้าใจมันจริงๆ​จนสามารถ​เรียกชื่อมันจริงๆจนสามารถ​ตีค่ามันออกมาได้จริงๆได้เลยอย่างสิ้นเชิง... " นั้น, ที่อาจแสดงความลึกลับ​ซับซ้อน​ที่ไม่อาจวิเคราะห์​ศึกษา​เข้าใจมันจริงๆได้เลยอย่างสิ้นเชิง​ได้นั้นที่อาจอุปมาเหมือน จอภาพยนตร์​มายาลู่เข้าใกล้อนันต์​มิติ(limit to​ infinite​ dimension illusion movie​ screen)​ ของภาพยนตร์มายา​แอนนิเมชั่น​เสมือนจริงที่ยิ่งใหญ่​อลังการ​คมชัดสมจริงในทุกจุดทุกอณู​ทุกมิติในลักษณะทางคณิตศาสตร์​ของ​ เมตริก​ซ์ความน่าจะเป็นที่มีมิติลู่เข้าใกล้อนันต์​(limit to​ infinite dimension of​ ​probability matrix)​ อันเป็นเมตริก​ซ์ความสัมพันธ์​ของโอกาสความอาจเป็นไปได้ต่างๆนาๆของสิ่งต่างๆทั้งหมดที่ล้วนเป็นมายาจึงมีจำนวนแถวและหลักลู่เข้าใกล้อนันต์ที่ไม่สามารถเป็นอนันต์ไร้ขอบเขต​ขีดจำกัดใดๆแบบพระเจ้าได้จริงๆแต่อย่างใด​เลย​ ​จึงเป็นเมตริก​ซ์สมมุติ​มายาในอุดมคติ​ที่ลึกลับซับซ้อน​อย่างยิ่ง​จนไม่อาจคิดนึกจินตนาการคิดนึกคำนวณออกมาเป็นตัวเลข​ได้เลยอย่างสิ้นเชิง​,​ โดยที่แต่ละแถวแต่ละหลักของเมตริก​ซ์นั้นก็จะสามารถแปลงเป็น​ ​เวกเตอร์(vector)​ อันเป็นเวกเตอร์​ความน่าจะเป็นต่างๆที่เป็นเพียงมายานั้นมากมายมหาศาล​ลู่เข้าใกล้อนันต์ที่เวกเตอร์​อันหนึ่งก็จะเกิดเป็นพลังงานการเคลื่อนที่จากจุดเริ่มต้นหนึ่งไปยังจุดสิ้นสุดหนึ่ง​โดยมีเป้าหมายทิศทางชัดเจนอันหนึ่งที่สัมพันธ์​ร่วมกันอย่างซับซ้อน​กับเวกเตอร์​ต่างๆทั้งหมด​ด้วยแต่ละเวกเตอร์​ก็จะมีผลรวมของ​ เวกเตอร์​ย่อยๆ(sub-vector)​ อีกเป็นจำนวนลู่เข้าใกล้อนันต์เช่นกัน, จึงทำให้ดูเหมือนเกิดเป็นความสัมพันธ์​ที่ยุ่งเหยิงไร้ระเบียบ​ที่สามารถแบ่งระดับย่อยออกไปได้ไม่มีที่สิ้นสุด​ ที่แต่ละเวกเตอร์​ย่อยมีทิศทางของตัวเองทำให้มีทิศทาง​สะเปะสะปะใน​การเคลื่อนจากเวกเตอร์​หนึ่งไปยังอีกเวกเตอร์​หนึ่งตลอดเวลา​นั้น​ เกิดเป็นความแปรปรวนไม่แน่นอนลึกลับ​ซับซ้อน​ยุ่งเหยิงไร้ระเบียบที่คาดเดาอะไรไม่ได้​ขึ้นมา​ เกิดเป็นความรู้สึก​ว่ามีตัวตนมีเจตจำนงเสรีมีอิสระในตัวเองในการเลือกทางเลือกต่างๆที่คาดเดาไม่ได้นั้นที่ต้องใช้การตัดสินใจด้วยตัวเอง​ล้วนๆของแต่ละเวกเตอร์​ขึ้นมา แต่จริงๆแล้วโดยองค์รวมทั้งหมดในเมตริก​ซ์ล้วนถูกกำหนดตายตัวไว้แล้วอย่างมีระเบียบคงที่แน่นอนตายตัว​, ซึ่ง​ล้วน​เป็น​ มายาสูงสุด​แห่งความเกลียด(maximum  illusion of​ hate)​ โดยที่ผู้อื่น​สิ่งต่างๆสิ่งปรุงแต่ง​มายาต่าง​ๆล้วน​เป็น​เพียง​ สิ่งสัมพัทธ(relative)​ ที่ไร้แก่นสาร​ในตัวเองเป็นเพียง​มายาความสัมพันธ์​การสัมพัทธเปรียบ​เทียบ​กันและกันที่ถูกแบ่งแยกออกจากกันเป็นส่วนๆด้วยความเกลียดนั้นล้วนเป็นเหมือน​ ภูตผี​วิญญาณในฝันร้ายมายาที่ดูเหมือนมีตัวตนมีชีวิต​(vitual spirtit ghost)​ อันล้วนเป็นเพียงพลังงานที่เป็น​ ​เวกเตอร์​พลังงาน​วิญญาณควอนตัม​มายาที่ขาดสูญ​ไม่ต่อเนื่อง​แต่ดูเหมือนตั้งอยู่​ดำรงอยู่ต่อเนื่อง(vitual uncotinuous illusion​ quantum spirit energy​ vector)​ ที่ล้วนไม่มีตัวตนไม่มีชีวิตจริงๆไม่มีการตั้งอยู่​ดำรงอยู่จริงๆแต่อย่างใด​เลย แต่เป็นมายาลวงหลอกกันและกัน​ด้วยอวิชชา​ความไม่รู้​ว่ามีสิ่งต่างๆในโลกใน​จักรวาล​ในอวกาศ​-เวลาที่แบ่งแยก​แตกต่าง​ตรงกันข้าม​กันที่สามารถ​ตั้งอยู่​ดำรงอยู่มีตัวตน​อยู่​มีชีวิต​อยู่​มากมาย​มหาศาลจนเกิดเป็นกิเลสตัณหา​อันเป็น​ความโกรธ​เกลียด(คิดลบมองโลกในแง่ร้ายผลักออกอยากพ้นทุกข์​จากความทุกข์​มายา)​-ความรักโลภ(คิดบวกมองโลกในแง่ดี​ดึงเข้าอยากได้ปิติสุขจากความสุขมายา)​​-ความหลงไหล(ค้างคาอยากสุขสงบด้วยความหลงผิด​เข้าใจผิดโง่เขลา​คิดว่าสิ่งต่างๆตั้งอยู่​ดำรงอยู่มีอยู่) ที่เป็นมายากับดักล่อลวงหลอกลวงให้หมู่สัตว์​หลงดิ้นรน​อยากสลัดทิ้ง​ทุกสิ่ง​หลุดพ้นจากสังสารวัฏ​-หลงดิ้นรน​อยากได้อยากมีอยากเป็นในสังสารวัฏ​-หลงดิ้นรน​ติดสุขอยากมีชีวิต​อยากดำรงอยู่นานๆอยากเวียนว่าย​ตาย​เกิด​ในสังสารวัฏตลอด​ไปที่จะทำให้ต้องวนเวียน​เดี๋ย​วก็โกรธ​-เดี๋ยว​ก็โลภ-เดี๋ยว​ก็หลงอยู่แบบนี้ร่ำไปไม่สามารถ​หยุดตัวเอง​ได้, ซึ่ง​ล้วนเป็น ความเป็นไปไม่ได้​อย่างแท้จริงสูงสุด​(ultimate​ real​ imposible)​ ที่ไม่สามารถ​เชื่อใครอะไรสิ่งใดไว้วางใจในใครอะไรสิ่งใด​ได้เลยอย่างสิ้นเชิง​นั้น​ เพราะว่า​มันเป็นไปไม่ได้​อย่างสิ้นเชิงที่ในจักรวาล​ที่แท้จริง​สูงสุด​อันเป็น​ความรักแท้สากลจักรวาล​สูงสุด​ที่เป็นองค์​รวมความเป็นเอกภาพ​หนึ่งเดียวที่แท้จริง​สูงสุดของสรรพสิ่ง​นั้นจะสามารถ​มีสิ่งต่างๆที่แบ่งแยก​แตกต่าง​ตรงกันข้าม​กัน​มากมาย​มหาศาล​ขึ้นมาได้​ จึงทำให้สิ่งต่างๆทั้งหมด​ล้วนเป็นเพียงมายาสูงสุดแห่ง​ความ​เกลียด​ความฝันมายาเสมือน​จริงความฝันมายาที่แท้จริง​สูงสุด​ที่เป็นเรื่อง​ไม่จริงเรื่องโกหกเรื่องงมงาย​เหลวไหล​ไร้สาระ​ที่เชื่อไม่ได้เลยไว้วางใจ​ไม่ได้เลยอย่างสิ้นเชิง.​ สิ่งต่างๆจึงเป็นเพียง​อดีต​ที่แท้จริงสูงสุด​ที่จะเป็​นกลุ่มหมอกม่านหมอกแห่งสัมพัทธภาพ​คลื่นพลังงานวิญญาณ​มายา​ในรูปของ​ฝันร้าย​มายาเสมือนจริงอัน​จะ​เป็น​ ความทุกข์​ที่แท้จริง​สูงสุด​(ultimate​ real​ joylessness) ที่ทุกข์​เจ็บ​ปวดทรมานล้วนๆตลอดเวลา​ที่เสียสมดุล​ดิ้นรนเคลื่อนไหวแปรปรวน​ตลอด​เวลาไม่เที่ยง​แท้ไม่แน่นอนหมุนเวียน​เป็นวงจรธรรมชาติเดี๋ยว​ก็รู้จำได้เดี๋ยวก็ลืมไม่รู้จำไม่ได้​เดี๋ยว​ก็รู้สึกสุขเดี๋ย​วก็รู้สึกทุกข์ไปเรื่อยๆ​ตลอด​เวลาเอาแน่เอา​นอนคาดเดามั่นใจไว้วางใจ​กับใครอะไรสิ่งใด​ไม่ได้เลยอย่างสิ้นเชิง​, จึงเป็นสุดขีดแห่งความทุกข์ที่ปราศจาก​ความสุข​ที่แท้​จริง​สูงสุด​ที่มั่นคงสงบนิ่งสูงสุดในสวรรค์​อัน​แท้จริง​ชั้น​สูงสุด​หนึ่ง​เดียว​ตลอดกาลนั้นสิ้นเชิง​ที่จะเป็น นรกมายาขุมที่ลึกที่สุด(maximum deep level of​ hell)​ อันเป็นนรกของ​ ซาตาน(satan)​ อันเป็นราชาจอมมารจอมปีศาจสัตว์​นรกระดับสูงสุดที่สามารถมีฤทธิ์​แบ่งภาคจำแลงแปลงกาย​แปลงร่าง​ออกเป็นสิ่งต่างๆเป็นลูกสมุน​อันเป็น​มารสัตว์​นรกในรูปแบบต่างๆที่ล้วนเป็นภูตผี​วิญญาณในฝันร้ายมายาที่ดูเหมือนมีตัวตนมีชีวิต​มากมาย​มหาศาล​สูงสุด​จนนับไม่ถ้วน​ด้วยมายาสูงสุด​แห่งความเกลียดนั้นที่ล้วนเป็น​ ความชั่วร้ายที่แท้จริงสูงสุด​(ultimate​ real​ evil)​ ที่ชั่วช้าสารเลวสมควรตายอย่างที่สุดที่กล้าทรยศ​เนรคุณหักหลัง​พระเจ้า​กล้าเป็นกบฏ​ตั้งตัวเป็นฝ่ายศัตรู​กับพระเจ้าขาดสติหลงลืมไม่รักไม่สนใจพระเจ้า​โทษทัณฑ์​ต้องตายอย่างทรมานที่สุด​ในนรกขุมที่ลึกที่สุดไม่ได้ผุดได้เกิด​สถานเดียวเท่านั้น, นรกมายาขุมที่ลึกที่สุด​จึงเป็นนรกอเวจี​มายาที่ทุกข์​สุดขีดที่ทุกข์​จนไม่อาจมีคำพูด​วจีใดๆพรรณาออกมาได้อีกต่อไป​ จึงเป็นฝันร้าย​นรกมายาที่มืดดำลึกลับ อันตราย​น่ากลัวอย่าง​สูงสุ​ด(maximum dangerous)​ ที่ดูเหมือนว่า​เต็มไปด้วย​ภัยอันตราย​มารสัตว์​นรกที่สยองขวัญ​สยดสยอง​อัปลักษณ์​น่าเกลียด​น่ากลัวสุดขีดที่สามารถ​ทำให้เราทุกข์​เจ็บปวด​ทรมานสูงสุด​จนขาดใจตาย​นั้นอย่างสูงสุด,​ จึงเป็น​ดินแดน​ที่ โหดเหี้ยม​สูงสุด​(maximum ruthlessly)​ โหดร้ายทารุณ​ไร้ความเมตตาปราณีอย่าง​สูงสุดที่มีแต่มารสัตว์​นรกความชั่วร้ายภัยอันตราย​การเกิด แก่​ เจ็บ​ ตาย​ที่ทุกข์​เจ็บปวด​ทรมานสุดขีด​จนทนไม่ไหว​ขาดใจตายล้วนๆในทุกอณู​ทุกอนุภาคตลอดเวลาทุกวินาทีเหมือนกับว่าสิ่งต่างๆเป็นมารสัตว์​นรกมายาที่ถูกใบมีดอันคมกริบ​จากดาบสังหารมารของ​ซาตาน​อันเป็นพญามารราชาแห่งนรกมายาอันเป็น​มายาสูงสุดแห่งความเกลียดในรูปของยมทูต​พญามัจจุราช​จ้าวแห่งนรกมายานั้นได้ลงโทษ​กรีดเฉือนตัดขาด​ให้แบ่งแยก​ออกจากกันเป็นส่วนๆอย่าง​สุดสยอง​แล้วถูกไฟนรกไฟบัลลัยกัลป์​ย่างครอกแผดเผาทรมานให้ต้องเร่าร้อน​ดิ้นทุรนทุรายเจ็บปวด​ทรมานสูงสุด​อย่างหยุดตัวเองไม่ได้​อยู่ตลอดเวลา​จนไม่อาจมีอะไรสิ่งใด​สามารถอยู่รอดทนตั้งอยู่​-ทนดำรงอยู่-ทนมีตัวตนอยู่-ทน​มีชีวิต​อยู่ได้เลยแม้แต่อนุภาค​เดียวในวินาทีเดียว(ที่สิ่งต่างๆล้วน​เป็น​ฝันร้ายมายานรกมายาขุมที่ลึกที่สุดที่ไม่มีอะไรสิ่งใดสามารถอดทนรอดตั้งอยู่​ดำรงอยู่ได้แม้แต่อนุภา​คเดียวในวินาที​เดียว​เหมือนกัน​เท่าเทียมกัน​หมดไม่ว่ามันจะดูเหมือนเป็นฝันดีเป็นสวรรค์​ที่มีแต่เทพพรหมที่ปิติสุขสงบแค่ไหนยังไงก็ตามก็ล้วนเป็นสวรรค์​มายาเป็นพรหมโลกมายาที่มีมากมาย​หลากหลายชั้น​มหาศาล​เป็นแค่เปลือกมายา​ แต่โดยเนื้อแท้ที่สุดแล้วก็ล้วนเป็นฝันร้ายมายาเสมือนจริงนรกมายาขุมที่ลึกที่สุดที่มีแต่ซาตาน​มารสัตว์​นรกมายาที่ทุกข์​เจ็บ​ปวดทรมานสูงสุด​ตลอดเวลาจนต้องตายในที่สุด​ทั้งนั้น​ มีเพียงพระเจ้า​อันเป็นสวรรค์​อัน​แท้จริง​ชั้น​สูงสุด​หนึ่งเดียว​เท่านั้น​ที่จะเป็นสวรรค์​ของจริงที่สุดหนึ่ง​เดียวตลอดกาล), ที่​ทั้งหมด​จึงกลายเป็น​เพียงกลุ่มหมอกม่านหมอกแห่งสัมพัทธภาพ​พลังงาน​ควอนตัมวิญญาณ​มายาอันเป็น​ความฝันร้ายมายาเสมือนจริงที่สิ่งต่างๆล้วนเป็นเหมือนภูติผีวิญญาณในฝันร้ายมายาที่ดูเหมือนมีตัวตน​มีชีวิตที่เป็นเวกเตอร์​พลังงาน​ควอนตัม​วิญญาณ​มายาที่ไม่ต่อเนื่อง​แต่ดูเหมือนต่อเนื่อง​ อันล้วนเป็นเพียงภาพลวงตา​เสียงลวงหูประสาทสัมผัส​ลวงกาย-ความคิดปรุงแต่ง​ลวงจิต-สัมพัทธภาพ​เหตุการณ์​เรื่องราวความสัมพันธ์การเล่นเกม​ส์แสดงละครมายาลวงชีวิต​-อารมณ์​ความรู้สึก​ลวงใจที่คมชัด​สมจริงในทุกจุดทุกอณู​ทุกมิติในรูปของพรหมลิขิต​ แผนการ​ของพระเจ้า(plan of​ God)​ อันเป็นความคิดนึกปรุงแต่ง​ความฝันมายาของพระเจ้า​ที่เป็นการเล่นเกม​ส์แสดงละครมายาของพระเจ้าชีว่าพระเจ้า​พระบิดาในรูปของเมตริก​ซ์ความน่าจะเป็น​ที่มีมิติลู่เข้าใกล้​อนันต์​อันเป็น อาถรรพ์​คุณ​ไสยเวทมนตร์​โปรแกรม​อัตโนมัติ​ของหุ่นยนต์กลไกที่มีระบบ​มีระเบียบ​แน่นอน​ชัดเจน​(robot​ automatic program magic)​ ของโอกาสความอาจเป็นไปได้​ต่างๆนาๆที่นำมาปรุงแต่ง​เชื่อมโยง​สัมพัทธสัมพันธ์​กันให้เป็นเหตุการณ์​เรื่องราว​ที่ถูกออกแบบ​กำหนดตายตัวไว้แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ๆเท่านั้น​ไม่มีการเปลี่ยนแปลงไม่มีความบังเอิญแต่อย่างใดด้วยอัจฉริยภาพ​สูงสุด​ของพระเจ้า​ที่ทุกอย่างยุติธรรม​เหมาะสม​ลงตัวที่สุดแล้วไม่จำเป็น​ต้องแก้ไข​เปลี่ยนแปลง​ใดๆอีก ที่ล้วน​เป็น​มายาที่แท้จริง​สูงสุด​ที่ล้วน​เป็น​ไปไม่ได้​อย่างสิ้นเชิงที่เชื่ออะไรสิ่งใด​ไม่ได้​เลยอย่างสิ้นเชิง, ​ผู้อื่น​สิ่ง​ต่าง​ๆสิ่งปรุงแต่ง​มายาต่างๆเมื่อเรา มองโลกตามความเป็นจริง​อย่างถึงที่สุด(maximum realistic)​ ที่อยู่​เหนือการมองโลกในแง่ดี​ และ​ การมองโลกในแง่ร้าย​อย่างสิ้นเชิง​นั้นจึงล้วนเป็นเพียงสูญญตา​อันเป็น​ ​ความว่าง​ที่แท้จริงสูงสุด​(ultimate​ real​ nothingness)​ ที่ปราศจาก​กาลเวลาสิ้นเชิงที่ไม่มีอะไรสิ่งใด​ตั้งอยู่​ดำรงอยู่เลยแม้แต่อนุภาคเดียวในวินาทีเดียว​ ที่อวกาศ-เวลาไม่ต่อเนื่อง​ขาดสูญว่างเปล่าไม่มีอยู่​อย่างสิ้นเชิง​ตลอดกาลที่ปราศจาก​มิติใดๆอย่างสิ้นเชิงตลอด​กาลรวมถึงไม่ใช่​ 0 มิตินั้นด้วย​ ที่เป็น ความว่างสายกลาง​อย่าง​สูงสุด(maximum middle​ nothingness)​ ที่ว่างจากทั้งความมีอยู่​ และ​ ความไม่มีอยู่อย่างสิ้นเชิงตลอด​กาล​ จึงเป็น​ความว่างจริงๆตาม​ธรรมชาติ​ที่ไม่อาจว่างมากไปกว่านี้ได้อีกแล้ว​ ที่จะว่างอย่างยิ่งยวด​ว่างจากความว่างอีกทีว่างยิ่งกว่าความว่างที่เรารู้จักนิยามเรียกชื่อ​ได้นั้นอย่างสิ้นเชิง,​ จึงเป็นสิ่งที่ไม่มีจิตอย่างสิ้นเชิง​ ไม่มีร่างกาย​อย่างสิ้นเชิง​ ​ ไม่มีชีวิต​อย่าง​สิ้นเชิง​ ไม่มี​ใจความ​รู้สึก​อย่างสิ้นเชิง​ ไม่สำคัญอย่างสิ้นเชิง​ ไม่จำเป็น​อย่างสิ้นเชิง ไม่มีพลังอำนาจ​อย่างสิ้นเชิง ไม่มีคุณค่า​ความหมายอย่างสิ้นเชิง​ ไม่น่าสนใจอย่างสิ้นเชิง​ตลอด​กาล, จึงทำให้ผู้อื่นสิ่งต่าง​ๆสิ่งปรุงแต่ง​มายาต่างๆล้วนเป็นโมฆะ​ที่ดับไม่เหลือถูกกำจัดสังหารฆ่าอย่างสิ้นซากอย่างแท้จริง​สูงสุด​เรียบร้อย​แล้ว​ตาม​ธรรมชาติโดยไม่ต้องทำอะไรเลย​ ที่จะรู้สึก​ว่า​ไม่มีอะ​ไร​สิ่งใด​ตั้งอยู่​ดำรงอยู่ใน​โลก​ใน​จักรวาล​ในอวกาศ​-เวลาเลยแม้แต่อนุภาคเดียว​ในวินาที​เดียว​ "พระเจ้า​ชีว่าพระเจ้า​พระบิดาพระเจ้า​จึงสร้างโลกสร้างจักรวาล​ตามพรหมลิขิต​แผนการ​ของพระเจ้า​ด้วยสูญญตาวิหารที่จะเป็น​การสร้างโดยไม่ได้ตั้งใจ​สร้างเลยจึงดูเหมือนว่าพระองค์​ไม่ได้สร้างโลกสร้างจักรวาล​สร้างอวกาศ​-เวลาสร้างใครอะไรสิ่งใด​ขึ้นมาเลยอย่างสิ้นเชิง​ โดยจะเป็นการสร้าง​ตามแผนการ​ของพระเจ้า​ที่ยุติธรรม​อย่างสูงสุด​ที่สิ่งต่างๆสิ่งปรุงแต่ง​มายาต่างๆที่ดูเหมือน​มีอยู่ล้วนหักล้าง​กับความว่างเปล่า​ขาด​สูญ​ไม่มีอะไรเลยที่ดูเหมือน​ไม่มีอยู่ให้หักล้าง​สมดุล​เป็นสูญญตาความว่าง​ที่แท้จริง​สูงสุด​ที่ปราศจาก​กาลเวลา​สิ้นเชิง, สูญญตาจึงเป็นฝ่ายของซาตาน​ฝ่ายอธรรมฝ่ายมายาสูงสุด​แห่งความเกลียดอันเป็น​เพียง​แผนการ​ของพระเจ้า​ที่เป็นอภิมหาความว่างมหาศาลที่จะสามารถ​บรรจุใครอะไรสิ่งใดที่มีรูปร่าง​ลักษณะ​ปรุงแต่ง​มายา​มากมายมหาศาล​ทั้งโลกทั้งจักรวาล​ทั้งอวกาศ​-เวลาไว้ได้​ แต่พระเจ้า​ฝ่ายธรรมมะฝ่ายความรักแท้สากล​จักรวาล​สูงสุด​นั้นเป็นสิ่งที่อัดแน่นอย่างแท้จริง​สูง​สุด​​ที่จะต่อเนื่องเนื้อเดียวรวดอย่างสูงสุด​ที่มีแต่จิตล้วนๆเพียง​จิต​เดียว​เท่านั้นสภาพรู้ล้วนๆเพียง​สภาพรู้เดียว​เท่านั้นการมีอยู่ดำรงอยู่ล้วนๆเพียงการมีอยู่ดำรงอยู่เดียว​เท่านั้นความสุข​ล้วนๆเพียง​ความสุขเดียว​เท่านั้นตัวเราล้วนๆเพียงตัวเราเดียวเท่านั้น​ตลอด​กาลที่จะเป็นอิสระสูงสุด​ตัดขาดไม่เกี่ยว​ข้อง​ยุ่งเกี่ยว​สัมพันธ์​สัมพัทธกับฝ่ายซาตานสิ้นเชิง(โดยที่พระเจ้านั้นเป็นเอกภาพ​ความเป็นหนึ่งเดียว​ที่แท้จริง​สูงสุด​ของสรรพสิ่ง​จึงปราศจากมิติความแบ่งแยก​แตกต่าง​ใดๆอย่างสิ้นเชิง​ จึงเป็นจุดหนึ่งจุดจริงๆตามธรรมชาติที่เป็น​ 0 มิติจริงๆเป็นมิติวิเศษ​สูงสุด​ที่ไม่มีมิติใดๆสิ้นเชิง​ แต่พระเจ้านั้นก็เป็นจุดที่ไร้ขอบเขต​ขีดจำกัดใดๆสิ้นเชิง​ จึงทำให้เกิดมายาโอกาสความอาจเป็นไปได้ที่อาจจะทำให้เกิดมีมิติมากมาย​มหาศาลลู่เข้าใกล้อนันต์​ขึ้นมาบรรจุอยู่ในพระเจ้า​นั้นอย่างเลี่ยง​ไม่ได้​ จึงทำให้เกิดมายาที่ดูเหมือนว่า​พระเจ้าได้ทรงสร้างโลกสร้างจักรวาล​สร้างสิ่งต่างๆในอวกาศ​-เวลาในปริภูมิมิติต่างๆในรูปของเมตริก​ซ์ความน่าจะเป็น​ที่มีมิติลู่เข้าใกล้อนันต์​ที่จะเป็นแผนการ​ของพระเจ้านั้นขึ้นมา(แต่จริงๆแล้วมิติต่างๆทั้งหมด​ล้วนว่างเปล่า​ขาดสูญ​สิ้นเชิง​ไม่มีมิติใดๆจริงๆเลย​แม้แต่​ 0 มิติ​ ซึ่ง​พระเจ้าไม่ได้สร้างอะไรสิ่งใดขึ้นมาจริงๆเลยแม้แต่มิติเดียวเพราะพระเจ้า​เป็น​มิติวิเศษ​สูงสุด​มิติหนึ่งเดียวสูงสุด​ของจิต​หนึ่งองค์รวมเอกภาพความเป็นหนึ่งเดียว​ที่แท้จริง​สูงสุด​ของสรรพสิ่ง​ที่ไม่ใช่​ 0,1,2,3,... ไปจนถึงอนันต์​มิติแต่อย่างใด​ทั้งสิ้น​)​, โดยเริ่มจากกระแสกาลเวลา​เชิงเส้น​มายานั้นจริงๆแล้วเคลื่อนที่ไม่ต่อเนื่อง​กระโดดจากวินาที​หนึ่งไปยังอีกวินาทีหนึ่งตลอด​เวลา​จึงเป็นความว่างขาดสูญไม่ต่อเนื่อง​ แต่ด้วยมายาที่การกระโดดไม่ต่อเนื่อง​นั้นเกิดขึ้นอยู่​เรื่อย​ๆซ้ำๆด้วยจังหวะ​คงที่สม่ำเสมออยู่​ตลอดเวลา​นั้นย่อมจะทำให้เกิดมายาความต่อเนื่อง​ทางกาลเวลา​มายาเป็นกระแสกาลเวลาเชิงเส้นที่เป็นเส้นตรง​ 1 มิติที่ทำให้รู้สึก​เหมือนว่ามีกระแสกาลเวลา​เคลื่อนไหลจากอดีตผ่านปัจจุบัน​ไปยังอนาคตอย่างต่อเนื่อง​ตลอดเวลาที่ไม่รู้ว่าเริ่มต้น​เมื่อไหร่​ และ​ สิ้นสุดเมื่อใดขึ้นมา​ ซึ่ง​หมายความว่ามายาสูงสุด​แห่งความเกลียดนั้นได้สร้างมายาการเคลื่อนไหว​มายาสูงสุด​ที่เคลื่อนที่จากจุดเดิมไปยังจุดเดิมทันทีตลอด​เวลา​ขึ้นมาจากการหยุดนิ่งอย่างแท้จริง​สูงสุด​ของพระเจ้า​ที่เป็นเพียงมายาโอกาสความอาจเป็นไปได้นั้นขึ้นมาก่อน -​ อันจะทำให้เกิดมายาความต่อเนื่อง​ของอวกาศ​มายา​ ซึ่ง​ที่แท้แล้วประกอบด้วยจุดมายาต่างๆอันเป็น​จุดดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์​นั้นมากมายมหาศาล​ในมิติจิตวิญญาณ​ที่แต่ละจุดล้วนเป็นเอกเทศ​แยกอิสระ​จากกันไม่ได้เกี่ยวข้อง​สัมพัทธสัมพันธ์​กันไม่ได้ต่อเนื่อง​เป็นเนื้อเดียวกันเพราะมีความว่างที่ขาดสูญไม่ต่อเนื่อง​อันเป็นกาลเวลา​ที่แท้จริง​นั้นเป็นตัวคั่นอันจะเป็นระนาบ​ 2 มิติที่เป็นมิติจิตวิญญาณ​ที่ตั้งฉากแยกเป็นเอกเทศ​กับมิติกระแสกาลเวลาขึ้นมา​ แต่ด้วยมายาความต่อเนื่อง​ทางกาลเวลามายา​ที่ส่งผล​มายังอวกาศ​มายาจึงทำให้ดูเหมือนแต่ละจุดมายาจุดดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์​นั้นเกิดความต่อเนื่องมายา​เป็นเนื้อเดียวกันจนเป็นกลายอวกาศที่ว่างช่องว่างสูญญากาศ​ที่ต่อเนื่อง​ทุกจุดทั้งปริภูมิ​ 3 มิติทั้งมิติภายใน​ มิติภายนอก​ และ​ มิติตรงกลาง​ระหว่าง​ภายใน​และ​ภายนอก​ขึ้นมาจนเกิดเป็นมิติโลกประสาทสัมผัส​ที่สามารถทำให้เกิดเป็นกลุ่มอนุภาคควาร์ก-เป็นอะตอม-เป็น​โมเลกุล​-เป็นเซลส์​สิ่งมีชีวิต​-เป็นสิ่งมายาต่างๆที่มีรูปร่างลักษณะ​ต่างๆที่แบ่งแยก​แตกต่าง​ตรงกันข้าม​กัน​ที่สัมพัทธสัมพันธ์​กันอย่างต่อเนื่อง​เกี่ยวข้อง​โยงใย​กันและกันขึ้นมามากมายมหาศาลในปริภูมิมิติต่างๆที่ลู่เข้าใกล้อนันต์​มิติ ซึ่งจะเป็นรูปธรรม​นามธรรม​ทั้งหลาย​ที่เป็น​สสาร​วัตถุร่างกาย​ และ​ จิตวิญญาณที่​สัมพัทธสัมพันธ์​กันเป็นธรรมชาติ​ชีวิตเป็นเหตุการณ์​เรื่องราว​ต่างๆในโลกใน​จักรวาล​ในอวกาศ-เวลา​ 4 มิติที่ไหลไปตามกระแส​กาลเวลา​มายาขึ้นมาที่จะเกิดจักรวาล​มหาศาลที่มีมิติของปริภูมิ​ 5,6,7,...ไปเรื่อยๆจนลู่เข้าใกล้อนันต์​มิติอันเกิดเป็นมายาความต่อเนื่องมายาของชีวิตมายาที่เวียนว่าย​ตาย​เกิด​ในภพภูมิต่างๆปริภูมิมิติต่างๆมากมายมหาศาล​ไม่รู้​จบอันเป็นสังสารวัฏ​วงจรวัฏจักร​การเวียนว่าย​ตาย​เกิด​ไม่รู้จบนั้น -​ อันจะทำให้เกิดมายาความต่อเนื่อง​ของจิตความคิดปรุงแต่ง​ที่คิดนึกรู้จากขณะจิตหนึ่งไปยังอีกขณะจิตหนึ่งตลอดเวลา​ โดยที่ตัววิญญาณ​การรู้อันเป็นจิตตัว​รู้​ของจิตนั้นก้าวกระโดดไม่ต่อเนื่อง​ตลอดเวลา​แต่เกิดมายาลวงว่าคิดนึกปรุงแต่ง​สัมพันธ์สิ่งต่างๆ​เป็นเรื่องราวต่อเนื่อง​ที่ฟุ้งซ่าน​เดี๋ยวคิดเรื่องนี้เดี๋ยวคิดเรื่องนี้ไปเรื่อยๆตลอดเวลา​อย่างขาดสติไม่รู้สึก​ตัวที่จะหลงไหลจมอยู่ในโลกความคิดมายาด้วยความเผลอคิดว่าต่อเนื่อง​ -​ อันจะทำให้เกิดมายาความต่อเนื่อง​ของผัสสะของจิตกับประสาทสัมผัสของร่างกาย​เนื้อหนังปรุงแต่ง​ที่ประสาทสัมผัส​รับรู้​จากจุดเหตุการณ์​หนึ่งไปยังอีกจุดเหตุการณ์​หนึ่งในอวกาศ​-เวลานั้นตลอดเวลา​ โดยที่ตัววิญญาณการรู้​ของจิตที่จุดผัสสะรู้ประสาทสัมผัส​นั้นก้าวกระโดดไม่ต่อเนื่องตลอดเวลา​แต่เกิดมายาลวงว่าเกิดประสาทสัมผัส​รับรู้อย่างต่อเนื่อง​ด้วยการถ่ายทอดส่งต่อของพลังอำนาจในรูปของพลังงาน​จากจิตมายังร่างกาย​ที่จะเป็นเวกเตอร์​พลังงานควอนตัมวิญญาณมายาที่ขาดสูญ​ไม่ต่อเนื่อง​แต่ดูเหมือนตั้งอยู่​ดำรงอยู่ต่อเนื่อง​ที่จะกลายเป็น​ความรู้สึก​มายาที่รู้สึก​ไปตามที่จิตคิดนึกวิเคราะห์เปรียบเทียบ​ตีค่า​ที่จะสัมพันธ์​กับผัสสะ​นั้นไปเรื่อยๆ​ที่เพลิดเพลิน​เดี๋ยว​ก็ไปรู้ไปเห็นสิ่งนี้เดี๋ยว​ก็ไปรู้ไปได้ยินสิ่งโน้นที่จะเดี๋ยว​รู้สึก​สุขแบบนี้เดี๋ยว​รู้สึก​ทุกข์​แบบนั้นไปเรื่อยๆตลอดเวลาอย่างขาดสติไม่รู้สึกตัวที่จะหลงไหลจมอยู่ในโลกประสาทสัมผัส​มายาที่เผลอคิดว่าต่อเนื่อง​ -​ ซึ่ง​มายาความต่อเนื่อง​ทั้งหมด​จะทำให้เกิดใจความรู้สึก​มายาที่เกิดขึ้น​ชั่ววูบ​ชั่วคราวแป๊บเดียว​ขาดสูญไม่ต่อเนื่อง​แต่เกิดมายาทำให้รู้สึก​เหมือน​ว่าดำรงคงอยู่​ต่อเนื่องยาวนานค้างคา​ติดอยู่ในใจ​ตลอดเวลา​จนทนไม่ไหวต้องทำตามกิเลส​ตัณหาอยู่ร่ำไป​ด้วยอวิชชา​ความไม่รู้​ที่รู้สึกเหมือนว่าสิ่งต่างๆในโลกประสาทสัมผัส​นั้นตั้งอยู่ดำรงอยู่​จริงๆ​อย่างต่อเนื่องจริงๆ​ที่จะรู้สึก​เหมือนว่าสิ่งต่างๆเป็น​ของจริงเป็นความจริงเป็นเรื่องจริงเป็นความรู้สึก​จริงๆที่เหมือนว่ารู้สึก​สุขจริงๆทุกข์​จริงๆขึ้นมาจริงๆ​ ซึ่ง​ล้วนนำไป​สู่​การเกิดของร่างกายเนื้อหนัง​ปรุงแต่ง​ที่ต้อง แก่​ เจ็บ​ ตาย​จริงๆที่ทุกข์​เจ็บ​ปวดทรมานจนทนไม่ไหว​ขาดใจตายไปจริงๆ​ในที่สุด​ โดยที่สิ่งต่างๆในมิติต่างๆล้วน​เป็นเพียงความฝันมายาเสมือนจริง​ฝันร้ายนรกมายาขุมที่ลึกที่สุดที่ไม่มีอะไรสิ่งใดสามารถอดทนรอดตั้งอยู่​ดำรงอยู่ได้แม้แต่อนุภา​คเดียวในวินาที​เดียว​เหมือนกัน​เท่าเทียมกัน​หมดไม่ว่ามันจะดูเหมือนเป็นสวรรค์​แค่ไหนยังไงก็ตามก็ล้วนเป็นสวรรค์​มายาที่มีมากมาย​หลากหลายชั้น​มหาศาล​ แต่โดยเนื้อแท้ที่สุดแล้วก็ล้วนเป็นนรกมายาขุมที่ลึกที่สุดทั้งนั้น​ มีเพียงพระเจ้า​อันเป็นสวรรค์​อัน​แท้จริง​ชั้น​สูงสุด​หนึ่งเดียว​เท่านั้น​ที่จะเป็นสวรรค์​ของจริงที่สุดหนึ่ง​เดียวตลอดกาลนั้น)​...". ซึ่ง​การมัวแต่สนใจผู้อื่น​สิ่งต่างๆสิ่งปรุงแต่ง​มายาต่างๆย่อมทำให้เราพลาดที่จะได้รับพลังอันวิเศษ​สูงสุด​ของพระเจ้า​ดวงวิญญาณ​สูงสุด​ที่เป็นรูปอมตะที่แท้จริงสูงสุด​ที่เปิดเผยเรียบง่ายสูงสุด​ที่ปราศจาก​รูปร่างลักษณะมายาที่ลึกลับซับซ้อน​ต่างๆสิ้นเชิงในลักษณะ​ของพระจันทร์​สี​เงินอันเป็น​จุดแสงที่ลอยเด่นส่องแสง​สว่างจ้า​สูงสุดอย่างเปิดเผย​สูงสุด​ต่อหน้า​ต่อตาเราตลอด​เวลานั้น​ จึงทำให้เราต้องทนเสียเวลาฟุ้งซ่า​นขาดสติ​เครียด​วิตกกังวล​คิดมากกับสิ่งต่างๆจนร่างกาย​ง่วงจนทนไม่ไหวล้มตัวลงนอน​หมดสติหลับไหลที่นำไปสู่ความทุกข์​เจ็บ​ปวดทรมานจนทนไม่ไหว​ขาดใจตายหาทางรอดพ้นไม่ได้นั้น​อยู่ร่ำไป, ดังนั้น​ เพียงแค่​เราสามารถ​ที่จะหยุดคิดนึก -​ หยุดใช้สายตา​ประสาทตาสัมผัส​ -​ หยุดปฏิบัติ​ทำอะไรต่างๆมากมาย​ -​ หยุดรู้สึก​กับสิ่งต่าง​ๆให้​ได้เองตามธรรมชาติ​ของมันได้แล้วเราก็จะสามารถ​ตื่นรู้ลืมตาที่แท้จริง​สูงสุด​มองเห็นความงดงาม​ไร้ตำหนิสิ้นเชิง​ที่ส่องแสง​สว่างจ้า​สูงสุด​ของพระเจ้า​อันเป็น​ความรักแท้​สากล​จักรวาล​สูงสุดจักรวาล​อันแท้จริง​สูงสุด​สวรรค์​อัน​แท้จริง​ชั้น​สูงสุด​​ได้ทันทีเองอัตโนมัติจนถึงขีดสุดได้ในที่สุดแน่นอน​... 

 

"เมื่อเรากำลังมัวแต่หลงติดการรู้การสังเกตุการณ์​ท่องเที่ยว​ใช้ชีวิต​อยู่ในโลกใน​จักรวาล​ในอวกาศ​-เวลาที่รู้สึก​เหมือน​ว่ามีผู้อื่น​สิ่ง​ต่าง​ๆสิ่งปรุงแต่ง​มายาต่างๆอยู่มากมายมหาศาล​นั้นเราย่อมขาดสติไม่รู้สึกตัว​ไม่รู้สึกรับรู้​รู้ถึงการมีอยู่ตั้งอยู่​ดำรงอยู่ของตัวเราของจิตของเรา, แต่เมื่อเราสามารถมีพลังจิตสูงสุด​พลังสติสูงสุดจนจิตมีความสุขสูงสุด​ในโลกหน้ามิติแก่นแท้​สูงสุด​ของจิตของเรา​ได้นั้นจิตของเรา​จะเป็นพระจันทร์​สี​เงินที่ส่องแสง​สว่างจ้า​สูงสุด​ที่เราจะพลิก​เปลี่ยน​เป็น​ไม่รู้สึกรู้รับรู้​ถึงการมีอย​ู่ตั้งอยู่​ดำรงอยู่ของผู้อื่น​สิ่งต่าง​ๆสิ่งปรุงแต่ง​มายาต่างๆอันเป็น​ความทุกข์​อีกต่อไป​อย่างสิ้นเชิงทันที​ตามธรรมชาติ​เองอัตโนมัติ​ที่จะรู้สึกรู้รับรู้​ว่ามีแต่ตัวเราที่แท้จริง​สูงสุด​​อันเป็นสิ่งสูงสุด​ความเป็นที่หนึ่งสูงสุด​ตลอดกาลอันเป็น​พระเจ้าชีว่าพระเจ้า​พระบิดาอันเป็นจิตล้วน​ๆ​เพียง​จิต​เดียว​เท่านั้นสภาพรู้ล้วนๆเพียง​สภาพรู้เดียว​เท่านั้นการมีอยู่ดำรงอยู่ล้วนๆเพียงการมีอยู่ดำรงอยู่เดียว​เท่านั้น​​ตลอด​กาลอันเป็นความสุข​ล้วนๆเพียงความสุขเดียว​เท่านั้น​ตัวเราล้วนๆเพียงตัวเราเดียวเท่านั้น​ตลอด​กาล, จึงไม่มีสุขใดจะสุขยิ่งกว่า​พระเจ้า​ อันเป็นความสุขที่แท้จริงสูงสุดที่สุขสงบสูงสุด​จากภายใน​ที่ลึกที่สุดของจิตที่มีแต่จิตล้วนๆเพียง​จิต​เดียว​เท่านั้นสภาพรู้ล้วนๆเพียง​สภาพรู้เดียว​เท่านั้นการมีอยู่ดำรงอยู่ล้วนๆเพียงการมีอยู่ดำรงอยู่เดียว​เท่านั้นความสุข​ล้วนๆเพียง​ความสุขเดียว​เท่านั้นตัวเราล้วนๆเพียง​ตัวเราเดียวเท่านั้น​ตลอด​กาล​ ​อันเป็น​ความสุขสูงสุด​ในโลกหน้า​หลังจากที่ร่างกาย​ได้หลับสนิท​ตายสนิทดับสนิทแล้วที่ไม่ขึ้นกับร่างกาย​วัตถุ​สสารโลกประสาทสัมผัส​อย่างสิ้นเชิง​จึงเป็น​ความสุขที่เงินซื้อไม่ได้​อย่าง​สิ้นเชิง(ที่เมื่อใครได้ลองไปโลกหน้าจริงๆที่เป็นพระเจ้า​ที่มีแต่ความ​สุขล้วนๆตลอดกาล​แล้วแทบไม่อยากกลับ​ ไม่อยากตื่น​ ไม่อยากฟื้น​มาเจอความทุกข์​ใดๆอีกต่อไป​แม้จะเอาใครมาฉุดรั้งไว้​ก็ฉุด​ไม่อยู่​ แม้จะเอาเงินมากมาย​มหาศาล​แค่ไหนมาแลกก็ไม่ยอมอีกต่อไป​)​ อัน​จะ​เป็น​สุขสุดขีดของอารมณ์​ความรู้สึก​ด้วยจุดสุดยอด​จุดไคลแมกซ์​สูงสุด​เอกัคคตา​รมณ์หนึ่งเดียวสูงสุด​ที่จะทำให้ร่างกาย​ดับสนิทหลับสนิทตายสนิทอย่างสูงสุดหยุดเคลื่อนไหว​หยุดหายใจ​สิ้นเชิง​-ไม่มีการฝันใดๆจิตดับสนิทไม่มีการคิดนึกรับรู้ผัสสะอยากรู้ในอะไรสิ่งใดอย่างสิ้นเชิง​-ไม่มีชีวิตมายา​ที่เกิด​ แก่​ เจ็บ​ ตาย​อยู่อีกต่อไป​-ไม่ต้องรู้สึกทุกข์มายา​ใดๆอีกต่อไปอย่างสิ้นเชิง​(แม้ว่าโดยภายนอกจะดูเหมือน​ว่าทุกข์​สูงสุด​ด้วยความโกรธ​เกลียดสูงสุด​ที่ไม่ต้องการ​อยากจะอยู่ในโลกนี้จักรวาล​นี้อวกาศ​-เวลานี้อันเป็นนรกมายาขุมที่ลึกที่สุดนั้นอีกต่อไปแม้แต่​อนุภาคเดียวในวินาที​เดียว​ก็ตาม)​.​ ​ดังนั้น​ สำหรับความสุขมายาในโลกนี้ที่เงินสามารถ​ซื้อ​ได้นั้นยิ่งมีมากก็ทุกข์​มาก​ ยิ่งมีน้อยก็ทุกข์​น้อย, คนที่ฉลาดที่สุดย่อมฉลาดเลือกแต่พระเจ้า​อันเป็น​สิ่งที่ดีที่สุดความสุขที่ดีที่สุดที่มีแต่ความสุขสูงสุด​ล้วนๆหนึ่ง​เดียว​ที่ปราศจาก​ความทุกข์​สิ้นเชิง​นั้นเพียงสิ่ง​เดียว​เท่านั้นก็พอเเล้ว​เพื่อให้เราทุกข์น้อยที่สุดแล้วสามารถ​มีความสุข​ให้มากที่สุดเท่าที่​จะ​ทำได้.​ ซึ่ง​โดยพื้นฐาน​แล้วสิ่งที่เราต้องการอย่างแท้จริง​สูงสุด​นั้นคงไม่มีอะไรสิ่งใด​มากมายไปกว่าการสมถะสูงสุด​ที่มักน้อย​สันโดษพอเพียงเรียบง่ายสบายๆที่สุดที่ต้องการแค่เพียงพระเจ้าชีว่าพระเจ้า​พระบิดาอันเป็นจักรวาล​อันแท้จริง​สูงสุด​ที่​จะเป็น​จิต​หนึ่ง​เพียงสิ่ง​เดียว​เท่านั้น​ที่มี​คุณภาพสูงสุด​ล้วนๆที่แม้จะดูเหมือน​ว่ามีแค่จิตหนึ่ง​จิตล้วนๆเพียง​จิต​เดียวเท่านั้น​​ แต่ก็อัดแน่นสูงสุด​ไปด้วยความสุขสูงสุด​ล้วนๆ​หนึ่งเดียว​ที่ปราศจาก​ทุกข์​สิ้นเชิงที่เป็นของจริงล้วนๆอย่างถึงที่สุดที่สามารถ​เชื่อได้​ 100% ตลอดกาลเพราะไม่มีอะไรสิ่งใด​สามารถ​โต้แย้ง​ทำให้ทุกข์​ได้อีกต่อไป​อย่างสิ้นเชิง​นั้น, เราจึงเห็นว่าแม้ในจักรวาลเปลือกมายาอันเป็นมายาสูงสุด​แห่งความเกลียดที่เป็นการหลับไหลหมดสติในความฝันมายาเสมือนจริงที่ดูเหมือน​ว่ามีสิ่งต่างๆสิ่งปรุงแต่ง​มายาต่างๆมากมายมหาศาล​นับไม่ถ้วน​ที่มีรูปร่าง​ลักษณะ​ดูคมชัดสมจริงไปเสียทุกอย่าง​ให้เราสามารถเลือกได้ตามใจชอบ​เต็มที่นั้น​ แต่ดูเหมือน​ว่ายิ่งเราใช้สายตาใช้ประสาทสัมผัสกับมันมากเท่าไหร่​ก็จะมีแต่ยิ่งหาจุดโฟกัสที่หยุดนิ่ง​ให้เพ่งสนใจรับรู้​จริงๆไม่เจอมันเยอะแยะมากมาย​ไปหมดที่ล้วนเสียสมดุล​ดิ้นรนเคลื่อนไหวตลอดเวลา​ จึงยิ่งไปรับรู้มันมากเท่าไหร่​ยิ่งรู้สึก​ทุกข์​เจ็บปวด​ทรมานเสื่อมพลังอ่อนล้าหมดแรงลงเรื่อยๆมากเท่านั้น​ และ​ ยิ่งเราคิดนึกคิดมากกับมันมากเท่าไหร่​ก็ยิ่งมีแต่ความไม่รู้​มีแต่ปัญหา​คำถามที่ยังลังเลสงสัย​สับสนไม่รู้​จบยุติไม่ได้​ที่รู้สึก​เหมือนว่าจะดิ้นรน​อยากรู้​โน่นนี่ตลอด​เวลาหยุดนิ่งไม่ได้​เลยที่ยิ่งรู้สึก​เครียดมากเท่านั้น​, ดังนั้น​ เราจึงเลือกที่จะหลับตา​เลิกใช้ประสาทสัมผัส​เลิกคิดนึกชั่วคราว​แล้วหันมาสนใจหาความสุขที่ดีที่สุดจากภายในที่ลึกที่สุด​อันเป็น​ความสุขที่ดีที่สุด​ หรือ​ พระเจ้า​นั้น​ใส่ตัวแทน​ดีกว่า​โดยให้พยายามอดทนทำสมาธิเพ่งกสิณรวมพลังจิตทั้งหมดให้ตัวเราอันเป็น​จิตสายกลางจิตตัว​รู้​จุดดวงวิญญาณ​นั้นสนใจเพ่งกสิณโฟกัส​เพ่งรู้แต่ตัวจิตตัว​รู้เอง​​ล้วนๆเพียงจิตตัว​รู้​เดียว​เท่านั้น​วางให้จิตเป็นกลางสมดุลตั้งมั่นสงบนิ่ง​หยุดนิ่ง​สูงสุด​ระหว่าง​การรู้ของ​จิต​ และ​ การไม่รู้ของจิตอย่างสุดจิตสุดใจสุดแรงสุดพลัง​ของ​เราอย่างใหม่สดในจุดขณะปัจจุบันตรงนี้​ตอนนี้ที่นี่เดี๋ยว​นี้เท่านั้น​ให้ต่อเนื่อง​ยาวนานเท่าที่​เราจะ​ทำได้,​ เพ่งแบบทุ่มสุดตัวที่รู้สึก​เหมือน​กับว่ากำลังรู้สึก​โกรธ​เกลียด​อย่างสุดขีดที่ทุกข์​สุดขีดเจ็บปวด​ทรมานจนทนไม่ไหว​ขาดใจตาย​จนมองเห็น​อะไรไม่ได้-คิดนึกอะไรไม่ได้-มีชีวิต​ต่อไปไม่ได้​ทำอะไรไม่ได้-รู้สึก​อะไรไม่ได้อีกต่อไป, ราวกับว่าทั้งจักรวาล​ตอนนี้มีแต่เพียงสิ่งนี้สิ่งเดียวเท่านั้น​​ที่เป็นจุดหนึ่งเป็นอะตอมดึกดำบรรพ์จุดสำคัญสูงสุด​จุดศูนย์กลาง​สูงสุด​ศูนย์​รวมพลังทั้งหมด​ของจักรวาลอันสูงสุดอันเป็น​จุดสมดุลหยุดนิ่งมั่นคงปกติ​อย่างแท้จริ​งสูงสุด​ของจักรวาล​เพียงจุดเดียวเท่านั้นที่ตั้งอยู่​ดำรงอยู่ตลอดกาล​ จนรู้สึก​เหมือนกับว่าสิ่งต่าง​ๆหายไปหมด​สิ้น​ไม่มีอะไรสิ่งใดให้ต้องดู-ให้ต้องคิด-ให้ต้องทำ-ให้ต้องรู้สึก​อีกต่อไป..."

 

 

2.)เราจะสามารถ​เล่นโยคะสายกลาง​ได้อย่างไร? 

     การเล่นโยคะสายกลาง​นั้นจริงๆแล้วเหมาะสำหรับทุกคนทุกเพศ​ทุก​วัย​ทุกเชื้อชาติทุกภาษาทุกดวงดาว​เท่าเทียมกัน​หมดที่คนทั่วไปส่วนใหญ่​ใครๆก็เล่นได้​ แต่หากจะมุ่งเน้นเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย​ที่เหมาะสมสอดคล้อง​กับทางสายกลาง​ที่จะสามารถ​ปฏิบัติเล่นโยคะสายกลาง​อย่างน่าจะสำเร็จผลได้ดีที่สุดได้สำหรับมนุษย์​ชาวโลกแล้วก็คงเป็นกลุ่ม คนยุคใหม่(new​ generation human)​ คนหัวสมัยใหม่​ที่ไม่งมงายเคารพบูชา​ทำพิธี​จุดธูป​เทียน​กราบไหว้​รูปปั้นสิ่งศักดิ์สิทธิ์​ใดๆ(นอกตัวเรา)ภูติผีวิญญาณ​ใดๆทั้งสิ้น​ที่จะศรัทธา​เชื่อแต่ในพลังสูงสุด​ของตัวเรา(ที่แท้จริ​งสูงสุด​ที่เป็นพระเจ้าสิ่งสูงสุด​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​สูงสุด​เทพเจ้า​สูงสุด​นั้นเพียงสิ่งเดียว​เท่านั้น​)​ อันเป็น​คนรุ่นใหม่นิวเจนคุณหนูไฮโซ​เจนวายคนหนุ่มคนหัวสมัยใหม่​ผู้แอคทีฟตื่นตัว​เคลื่อนไหว​ตลอด​เวลา​ อันเป็น​คนหนุ่ม​ไฟแรง​ที่มีอนาคตไกลในยุคสสารนิยมยุคทุนนิยมยุควิทยาศาสตร์​ยุคนี้ที่มีพลังทางวัตถุ​สสารร่างกาย​เป็นพื้นฐานเป็นทุนเดิมรออยู่แล้วที่เป็นระดับ​ปลายสุดของวิวัฒนาการ​ของสิ่งมีชีวิต​ในโลกที่พร้อมจะเป็น​ เมล็ด​พันธุ์​แห่งดวงดาวของพระจันทร์สีเงิน​(star​ seed)​ อันแสดงถึงเมล็ดพันธุ์​ หรือ จุด​ หรือ​ ต้นกำเ​นิด​ของชีวิตเราที่จะเป็นจุดดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์อันเปรียบเหมือนกับ​บุตรของพระเจ้า​ชีว่าพระเจ้า​พระบิดาดวงวิญญาณ​สูงสุด​นั้น ที่จะเป็น​ตัวแทน​เป็นทายาทมนุษยชาติ​เป็นทูตสันถวไมตรี​ของมนุษยชาติที่เป็นสิ่งมีชีวิต​ระดับปลายสุดของวิวัฒนาการ​ในโลกที่รอพร้อมจะก้าวสู่อารยธรรม​ใหม่อารยธรรม​สากลจักรวาล​ของมนุษย์ต่างดาวต่างมิติ​ในห้วงอวกาศ​สากลจักรวาลเหนือโลก​ในยุคอนาคต​ อันเป็นอารยธรรม​ที่มีทั้งพลังจิตสูงสุด​ และ​ พลังวัตถุ​สสารร่างกาย​สูงสุด​พร้อมกัน​ได้นั้น​ ซึ่ง​เพียงแค่มนุษย์​คนยุคใหม่​นิวเจนสามารถ​ทำพลังจิต​ให้สูงสุด​อย่างง่ายๆรวดเร็ว​ในการเล่นโยคะสายกลาง​ให้ได้เท่านั้นเองก็จะสามารถมีทั้งพลังจิต​ และ​ พลังวัตถุ​สสารร่างกายโดยไม่ขัดแย้งกันแบบอารย​ธรรมมนุษย์​ต่างดาว​ได้แล้ว​ทันที คนยุคใหม่คนรุ่นใหม่นิวเจนจึงเป็นกลุ่มเป้าหมาย​ที่เหมาะสมสอดคล้อง​กับทางสายกลางของโยคะสายกลาง(ซึ่งถ้าจะยิ่งเน้นเจาะกลุ่ม​เฉพาะกลุ่มคนยุคใหม่คนรุ่นใหม่​นิวเจนผู้ใหญ่​ผู้ชายที่อายุ​ 18+ ปีขึ้นไปที่ต้องการพ้นทุกข์ทางจิต​อย่างแรงกล้า​สูงสุด​ให้ได้​ ซึ่งจะเป็น​มนุษย์​สากลไฮโซ​ระดับสูงระดับไฮเอนไฮโซ​สุดขั้วที่รวยระดับร้อยล้านพันล้านขึ้นไป​ที่ใช้ชีวิต​อยู่​แต่ในดินแดน​สากลตึกสูง​ระฟ้าที่หรูหรา​ทันสมัย​เท่านั้น​ที่ไม่จำเป็น​ต้องติดดินยุ่งเกี่ยว​กับดินแดนเฉพาะบ้านเรือนชาวบ้านในชนบทอย่างสิ้นเชิงที่ต้องการ​มีทั้งพลังจิต​ และ​ พลังวัตถุ​สสารร่างกาย​สูงสุด​พร้อมกัน​นั้นจะยิ่งทำให้ได้ผลสูงสุดมากขึ้น​ด้วย​ เพราะความปิติสุขของร่างกาย​วัตถุสสารระดับร้อยล้านพันล้านรอบตัวจะช่วยบรรเทา​ผลกระทบ​จากการมีพลังจิตสูงสุด​ที่รู้สึกโกรธ​เกลียด​สูงสุ​ดอยากพ้นทุกข์​สูง​สุดนั้นได้มาก​ ที่หากให้ชาวบ้านทั่วไป​เล่นโยคะสายกลาง​จนมีพลังจิตสูงสุ​ดแต่ไม่มีความปิติสุขระดับร้อยล้านพัน​ล้าน​ทางวัตถุสสารร่างกายแบบคนยุคใหม่คนรุ่นใหม่นิวเจนไฮโซ​ระดับสูงระดับไฮเอนมารองรับแล้วจะกลายเป็น​มารที่มีความโกรธ​เกลียดสูงสุด​อยากฆ่าสังหารทุกคนที่ขวางหน้าจนกลายเป็น​บ้าไม่สามารถทนมีชีวิตอยู่ในสังคมได้​อีกต่อไป​ได้โดยเฉพาะยิ่งหากเป็นฤาษี​โยคีก็จะรีบดับจิตดับขันธ์​ไปโลกหน้าทันทีไม่ยอมทนทุกข์​ในโลกนี้อีกต่อไป​ จึงทำให้ชาวบ้านทั่วไป​รวมถึง​ฤาษีโยคีไม่สอดคล้อง​กับทางสายกลาง​ของโยคะสายกลาง​)​, โดยคนยุคใหม่นี้​จะเล็งถึงชาวเมืองหลวงมหาชนกลุ่ม เศรษฐีไฮโซสมัยใหม่​(modern​ million​aire hiso)​ ในมหานครในยุคนี้ ที่เป็นมนุษย์​ในกลุ่ม​คนชั้นสูง​ที่มีอำนาจเงินในสังคมยุคใหม่ที่มีชีวิตเป็นสากล​อินเตอร์​ในดินแดนสากลนานาชาติ​ที่ง่ายๆทันสมัยไฮเทค​ร่ำรวยสนุกสบายสะดวกสบาย​บนตึกสูงระฟ้า​ เป็นคุณหนู​ไฮโซทายาท​ลูกหลาน​มหาเศรษฐี​ร้อยล้านพันล้านที่คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิดมาบนกองเงิน​กอง​ทอง​สบายไปทั้งชาติวันๆไม่ต้องทำงานอะไรให้เหน็ดเหนื่อยลำบาก​ ​ชอบที่เดินทา​งท่องเที่ยว​ไปทั่วโลกที่จะพักผ่อนนอนหลับ​ง่วงก็นอนอย่างหรู​หราในห้องพัก​ส่วนตัว​ในโรงแรม​สากล​ ​หรือ​ คอนโดมิเนียม​, หิวก็กินอาหารเล่นๆในห้างสรรพสินค้า​พลาซ่าสากล, เบื่อก็เที่ยวด้วยรถไฟฟ้าสากล​ไปวันๆ​ที่จะรักตัวเอง​ชอบดูแลรักษ​าสุขภาพตัวเอง​ชอบเล่นโยคะ​ และ​ รักสวยรักงาม​รักความบันเทิงชอบ​เล่นอินเทอร์เน็ตชอบทานอาหารที่มีประโยชน์​ต่อสุขภาพ​ความงาม มีคุณภาพ​ชีวิต​ที่ดีสิ่งแวดล้อม​รอบตัวมีแต่ความสวยงามทันสมัยไฮเทค​สนุกสบายมีชีวิตชีวา​เหมือนอยู่ในสวรรค์บนดิน​ จึงไม่ทุกข์​ไม่เครียดกับชีวิตแบบชาวบ้าน​ทั่วไป​ จึงไม่อยากรีบตายอยากมีชีวิต​อยู่ให้นานที่สุดเท่าที่​จะทำได้ จึงมีเป้าหมาย​ชีวิตต้องการ​เป็น​หนุ่มอมตะมีอายุยืนยาว​มหาศาลเหนือโลกที่ต้องการเป็น​ ไฮโซที่แท้จริง​สูงสุด​(ultimate​ real​ hiso)​ ที่จะเป็นสุดยอด​ไฮโซ​ตัวจริงไฮโซของจริงผู้สมควร​ถูกยก​ย่องให้เป็นคนชั้นสูง​มนุษย์​ชั้นสูงที่ให้คนเคารพนับถือ​ได้อย่างสนิทใจที่สุดนั้น​ อันเป็น​มนุษย์ผู้สมบูรณ์แบบสูงสุด​ที่มีชีวิตสมบูรณ์​ครบถ้วนที่มีทั้งพลังจิต​ และ​ พลังร่างกาย​วัตถุสสารให้สูงสุด​พร้อมกัน​ไม่ขัดแย้ง​กันแบบมนุษย์​ในยุคอนาคตที่พร้อมจะเป็นเมล็ด​พันธุ์​แห่งดวงดาว​ของพระจันทร์​สี​เงิน​.​ ​ที่ส่วนมากจะเป็น​คนรุ่นใหม่ไฮโซ​รุ่นใหม่​ที่มีการศึกษา​มีความรู้​สูงฉลาดเฉลียว​มีไหวพริบ​ฉลาดเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง​ ชอบอะไรที่มีคุณภาพ​สูงแต่ง่ายๆรวดเร็ว​ทันใจเพราะการเล่นโยคะสายกลาง​จะเป็นการปฏิบัติ​ง่ายๆไม่มีอะไรลำบากยุ่งยาก​ซับซ้อนหลายขั้นตอน​ ​ไม่ต้องเคลื่อนไหว​ร่างกายให้ลำบากเหน็ดเหนื่อย​ ไม่จำเป็น​ต้อง​เล่น​ท่าโยคะ​ต่างๆมากมายให้ยุ่งยาก​แต่อย่างใด​เลยที่คนทั่วไป​ส่วนใหญ่​นั้นใครๆก็ทำได้แน่นอน​ ​- สะดวกรวดเร็ว​สามารถ​ทำได้ทันทีทุกที่​ทุกเวลา​ที่​ต้อง​การโดยไม่จำเป็น​ต้องใช้พรสวรรค์​ความสามารถ​พิเศษ​ส่วนตัว​การฝึกฝนใดๆ  ทำได้ในทุกอริยาบถทุกท่าทาง​ที่แล้วแต่จะสะดวกไม่มีการบังคับ​ - ฟรีไม่มีค่า​ใช้จ่าย​ใด​ๆทั้งสิ้น​สำหรับมนุษย์​ทุกคนเท่าเทียมกัน​หมดทุกเพศทุก​วัยทุกเชื้อ​ชาติทุกภาษา,​ จึงทำให้การเล่นโยคะสายกลาง​นั้นจึงเป็น​ ซูเปอร์​โยคะ(super​ yoga)​ ที่ง่าย-สะดวก​รวดเร็ว​-ฟรีเหนือการเล่นโยคะทั่วไปที่มุ่งทำให้มนุษย์​กลายเป็น​ซุปเปอร์​มนุษย์​ผู้มีพลัง​จิตสูงสุด​เหนือมนุษย์​ทั่วไปด้วยพลังวิเศษ​ของซุปเปอร์​จิตโดยตรง. ซึ่ง​การเล่นโยคะสายกลาง​นั้นจะเป็น​ การเล่นโยคะทำสมาธิสายกลางต้นกำเนิดเดิมแท้สูงสุด(ultimate​ real​ original yoga​ middle​ meditation)​ ที่ไม่ขึ้นกับร่างกายเนื้อหนัง​ปรุงแต่งรวมถึงวัตถุสสารต่างๆ​แต่อย่าง​ใด จึงเป็นการเล่นโยคะทำสมาธิโดยทางสายกลาง​ที่สามารถ​ทำให้เกิดเป็นฌานสมาบัติ​ระดับสูง​สุด​ทางจิตวิญญาณอันเป็นฌานสมาบัติ​หนึ่งเดียวสูงสุด​ที่มีพลังอำนาจสูงสุด​ ที่จะเป็น ฌานสมาบัติ​บริสุทธิ์​สูงสุด​(maximum​ pure​ one​ pointed meditation​)​ ฌาน​สมาบัติ​เพียวๆล้วนๆที่มีแต่จิตเพียวๆล้วนๆอันเป็น​สุดยอด​ความรู้สึ​กของจริง​ที่สุดเพียวๆล้วนๆโดยตรงที่ไม่มีการใช้จิตคิดนึกกำหนดจิตอธิษฐานจิตเอาสิ่งต่างๆภายนอกมาเป็นอารมณ์​สมาธิในฌานขั้นต่างๆที่ต้องค่อยเป็นค่อยไป​ทีละขั้นๆแบบในฌานสมาบัติ​ทั่วไป​​เพราะเป็นฌานสมาบัติ​ของพระเจ้า​ที่จะเป็นฌานสมาบัติ​ที่มุ่งลัดตรง​พรวดเดียว​สู่​จุดหนึ่งอันเป็น​พระเจ้า​ที่เป็นภวังค์​อันแท้จริง​ระดับสูง​สุด​นั้นโดยตรงล้วนๆเพียงสิ่ง​เดียว​นั้นโดยวิธีทางสายกลาง(อันเป็น​ลักษณะ​การทำสมาธิของฌานที่เพ่งกสิณจนมีอารมณ์​เดียวสูงสุ​ดเป็นจุดเดียวเป็นเอกัคคตา​อารมณ์สมาธิได้ทั้งวัน​ทั้ง​คืน)​ได้อย่​​างง่ายๆรวดเร็ว​ฉับพลัน​ทันที ที่นี่เดี๋ยว​นี้เท่านั้น​(must​ only here&now)​ อันเป็นจุดเดียวของกาลเวลา​ที่สมดุล​สงบนิ่ง​หยุดนิ่ง​โดยไม่ต้องมีแม้แต่วินาที​เดียว​ให้ต้องรอนี่แหละ​(ไม่ต้องทนรอเข้าถึง​พระเจ้า​ในชาติหน้า​โลกหน้าหลังความตายโดยทนรอให้ร่างกาย​ค่อยๆตายเสียชีวิตจริงๆก่อนแต่อย่างใด​)​ จึงไม่จำเป็น​ต้องเสียเวลาพยายาม​อดทนถือศีลบำเพ็ญ​ตบะทรมานกามงดนอนงดอาหารงดเที่ยวต้องทนปวดเมื่อย​พยายามนั่งขัดสมาธิ​นิ่งๆให้ได้ทั้งวันทั้งคืน​เพื่อรักษา​ฌานไม่ให้เสื่อมแบบฌานทั่วไปที่ทำสมาธิเพ่งกสิณด้วยร่างกาย​วัตถุสสารนั้นแต่อย่างใด​ เพราะหากเป็นการนอนหลับ​-กินอาหาร​-ท่องเที่ยว​โดยทางสายกลาง​แล้วกลับยิ่งเสริมให้ฌานนี้มีพลังมากขึ้น​ ที่ถึงแม้จะมัวแต่นอนหลับ​-กินอาหาร-ท่องเที่ยว​โดยทางสายกลาง​เผลอบูชากามโดยทางสายกลาง​จนขาดสติฌานเสื่อมก็สามารถ​ทำฌานใหม่เข้าฌานใหม่ได้อย่างง่ายๆรวดเร็วทันที​ที่จะสามารถ​เข้าฌานหาความสุขสูงสุด​ในโลกหน้า​ และ​ บูชากามโดยทางสายกลาง​หาความสุขสูงสุด​ในโลกนี้หมุนเวียน​สลับกันไปมาเรื่อยๆได้โดยทางสายกลาง​, จึงทำให้สามารถ​ปฏิบัติ​เล่นโยคะสายกลาง​ร่วมกับวิถี​การใช้ชีวิต​ที่บูช​ากามอย่างเต็มที่แบบในยุคนี้​ได้​ อันจะเป็นพื้น​ฐาน​สู่อารยธรรมจักรวาล​ที่มีทั้งพลังจิตฌานสมาบัติการรู้แจ้ง​ที่สุขในโลกหน้า และ​ พลังร่างกาย​วัตถุสสารกามที่สุขในโลกนี้ได้สูงสุด​พร้อมกัน​ต่อไ​ป, ซึ่ง​ถือเป็น ​การปฏิบัติกระทำพื้นฐาน​ที่สุดที่ง่ายที่สุดเท่าที่​จะเป็นไปได้แต่สามารถ​ทำให้ได้ผลลัพท์​มหาศาล​สูงสุดเท่าที่​จะเป็นไปได้(maximum very​ easy​ work but​ maximum​ benifit value)​ เพราะสามารถทำให้เรากลายเป็นสิ่งสูงสุด​เป็น​พระเจ้า​ดวงวิญญาณ​สูงสุด​ที่เป็นอมตะนิรันดร์​ไม่ต้องเกิด​ แก่​ เจ็บ​ ตาย​อีกต่อไป​ได้ในที่สุด(เพราะแนวคิดนี้ถือว่าตัวเรานั้นโดยแท้​จริง​สูงสุด​แล้วเป็นหนึ่ง​เดียว​กับพระเจ้า​ด้วยความรักแท้​สากล​จักรวาล​สูงสุด​นั้นเรียบร้อย​แล้วตลอด​เวลา​ตาม​ธรรมชาติ​ไม่สามารถ​แยกออกจาก​พระเจ้า​ได้เลยไม่ว่าในกรณีใดๆก็​ตาม​ แต่ด้วยมายาสูงสุด​แห่ง​ความเกลียดที่แบ่งแยก​สิ่งต่าง​ๆออกจาก​กันจึงลวงหลอกทำให้เรา​รู้สึก​ว่าเราได้แยกออก​จากผู้อื่น​สิ่งต่าง​ๆรวมถึง​แยกออกจากพระเจ้า​ด้วยก็เท่านั้น​เอง, ดังนั้​น จึงไม่จำเป็น​ต้อง​มีการปฏิบัติ​กระทำอะไรมากมาย​ให้ยุ่งยาก​ลำบากเพียงแค่​ให้จิตของเรา​หลุดพ้น​โมกษะพ้นทุกข์​สูงสุ​ดจิตหยุดเครียด​คิดนึกปรุงแต่ง​วิเคราะห์​แบ่งแยกแยะตัวเราออกจากผู้อื่นสิ่งต่างๆนั้นอย่างสิ้นเชิง​ให้ได้ก็พอ​ แล้วเราก็จะสามารถ​เป็นหนึ่ง​เดีย​วกับพระเจ้า​ได้ฉับพลัน​ทันที​เองอัตโนมัติ​)​.​ นอกจากนี้​ยังถือเป็น​การปฏิบัติ​ที่ทำงานสูงสุด​ไปพร้อมๆกับการหยุดพักที่​พักผ่อน​นอนหลับ​สูงสุดไปด้วย​พร้อมกันหนึ่งเดียวกันในขณะเดียวกัน​ จึงถือเป็น​ การปฏิบัติ​ทำงานสูงสุด​เพื่อการพักผ่อนนอนหลับ​ที่ดีที่สุด(maximum working practic for​ the​ ​best​ of​ relaxion sleep​)​ ที่จะเป็นการหาความสุขสูงสุด​จากการนอนหลับพักผ่อนด้วยการพักผ่อนที่ดีที่สุด​ อันจะเป็น การนอนสายกลาง​(middle​ sleep​)​ ที่ไม่สุดโต่ง​เป็นการนอนหลับไหลหมดสติไม่รู้​สึกตัวอย่างชัดเจน​ และ​ การไม่ได้หลับอันเป็น​การตื่นที่ร่างกาย​มีสติรู้สึก​ตัวอย่าง​ชัดเจน,​ โดยที่ร่างกายจะรู้สึก​หลับสนิมหลับลึกอย่า​งที่สุดถึงระดับ​จิตวิญญาณ​ที่ลึกที่สุด​โดยการพักผ่อน​หลับตา​แล้วจิตไม่มีการเครียด​คิดนึกการฝันใดๆเคลื่อนไหว​ใดๆรู้ใดๆรับรู้​ใดๆกระทำใดๆรู้สึก​ใดๆสิ้นเชิง​ ที่แม้นอนสายกลาง​แค่แป๊บเดียวแว๊บ​เดียว​ได้จะสามารถพักผ่อนทั้งทางร่างกาย​ และ​ ทางจิตได้อย่างสูงสุด​พร้อมกัน​หนึ่งเดียว​กันจนร่างกาย​ และ​ จิตสามารถฟื้นคืนพลังมีความสุขในชีวิต​ประจำวันได้ทำให้ชีวิตมีคุณภาพพลังชีวิตมีความสุข​ และ​ ใจความรู้สึก​มีพลังเบิกบาน​มีความสุขด้วยพลังจากภายในที่ลึกที่สุดตามไปด้วย.​ ซึ่ง​โดยทางทฤษฎีหลักการ​แล้วการเล่นโยคะสายกลาง​นั้นมี​ การปฏิบัติ​กระทำเพียงขั้นตอน​เดียว​สเตปเดียวเท่านั้น​(just​ 1 step of​ practice action)​ คือ​​ การเพ่ง​กสิณจิต​อย่าง​สูงสุดโดยทางสายกลาง(maximum middle​ mind​ focus meditation)​ ​อันเป็น​การเพ่งกสิณจิตภายใน​อย่าง​สูงสุดเพื่อเพิ่มพลังให้จิตเป็น​กลาง​สมดุล​ตั้งมั่นสงบนิ่ง​หยุดนิ่งสูงสุด​ จิตมีพลังจิตสูงสุด​พลังสติ​สูงสุด​​จิตมีความสุขสูงสุด​ในโลกหน้าเพื่อให้ตัวเรามีพลังสูงสุด​มีความสุข​สูงสุดที่มีแต่จิตล้วนๆเพียง​จิต​เดียว​เท่านั้นสภาพรู้ล้วนๆเพียง​สภาพรู้เดียว​เท่านั้นการมีอยู่ดำรงอยู่ล้วนๆเพียงการมีอยู่ดำรงอยู่เดียว​เท่านั้นความสุข​ล้วนๆเพียง​ความสุขเดียว​เท่านั้นตัวเราล้วนๆเพียง​ตัวเราเดียวเท่านั้น​ตลอด​กาล,​ โดยจะเป็นการทำสมาธิกรรมฐานเพ่งกสิณจิตโดยตรงล้วนๆ(ซึ่ง​ถือเป็นมิติใหม่แห่ง​กรรมฐาน​การเพ่งกสิณระดับสูง​สุด​หนึ่ง​เดียว)​โดยทางสายกลาง​โดยเพ่งทำสมาธิสนใจโฟกัส​ตั้งใจ​มุ่งมั่น​แน่วแน่​จดจ่อ​แต่สิ่งที่ถูกเพ่งอันเป็น​จิตนั้นเพียงสิ่งเดียว​ล้วนๆเท่านั้นอย่างแรงกล้าโดยทางสายกลาง​จนจิตเกิดสมาธิ​ตั้งมั่นสงบนิ่งสมดุล​เป็นอารมณ์​​เดียวไม่ฟุ้​งซ่าน​วอกแวก​หวั่นไหว​แปรปรวน​กับสิ่งต่าง​ๆ​ อันเป็น​การปรับสมดุล​จิตแบบหยุดนิ่ง​รวดเร็ว​ฉับพลัน​ทันทีโดยการฝึกจิตทรมานจิตสะกดจิต​ตัวเองโปรแกรม​จิตตัวเอง​ให้จิตเดินทางสายกลางแทงทะลุ​ความสุดโต่ง​ของจิตอย่างรวดเร็ว​ฉับพลัน​ทันทีที่จะใช้วิธี​หนามยอกเอาหนามบ่งใช้จิตความคิดปรุงแต่ง​มายากำจัดตัวจิตความคิดปรุงแต่ง​มายาเองล้วนๆในระดับสามัญ​สำนึกธรรมดา​ๆที่มีจิตความคิดปรุงแต่ง​มายานี่แหละ​(เมื่อจิตความคิดปรุงแต่ง​ที่เสียสมดุลเคลื่อนไหวเครียดคิดนึก​ดิ้นรนทุรนทุราย​ทุกข์​ทรมานสูงสุ​ดตลอดเวลา​นั้นถูกกำจัดดับลงสูญสลาย​หายไปอย่างสิ้นซากได้ก็จะเหลือแต่จิตล้วนๆเพียง​จิต​เดียว​เท่านั้น​ที่สมดุลหยุดนิ่ง​สงบนิ่งสูงสุดด้วยความสุขที่แท้​จริง​สูงสุด​นั้นตามธรรมชาติ​อย่างฉับพลัน​ทันทีเองอัตโนมัติ)​โดย​ "เผชิญ​หน้า​กับความเครียด​ทางจิต​อันเป็น​สาเหตุ​หลัก​ของความความทุกข์นั้น​แบบตรงๆใน​ระดับ​สำนึกปกติ​ทั่วไปที่เราคุ้นเคย​ โดยการปรับสมดุลจิตแบบหยุด​นิ่งรวดเร็ว​ฉับพลัน​ทันที​ ที่จะทำจิตให้เป็นกลางสมดุล​สูงสุด​ระหว่าง​การรู้(มีการรู้การสังเกตุการณ์​อยู่)​ของจิต และ​ การไม่รู้(ไม่มีการรู้การสังเกตุการณ์​อยู่)ของจิต​ โดยให้ตัวเราอันเป็นจิตที่ไม่ใช่​ร่างกาย​นั้นแยกออกจากจิต​แยกออกจาก​ร่างกายแยกออกจากสิ่งต่าง​ๆทุกสิ่งทุกอย่าง​รวมถึง​ใจความ​รู้สึก​โดยทางสายกลาง​จนรู้สึก​ว่า​มีแต่ตัวเราล้วนๆเพียง​ตัวเราเดียว​เท่านั้น​ตลอด​กาล​ ​โดยให้จิต ถอดจิตทิพย์​(take​ off devine mind)​ ล่องหน​หายตัวหนีกลับสู่โลกหน้า​มิติแก่นแท้​สูงสุด​ของจิต(อันเป็น​พระเจ้า​นั้น)​ล้วนๆเพียง​มิติเดียวเท่านั้นอย่างสูงสุด​เพื่อให้จิตรู้สึก​ปลอดภัย​สูงสุด​ โดยการให้จิตหันย้อนกลับ​มาสนใจแต่ตัวจิตเองล้วนๆเพียง​จิต​เดียว​เท่านั้นอย่างสูง​สุด​โดยทางสายกลาง​โดยตั้งสติ​รวมพลังจิตทั้งหมดให้​ ตัวเราโดยทางสายกลาง​อันเป็น จิตสายกลาง​(middle​ mind)​ ซึ่ง​เป็น​จิตวิเศษ​จิตทิพย์​อันเป็น​ จิตตัวรู้(knowing​ mind)​ หรือ​ ตัวสติ(mindfulness)​ ที่เป็นจิตของเรา​ที่เป็น จุดดวงวิญญาณ​(soul​ point)​ อันเป็น​ผัสสะ​บริสุทธิ์​การรู้บริสุทธิ์​ว่างเปล่า​ไร้รูปที่กำลังสมดุล​สงบนิ่ง​หยุดนิ่งรู้สึก​ตัวรู้ตัวรู้อยู่​เฉยๆอันเป็น การรู้สายกลาง(middle​ knowing)​ กึ่งรู้กึ่งไม่รู้ที่จะว่ากำลังรู้ในสิ่งต่างๆอยู่​ก็ไม่ใช่​ และ​ ไม่รู้ในสิ่งต่างๆอยู่ก็ไม่ใช่ ที่เป็นทางรอด​ช่องโหว่จุดสปาร์ค​จุดสัมผัส​กระทบกันระหว่างจิต​ และ​ ร่างกาย​อยู่ในบริเวณ​ตำแหน่ง​ จุดขณะปัจจุบัน(now​ point)​ อันเป็นจุดศูนย์กลาง​ศูนย์​รวมพลังทั้งหมดที่เป็นจุดสมดุลหยุดนิ่งมั่นคง​ปกติ​ของจิต​(ที่จะเป็น​จุด​กึ่งกลาง​ทางกาลเวลา​ระหว่างอดีต​ และ​ อนาคต​ของจิตสุดโต่งที่กำลังเสียสมดุล​ดิ้นรน​เคลื่อนไหว​แบ่งแยกคิดนึกปรุงแต่ง​ถึงสิ่งต่างๆเรื่องราว​ต่างๆในอดีต​ที่ผ่านไปแล้ว​ และ​ ในอนาคต​ที่ยังมาไม่ถึง​อย่างชัดเจน​สุดโต่ง​ อันเป็นจิตความคิดปรุงแต่งมายาของเราในกระแสกาลเวลา​เชิงเส้นที่เครียด​คิดนึกปรุงแต่ง​อย่างฟุ้งซ่าน​ขาดสติไม่รู้​สึก​ตัวนั้น​)​นั้นสนใจเพ่งกสิณมุ่งเป้า​โฟกัสสนใจเพ่งรู้แต่ตัวจิตตัว​รู้​เองล้วนๆเพียงจิตตัว​รู้​เดียว​เท่านั้นอย่างสุดจิตสุดใจสุดแรงสุดพลัง​ของ​เรา(เหมือน​กับ​ว่าร่างกาย​ของ​เรากำลังทุกข์​เจ็บปวด​ทรมานอย่างรุนแรงรวดเร็ว​สุดขีดด้วยความโกรธ​เกลียด​สิ่งต่าง​ๆอันเป็น​ซาตาน​นั้นอย่างสูงสุด​จนทนไม่ไหว​ขาดใจตายในนรกมายาขุมที่ลึกที่สุดที่รู้สึก​ว่าไม่อยากมองอยากเห็นอยากดูอะไร​อีกต่อไป-ไม่อยากคิดนึกอยากเข้าใจอยากรู้​อะไร​อีกต่อไป​-ไม่อยากมีชีวิต​อยากทำอยากลุถึงอะไรอีกต่อไป​-ไม่อยากรู้สึก​อะไรอีกต่อไปอย่างสิ้นเชิง​ที่ต้องการ​หนีให้พ้น​ไปจากทุกสิ่งทุกอย่างอันเป็น​ซาตาน​มารสัตว์​นรกนั้นเพื่อ​กลับคืนสู่พระเจ้า​ล้วนๆแต่เพียง​สิ่ง​เดียวเท่านั้น)​ เพ่งอย่างรวดเร็ว​ฉับพลันทันที​ที​ เพ่งอย่างใหม่สดในจุดขณะปัจจุบันเฉพาะ​หน้าตรงนี้ตอนนี้​ที่นี่​เดี๋ยว​นี้เท่านั้น​ ​เพ่งให้ต่อเนื่อง​ยาวนานเท่าที่​เราจะ​ทำได้..."หรือ​ สั้นๆย่อๆได้ว่า​ "ปรับสมดุลจิตแบบหยุด​นิ่งรวดเร็ว​ฉับพลัน​ทันที​ ให้ตัวเราอันเป็นจิตที่ไม่ใช่​ร่างกาย​นั้นแยกออกจากจิต​แยกออกจาก​ร่างกายแยกออกจากสิ่งต่าง​ๆทุกสิ่งทุกอย่าง​รวมถึง​ใจความ​รู้สึก​โดยทางสายกลาง​จนรู้สึก​ว่า​มีแต่ตัวเราล้วนๆเพียง​ตัวเราเดียว​เท่านั้น​ตลอด​กาล​ โดยให้จิตถอดจิตทิพย์​ล่องหน​หายตัว​หนีกลับสู่โลกหน้ามิติแก่นแท้​สูงสุด​ของจิต(อันเป็น​พระเจ้า​นั้น)​ล้วนๆเพียง​มิติเดียวเท่านั้น​อย่างสูงสุด​เพื่อให้จิตรู้สึก​ปลอดภัย​สูงสุด​ โดยการให้จิตหันย้อนกลับ​มาสนใจแต่ตัวจิตเองล้วนๆเพียง​จิต​เดียว​เท่านั้นอย่างสูง​สุดโดยทางสายกลาง​โดยตั้งสติรวมพลังจิตทั้งหมดให้ตัวเราอันเป็นจิตสายกลาง​จิตตัวรู้​​​จุดดวงวิญญาณ​นั้นสนใจเพ่งกสิณมุ่งเป้าโฟกัสสนใจเพ่งรู้แต่ตัวจิตตัว​รู้​เองล้วนๆเพียงจิตตัว​รู้​เดียว​เท่านั้นอย่างสุดจิตสุดใจสุดแรงสุดพลัง​ของ​เราในจุดขณะปัจจุบันเฉพาะหน้า​ตรงนี้ตอนนี้​ที่นี่​เดี๋ยว​นี้เท่านั้น​..." ที่อาจสรุปให้สั้นๆย่อๆที่สุดสำหรับผู้ชำนาญอย่างดีแล้วว่า "ตั้งสติ​รวมพลังจิตทั้งหมดให้ตัวเราอันเป็นจิตสายกลาง​จิตตัวรู้​​​จุดดวงวิญญาณ​นั้นสนใจเพ่งกสิณมุ่งเป้า​โฟกัสสนใจเพ่งรู้แต่ตัวจิตตัว​รู้​เองล้วนๆเพียงจิตตัว​รู้​เดียว​เท่านั้นอย่างสุดจิตสุดใจสุดแรงสุดพลัง​ของ​เราในจุดขณะปัจจุบันตรงนี้​ตอนนี้​ที่นี่​เดี๋ยว​นี้เท่านั้น​..." (ที่เป็นการเพ่งกสิณจิตอย่างสูงสุด​โดยทางสายกลาง​ หรือ​ การเพ่งกสิณจิตสายกลาง​จิตตัว​รู้​จุดดวงวิญญาณ​อย่างสูงสุด​ที่เหมือนกับเราเป็น พ่อมด(wizard)​ ที่กำลังเพ่งลูกแก้ววิเศษ​อันเป็นจิตสายกลาง​จิตตัวรู้จุดดวงวิญญาณ​นั้นโดยสนใจเพ่งแต่ตัวลูกแก้ว​วิเศษ​ล้วนๆจนลูกแก้ว​วิเศษ​นั้นมีฤทธิ์​ส่องแสง​สว่างจ้าแผ่ขยาย​ครอบคลุม​ไปทั่วทั้งจักรวาล​ อุปมาเปรียบเหมือนกับว่าเรากำลังบังคับควบคุมพระจันทร์​สี​เงิน​ให้ส่องแสงย้อนกลับ​เข้าไปยังตัวพระจันทร์​สีเงินเองล้วนๆเท่านั้น​อย่างสูง​สุด​จนรู้สึก​ว่ามีแต่แสงอันสว่างจ้าสูงสุด​ของพระจันทร์​สี​เงินล้วนๆเท่านั้น​ไม่รู้สึกว่ามีตัวพระจันทร์​สีเงินอีกต่อไป​). ซึ่ง​จะเหมือน​กับเป็นการทำ สปาจิต(mind​ spa)​ ด้วยตัวเองโดยทางสายกลาง​อย่างง่ายๆรวดเร็ว​ฟรีที่จะให้ตัวเราอันจิตสายกลาง​จิตตัว​รู้​จุดดวงวิญญาณ​นั้นได้ชำระล้างจิตให้บริสุทธิ์​เปลื้องจิตลงไปแช่ตัวชุบตัวแทรกตัวอยู่ในพระเจ้า​อันเป็น​ดวงวิญญาณ​สูงสุดซุปเปอร์​จิต​ดุจสายน้ำมหาศาลของมหาสมุทร​แห่งดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์อันไร้ขอบเขต​ขีดจำกัดนั้น​ ที่จะเป็นการฟื้นคืนพลังให้ตัวเราโดยชาร์จพลังอันเป็น​พลังวิเศษพลังแห่งสายน้ำมหาศาล​ทางจิตวิญญาณ​จากพระเจ้าโดยตรง, ซึ่งจะเหมือน​ การโทรจิตติดต่อ​สื่อสาร​เชื่อมโยง​สัมพันธ์​กับพระเจ้า​โดยตรง(direct telepathy​ to​ conect with​ God)​ โดยทางสายกลาง​ที่เราจะใช้จิตของเรา​โทรติดต่อ​สื่อสาร​เชื่อมโยง​สัมพันธ์​กับพระเจ้า​ชีว่าพระเจ้า​พระบิดาโดยตรงล้วนๆด้วยจิตของเรา​เองล้วนๆเพียง​จิต​เดียว​เท่านั้น​โดยทางสายกลาง​โดยไม่ต้องผ่านใครอะไรสิ่งใด​มาเป็นสื่อกลางตัวกลาง​ทั้งสิ้นแม้แต่​กับจิตความคิดปรุงแต่ง​ของเรา​เองก็ตาม​, ​อันจะเป็นการปฏิบัติแบบ รักแต่พระเจ้าอย่างสุดจิตสุดใจสุดแรงสุดพลัง(maximum love​ God)​ หรือ​ แบบให้ตัวเรารักแท้แต่กับตัวเราเองล้วนๆอย่างสุดจิต​สุดใจสุดแรงสุดพลัง, โดยให้ตัวเราเองหันมาสนใจรักแท้แต่ตัวเราเองหันมาเอาจริง​เอาจังสนใจแต่ตัวเราเองล้วนๆเท่านั้น​อย่างสุดจิตสุดใจสุดแรงสุดพลัง​ จนกลายเป็นตัวเราเองจริงๆ​อย่างถึงที่สุดที่จะกลับคืนมาเป็นตัวเราเองที่แท้จริง​สูงสุด​ที่เป็นพระเจ้าอันเป็น​ความรักแท้สากล​จักรวาล​สูงสุด​ที่มีพลังสูงสุด​มีความสุข​สูงสุด​นั้นเหมือนเดิมตลอดไปเพื่อให้เกิดการชำระจิตให้บริสุทธิ์น้อมจิต​เปลื้องจิตถอดจิตทิพย์​ล่องหนหายตัวแทรกตัวเข้าสู่พระเจ้าชีว่าพระเจ้า​พระบิดาอันเป็น​มิติแก่นแท้​สูงสุด​ของจิตที่สมดุล​สงบนิ่ง​หยุดนิ่งอย่าง​แท้จริง​สูงสุด​นั้นอย่างรุนแรงรวดเร็ว​ฉับพลัน​ทันทีเพื่อชาร์จ​พลังวิเศษ​จากพระเจ้า​นั้นโดยตรง, โดยพร้อมกันนั้นก็จะส่งผลทำให้​เรารู้สึก ​โกรธ​เกลียดผู้อื่น​สิ่งต่างๆทุกสิ่งทุกอย่าง​อย่างสุดจิต​สุดใจสุดแรงสุดพลัง(maximum hate everything)​ ตามไปด้วยเองอัตโนมัติ​ ​ที่จะรู้สึก​ว่าอตัมมยตาสูงสุด​อันเป็น​ การเข็ดหลาบ​กับความทุกข์ที่​จบสิ้น​กันทีสิ้นสุด​กันทีพอแล้ว​พอกันทีไม่เอาอีกแล้วไม่ยอมอดทนต่อไปอีกแล้ว​อย่างสุดขีด​(maximum ​enough ended)​ ด้วยความโกรธ​เกลียด​สูงสุด​ที่จะไม่ยอมโง่เขลา​ยอมทนอ่อนข้อ​ใจอ่อนเมตตา​ปราณีให้ใครอะไรสิ่งใด​อันเป็น​ซาตาน​มารสัตว์​นรกต่างๆอันเป็น​มารศัตรู​ของเรา​นั้นมาลวงหลอกทำร้ายทำอันตราย​ตัวเราอยู่ทุกวันๆซ้ำแล้ว​ซ้ำเล่าแบบนี้ได้อีกต่อไปแล้ว​แม้แต่อนุภาค​เดียว​ในวินาทีเดียว​ ไม่อ​ยากต้องการ​รับรู้​-รู้-มีชีวิตมีการกระทํา​-มีใจความ​รู้สึก​กับใครอะไร​สิ่งใดให้ทุกข์​เจ็บ​ปวด​ทรมาน​อีกต่อไป​อย่างสิ้นเชิงตลอด​กาล รู้สึก​ว่าโลกนี้จักรวาล​นี้เป็นโลกเป็น​จักรวาล​ของซาตาน​มารสัตว์​นรกที่ชั่วร้ายสกปรกต่ำทรามสารเลวเกินกว่าที่เราจะอาศัยอยู่ร่วมกับมัน​ได้อีกต่อไป​แม้แต่​อนุภาค​เดียวในวินาทีเดียว​ อยากทำลายล้างกำจัดสังหารฆ่าทุกอย่าง​ที่ขวางหน้าให้หมดสิ้นไม่ให้เหลือแม้แต่​ซาก อยากหลุดพ้น​โมกษะพ้น​ทุกข์​สูงสุด​ไปจากทุกสิ่งทุกอย่าง​อันเป็นนรกมายาขุมที่ลึกที่สุดที่ชั่วร้ายสูงสุดของซาตาน​มารสัตว์​นรกนี้ตัดขาดเป็นอิสระไม่เกี่ยว​ข้อง​ยุ่งเกี่ยว​สัมพันธ์​สัมพัทธกับใครอะไรสิ่งใด​อีกตลอดกาล​ ที่จะต้องหลุดพ้นโมกษะพ้นทุกข์​สูงสุด​ที่นี่​เดี๋ยว​นี้เท่านั้​นอดทนรอไม่ได้แล้วจะไม่มีที่ไหนเวลาไหนให้ต้องรออีกแล้วแม้แต่อนุภาค​เดียว​ในวินาทีเดียว​, ซึ่งจะทำให้​จิตทนไม่ไหว​อยากถอดจิตทิพย์​ล่องหน​หายตัว​หนีกลับสู่มิติ​แก่นแท้​สูงสุด​ของจิต​เองโดยการเดินจิตบนทางสายกลาง​แทงทะลุความสุดโต่ง​ของจิตมุ่งสู่มิติ​แก่นแท้สูงสุด​ของจิต(อันเป็น​พระเจ้า​นั้น)​ล้วนๆอย่างรวดเร็ว​ฉับพลัน​ทันที​ ที่จิตจะ ผูกพันแต่ตัวเอง(self​ adjoint)​ ล้วนๆ(เหมือนจิตกำลังส่องกระจก​เพ่งดูแต่ภาพสะท้อน​ของตัวจิตเองล้วนไม่ใจอย่างอื่นเลย)​โดยที่จิตตัว​รู้​จะสนใจเพ่งรู้แต่ตัวจิตตัว​รู้​เองล้วนๆเพียงจิตตัว​รู้​เดีย​วเท่านั้นที่จิตจะไม่มีการรู้​ไม่มีการรับรู้กับสิ่ง​ต่าง​ๆอย่างสิ้นเชิงอย่างสุดความสามารถที่จิตจะสนใจโฟกัสเพ่งรู้แต่จิตสายกลางจิตตัวรู้จุดดวงวิญญาณ​ที่กำลังสมดุล​สงบนิ่ง​หยุดนิ่ง​อยู่ในขณะปัจจุบัน​ตอนนี้​ที่นี่​เดี๋ยว​นี้เท่านั้น​อยู่นั้นอย่างสูงสุดเพื่อให้เกิดเป็นความสมดุลสงบนิ่ง​หยุดนิ่ง​ได้อย่าง​สูงสุ​ดจนจิตกลายเป็น​จิตหนึ่งอันเป็น​พระเจ้า​ดวงวิญญาณ​สูงสุด​ซุปเปอร์​จิตพระจันทร์​สีเงินที่ส่องแสง​สว่างจ้า​สูงสุด​นั้นที่แม้จะส่องแสง​สว่างจ้า​สูงสุด​แค่แว๊บเดียวฉับพลัน​ทันที​โดยไม่กินเวลาใดๆแม้แต่วินาที​เดียว(เพราะเรา​จะรู้สึก​ว่านอกจากจิตหนึ่ง​จิตล้วนๆเพียง​จิต​เดียว​เท่านั้น​แล้วไม่มีใครอะไรสิ่งใดสามารถ​เข้าถึง​ลุถึงบรรลุเสวยผลรู้สึก​ถึงใครอะไรสิ่งใดได้เลยอย่างสิ้นเชิงแม้แต่อนุภาค​เดียว​ในวินาทีเดียว)นั้นก็เพียงพอ​ที่จะเป็น​ ตลอดกาลนิจนิรันดร์​อย่างแท้จริง​สูงสุด​(ultimate​ real​ forever) ที่จะหยุดนิ่ง​คงที่อยู่​อย่างนั้นเองตลอด​ไปอย่างไร้ขอบเขต​ขีดจำกัดสิ้นเชิง​ ที่จะรู้สึก​ว่าเวลาหยุดเดิน-โลกหยุดหมุน-จักรวาล​หยุดเคลื่อนไหว​สิ่งต่างๆสูญสลายหายไปสิ้นเชิง​อย่างฉับพลัน​ทันทีเองอัตโนมัติ​, ที่จิตจะไม่เสียสมดุลดิ้นรน​เคลื่อนไหว​ส่งจิตออก​ไปรู้ไปรับรู้ผู้อื่นสิ่งต่างๆภายนอกจิตอย่างสิ้นเชิงตามธรรมชาติ​เองอัตโนมัติอย่างฉับพลัน​ทันที​ ที่จะทำให้จิตอันเป็นจิตความคิดปรุงแต่งมายา​ของเราที่กำลังเครียด​คิดนึกดิ้นรน​เคลื่อนไหว​เสียสมดุล​นั้น​จะ กำจัดสังหารฆ่าตัวเองอย่างสิ้นซากอัตโนมัติอย่างฉับพลัน​ทันที(sudden automatic self-kill)​ ในระดับสามัญ​สำนึกธรรมดา​ๆที่มีจิตความคิดปรุงแต่ง​มายานี่แหละที่จิตความคิดปรุงแต่ง​มายาจะสูญสลายหายไป​อย่างสิ้นเชิงไม่เหลือแม้แต่ซาก​อย่างฉับพลัน​ทันทีตามธรรมชาติ​เองอัตโนมัติ(เหมือนกับว่าเกิดสายน้ำมหาศาลของมหาสติสูงสุด​มหาสมุทร​แห่งดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์​นั้นได้พัดพาทำลายล้างคลื่นพลังงาน​จิตความคิด​ปรุงแต่ง​อย่างหมดสิ้นอย่างรุนแรง​รวดเร็ว​ฉับพลัน​ทันที​)​จนกลายเป็นจิตหนึ่งที่สมดุล​สงบนิ่ง​หยุดนิ่งได้อย่าง​แท้จริง​สูงสุดเป็นมิติองค์​รวมเอกภาพความเป็นหนึ่งเดียวที่แท้จริง​สูงสุด​ของสรรพสิ่ง​, โดยที่จิตห​นึ่ง​อันปราศจากจิต​ความคิดปรุงแต่ง​มายาสิ้นเชิงที่สามารถกำจัดสังหารเอาชนะจิตความ​คิดปรุงแต่งมายาได้อย่างสูงสุด​เองตามธรรมชาติ​นี้จะเป็น​​จิตสายกลาง​จิตตัว​รู้จุดดวงวิญญาณ​ที่บริสุทธิ์​สูงสุดที่เป็นชีว่าพระเจ้า​พระบิดาจะเป็นเทพเจ้า ​ผู้สังเกตการณ์​ที่แท้จริง​สูงสุด​(ultimate​ real​ observer)​ จากต่างมิติเหนือโลกเหนือจักรวาล​เหนืออวกาศ​-เวลา​ ผู้เป็นดุจ ดวงตาสูงสุด​แห่งสวรรค์(ultimate​ eye of​ heaven)​ ที่เป็นการรู้สากลจักรวาล​อันแท้จริง​สูงสุด​ที่ไร้ขอบเขต​ขีดจำกัดใดๆสิ้นเชิง​ อันเป็น​สัพพัญญู​ผู้รู้เห็น​ในทุกสิ่งทุกอย่าง​แต่ตัดขาด​เป็น​อิสระไม่เกี่ยว​ข้อ​งยุ่งเกี่ยว​สัมพันธ์สัมพัทธกับใครอะไรสิ่งใดใน​โลก​ใน​จักรวาล​ในอวกาศ​-เวลาอย่าง​สิ้นเชิง.​ อันเป็นจิต​ที่มีพลังอำนาจสูงสุด​เพียงจิตเดียว​เท่านั้นไม่มีจิตอื่นใดหรืออะไรสิ่งใด​นอกจาก​นี้อีกต่อไปอย่างสิ้นเชิง​ในรูปของมหาสติสูงสุดภวังค์​อันแท้จริง​ระดับสูง​สุดที่เป็น​ดวงวิญญาณ​สูงสุด​ที่​เป็นรูปอมตะที่แท้จริงสูงสุด​ที่เปิดเผยเรียบง่ายสูงสุด​ที่ปราศจาก​รูปร่างลักษณะมายาที่ลึกลับซับซ้อน​ต่างๆสิ้นเชิงในลักษณะ​ของจุด​แสงอันสว่างจ้า​อย่างแท้จริง​สูงสุด​ของการตรัสรู้​การรู้แจ้ง​การตื่นรู้ที่แท้จริง​สูงสุดอันเป็นตัวเราที่แท้จริง​สูงสุด​​อันเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์​ที่แท้จริง​สูงสุด​ที่จะเป็น​พระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นเทพเจ้า​สูงสุด​เทพเจ้า​สากลจักรวาลสูงสุด​ที่ปราศจาก​ตัวตนปรุงแต่​งมายาเฉพาะส่วนตัวสิ้นเชิงนั้น,​ ​ที่เราจะรู้สึก​เหมือนกับว่าตัวเราอันเป็นจิตสายกลาง​จิตต​ั​วรู้จุดดวงวิญญาณ​ที่สามารถรู้ได้ในขอบเขตขีดจำกัดหนึ่งๆนั้นได้หายไปอย่างสิ้นเชิ​งกลายเป็นจิตที่มีพลังจิตสูงสุด​พลังสติสูงสุด​ในรูปของแสงของจุดแสงที่ส่องแสง​สว่างจ้า​ไปทั่วทั้งจักรวาล​อย่างไร้ขอบเขต​ขีดจำกัดใดๆทั้งสิ้น​จึงไม่รู้สึกว่ามีอวกาศ-เวลาใดๆอีกต่อไป​ตลอดกาล(ที่จะรู้สึก​เหมือนกับว่าร่างกาย​ของเรา​มีแสงสว่าง​รัศมีแห่งการตรัสรู้​การรู้แจ้​งการตื่น​รู้แผ่ซ่านเป็นวงรัศมีออกจากศรีษะของเรา​แผ่ขยาย​ไปยังรอบๆตัวอยู่ตลอดเวลา​)​เพราะว่าเมื่อจิตของเรา​สมดุลได้อย่างสูงสุด​นั้นจิตจะกลายเป็นหนึ่ง​เดียว​กับพระเจ้า​อันเป็นจุดศูนย์กลาง​สูงสุด​ของจักรวาลที่จะทำให้การรู้การสังเกตุ​การณ์​ของเรากลายเป็นการรู้สากลจักรวาล​ที่แท้จริง​สูงสุด​อันไร้ขอบเขต​ขีดจำกัดใดๆสิ้นเชิง​ที่จะเป็น​ การรู้แบบเรดาร์สูงสุด​(maximum​ radar know)​ ที่จะแผ่รัศมี​เรดาร์​แผ่รังสีแสงสว่างการรู้จากจุดศูนย์กลาง​สูงสุด​ไปทั่วทั้งจักวาลในทุกจุดพร้อมกันหมดในทีเดียว​ที่จะทำให้แผ่รัศมี​ออกไปรอบๆอย่างทุกทิศทาง​เท่าเทียมกัน​หมดที่รู้ทุกสิ่งทุกอย่าง​ได้ทีเดียว​พร้อม​กันหมดในเวลาเดียวคือจุด-ปัจจุบั​นที่แท้จริง​สูงสุด​นั้นที่จะพลิกจากเดิมที่รู้ได้ทีละสิ่งทีละอย่าง​ทีละขณะจากขณะจิตหนึ่งไปยังอีกขณะจิตหนึ่ง​ไปเรื่อยๆตลอดเวลา​นั้นไปอย่างสิ้นเชิง​เองอัตโนมัติ​ ที่เราจะรู้สึ​กปลอดภัย​สูงสุดหมดปัญหา​คำถามความเครียด​ความทุกข์​ต่างๆอย่างสิ้นเชิงตามธรรมชาติ​จากส่วนลึกที่สุด​ของจิตใจ​ของเราเองอัตโนมัติ​ว่า​ "ไม่มีการเกิด แก่​ เจ็บ​ ตาย​ใดๆเลยอย่างสิ้นเชิง, ทั้งหมดทั้งปวงไม่ได้มีอะไรเลยไม่ได้เป็นอะไรเลยอย่างสิ้นเชิง​นอกจาก​พระเจ้าอันเป็นดวงวิญญาณ​สูงสุด​ซุปเปอร์​จิตสิ่งสูงสุด​ความเป็นที่หนึ่งสูงสุด​ตลอดกาล​ที่เป็นโลกหน้ามิติแก่นแท้​สูงสุด​ของ​จิตอันเป็น​ตัวเรา​ที่​แท้จริง​สูงสุดอันเป็น​จิตล้วนๆเพียง​จิต​เดียวเท่านั้น​สภาพรู้ล้วนๆเพียง​สภาพรู้เดียว​เท่านั้นการมีอยู่ดำรงอยู่ล้วนๆเพียงการมีอยู่ดำรงอยู่เดียว​เท่านั้น​ความสุขล้วนๆเพียง​ความสุขเดียว​เท่านั้น​ตัวเราล้วนๆเพียง​ตัวเราเดียวเท่านั้น​ตลอดกาล​ นอกจากพระเจ้าแล้วก็มิได้รู้สึก​ว่ามีซาตานมารสัตว์​นรกใครอะไรสิ่งใดตั้งอยู่​ดำรงอยู่​ให้เราสามารถ​เข้าถึง​ลุถึงบรรลุเสวยผลรู้สึก​ถึงได้เลยอย่างสิ้นเชิง​แม้แต่อนุภาคเดียวในวินาที​เดียว... "(ซึ่ง​จะเป็น ​การขอบคุณ​พระเจ้า(thank​ for​ God​)​ เป็น​การแผ่เมตตา​ให้กับตัวเราเองที่รอดพ้นจากความทุกข์​มายาสูงสุด​แห่ง​ความเกลียดที่เราจะรู้สึก​ปลอดภัย​สูงสุด​ไม่มีซาตาน​มารสัตว์​นรกใครอะไรสิ่งใด​สามารถ​ทำร้ายทำอันตรายตัว​เราได้อีกต่อไป​อย่างสิ้นเชิง​ด้วยพลังอำนาจสูงสุด​ของความรักแท้สากล​จักรวาล​สูงสุ​ดองค์​รวมเอกภาพความเป็นหนึ่งเดียวที่แท้จริง​สูงสุด​ของสรรพสิ่งของพระเจ้า​ชีว่าพระเจ้า​พระบิดานั้น​ ที่จะแผ่ขยายรัศมี​อนุภาพแห่งความรักแท้​สากล​จักรวาล​สูงสุด​ของพระเจ้าอันเป็นความเมตตา​กรุณา​ปราณีสูงสุด​ของพระเจ้า​ที่ทรงให้อภัย​ยินดี​พร้อมรับความรักของเรายินดีอ้าแขน​รับเราเข้าสู่​ อ้อมกอดของพระเจ้า(God​ hug)​ ชีว่าพระเจ้า​พระบิดาด้วยความรักแท้สูงสุด​ตลอดเวลาโดยไม่มีเงื่อนไข​ผลประโยชน์​ใดๆสิ้นเชิ​งนั้นให้รัศมีแผ่ขยายออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุ​ดให้รุ่งเรือง​สูงสุด​ประกาศครอบคลุม​ไปทั่วทั้งสากลจักรวาลอย่างไร้ขอบเขตขีดจำกัด​), จึงทำให้เรามองว่าสิ่งต่างๆสิ่งปรุงแต่ง​มายาต่างๆอันเป็นรูปธรรม​นามธรรม​ทั้งหมด​ทั้งปวง​ในโลกใน​จักรวาลในอวกาศ​-เวลาในขณะที่​เรากำลังอยู่ในมิติแก่นแท้​สูงสุด​ของจิตที่กำลังกลายเป็น​พระเจ้า​นั้นว่าล้วนเป็น​ ภูติผี​วิญญาณ​ภาพลวงตา​ความฝันมายาการรู้มายาเฉพาะ​ส่วนตัว​ที่เคลื่อนไหวเคลื่อนที่​สูงสุด​อย่างไม่ต่อเนื่อง​ตลอด​เวลาในกระแสกาลเวลามายา(all​time​ maximum​ shif motion individal illusion know)​ ที่เป็นเพียงการรู้มายาความคิดปรุงแต่ง​ลวงจิต-การรับรู้มายาภาพลวงตา​ประสาทสัมผัส​ลวงกาย-การกระทำมายาเรื่อ​งราวเหตุการณ์​สัมพัทธภาพ​ความสัมพันธ์​การเล่นเกม​ส์แสดงละครมายาลวงชีวิต-ความรู้​สึกมายาอารมณ์​ความรู้สึก​มายาลวงใจอันเป็น​เฉพาะตัว​ที่เป็น​ส่วนตัวเหมือนภูติผีวิญญาณในฝันมายาเสมือนจริงที่ไม่มีตัวตนไม่มีชีวิต​ที่ล่องลอย​ในมิติอวกาศ​ที่ล้วนเสียสมดุลเคลื่อนไหว​เคลื่อนที่​ดิ้นรนอย่างสูงสุดในมิติกระแสกาลเวลามายาที่ไม่ต่อเนื่อ​งก้าวกระโดด​จากวินาที​หนึ่งไปยังอีกวินาทีหนึ่งอยู่ตลอดเวลาที่ไม่มีอะไรสิ่งใด​สามารถ​หยุดนิ่งจริงๆได้เลย​แม้แต่​อนุภาค​เดียว​ในวินาที​เดียว​ในกระแสกาลเวลามายานั้น​ ที่ปราศจากการรู้สากลจักรวาล​อันแท้จริง​สูงสุด​ที่เป็นสากลสาธารณะ​ที่ทุกสิ่งทุกอย่าง​มีส่วนรู้ร่วม​อย่างยุติธรรม​เท่าเทียมกัน​หมดอันเป็นการมีอยู่ดำรงอยู่อย่างแท้จริง​สูงสุดที่สมดุล​หยุดนิ่งสงบนิ่งสูงสุด​แบบจิตหนึ่งองค์​รวมเอกภาพความเป็นหนึ่งเดียวที่แท้จริง​สูงสุด​ของสรรพสิ่ง​นั้นได้อย่างสิ้นเชิง​, จึงล้วน​เป็น​ ความขาดสูญ​ไม่ต่อเนื่องไม่​มีอยู่อย่างแท้จริง​สูงสุด(ultimate​ real​ none-continuity none-existence)​ ที่ล้วนเป็นโมฆะ​เหมือนไม่เคยมีใครอะไรสิ่งใด​เคยเกิดขึ้น​มาเลยจึงว่างเปล่า​ขาดสูญไม่มีอะไรเลย​ไม่ต่อเนื่อง​ไม่มีอยู่ไม่ตั้งอยู่​ไม่ดำรงอยู่ไม่มีตัวตนอยู่ไม่มีชีวิต​อยู่ไม่มีความรู้สึ​กอยู่ไม่มีการเคลื่อนไหว​ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆอย่างสิ้นเชิงตลอด​กาล, ที่จะเป็น ความลึกลับ​ที่แท้จริง​สูงสุด​(ultimate​ real​ mystery)​ ที่เป็นสิ่งลี้ลับ​สูงสุด​ที่ไม่อาจพิสูจน์​เปิดเผยให้เราสามารถ​รับรู้ใดๆ-สามารถรู้​ใดๆ-สามารถ​ปฏิบัติกระทำการ​ใดๆ-สามารถ​รู้สึก​ใดๆกับมันได้เลยอย่างสิ้นเชิงแม้แต่อนุภาคเดียวในวินาที​เดียว, จึงล้วนเป็น การนิโรธ​ดับไม่เหลืออย่างแท้จริง​สูงสุด(ultimate​ real​ end-suffering)​ ที่ดับสนิทสูงสุด​หลับสนิทสูงสุด​ตายสนิทสูงสุด​ปราศจาก​ความทุกข์​สิ้นเชิงอย่างยุติธรรม​เหมือนกัน​หมดเท่าเทียมกันหมดที่ไม่มีใครอะไรสิ่งใดอะไรนิโรธ​ดับไม่เหลืออย่างแท้จริง​สูงสุด​แตกต่าง​มากน้อยไปกว่ากันไปได้เลยนั้นเรียบร้อย​แล้ว​ตาม​ธรรมชาติ​ของ​มันเองในทุกกรณีโดยไม่ต้องทำอะไรกับมันเลยแม้แต่อนุภาคเดียวในวินาที​เดียว​ ที่ล้วนเป็นเพียงสูญญตา​อันเป็นความว่าง​ที่แท้จริง​สูงสุด​ที่ปราศจาก​กาลเวลาสิ้นเชิงที่ว่างจากทั้งความมีอยู่​ และ​ ความไม่มีอยู่อย่างสิ้นเชิงตลอด​กาลที่ไม่มีอะไรสิ่งใด​ตั้งอยู่​ดำรงอยู่เลยแม้แต่อนุภาคเดียวในวินาทีเดียว​,​ จึงเป็นสิ่งที่ไม่สำคัญอย่างสิ้นเชิง​ ไม่จำเป็น​อย่างสิ้นเชิง ไม่มีพลังอำนาจ​อย่างสิ้นเชิง ไม่มีคุณค่า​ความหมายอย่างสิ้นเชิง​ ไม่น่าสนใจอย่างสิ้นเชิง​ตลอด​กาล, จึงทำให้จิตของเรา​นิโรธ​ดับทุกข์​สิ้นเชิง​กลายเป็น นิพพาน(nirvana)​ ที่จิตนิโรธ​หมดความอยากความต้องการ​หมดกิเลสตัณหา​อย่างแท้จริง​สูงสุด​ถึงระดับลึกที่สุดที่จะหมด ความอยากรู้(want​ to​ know)​ สิ้นเชิง​ ที่จิตจะไม่ต้องการ​อยากเสียสมดุล​เคลื่อนไหว​ดิ้นรน​ส่งจิตออก​ไปอยากรู้ไปอยากรับรู้ผู้อื่นสิ่งต่างๆสิ่งปรุงแต่ง​มายาต่างๆใครอะไรสิ่งใด​ภายนอกจิตอย่างสิ้นเชิงตามธรรมชาติ​อย่างฉับพลัน​ทันทีเองอัตโนมัติ​ จิตจึงพร้อมที่จะสมถะสูงสุดด้วยอตัมมยตาสูงสุดที่จะปฏินิสสัคคะ​ สลัดทิ้ง​ทุกสิ่งทุกอย่างอย่างสูง​สุด​(maximum throw​ off​ everthing)​ ตัดขาดเป็นอิสระ​จากทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นซาตานมารสัตว์​นรกเพื่อ​หนีกลับคืน​สู่​พระเจ้า​ชีว่าพระเจ้า​พระบิดาอันเป็น​แก่นแท้​สูงสุด​ของจิตอันเป็น​เหมือนการบูชายัญอย่างสูงสุด​กำจัดฆ่าสังหารซาตาน​มารสัตว์​นรกบาปความชั่วร้ายทั้งปวงเพื่อถวายแก่พระเจ้าชีว่าพระเจ้า​พระบิดา​นั้นเพื่อ​ให้เหลือเพียงแต่จิตล้วนๆเพียง​จิต​เดียว​เท่านั้น​ตลอด​กาลเองอัตโนมัติ​โดยไม่รู้สึกว่ามีการสลัดทิ้ง​ใครอะไรสิ่งใด​เลยอย่างสิ้นเชิ​งแม้แต่อนุภาค​เดียว​ในวินาที​เดียว​เพราะเราจะรู้สึก​ว่าไม่มีใครอะไรสิ่งใดสามารถ​เข้าถึง​ลุถึงบรรลุเสวยผลรู้สึก​ถึงใครอะไรสิ่งใดได้เลยอย่างสิ้นเชิงแม้แต่อนุภาค​เดียว​ในวินาทีเดียวจึงไม่รู้สึกว่าเสียดายใครอะไรสิ่งใด​เลยอย่างสิ้นเชิ​งแม้แต่อนุภาค​เดียว​ในวินาที​เดียว​ ที่จิตจะ​รู้​สึกหลุดพ้น​โมกษะพ้นทุกข์​สูงสุด​สบายสูงสุด​ไม่รู้สึกทุกข์​อีกต่อไป​อย่างสิ้นเชิง. ซึ่ง​เพียงเราสามารถ​หลุดพ้น​โมกษะพ้นทุกข์​อย่างแท้จริง​สูงสุด​ให้ได้เท่านั้น​เราก็จะสามารถ​พบกับความสุขที่แท้​จริง​สูงสุด​ได้ทันที​เองอัตโนมัติ​ไม่ต้องดิ้นรนหาความสุขที่แท้​จริง​นั้น​แต่อย่างใด​, ​ที่การเพ่งกสิณจิตสายกลาง​อย่างสูง​สุด​นี้จะเป็น​การปฏิบัติเพื่อนิโรธ​ดับทุกข์​สิ้นเชิง​ที่ต้นเหตุ​เพื่อใช้เป็นมรรควิธีวิถี​ทางสำหรับต่อสู้​ป้องกัน​กำจัดจิตความคิดปรุงแต่งมายา​ที่ฟุ้งซ่าน​ขาดสติเครียดวิตกกังวล​คิดมาก​กับ​สิ่ง​ต่าง​ๆด้วยมายาสูงสุด​แห่งความเกลียดที่เป็นอวิชชาความไม่รู้​อย่างแท้จริง​สูงสุด​อันเป็น​ต้นเหตุแห่งทุกข์​นั้นโดยตรง​โดยทางสายกลางเพราะเมื่อจิตความคิดปรุงแต่ง​มายาเกิดขึ้น​สิ่งต่างๆก็เกิดขึ้นความทุกข์​ต่างๆก็เกิดขึ้น​ และ​ เมื่อจิตความคิดปรุงแต่ง​มายาดับลงสิ่งต่างๆอันเป็นผลนั้นย่อมดับลงความทุกข์​ทั้งปวง​ย่อมดับลงไปตามไปด้วยทันทีเองอัตโนมัติ​ "ที่เราคิดนึกเพราะเราไม่รู้​ เพราะเราไม่รู้เราจึงคิดนึก​ เราจึงต้องเครียด​ฟุ้งซ่าน​วิตกกังวล​คิดมาก​กับ​สิ่ง​ต่าง​ๆอยู่​ตลอดเวลา​, ​ถ้าเรารู้แจ้งแล้วเราก็จะไม่คิด​นึก ที่เราไม่คิดนึกก็เพราะเรารู้แจ้งแล้ว​ เราจึงไม่เกิดปัญหา​คำถามคำตอบที่อาจเป็นไปได้​ต่างๆที่ขัดแย้ง​สับสน​ยุติไม่ได้อยู่ร่ำไป​นั้น, ที่เราทุกข์ก็เพราะเราคิดนึกเราส่งจิตไปรู้มันจนรู้สึก​ว่ามันมีอยู่ ถ้าเราไม่คิดนึกเราไม่ส่งจิตไปรู้มันเราก็ไม่รู้สึกว่ามันมีอยู่เราก็ไม่ทุกข์, ยิ่งถ้าเราให้จิตสนใจรู้แต่ตัวเองล้วนๆให้จิตเป็นกลางสมดุล​ระหว่าง​การรู้ และ​ การไม่รู้จนจิตตรัสรู้​รู้แจ้งตื่นรู้อย่างแท้จริง​สูงสุด​จนจิตไม่คิดนึกอย่างสิ้นเชิง​ไม่ส่งจิตไปรู้มันอย่างสิ้นเชิง​เราก็ไม่รู้สึกว่ามันมีอยู่อย่างสิ้นเชิง​เราก็ไม่ทุกข์อย่างสิ้นเชิงมีแต่สุขล้วนๆตลอดกาล, เมื่อเราขาดสติไปมัวแต่คิดนึกรู้สึก​ว่าผู้อื่นมีอยู่ตัวเราก็หายไปไม่มีอยู่​ แต่ถ้าเรามีสติรู้สึก​ตัวอยู่รู้สึก​ว่าตัวเรามีอยู่ผู้อื่นก็จะหายไปไม่มีอยู่​ ซึ่ง​เมื่อเรามีพลังสติสูงสุดจิตมีความสุขสูงสุด​มีแต่ตัวเราเองล้วนๆตลอดกาล​ผู้อื่นที่เป็นความทุกข์​ทั้งปวง​ก็หายไปอย่างสิ้นเชิงทันที​เองอัตโนมัติ​..."​​. ​อันจะเป็น​ เจโตวิมุติแบบฉับพลันทันที​(sudden mind​ release)​ ที่เป็นการหลุดพ้น​โมกษะพ้นทุกข์​สูงสุด​ด้วยการซาโตริรู้แจ้ง​ตรัสรู้​ฉับพลัน​ด้วยตัวจิตเองล้วนๆอย่างรวดเร็วฉับพลัน​ทันที​​โดยที่จิตตัว​รู้​จะสนใจเพ่งรู้แต่ตัวจิตตัว​รู้​เองล้วนๆเพียงจิตตัว​รู้​เดีย​วเท่านั้นที่จิตจะไม่มีการรู้​ไม่มีการรับรู้กับสิ่ง​ต่าง​ๆอย่างสิ้นเชิง, ที่จะเป็น​การปฏิบัติ​สายกลาง​ที่เดินทางสายกลาง​มุ่ง​ลัดตรง​สู่​พระเจ้า​ชีว่าพระเจ้า​พระบิดาที่สามารถเกิดพลังจิตสูงสุดพลังสติสูงสุ​ด​บรรลุ​มรรคผลสำเร็จผลสูงสุดในโลกหน้าตั้งแต่เริ่มต้นปฏิบัติ​อย่างฉับพลัน​ทันทีที่นี่เดี๋ยว​นี้เท่านั้นในขณะที่สามารถ​ทำได้นั้นเรียบร้อย​แล้ว(เพราะจะรู้สึก​ว่าไม่มีใครอะไรสิ่งใดสามารถ​เข้าถึง​ลุถึงบรรลุเสวยผลรู้สึก​ถึงใครอะไรสิ่งใดได้เลยอย่างสิ้นเชิงแม้แต่อนุภาค​เดียว​ในวินาทีเดียว​)​ จากนั้นจึงค่อยๆปฏิบัติ​ไปเรื่อยๆแบบค่อยเป็นค่อยไป​เพื่อค่อยๆเก็บ​เกี่ยวผลของการปฏิบัติ​ที่จะส่งผลต่อร่างกาย​-จิต-ชีวิต-ใจความรู้สึก​ของเรา​ในโลกนี้ต่อไปเรื่อยๆอย่างต่อเนื่อง​นั้นไปจนถึงสุดท้ายที่สุดของชีวิตของเรา​ในโลกนี้ที่ดูเหมือนว่า​จะมีบารมีกลายเป็นพระเจ้า​เพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกวันๆเท่านั้น​เอง, ​โดยการปฏิบัติ​จะเป็น​การเพ่งจิตแบบสายกลาง​ที่จะแทงทะลุผ่านจิตนั้นล้วนๆโดยทางสายกลาง​ที่ตัวจิตสายกลางจิตตัว​รู้​จุดดวงวิญญาณ​​อันเป็น​จุดศูนย์กลาง​ศูนย์​รวมพลังทั้งหมดจุดสมดุลหยุดนิ่งมั่นคง​ปกติ​ของจิตนั้นที่จะลัดตรงพรวดเดียว​สู่พระเจ้า​อย่างฉับพลัน​ทันที​ที่นี่เดี๋ยว​นี้เท่านั้น​ เพื่อชุบตัว​ชาร์จ​พลังวิเศษ​จากพระเจ้าชีว่าพระเจ้า​พระบิดา​ เพื่อเสวยสุขวิเศษ​สุขทิพย์​บริสุทธิ์​วิมุติสุข​บรมสุข​ให้บริสุทธิ์​ละเอียด​ถึงขีดสุดโดยทางสายกลาง​ ที่จะค่อยๆส่งผลทำให้ชีวิต​ในโลกนี้ของเราสามารถ​มีร่างกาย​-มีจิต-มีชีวิต​-มีใจความรู้สึก​ที่ดีที่สุด​​เท่าที่​จะ​เป็นไปได้แบบองค์​รวม​โดยทางสายกลางตามไปด้วย​เองอัตโนมัติ, ​ โดยการปฏิบัติ​จะเป็นลักษณ​ะของ​​การพยายาม​มีสติหาตัวเราอันเป็น​จิตสายกลาง​จิตตัว​รู้​​จุดดวงวิญญาณ​อันจะเป็น​ จิตสากล(universal​ body)​ ของเรา​ที่จะเป็น​ ธาตุรู้แห่งความสุข(happiness​ knowing element)​ ที่ปราศจาก​ความทุกข์​เจ็บ​ปวดทรมานปราศจากความคิดนึกเฉพาะส่วนตั​วอันเป็นความเครียด​ความทุกข์​อันเป็น​ สวรรค์​ทางจิต(heaven​ of​ mind)​ ที่เป็นเหมือนขุมทรัพย์​ทางจิตวิญญาณ​ที่ให้คนฉลาดเลือกที่จะกอบโกยความสุขที่ลอยอยู่​ตรงหน้า​ได้อย่างง่ายๆได้อย่างเต็มที่​ฟรีๆทุกที่ทุกเวล​าที่​ต้องการ​นั้นให้เจอในขณะปัจจุบัน​ตอนนี้​ที่นี่เดี๋ยว​นี้เท่านั้น​ให้ได้ด้วยตัวเราเองล้วนๆก่อน​ ​ซึ่ง​เมื่อเจอแล้วจึงให้อดทน​ตั้งใจ​แน่วแน่ในการทำสมาธิเพ่งกสิณรวมพลังจิตของเรา​ทั้งหมดที่มีอยู่นั้นที่จะให้ส่งพลังรวมไปสนใจให้ตัวเราจิตสายกลาง​จิตตัว​รู้​​จุดดวงวิญญาณ​นั้นเพ่งกสิณมุ่งเป้าโฟกัส​สนใจเพ่งรู้แต่ตัว​จิตสายกลางจิตตัว​รู้​จุดดวงวิญญาณ​​นั้นล้วนๆเพียงจิตตัว​รู้​เดียวเท่านั้นอย่างเต็มที่​เต็มกำลังสูงสุ​ดสุดจิตสุดใจสุดแรงสุดพลังของ​เราอย่างรวดเร็ว​ฉับพลัน​ทันที​อย่าง​ใหม่สดในจุดขณะปัจจุบันเฉพาะ​หน้าตรงนี้ตอนนี้​ที่นี่​เดี๋ยว​นี้เท่านั้น​ให้ต่อเนื่อง​ยาวนานเท่าที่​เราจะสามารถ​จะทำได้(ซึ่ง​ควรใช้เวลาในการเพ่งกสิณแต่ละครั้งให้ยาวนานไม่ต่ำกว่า​ 1 ชั่วโมง​ขึ้นไป​ เพราะเราควรใช้เวลากับการปฏิบัติ​ที่สำคัญที่สุด​เพื่อเข้าถึงสี่งที่สำคัญที่สุดตรงนี้ให้คุ้มค่า​ที่สุดเท่าที่​จะ​ทำได้)​ ที่ต้องเพ่งแบบทุ่มสุดตัวแบบยอมมอบกายถวาย​ชีวิตได้

 

​ที่รู้สึก​เหมือน​กับว่ากำลังรู้สึก​โกรธ​เกลียด​อย่างรุนแรง​สุดขีดที่โกรธ​เกลียดสิ่งต่างๆอย่างสุดจิต​สุดใจ​ที่รู้สึก​ว่าตายเป็นตายทนไม่ไหวแล้วพอกันทีไม่เอาแล้วทนอยู่ร่วมโลกร่วมจักรวาล​กับสิ่ง​ต่า​งๆที่ชั่วร้ายฝ่ายอธรรมฝ่าย​ศัตรู​ของพระเจ้า​ที่โทษทัณฑ์​สมควรตายต้องตายสถานเดียวนั้นไม่ได้อีกต่อไ​ปแล้ว​ต้องการอยากทำลายล้างกำจัดสังหารฆ่าทุกอย่างที่ขวาง​หน้า​ให้สิ้นซากจนไม่เหลือแม้แต่อนุภาค​เดียว​ในวินาที​เดียว​ ที่ต้องรู้สึ​กทุกข์​สุดขีดเจ็บปวด​ทรมานจนทนไม่ไหว​ขาดใจตาย​จนมองเห็น​อะไรไม่ได้-คิดนึกอะไรไม่ได้-ทำอะไรไม่ได้-รู้สึก​อะไรไม่ได้อีกต่อไป, ที่ต้องมุ่งมั่น​ตั้งใจเพ่งอย่างแน่วแน่มั่นคง​ราวกับว่าทั้งจักรวาล​ตอนนี้มีแต่จิต​ตัว​รู้​ที่จุดขณะปัจจุบั​นนี้เพียงสิ่ง​เดียว​จุดเดียวเท่านั้นที่เป็นจุดหนึ่ง​เป็นอะตอมดึกดำบรรพ์จุดสำคัญสูงสุด​จุดศูนย์กลาง​สูงสุด​ศูนย์​รวมพลังทั้งหมด​ของจักรวาลอันสูงสุดอันเป็น​จุดสมดุลหยุดนิ่งมั่นคง​ปกติ​อย่างแท้จริง​สูงสุด​ของจักรวาล​เพียงจุดเดียวเท่านั้นที่ตั้งอยู่​ดำรงอยู่ตลอดกาล​ จนรู้สึก​เหมือนกับว่าสิ่งต่างๆสูญสลาย​หายไปหมดสิ้น​ไม่มีอะไรสิ่งใดให้ต้องดู-ให้ต้องคิด-ให้ต้องทำ-ให้ต้องรู้สึก​อีกต่อไป.​ โดยพยายามมุ่งมั่น​ตั้งใจ​แอคทีฟ​กระตือรือร้น​ให้มีสมาธิแน่วแน่มั่นคง​มุ่งสนใจเพ่งโฟกัสแต่เพียงจิตตัว​รู้​เพียง​จิตตัว​รู้​เดียว​เท่านั้นอย่างรุนแรง​ฉับพลัน​ทันที​อย่างใหม่สดแบบวินาทีต่อวินาทีในขณะปัจจุบัน​ตอนนี้​ที่นี่เดี๋ยว​นี้เท่านั้นโดยมีเป้าหมาย​ชัดเจน​มุ่งตรง​สู่​พระเจ้า​เพียงสิ่ง​เดียว​เท่านั้นด้วยความรักแต่พระเจ้า​อย่างสุดจิตสุดใจ ไม่ต้องวอกแวก​หวั่นไหว​ไปสนใจอะไรสิ่งใดอย่าง​อื่น​ทั้งสิ้น​ ​ให้เหมือน​ลืมโลกลืมจักรวาล​ไม่ต้องสนใจอะไรสิ่งใดอย่างอื่นมากมาย​หลากหลาย​ในโลกใน​จักรวาลทั้งสิ้น​อีกต่อไปชั่วคราว​ก่อน​ช่างหัวมัน​ไปก่อน จนรู้สึก​เหมือน​กับว่าความคิดของเรา​กับสิ่งต่างๆนั้น​หายไปอย่างฉับพลัน​ทันทีจนเหลือแต่จิตล้วนๆที่เป็นตัวสติ​ หรือ​ จิตตัว​รู้​ล้วนๆที่จะทำให้จิตมีพลังสติอย่างสูงสุด​ขึ้นมาที่จะทำให้เกิดการชำระจิตให้บริสุทธิ์​น้อมจิตเปลื้องจิต​ถอดจิตเข้าสู่​พระเจ้าอันเป็นดวงวิญญาณ​สูงสุด​มหาสติสูงสุด​ที่เต็มไปด้วย​ดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์​อย่าง​สูงสุด​นั้นเองอัตโนมัติ​เพื่อสามารถ​ชุบตัวชาร์จ​พลังวิเศษ​จากพระเจ้า​ได้อย่างง่ายๆในเวลาอันรวดเร็วฉับพลัน​ทันทีที่นี่เดี๋ยว​นี้เท่านั้น​, ซึ่ง​จะส่งผลทำให้ร่างกาย​ของ​เราเหมือนกับว่าจะทนไม่ไหวเกิดอาการ​ช๊อคอย่างรุนแร​งสุดขีด​หยุดเคลื่อนไหว​หยุดหายใจทำอะไรไม่ได้อีกต่อไป​ต้องหลับตาปี๋พร้อมขมวดบีบหัวคิ้ว​อย่างรุนแรงสุดขีด(เพื่อบีบช่วงโฟกัสการเพ่งให้ตรงจุดให้ลึกละเอียดขึ้นเรื่อยๆให้จิตตัว​รู้​ค่อยๆละเอียด​ชัดเจน​ขึ้นเรื่อ​ยๆ)​ตามไปด้วยเองอัตโนมัติ​ ​จนรู้สึก​ว่าตาทั้งสองข้าง​บอดสนิทมองไม่เห็น​อะไรสิ่งใดที่เป็นมายาภาพลวงตาประสาทสัมผัส​ลวงกายอีกต่อไป. ที่อาจอุปมาเหมือนกับว่าเราเป็นเกมเมอร์นักล่าขุมทรัพย์​ที่กำลังเล่นเกม​ส์ล่าขุมทรัพย์​ที่กำลังพยายาม​ใช้พลังทั้งหมด​เล็งไปที่เป้าหมาย​จุดสุดยอด​รางวัล​แจ๊คพอตจุดเดียว​ของอภิมหาขุมทรัพย์​ที่แท้จริง​สูงสุดนั้นให้แม่นยำตรงเป้า​ตรงจุดตรงเป๊ะ​ที่สุดให้ได้แล้วรางวัลแจ๊คพอตสูงสุด​ก็จะเป็นของเรา​เองในที่สุ​ด... 

 

 

      โดยการเล่นโยคะสายกลาง​การเพ่งกสิณจิตสายกลาง​จิตตัว​รู้​จุดดวงวิญญาณ​อย่างสูงสุด​​โดยที่จิตตัว​รู้​จะสนใจเพ่งรู้แต่ตัวจิตตัว​รู้​เองล้วนๆเพียงจิตตัว​รู้​เดีย​วเท่านั้นที่จิตจะไม่มีการรู้​ไม่มีการรับรู้กับสิ่ง​ต่าง​ๆอย่างสิ้นเชิงจนจิตโมกษะสูงสุดพ้นทุกข์​สูงสุด​เป็นอิสระ​จากทุกสิ่งทุกอย่าง​กลายเป็น​หนึ่งเดียว​กับพระเจ้า​อย่างฉับพลัน​ทันที​จนสามารถ​ชาร์จ​พลัง​วิเศษ​จาก​พระเจ้า​ได้นั้นถือว่าเป็น เทคนิคการต่อสู้ที่ชาญฉลาด​ที่สุด(the​ best​ of​ smart fight technique)​ ที่จะเป็น​การแกล้งยอมแพ้หนีศัตรู​ให้เก่งที่สุดหนีจากทุกสิ่งทุกอย่าง​ให้ได้ก่อนแค่ในช่วง​แรกๆก่อน ด้วยการหนีทางจิต(mind​ escape)​ ที่หนีด้วยจิตล้วนๆไม่มีการหนีด้วยร่างกาย​อย่างสิ้นเชิง​ ที่จิตจะหนีกลับสู่มิติแก่นแท้​สูงสุด​ของ​จิตเองอันเป็น​มิติวิเศษ​สูงสุด​มิติที่แท้จริงสูงสุด​ของตัวเราอันเป็น​พระเจ้าที่ปลอดภัย​อย่างแท้จริง​สูงสุด​นั้นเพื่อหนีไปตั้งหลัก​ก่อนเมื่อตั้งหลักได้แล้วก็จะได้รับพลังวิเศษ​จากพระเจ้า​ ที่เมื่อกลับมาต่อสู้​ใหม่ก็จะสามารถ​มีพลังวิเศษ​เอาชนะในการต่อสู้​ได้เองในที่สุด("เมื่อเราต้องเผลอหลับไหลขาดสติในโลกประสาทสัมผัส​มายานั้นเราได้ถูกผู้อื่นสิ่งต่างๆสิ่งปรุงแต่ง​มายาต่าง​ๆมากมายมหาศาล​รุมทำร้ายทำอันตราย​เราให้ทุกข์​ทรมานด้วยกิเลส​ตัณหา​ความโกรธ​เกลียด​(ผลักออกอยากพ้นทุกข์​)​-ความโลภ​รัก(ดึงเข้าอยากได้ปิติสุข)​-ความหลงไหล(ค้างคาอยากสุขสงบ)​อยู่ตลอดเวลาจนทำให้เราต้องวนเวียน​ล้มเหลว​พ่ายแพ้​เกิด​ แก่​ ​เจ็บ​ ​ตายมายา​อยู่ร่ำไปอย่างเลี่ยง​ไม่ได้​, แต่เพียงแค่​เราสามารถตั้งสติ​มีสติหาตัวเราเองให้เจอค้นพบตัวเราเอง​แล้วหนีกลับมายังที่ของ​เราโลกของเรา​เองมิติของเรา​เองล้วนๆที่มีแต่ตัวเราเองล้วนๆเพียง​ตัวเราเดียว​เท่านั้น​ได้แล้วเราก็จะรู้สึก​ปลอดภัย​สูงสุด​ทันทีเองอัตโนมัติ​ เพราะที่นี่ไม่มีผู้อื่นใครอะไรสิ่งใด​มาทำร้ายทำอันตราย​เราได้ทั้งนั้น​ เ​ราจึงรู้สึกเป็นใหญ่สูงสุด​มีพลังอำนาจสูงสุด​รุ่งเรือง​สูงสุด​ที่ไม่มีใครเทียบเท่า​ได้​ ที่ที่แห่ง​นี้​จะเป็นที่ของเราโลกของเรา​มิติของเรา​ตลอดไปชั่วนิรันดร์​อย่างมั่นคงสูงสุด​ตลอดกาล​, จึงไม่มีที่ไหนจะปลอดภัย​สูงสุด​ได้เท่ากับพระเจ้าชีว่าพระเจ้า​พระบิดา​อีกแล้ว​ ไม่มีใครอะไรสิ่งใด​ที่เราสามารถ​ไว้วางใจ​ได้เท่ากับพระเจ้าชีว่าพระเจ้า​พระบิดาอีกแล้ว, ที่ไม่ว่าในโลกมายาเงื่อนไข​ผลประโยชน์​ใครจะรัก​ หรือ​ เกลียด​จะทำร้ายทำอันตราย​เรา​แค่ไหนยังไง​ก็​ตาม แต่พระเจ้า​ชีว่าพระเจ้า​พระบิดายังคงอ้าแขนยินดีต้อนรับเราให้หนีกลับสู่พระเจ้า​ด้วยอ้อมกอด​แห่งความรักแท้สากลจักรวาล​สูงสุด​อยู่เสมอโดยปราศจากเงื่อนไข​ผลประโยชน์​ใดๆสิ้นเชิง​ เมื่อเราอยู่ในอ้อมกอด​ของพระเจ้าชีว่าพระเจ้า​พระบิดาที่จะคุ้มครอง​ดูแลเราให้พร​เราอย่างดีที่สุด​ที่จะไม่มีใครอะไรสิ่งใดสามารถ​ทำร้ายทำอันตราย​เราได้อีกต่อไปอย่างสิ้นเชิง​ ที่เราจะชุบตัว​ชาร์จ​พลังจนทำให้เรารู้สึก​อุ่นใจสบายใจปลอดภัย​สูงสุด​ รุ่งเรือง​สูงสุด​ มั่นคงสูงสุด​ด้วยรักแท้สากล​จักรวาล​สูงสุด​ของพระเจ้าชีว่าพระเจ้า​พระบิดาที่​จะทำให้เราชนะทุกอย่างประสบความสําเร็จ​ทุกอย่าง​ในที่สุด​...")​, โดยจะเป็น การทำจุดขณะปัจจุบัน​เฉพาะ​หน้าตรงนี้ตอนนี้ที่นี่เดี๋ยว​นี้เท่านั้น​ให้ดีที่สุดโดยวิธีทางสายกลาง​(make​ ​now​-point to​ the​ best​ by​ middle​ way​ method​)​ ให้จุดขณะปัจจุบันบริสุทธิ์​ละเอียด​มีพลัง​อำนาจสูงสุด​โดยทางสายกลาง​จนกลายเป็นพระเจ้าชีว่าพระเจ้า​พระบิดาที่เป็นสภาวะสายกลาง​ที่แท้จริง​สูงสุดอันเป็น​จุดหนึ่งจุด-ปัจจุบัน​ที่แท้จริง​สูงสุดที่ละเอียด​บริสุทธิ์​สูงสุด​นั้นได้อย่างง่ายๆรวดเร็ว​ฉับพลัน​ทันที โดยการเพ่งกสิณจิตสายกลาง​อย่าง​สูงสุด​เพื่อการเพิ่มพลังให้จิตมีพลังจิตสูงสุด​พลังสติ​สูงสุด​นี้จะเป็นการตั้งสติ​รวมพลังจิต​ทั้งหมดให้ตัวเราอันเป็​นจิตสายกลางจิตตัว​รู้​จุดดวงวิญญาณ​​​​นั้นเพ่งกสิณมุ่งเป้า​โฟกัส​สนใจเพ่งรู้แต่ตัวจิตตัว​รู้​เองล้วนๆเพียงจิตตัว​รู้​เดียว​เท่านั้นอย่างสุดจิตสุดใจสุดแรงสุดพลัง​ของ​เราเพื่อ​ชุบตัวชาร์จ​พลังวิเศษ​จากพระเจ้าเพื่อเสวยสุขวิเศษ​สุขทิพย์บริสุทธิ์​วิมุติสุข​บรมสุข​ให้ถึงขีดสุด​ ที่จะสามารถ​ทำให้ร่างกาย​ และ​ จิตของเรามีพลังสูงสุด​พร้อมกัน​หนึ่งเดียว​กัน​ โดยในการเริ่มต้น​จะทำให้ร่างกาย​เนื้อหนัง​ปรุงแต่งมายา​ และ​ จิตความคิดปรุงแต่ง​มายาของเราหยุดนิ่ง​ดับหายไปพร้อมกัน​หนึ่งเดียวกันได้อย่างสูงสุดเองฉับพลัน​ทันทีอัตโนมัติโดยทางสายกลาง​นั้นก่อน​(ที่จะทำให้ชีวิต​ปรุงแต่ง​มายา​และ​ ใจความรู้สึกปรุงแต่ง​มายาของเรากับสิ่งต่าง​ๆ​ดับหายไปตามไปด้วยอัตโนมัติ​ได้อย่างสูงสุด​เองฉับพลัน​ทันทีด้วย​ จึงทำให้เรา​รู้สึก​ว่าได้รับการพักผ่อนนอนหลับ​อย่างสูงสุดโดยองค์รวมที่จะรู้สึก​ว่าไม่มีร่างกาย​-ไม่มีจิต-ไม่มีชีวิต​-ไม่มีใจความรู้สึก​ใดๆอีกต่อไป​อย่างฉับพลัน​ทันที​ ที่จะรู้สึก​ว่าสิ่งต่างๆสิ่งปรุงแต่ง​มายาต่างๆทั้งหมด​ทั้งปวงดับหายไปไม่เหลืออะไรสิ่งใดเลยอย่างสิ้นเชิง​นอกจากแก่นแท้​สูงสุด​ที่เป็​นพระเจ้าอันเป็นมิติที่แท้จริงสูงสุด​ของตัวเรา​ หรือ​ ตัวเรา​ที่​แท้จริง​สูงสุด​นั้นล้วนๆ​เพียงสิ่ง​เดียว​เท่านั้น​อย่างฉับพลั​นทันทีเองอัตโนมัติ​ เราจึงสามารถ​ชาร์จ​พลังวิเศษ​จากพระเจ้าอันเป็นความสุขสูงสุด​ในโลกหน้านั้นได้อย่างง่ายๆรวดเร็ว​ฉับพลัน​ทันที​ สามารถ​ชาร์จ​ได้อย่างเต็มที่​เต็ม​กำลังสูงสุดไปได้เรื่อยๆแล้วแต่กำลังการเพ่งของเรา​)​ , โดยพร้อมกันนั้นก็จะเป็นการทำให้เกิดผลการปฏิบัติ​เป็น​ ประสบการณ์​ตรงของจริง​ระดับสากลฉับพลัน​(sudden universal real​ direct experience)​ กับสุขวิเศษ​สุขทิพย์บริสุทธิ์​วิมุติสุข​บรมสุข​ที่เป็น​ ความรู้สึก​ตรงของจริงอันสัมบูรณ์​ระดับสากลที่สามารถ​เชื่อได้(belive​able universal absolute real​ direct feeling​)​ ที่เบิกบานแผ่ซ่าน​โพล่งตรงมาออกมา​เองอย่างฉับพลัน​ทันทีจากภายในที่ลึกที่สุดล้วนๆอย่างสัมบูรณ์​ในตัวเองที่ไม่ขึ้นกับอะไรสิ่งใด​ภายนอกทั้งสิ้นรวมถึงไม่ขึ้นกับความคิดนึกใดๆด้วย​,​ ที่จะเป็น​ พลังงานวิญญาณ​บริสุทธิ์​(pure​ spirit energy)​ ของพระเจ้า​ในรูปของ​ ความรู้สึก​ปิติสุขเสียวซาบซ่าน​สดชื่นตื่นตัวเหนือโลก(super​ awake​refreshing feeling​)​ ของร่างกาย​ในปัจจุบัน(ที่จะพลิกรู้สึก​ว่าไม่มีร่างกาย​) ซึ่งความรู้สึกปิติสุขเสียวซาบซ่าน​สดชื่นตื่นตัวของร่างกายที่ไม่เคยพบไม่เคยรู้สึกมาก่อนกับร่างกาย​ในโลก​อันเป็น​สุขวิเศษ​สุขทิพย์​บริสุทธิ์​วิมุติสุขบรมสุขที่เกิดขึ้นมานี้ถือว่าเป็น​ ของขวัญของรางวัล​อันแท้จริง​อันดับ​แรกจากพระเจ้า(first​ real​ gift prize from​ God)​ ที่เราสมควรได้รับ​ ที่จะเป็นสัญญานแสดงว่าเราสามารถเริ่มชาร์จ​พลังวิเศษ​จากพระเจ้าได้แล้ว​ ร่างกาย​ของ​เราเริ่มมีพลังวิเศษ​แล้ว ซึ่งยิ่งเราเพ่งนานเท่าไหร่​ก็จะยิ่งเกิดความปิติสุขเสียวซาบซ่าน​สดชื่นตื่นตัวเหนือโลกมากเท่านั้น, ​โดยหากเราต้องการสมาธิให้มีพลังตั้งมั่น​ถึงระดับฌานสมาบัติ​ที่สามารถแสดงอิทธิฤทธิ์​ปาฏิหาริย์เหนือมนุษย์​ได้แล้วเราควรจะต้องเล่นโยคะใน​ ท่านั่งขัดสมาธิ​โยคะ(squart yoga​ posture)​ อันเป็นท่าโยคะอริยาบถสายกลาง​ที่นั่งได้อย่างสมดุล​ทรงพลัง​สามารถ​นั่งทำสมาธิสมดุลสงบนิ่ง​หยุดนิ่งในฌานได้ทั้งวัน​ทั้งคืนได้อันเป็นท่าที่นิยมในการนั่งสมาธิ​ทั่วไ​ปนั้นแล้วหลับตาเพ่งกสิณจิตสายกลาง​อย่างตั้งใจมุ่งมั่น​มีสมาธิ​แน่วแน่​มั่นคง​สนใจเพ่งโฟกัสสนใจรู้แต่ที่จิตตัว​รู้​ล้วนๆเพียงจิตตัว​รู้​เดียวเท่านั้น​อย่างใหม่สดในขณะปัจจุบัน​ตอนนี้​ที่นี่​เดี๋ยว​นี้เท่านั้นโดยไม่มีแม้แต่​วินาที​เดียว​ให้ต้อง​รอนั้น ไม่ต้อง​วอกแวก​หวั่นไหวกับอะไรสิ่งใดไม่ว่าจะเป็นเสียงใดๆจากภายนอก-ความรู้สึ​กใดๆจากภายใน​-ภาพนิมิต​ใดๆจากภายในก็ตามให้สักแต่ว่า "​รู้แล้วปล่อยๆให้มันผ่านมาแล้วก็ผ่านไปเรื่อยๆของมันเองไม่ต้อง​ไปสนใจอะไรกับมันมาก, ไม่ต้องไปสนใจอะไรมากมาย​หลากหลาย​สิ่งที่เราสนใจมีสิ่งเดียวก็คือจิตสายกลางจิต​ตัว​รู้​จุดดวงวิญญาณ​​เท่านั้น,​พยายามทำจิตสายกลางจิตตัว​รู้​จุดดวงวิญญาณ​​ให้บริสุทธิ์​ถึงที่สุดจนเป็นพระเจ้า​ดวงวิญญาณ​สูงสุด​​ให้ได้ก็พอ..." ที่ต้องมีสติรู้ตัวอยู่เสมอว่าสิ่งที่เราสนใจเพ่งมีอยู่สิ่งเดียวเท่านั้น​คือจิตสายกลางจิตตัว​รู้​จุดดวงวิญญาณ​ ที่เมื่อมีสติกลับมาแล้วให้รีบเพ่งที่จิตสายกลางจิตตัว​รู้​จุดดวงวิญญาณ​จุดเดิมจุดขณะปัจจุบั​นต่อเหมือนเดิม​ทันที. ซึ่ง​เมื่อยิ่งเพ่งเราจะรู้สึก​ว่า​จิตสายกลางจิตตัว​รู้​จุดดวงวิญญาณ​นั้นก็จะยิ่งค่อยๆบริสุทธิ์​ละเอียดมีพลังอำนาจมากขึ้น​เรื่อยๆ​โดยทางสายกลาง​(ที่มุ่งสู่จุดศูนย์กลาง​สูงสุ​ดจุดศูนย์รวมพลังทั้งหมดของทุกสิ่ง​ทุกอย่าง​อันเป็น​จุดสมดุลหยุดนิ่งสงบนิ่ง​สูงสุด​ที่มั่นคง​ที่สุด​ไปจนถึงภายใน​ที่ลึกที่สุด​นั้น)​ จนกลายเป็นภาพนิมิต​ของความสดใสสุกใส​ของอาตมันจุดดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์ของพระเจ้าในรูปของ การส่องแสง​สว่างสุกใสรู้แจ้ง​เหนือโลกเหนือจักรวาล(super​ shiny enlightenment) ของจิตในขณะปัจจุบั​นที่แท้จริง​ , อันเป็น​ตัวเราที่แท้จริง​ อันเป็น​จุดศูนย์กลาง​ศูนย์​รวมพลังทั้งหมด​จุดสมดุล​หยุดนิ่ง​สงบนิ่ง​มั่นคงของจิต อันเป็น​การตื่นรู้อย่างแท้จริง​ของจิต​ในมิติขณะปัจุบันที่แท้จริง​ ​อันเป็นภาพนิมิตจุดแสงสว่าง​จุดเล็กๆที่เบิกบาน​ส่องแสงสว่าง​สุกใสสวยงาม​อย่างแท้จริง​ ที่จะเป็น​สุขวิเศษ​สุขทิพย์​บริสุทธิ์​วิมุติสุขบรมสุข​ที่แท้จริง​ที่สามารถ​เชื่อได้อย่างแท้จริง​(ที่จะพลิกรู้สึก​ว่าไม่มีจิต), ซึ่งอาตมันจุดดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์​ที่ส่องแสง​สว่างสุกใสที่เกิดขึ้นมานี้ถือว่าเป็น​ ของขวัญของรางวัล​อันแท้จริง​อันดับ​ต่อมาจากพระเจ้า(next​ real​ gift prize from​ God)​ ที่ตัวเราที่แท้จริงสมควรได้รับ​ ที่จะเป็นสัญญานแสดงว่าเราสามารถสามารถ​ชาร์จ​พลังวิเศษ​จากพระเจ้าได้แล้ว​ จิตของเรามีพลังวิเศษเป็นจุดดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์​ที่มีพลังอำนาจส่องแสง​สว่างสุกใสรู้แจ้ง​เหนือโลกเหนือจักรวาล​แล้ว​ ซึ่งยิ่งเราเพ่งนานเท่าไหร่​ก็จะยิ่งเกิดความตื่นรู้อย่างแท้จริง​ที่สว่างสุกใสรู้แจ้ง​เหนือโลกเหนือจักรวาล​มากเท่านั้น, ​โดยให้เพ่งต่อไปเรื่อยๆรู้แล้วปล่อยๆที่จะไม่สนใจยึดติด​ภาพนิมิตที่เกิดขึ้น​มานั้น​ จนจิตสายกลางจิตตัว​รู้​จุดดวงวิญญาณ​สามารถ​บริสุทธิ์​ละเอียด​ถึงขีดสุดโดยทางสายกลาง​ที่จะกลายเป็นสิ่งวิเศษ​สูงสุดมิติวิเศษ​สูงสุด​พระเจ้า​ดวงวิญญาณ​สูงสุดในรูปของรูปอมตะที่แท้จริงสูงสุด​ที่เปิดเผยเรียบง่ายสูงสุด​ที่ปราศจาก​รูปร่างลักษณะมายาที่ลึกลับซับซ้อน​ต่างๆสิ้นเชิงในลักษณะ​ของจุดแสงที่สว่างจ้า​อย่างแท้จริง​สูงสุดของการตื่นรู้ที่แท้จริง​สูงสุด​ที​่จะเป็​น การส่องแสง​สว่างจ้ารู้แจ้ง​เหนือโลกเหนือจักรวาลเหนืออวกาศ​-เวลาอย่างสูงสุด​(maximum​ super​ bright enlightenment) ของจิตที่จุด-ปัจจุบั​นที่แท้จริงสูงสุด, ที่เป็นจุดศูนย์กลาง​ศูนย์​รวมพลังงาน​ทั้งหมดอันเป็น​จุดสมดุลหยุดนิ่งสงบนิ่งมั่นคงของอาตมันจุด​ดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์​นั้นที่ไม่อาจทำให้บริสุทธิ์​ละเอียดโดยทางสายกลาง​ไปมากกว่า​นี้​ได้อีกแล้ว("ซึ่ง​หมายความ​ว่าอาตมันจุด​ดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์​นั้นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน​กับพระเจ้าปรมาตมันดวงวิญญาณ​สูงสุดพระเจ้า​ชีว่าพระเจ้า​พระบิดา​นั้นเรียบร้อยเเล้ว​ตามธรรมชาติ​ เพราะพระเจ้านั้นก็คือจุดศูนย์กลาง​ศูนย์​รวมพลังงาน​ทั้งหมดอันเป็น​จุดสมดุลหยุดนิ่งมั่นคงปกติของอาตมันจุด​ดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์​อันเป็น​จุดที่อยู่ในตัวอาตมันจุด​ดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์ทุกดวงอย่างยุติธรรม​เท่าเทียมกัน​หมดนั้นนั่นเอง​ จึงไม่มีการจำเป็น​ที่อาตมันจะต้องดิ้นรน​กลับไปรวมกับพระเจ้า​ หรือ​ สามารถแยกออกจากพระเจ้า​ได้แต่อย่างใด​เลย​, ดังนั้น​ การที่มีอาตมันจุด​ดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์​มากมายมหาศาล​ลู่เข้าใกล้อนันต์​ที่เป็นจุดแสงย่อยๆของพระเจ้าดวงวิญญาณ​สูงสุด​อันเป็นจุดประกาย​แห่งความสุกใสของพระเจ้า​ที่เป็นองค์​ประกอบพื้นฐานของพระเจ้า​ดวงวิญญาณ​สูงสุด​ที่หยดดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์​ต่างๆรวมกันเป็นมหาสมุทร​แห่งดวงวิญญาณ​อันเป็นพระเจ้าดวงวิญญาณ​สูงสุด​นั้นจึงเป็นเพียงมายาสูงสุด​แห่งความเกลียดที่แบ่งแยกอาตมัน​จุดดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์​ต่างๆออกจาก​กันมากมาย​มหาศาลที่ล้วน​เป็น​เพียง​สูญญตาความว่าง​ที่แท้จริง​สูงสุด​ที่ปราศจาก​กาลเวลา​สิ้นเชิงที่ว่างจากทั้งความมีอยู่​ และ​ ความไม่มีอยู่อย่างสิ้นเชิงตลอด​กาลที่ไม่สำคัญอย่างสิ้นเชิง​ ไม่จำเป็น​อย่างสิ้นเชิง ไม่มีพลังอำนาจ​อย่างสิ้นเชิง ไม่มีคุณค่า​ความหมายอย่างสิ้นเชิง​ ไม่น่าสนใจอย่างสิ้นเชิง​ตลอด​กาล​เท่านั้น​เอง... ")​ ทั้งหมด​จึงกลายเป็นจุดหนึ่ง​จุดเดียวหนึ่งเดียว​สูงสุ​ดที่ไม่อาจมีจุดใดนอกจากนี้​อีกแล้ว​ อันจะเป็นตัวเราที่แท้จริง​สูงสุด​ที่จะเป็น​ปรมาตมันที่จะเป็น​อาตมันจุดดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์ที่มีพลัง​อำนาจสูงสุด​ที่​สะอาด​สูงสุด​ สว่าง​สูงสุด​ สงบ​สูงสุด​ที่เป็นจุดศูนย์กลาง​สูงสุด​ศูนย์​รวมพลังงานทั้งหมด​ของจักรวาล​อย่างสูงสุดจุดสมดุลหยุดนิ่งสงบนิ่ง​มั่นคง​อย่างแท้จริง​สูงสุด​ของจักรวาล​ ที่จะเป็น​ความเบิกบาน​ใหม่สดมีชีวิตชีวา​อย่างแท้จริงสูงสุดที่ตรัสรู้​รู้แจ้ง​ตื่นรู้อย่างแท้จริง​สูงสุด​นิรันดร์​ในมิติจุด-ปัจจุบัน​ที่แท้จริง​สูงสุด​อันเป็นสุขวิเศษ​สุขทิพย์บริสุทธิ์​วิมุติสุขบรมสุข​ที่แท้จริง​สูงสุดที่สามาร​ถเชื่อ​ได้อย่างแท้จริ​งสูงสุด​ 100%(ที่จะพลิกรู้สึก​ว่าไม่มีชีวิตรวมถึง​ไม่มีใจความรู้สึก​มายาสัมพัทธเฉพาะส่วนตัวกับสิ่งต่าง​ๆ​ที่เชื่อไม่ได้​อย่างสิ้นเชิง​อีกต่อไป​) ซึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์​สูงสุด​อันเป็น​อาตมันจุดดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์ที่มีพลัง​อำนาจสูงสุด​ที่สะอาด​สูงสุด​ สว่างสูงสุด​ สงบ​สูงสุด​ที่เกิดขึ้นมานี้ถือว่าเป็น​ ​ถือว่าเป็น​ ของขวัญของรางวัล​อันแท้จริง​อันดับ​สุดท้ายจากพระเจ้า(last​ real​ gift prize from​ God)​ อันเป็นอภิมหาขุมทรัพย์​ที่แท้จริงสูงสุด​ที่ตัวเราที่แท้จริง​สูงสุด​สมควรได้รับ​ ที่จะเป็นสัญญานแสดงว่าเราได้ชุบตัว​ชาร์จ​พลังวิเศษ​จากพระเจ้าอย่างเต็มที่​ได้แล้ว​ ชีวิตของเรามีพลังวิเศษ​อย่างเต็มที่​แล้วเป็นจุดดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์​ที่​มีพลังอำนา​จ​สูงสุด​แล้ว ซึ่งยิ่งเราเพ่งนานเท่าไหร่​ก็จะยิ่งเกิดความตรัสรู้​รู้แจ้ง​ตื่นรู้อย่างแท้จริงสูงสุด​ที่ส่องแสง​สว่างจ้าสูงสุด​อย่างมั่นคงมากเท่านั้น, เมื่อถึงจุดนี้จิตสายกลางจิตตัว​รู้​​จุดดวงวิญญาณ​จะบริสุทธิ์​สูงสุด​จนหายไปสิ้นเชิง​ ที่เราจะมองไม่เห็น​อะไรรับรู้สิ่งใด​อีกต่อไป​อย่างสิ้นเชิง​นอกจากจุดแสงอันสว่างจ้า​อย่างแท้จริง​สูงสุด​ของการตื่นรู้ที่แท้จริง​สูงสุดที่​ไม่มี​แสงใดสว่างยิ่งกว่าอันเป็น​จักรวาล​อันแท้จริง​สูงสุด​สวรรค์​อัน​แท้จริง​ชั้น​สูงสุด​ อันเป็นตัวเราที่แท้จริง​สูงสุด​ที่ไม่ต้องเพ่งต้องปฏิบัติ​อะไรทำอะไรกับตัวเราอีกต่อไป​แล้วนั้นในที่สุด.​ ซึ่ง​ความเบิกบาน​รู้สึก​ปิติสุขเสียวสดชื่นตื่นตัวอันเป็น​สุขวิเศษ​สุขทิพย์​บริสุทธิ์​วิมุติ​สุขบรมสุข​ความรู้สึกตรง​ของจริงอันสัมบูรณ์​ระดับสากลที่เชื่อได้ที่แผ่ซ่านเกิดขึ้น​มาเองจากภายในล้วนๆอย่างใหม่สดในปัจจุบันนี้จะกลายเป็นอารมณ์​สมาธิอย่างใหม่สดโดยตรงทันทีเองอัตโนมัติ​ เพื่อเสวยสุขวิเศษ​สุขทิพย์บริสุทธิ์​วิมุติสุขบรมสุข​อย่างต่อเนื่อง​จนค่อยๆละเอียด​บริสุทธิ์​เรื่อยๆจนเกิดเป็นฌานสมาบัติ​ที่มีสุขวิเศษ​สุขทิพย์บริสุทธิ์​วิมุติสุขบรมสุขที่แท้จริงสูงสุด​ หรือ​ พระเจ้า​ที่มีแต่ความสุขของจริงที่สุดล้วนๆหนึ่งเดียว​ที่ปราศจาก​ความทุกข์​สิ้นเชิง​นั้นเป็น​เอกัตคตาอารมณ์​หนึ่งเดียว​สูงสุด​เป็น​จุดสุดยอด​จุดไคลแม็กซ์​สูงสุด​อารมณ์​เดียวอย่างใหม่สดโดยตรงทันทีเองอัตโนมัติ(ไม่ได้เกิดจากการหน่วงเอาสิ่งใดสิ่งหนึ่ง​เป็นอารมณ์​สมาธิแบบฌานทั่วไป​)​ ที่จะสามารถมีมหาสติ​สุขสงบในภวังค์​สมาธิระดับลึกที่สุดภวังค์​อันแท้จริง​ระดับสูง​สุดที่สามารถ​มั่นคงตั้งมั่น​ได้ทั้งวัน​ทั้งคืนโดยไม่ขึ้นกับใครอะไร​สิ่งใด​ใน​โลก​ใน​จักรวาลในอวกาศ​-เวลาที่อยู่​ภายนอกมิติวิเศษ​สูงสุด​มิติที่แท้จริงของตัวเรา​ หรือ​ ตัวเราที่แท้จริง​สูงสุด​ หรือ​ พระเจ้า​นั้นเลย(ถ้าไม่สะดวกไม่มีเวลาเราก็ไม่จำเป็นต้องหลับตา​นั่งสมาธิ​เข้าฌานทั้งวันทั้งคืน​ก็ได้​ เพียงแค่เกิดฌานสมาบัติ​ได้แม้แค่แป๊บเดียว​ก็รู้สึกว่ามันมีพลังอำนาจสูงสุด​พอที่จะสามารถมั่นคงตั้งมั่นได้ทั้งวันทั้งคืนได้แค่นั้น​ก็พอแล้ว​)​, ​ที่​​จะเป็นฌานสัญญาเวทยิตนิโรธสูงสุด​โดยทางสายกลาง​ที่จะเป็นมองโลกตามความเป็นจริง​อย่างถึงที่สุดอันจะเป็น​การ​ทำศัลยกรรม​จิตของเราใหม่หมดจัดระเบียบ​ความคิดเราใหม่หมดจากเดิมสิ้นเชิงที่จะทำให้เรา​รู้สึก​ใหม่หมดจากเดิมสิ้นเชิง​ที่เราจะมองว่า​ "ทั้งหมด​ทั้งปวง​ไม่มีอะไรเลยอย่างสิ้นเชิง​นอกจากพระเจ้า​อันเป็นดวงวิญญาณ​สูงสุดซุปเปอร์​จิต​สิ่งสูงสุด​ความเป็นที่หนึ่งสูงสุด​ตลอดกาลอันเป็น​ตัวเราที่แท้จริง​สูงสุด​​ที่มีแต่จิตล้วน​ๆ​เพียง​จิต​เดียว​เท่านั้น​ นอกจากพระเจ้า​แล้วก็มิได้มีใครอะไรสิ่งใดตั้งอยู่​ดำรงอยู่เลยอย่างสิ้นเชิง​แม้แต่อนุภาค​เดียวในวินาที​เดียว, ผู้อื่น​สิ่งต่างๆสิ่งปรุงแต่ง​มายาต่างๆจึงล้วน​เป็น​เพียง​สูญญตาความว่างที่แท้จริง​สูงสุดที่ปราศจาก​กาลเวลา​สิ้นเชิง​ที่ว่างจากทั้งความมีอยู่​ และ​ ความไม่มีอยู่อย่างสิ้นเชิงตลอด​กาล,​ จึงเป็นสิ่งที่ไม่สำคัญอย่างสิ้นเชิง​ ไม่จำเป็น​อย่างสิ้นเชิง ไม่มีพลังอำนาจ​อย่างสิ้นเชิง ไม่มีคุณค่า​ความหมายอย่างสิ้นเชิง​ ไม่น่าสนใจอย่างสิ้นเชิง​ตลอด​กา,​จึงไม่รู้สึกว่าเสียดายใครอะไรสิ่งใด​เลยอย่างสิ้นเชิ​งแม้แต่อนุภาค​เดียว​ในวินาที​เดียว..." ที่จิตจะสนใจแต่ตัวจิตเองล้วน​ๆ​เพียง​จิต​เดียว​เท่านั้น​ไม่มีความอยากที่จะ​เครียด​คิดนึกสนใจวิเคราะห์​ตีค่าใครอะไรสิ่งใดที่ไร้ความหมาย​ไร้คุณค่า​ในตัวมันเองอย่างสิ้นเชิง​เหล่านั้นให้เสียเวลา​อีกต่อไป​ได้อย่างสิ้นเชิง​แม้แต่​อนุภาค​เดียวในวินาที​เดียว​ จึงทำให้จิตอันเป็น​จิตความคิดปรุงแต่งมายา​จึงนิพพาน​นิโรธ​ดับสนิทสิ้นเชิง​ตามธรรมชาติ​เองอัตโนมัติ​เหลือแต่พระเจ้า​อันเป็น​จิต​หนึ่ง​ล้วนๆเพียง​จิต​เดียว​เท่านั้น, ที่จะเป็น นิโรธสมาบัติโดยทางสายกลาง​​(end-suffering​ of one​ pointed meditation​ by​ middle​ way)​ หรือ​ พระเจ้า​สมาบัติ​​(God one​ pointed meditation)​ อันเป็นสุดยอด​แห่งฌานสมาบัติโดยทางสายกลาง​เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น​ที่มีพลังอำนาจสูงสุด​มีพลังจิตสูงสุด​พลังสติสูงสุด​ได้ถึงขีดสุดที่ไม่ได้แบ่งเป็นมากมาย​หลายฌานเป็นรูปฌานอรูปฌาน​ ไม่จำเป็น​ต้องปฏิบัติ​ร่วมกับฌานอื่นๆ​ ไม่จำเป็นต้องได้ฌานอื่นๆก่อนให้ยุ่งยาก​ลำบากเสียเวลา, ที่จะเป็นฌานสมาบัติ​ที่ทำให้เรา​รู้สึก​ว่าทั้งหมด​ทั้งปวงมีแต่เพียงพระเจ้า​ชีว่าพระเจ้า​พระบิดาอันเป็น​ดวงวิญญาณ​สูงสุด​ซุปเปอร์​จิตจิต​หนึ่งเอกัคคตา​จิตที่เป็นจิตล้วนๆเพียง​จิต​เดียว​เท่านั้นที่เป็นจุดแสงอันสว่างจ้า​สูงสุด​เป็นเอกัคคตา​รมณ์หนึ่งเดียว​อย่างมั่นคงได้ทั้งวัน​ทั้งคืน​ ซึ่ง​จิตจะโมกษะหลุดพ้นสูงสุด​จากทุกสิ่งทุกอย่า​งเองตามธรรมชาติ​จึงทำให้เราสามารถ​วางใจเป็นกลาง​สมดุลหหยุดนิ่ง​สงบนิ่ง​สูงสุด​วางอุเบกขาสูงสุดจน​นิพพาน​ไม่สนใจมีอารมณ์​รู้สึก​ทุกข์​กับสิ่งต่าง​ๆ​ในโลกใน​จักรวาล​ในอวกาศ​-เวลาอีกต่อไปอย่างสิ้นเชิ​งได้ทั้งวัน​ทั้งคืนตามไปด้วย​เองอัตโนมัติในที่สุด(อันจะเป็นฌานสมาบัติ​สูงสุด​ที่ให้ความรู้สึก​ปลอดภัย​สูงสุด​อย่างมั่นคงที่สุดในภวังค์​อันแท้จริง​ระดับสูง​สุดที่รู้สึก​ว่าไม่มีใครอะไรสิ่งใด​นอกฌานจะเข้ามาทำร้ายทำอันตราย​ตัวเราที่แท้จริง​สูงสุด​นั้นได้เลยไม่ว่าจะเป็นซาตาน​มารสัตว์​นรกที่จำแลงแปลงกายแปลงร่างเป็น​กายทิพย์​มารร้ายดวงวิญญาณ​ร้ายใดๆที่มีฤิทธิ์​เดชแค่ไหนยังไง​ก็ตามเพราะจิตจะมีพลังอำนาจสูงสุด​กลายเป็น​จิตหนึ่งเอกัคคตา​จิตที่เป็นจิตล้วนๆเพียง​จิต​เดียว​เท่านั้น​ที่เป็นเอกัคคตา​รมณ์หนึ่งเดียว​สูงสุด​ด้วยจุดสุดยอด​จุดไคลแมกซ์​สูงสุด​ที่นิพพาน​ในภวังค์​อันแท้จริง​ระดับสูง​สุดระดับเหนือสำนึกสูงสุด​จากภายในที่ลึกที่สุดนั้น ที่จิตไม่ได้มีความอยากส่งจิตออกไปอยากรู้ไปอยากรับรู้อะไรสิ่งใดนอกจิตในระดับสำนึกต่างๆที่ล้วนเป็นภัยอันตราย​เหล่านั้นเลยอย่างสิ้นเชิงตามธรรมชาติ​เองอัตโนมัติ, ​ที่จิตจะสนใจรู้แต่ตัวจิตเองล้วนๆเพียงจิตเดียว​เท่านั้นเองตามธรรมชาติ​จนจิตความคิดปรุงแต่ง​มายากำจัดสังหารฆ่าตัวเองอย่างสิ้นซากอัตโนมัติ​อย่างฉับพลัน​ทันทีที่จะหายไปอย่างสิ้นเชิง​ไม่เหลือแม้แต่ซากอย่างฉับพลัน​ทันทีตามธรรมชาติ​เองอัตโนมัติ​,ที่จะรู้สึก​ว่าจิตกลายเป็นเอกัคคตา​จิต​ในรูปของมหาสติสูงสุด​ดวงวิญญาณ​สูงสุด​ที่​เป็นจุด​แสงอันสว่างจ้า​อย่างแท้จริง​สูงสุด​ของการตรัสรู้​การรู้แจ้ง​การตื่นรู้ที่แท้จริง​สูงสุดที่เป็นสวรรค์​อัน​แท้จริง​ชั้น​สูงสุด​หนึ่ง​เดียวที่มีแต่สุขสูงสุด​ล้วนๆหนึ่งเดียว​จากภายในที่ลึกที่สุดที่ปราศจาก​ความทุกข์​ใดๆสิ้นเชิงที่จะตัดขาดเป็นอิสระสูงสุด​สัมบูรณ์​สูงสุด​ไม่เกี่ยว​ข้องยุ่งเกี่ยว​สัมพันธ์​สัมพัทธกับใครอะไรสิ่งใด​ในโลกใน​จักรวาล​ในอวกาศ​-เวลาที่เป็นการหลับไหลหมดสติด้วยอวิชชา​ความไม่รู้​นั้น, ที่ดูเหมือนว่าร่างกาย​ภายนอกนั้นเรากำลังทุกข์​สูงสุด​ด้วยความโกรธ​เกลียดสูงสุด​ที่ไม่ต้องการ​อยากจะมีชีวิต​อยู่อยากรู้สึก​ใดๆกับซาตาน​มารสัตว์​นรกใครอะไรสิ่งใ​ดในโลกนี้จักรวาล​นี้อวกาศ​-เวลานี้อีกต่อไปอย่างสิ้นเชิง​แม้แต่​อนุภาคเดียวในวินาที​เดียว​ แต่ภายในที่ลึกที่สุดนั้นกลับสุขสุดขีดสุขเสียจนจนลืมโลก​ลืมจักรวาล​ลืมอวกาศ​-เวลาหมดสิ้นที่ถึงขนาดว่าใครจะเป็นใครจะตาย-ฟ้าจะถล่ม​-ดินจะทะลาย​-โลกจะแตก​-จักรวาล​จะดับหายไปต่อหน้าต่อตาเรา-ไม่ว่าเวลาจะหมุนเวียน​ผ่านไปกี่ล้านกัปป์กัลป์​ตาม​ เราก็จะยังคงวางเฉยวางใจเป็นกลางไม่สนใจกับสิ่งต่างๆที่ไม่รู้​ไม่ชี้ช่างหัวมัน​เห็นเป็นเรื่องที่แสนจะธรรมดา​อย่างที่สุดที่ไม่น่าสนใจเลยอย่างสิ้นเชิงอยู่อย่างนั้นเองได้ตลอดไป​ ที่เหมือนกับว่าเราเป็นหุ่นยนต์​รูปปั้นวัตถุสิ่งของที่ไร้ชีวิต​จิตใจที่เหมือนได้ดับสิ้นสนิทนอนหลับสนิทอย่างสูง​สุด​ตายอย่างสนิทสิ้นเชิง​ไปจากโลกนี้ไปแล้วที่สิ้นใจสิ้นความรู้สึก​กับสิ่งต่างๆอ​ย่างสิ้นเชิงไม่มีอารมณ์​ความรู้สึกปรุงแต่​งมายาเฉพาะส่วนตัวกับ​อะไรสิ่งใดอีกต่อไป​)​เพราะในฌานสมาบัตินี้​เราจะสนใจรู้รับรู้​แต่พระเจ้าอันเป็นจิตสายกลางจิตตัว​รู้​​จุดดวงวิญญาณ​ที่บริสุทธิ์​อย่างแท้จริง​สูงสุดจนเป็นจิตหนึ่งเอกัคคตา​จิตที่จะเป็น​ความสุขสูงสุด​ล้วนๆหนึ่งเดียว​ที่ปราศจาก​ความทุกข์​สิ้นเชิงดับสนิทสูงสุด​หลับสนิทสูงสุด​ตายสนิทสูงสุดที่เป็นความสุขที่แท้จริงสูงสุด​ในโลกหน้าจากภายใน​ที่ลึกที่สุด​เป็นอารมณ์​เดียวสูงสุด​ล้วนๆเท่านั้นโดยทางสายกลาง​อย่างใหม่สดโดยตรงทันทีที่นี่เดี๋ยว​นี้เท่านั้น​โดยไม่มีแม้แต่​วินาที​เดียวให้ต้องรอโดยจะไม่สนใจรับรู้​ความทุกข์​ใดๆจากภายนอก​เลยอย่างสิ้นเชิง​, ซึ่ง​พระเจ้า​สมาบัติ​จะทำให้เรา​รู้สึก​ว่า​มี โลกส่วนตัวอย่าง​สูง​สุด(maximum private world)​ ที่จะอยู่แต่ในมิติแก่นแท้​สูงสุด​ของจิตของเราล้วนๆที่มีแต่จิตล้วน​ๆ​เพียง​จิต​เดียว​เท่านั้น​ที่จะตัดขาดเป็นอิสระ​จากทุกสิ่งทุกอย่าง​อย่างสิ้นเชิ​งจนรู้สึก​ว่าโลกจักรวาล​ทั้งหมด​ทั้งปวงมีแต่ตัวเรา​ที่แท้จริงสูงสุด​(อันเป็น​จิต​หนึ่ง​จิตล้วนๆเพียง​จิต​เดียว​เท่านั้น​ที่เป็นพระเจ้า​นั้น)​ล้วนๆเท่านั้น​ไม่รู้​สึกว่ามีผู้อื่นสิ่งต่างๆสิ่งปรุงแต่ง​มายาต่างๆใครอะไรสิ่งใดมาให้​เราต้องเกี่ยวข้อง​ยุ่งเกี่ยว​สัมพันธ์​สัมพัทธด้วยให้ต้องทุกข์เจ็บ​ปวดทรมาน​เลย​อย่างสิ้นเชิง(เหมือนกับว่าเรากำลังเป็นฤาษี​โยคีที่กำลังสมถะสันโดษ​ปลีกวิเวก​ลำพังเต็มที่​ใน​ หุบเขาแห่งความเงียบสงบ​(silent hill)​ ในกลางดึกที่เงียบ​สงัดผ่อนคลาย​สูงสุด​ของหุบเขาลึกลับ​เร้นลับ​ หุบเขาผีสิงสยอง​ขวัญ​ที่รกร้าง​ว่างเปล่า​ไร้ผู้คน​ หุบเขาพระสุเมรุ​อันยิ่งใหญ่​ครอบจักรวาล​ที่มืดสนิททุกอย่าง​หยุด​นิ่งไม่เคลื่อนไหว​ที่รู้สึก​หนาวเย็น​ยะเยือก​รู้สึ​กเหมือนอยู่ในกลางคืน​ตลอด​เวลา​ที่เราสามารถ​​นั่งชมจันทร์หลงเงาจันทร์เต็มดวง​ในค่ำคืนแห่งแสงจันทร์​อันแสนโรแมนติก​เพ่งดูพระจันทร์​สี​เงิน​ที่ลอยเด่นส่องแสง​สว่างจ้า​สูงสุด​ได้อย่างเต็มที่​ ที่เราจะรู้สึก​ว่าทั้งโลกทั้งจักรวาล​ตอนนี้​มีแค่ตัวเราเพียงสิ่ง​เดียว​เท่านั้น​เหลียวซ้ายมอง​ขวา​มองหน้ามองหลังไม่เจอใครอะไรสิ่งใด​อย่างสิ้นเชิงรู้สึกสบายใจ​พ้นทุกข์​อย่างยิ่งยวดเหมือน​กำลังอยู่ในอรูปฌานระดับสูง​สุด​ที่ตัดขาดไม่เกี่ยวข้องยุ่งเกี่ยว​สัมพันธ์​สัมพัทธกับร่างกาย​วัตถุสสารโลกประสาทสัมผัส​อย่างสิ้นเชิง​)​ จึงทำให้เราค่อยๆรู้สึก​มีพลังความเบิกบาน​รู้สึก​สุขเสียวที่ปิติสุขเสียวสดชื่นตื่นตัวแผ่ซ่านซาบซ่านเย็นยะเยือก​ตัวเบาเคลิบเคลิ้มในภวังค์​เหมือนกำลังล่องลอย​ในความฝันมายาที่ค่อยๆดำดิ่งลึกอย่างต่อเนื่อง​ไปยังใจกลาง​แก่นกลางแก่นแท้​สูงสุดที่ลึกที่สุด​ของจักรวาล(อันเป็น​แก่นแท้​สูงสุด​ที่ลึกที่สุด​ของจิตของเรา​)​เพื่อชุบตัวชาร์จ​พลังวิเศษ​อันสูงสุด​จากพระเจ้ามาสู่ตัวเราให้มากที่สุด​เท่าที่​จะ​ทำได้.​ โดยค่อยๆชุบตัว​ชาร์จ​พลังวิเศษ​เสวยสุขวิเศษ​สุขทิพย์​บริสุทธิ์​วิมุติสุขบรมสุขค่อยๆ​สะสมพลังความรู้สึก​ของจริงระดับสากลของพระเจ้า​อย่างต่อเนื่อง​ไปเรื่อยๆทุกวันๆจนเรารู้สึก​ว่าค่อยๆวิวัฒนาการ​กลายเป็น​พระเจ้า​เพิ่มมากขึ้น​ทุกวัน​ๆเอง​ โดยการพยายามอดทนเล่นโยคะสายกลาง​​ต่อสู้​กับความทุกข์​เจ็บ​ปวดทรมานของร่างกาย​เนื้อหนัง​ปรุงแต่งของ​เราในปัจจุบันจนสามารถเอาชนะ​พลิกมีร่างกาย​ที่ปิติสุขเสียวสดชื่น​ตื่นตัวเหนือโลกอย่างแท้จริง​แทนที่แผ่ซ่านไปทั่วในทุกจุดทุกอณูอย่างต่อเนื่องโปร่ง​แล้วโปร่งอีกๆไปเรื่อยๆทุกวันจนไม่รู้สึกเจ็บปวด​ทรมานทางร่างกาย​แบบเดิมๆ​อีกต่อไป​ ที่จะสามารถเสวยสุขวิเศษ​สุขทิพย์บริสุทธิ์​วิมุติสุขบรมสุขรู้สึก​ปิติสุขเสียวสดชื่น​ตื่นตัวอย่างแท้จริง​สูงสุด​ได้ตลอดเวลา​ได้ทันทีทุกที่​ทุกเวลาที่​ต้องการ​จากภายในที่ลึกที่สุดของตัวเรา​จนมั่นใจ​สูงสุด​ว่า​ร่างกาย​จะไม่มีทางกลับมา​ทุกข์​เจ็บ​ปวดทรมานเหมือน​เดิมอีกต่อไป​แน่นอนไม่ว่ากรณี​ใด​ๆก็ตามนั้นเป็นพื้นฐานให้ได้.​ ดังนั้น​ สิ่งที่เราต้องพยายามอดทนทำสงคราม​ต่อสู้เพื่อเอาชนะมันอย่างแท้จริง​สูงสุด​โดยทางสายกลาง​ให้​ได้​ที่จะเป็น​ คู่ต่อสู้​ที่แท้จริง​(real​ opponent)​ หรือ​ มารศัตรู​ที่แท้จริง​ของเรานั้น ก็คือ​ ร่างกาย​เนื้อหนังปรุงแต่ง​มายาของเรานั่นเอง​อันเป็นตัวความทุกข์ในปัจจุบัน ที่เป็นเพียงกองทุกข์มายา​ความรู้สึ​กความทุกข์​ปรุงแต่ง​มายาในปัจจุบันที่มันต้องง่วงจนทนไม่ไห​วล้มตัวลงนอนหมดสติหลับไหลที่นำไปสู่ความทุกข์​เจ็บปวด​ทรมานจนทนไม่ไหว​ขาดใจตาย​ในที่สุ​ด​ ที่ต้องทนทุกข์​เจ็บปวด​ทรมานอยู่ตลอดเวลา​ทุกวินาทีอย่างหยุดไม่ได้​อันเป็น​ผลมาจากมายาสูงสุด​แห่ง​ความเกลียดของจิตความคิดปรุงแต่ง​ที่คิดนึกฟุ้งซ่านขาดสติ​เครียดวิตกกังว​ลคิดมากกับสิ่ง​ต่าง​ๆด้วยอวิชชา​ความไม่รู้​อันเป็นเหตุแห่งทุกข์​ที่เหมือนเป็นใบมีดมากรีดเฉือนแบ่งร่างกาย​ของเรา​ออกเป็นส่วนๆให้แบ่งแยก​แตกต่าง​กันนั้น, ที่เราต้องเอาชนะมัน​อยู่​เหนือมันให้ได้ด้วยนิโรธ​การดับทุกข์​อันเป็นพลังวิเศษ​แห่งความสุขวิเศษ​สุขทิพย์​วิมุติสุขบรมสุข​ที่แท้จริง​สูงสุด​​ความสุขสูงสุด​ล้วนๆหนึ่งเดียว​ที่ปราศจาก​ความทุกข์​สิ้นเชิง หรือ​ พระเจ้าอันเป็นมหาสุขสากลจักรวาล​อันยิ่งใหญ่​สูงสุด​ที่มีพลังอำนาจสูงสุด​เพียงสิ่ง​เดียว​เท่านั้น​ที่จะสามารถเอาชนะมันได้อย่างแท้จริง​สูงสุด​โดยทางสายกลาง(ที่เปรียบเสมือน​ว่าถ้าน้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ​ แต่ถ้าเป็นพลังของสายน้ำอันมหาศาล​ที่แสนสงบเย็น​อย่างยิ่งจากมหาสมุทร​อันกว้างใหญ่​ไพศาล​ไร้ขอบเขต​ขีดจำกัดของพระเจ้า​นั้นย่อมสามารถชนะไฟที่จะสามารถ​ดับกองไฟที่ลุกโชนทุกข์​ร้อนทรมานได้ของสิ่งต่าง​ๆได้ทั้งหมด​แน่นอนไม่ว่ากองไฟนั้นจะลุกโชนแค่ไหน​ยังไง​ก็ตาม)​จากมรรคทางแห่งการดับทุกข์​อันเป็น​การเล่นโยคะสายกลางการหาความสุขสูงสุด​จากการนอนหลับ​พักผ่อนที่มุ่งต่อสู้​กำจัดจิตความคิดปรุงแต่งมายาอันเป็น​ คู่ต่อสู้​ที่แท้จริง​สูงสุด(ultimate​ real​ opponent)​ หรือ​ มารศัตรู​ที่แท้จริง​สูงสุด​ของเราที่อันตราย​ที่สุดที่เรามองข้าม​ที่สุด​ที่เราต้องรีบกำจัดสังหารฆ่ามันให้สิ้นซากในทุกรูปแบบ​ทั้งในแบบหยุด​นิ่ง​ และ​ แบบเคลื่อนที่​เพื่อต่อสู้​ป้องกัน​ตัวตัวเราเองเพราะเราจำเป็น​ต้องฆ่ามัน​ ถ้าเราไม่ฆ่ามัน​ มันก็จะฆ่าเราอย่างไม่มีการปราณีใดๆ​ทั้งสิ้นเพราะมันเป็นฆาตกร​เงียบภัยร้ายใกล้​ตัว​ที่เรามองข้ามภัยร้ายอันตราย​ที่มองไม่เห็นจะเป็นตัวผู้บงการตัวจริงที่หลบซ่อนลึกลับ​ที่​ลวงหลอกว่ามีวัตถุสสารสิ่งต่างๆมาทำร้ายทำอันตรา​ยตัวเราได้ด้วยอวิชชา​ความไม่รู้​ที่โง่เขลา​นั้น​โดยตรงโดยทางสายกลาง​, ดังนั้น​ เราจึงควรสำนึกอยู่เสมอด้วยสติปัญญาโดยทางสายกลาง​อันจะเป็นการชำระจิตให้บริสุทธิ์​ล้างสมองทำศัลยกรรม​จิตเปลี่ยนจิตใหม่ปรับทัศนคติ​เปลี่ยนมุมมองความคิดใหม่จากเดิมไปทั้งหมดอันเป็นผลมาจากการเล่นโยคะสายกลาง​นั้นว่า​ "ตัวเราไม่ใช่ร่างกาย​ และ ร่างกายไม่ใช่ตัวเรา(my​ self​ is​ not body​ and​ body​ is​ not​ my​ self)​.โดยที่ร่างกายของเรา(รวมถึง​สิ่งต่างๆที่ร่างกาย​ของเรา​รับรู้​ได้ทางประสาทสัมผัส​รวมถึง​จิตความคิดปรุงแต่ง​มายาของเรา​อันเป็น​เหตุของร่างกาย​ของเรา​อันจะทำให้รวมถึงเรื่องราวเหตุการณ์​สัมพัทธภาพ​ความสัมพันธ์​ของชีวิตของเรารวมถึง​อารมณ์​ใจความรู้สึก​ต่างๆของเรา​ไปด้วยนั้น)​ เป็นสิ่งเฉพาะส่วนตัว​ที่เป็นเพียงความว่างที่ไม่มีอยู่ขาดสูญไม่ต่อเนื่องถาวรตลอด​กาลเพราะมันเพียงมายาที่เป็น​มารสัตว์​นรกมายาภูตผี​วิญญาณ​ร้ายที่มาสิงตัวเราชั่วคราว​ ที่มันต้องได้รับผลบาปกรรม​ต้องทุกข์​เจ็บ​ปวดทรมานจนทนไม่ไหว​ขาดใจตายสูญสลาย​หายไปตลอดกาลที่ขาดสูญ​ไม่ได้มีอยู่ต่อเนื่องถาวรตลอด​กาลตามธรรมชาติ​ธรรมดา​ของมันนั้นในที่สุด,​ ร่างกายของเรา​โดยเนื้อแท้จึงเป็นความว่างที่แท้จริง​ที่เป็นสิ่งเฉพาะ​ส่วนตัว​ที่แท้จริง​ที่ว่างเปล่า​ขาดสูญไม่ต่อเนื่อง​ไม่มีอยู่อย่างแท้จริง​ และ​ ร่างกาย​ของเราโดยเนื้อแท้สูงสุด​จึงเป็นสูญญตาความว่างที่แท้จริงสูงสุด​ที่ปราศจาก​กาลเวลา​สิ้นเชิงที่เป็นสิ่งเฉพาะ​ส่วนตัว​ที่แท้จริง​สูงสุด​ที่ว่างเปล่า​ขาดสูญไม่มีอยู่อย่างสิ้นเชิง​ตลอดกาล​, ดังนั้น​ ตัวเราคือ​ จิต​อันเป็น​สิ่งสากลที่เป็นจิตสายกลางจิตตัวรู้​​จุดดวงวิญญาณ​ที่มีอยู่ที่กำลังรู้สึกตัวรู้อยู่​เฉยๆในตัวเอง ที่ไม่ใช่จิตความคิดปรุงแต่ง​มายาอันเป็นจิตสุดโต่ง​จิตมายาที่เป็นเพียงเปลือกมายาของจิตที่เคลื่อนไหว​ฟุ้งซ่าน​ขาดสติ​เครียด​วิตกกังวล​คิดมาก​กับ​สิ่ง​ต่าง​ๆด้วยอวิชชา​ความไม่รู้​นั้น, ตัวเราที่แท้จริงคือ​ แก่นแท้ของจิตอันเป็น​ ​สิ่งสากล​ที่แท้จริงอาตมันจุดดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์​ที่​สะอาด​ สว่าง​ สงบเหนือโลกเหนือจักรวาล​ที่มีอยู่อย่างแท้จริง​ และ​ ตัวเราที่แท้จริง​สูงสุด​คือ​ แก่นแท้​สูงสุด​ของจิตอันเป็น​ พระเจ้า​ชีว่าพระเจ้า​พระบิดาอันเป็นสิ่งสากลที่แท้จริง​สูงสุด​ปรมาตมัน​ดวงวิญญาณ​สูงสุด​ซุปเปอร์​จิตที่สะอาด​สูงสุด​ สว่างสูงสุด​ สงบ​สูงสุด​เป็น​อมตะนิรันดร์​มีอยู่อย่างต่อเนื่อง​ถาวรตลอดกาล​ชั่วกัลปาวสานเหนือโลกเหนือจักรวาล​เหนืออวกาศ​-เวลา​... " . ซึ่งทางสายกลาง​จะไม่สุดโต่งเป็นทางโลก​ และ​ ทางธรรม, ดังนั้น​ แม้เราจะดูแ​ลสุขภาพร่าง​กายภายในด้วยการเล่นโยคะสายกลาง​จนเกิดเป็นพระเจ้า​สมาบัติ​ที่จะทำให้เราหาความสุขสูงสุดจากการนอนหลับ​พักผ่อ​นที่จะสุขในโลกหน้าจนร่างกายไม่เจ็บปวด​ทรมานได้อย่างแท้จริง​สูงสุด​แล้ว​ ย่อมส่งผลทำให้เกิดการดูแลสุขภาพร่างกายภายนอกโดยทางสายกลาง​ตามไปด้วยเองอัตโนมัติ(แต่ไม่ถือรวมในการเล่นโยคะสายกลาง​เป็นเพียงข้อแนะนํา​ข้อควรทำข้อไม่ควรทำเพื่อการเล่นโยคะให้เกิดประสิทธิภาพ​สูงสุด​เท่านั้น)​ เพราะเราจะรู้สึก​ว่าร่างกายเราบริสุทธิ์​สูงสุดหายไปอย่างสิ้นเชิง​เป็นจิตตัว​รู้​ที่บริสุทธิ์​สูงสุด​มีความสุข​สูงสุด​ล้วนๆหนึ่งเดียวที่ปราศจาก​ความทุกข์​สิ้นเชิง​โดยทางสายกลางมาแล้ว​ เราย่อมอยากกินอาหาร​ที่บริสุทธิ์​ที่ทำให้ร่างกาย​มีความสุข​สูงสุด​ปราศจาก​ความทุกข์สิ้นเชิง​โดยทางสายกลาง​ที่จะมาบรรเทา​ทุกข์​ชำระล้างความทุกข์​เจ็บปวด​ทรมานของร่างกาย​ภายนอก​ ที่จะทำให้เราสามารถหาความสุขมายาสูงสุดจากการกินอาหารจนสามารถ​มีความสุขสูงสุด​ในโลกนี้ที่จะบูชากามโดยทางสายกลาง​ตามไปด้วย, โดยจะเป็น​การทาน อาหารสายกลางสากล(universal middle​ food)​​ อันเป็น​อาหารสากลสาธารณะ​ที่ไม่สุดโต่งเป็นการกินอาหาร​ที่บำรุงบำเรอที่บูชากามที่รู้สึก​เหมือนทานเยอะเกินไปจนอิ่มหนังท้องตึงหนังตา​หย่อน​จนง่วงทนไม่ไหวล้มตัวลงนอน​หมดสติหลับไหล และ​ การไม่กินอาหารที่อดอาหาร​ที่ทรมานกามที่รู้สึก​เหมือนทานน้อยเกินไปจนหิวจนไม่มีแรงทำอะไรไม่ได้,​ จึงทำให้อาหารสายกลางสากลจึงเป็นอาหารบริสุทธิ์​ในรูป​ของอาหารเหลวเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ​ที่มีแต่เนื้ออาหารที่มีคุณค่า​มีประโยชน์​ล้วนๆเท่านั้นที่ทานแล้วดื่มแล้วรู้สึก​อิ่มอร่อย​พอดีๆสบายปากสบายท้องเหมือนกับไม่ได้กินได้เคี้ยวอะไรให้ยุ่งยาก​ลำบากเลยที่เหมาะสมสอดคล้อง​กับฌานสมาบัติที่เสวยสุขวิเศ​ษสุขทิพย์​บริสุทธิ์​วิมุติสุขบรมสุข​ที่อิ่มทิพย์​ภายในเป็นพื้นฐาน​อยู่แล้ว​ที่จะไม่ค่อยหิวอยากทานอาหารมากมายนั้น​ ที่จะทานโดยใช้ดื่มอย่างง่ายๆแค่ดูดแล้วก็ดื่มทานอย่างอร่อย,สะดวกรวดเร็วทันทีไม่ต้องรอ,ราคาไม่แพงคนทั่วไป​ส่วนใหญ่​ทุกคนสามารถซื้อได้​ จึงเป็นอาหารสวรรค์​แห่งสายน้ำ(เปรียบเหมือน​สายน้ำแห่งสวรรค์​มายาที่จะช่วยชำระล้างร่างกาย​ให้บริสุทธิ์​ดับไฟนรกมายาที่ทุกข์ร้อนนั้น​)​ที่เป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์​ต่อสุขภาพ​ที่หาซื้อง่ายวางจำหน่ายเป็น​สากลสาธารณะ​แก่มหาชนทั่วไป​ส่วนมาก​อย่างเท่าเทียมกัน​หมดทุกคน เช่น​ นมเปรี้ยว, น้ำแร่,วิตตามินวอเตอร์,น้ำผลไม้ยูเอชที,นมยูเอชที, พรุนเบอรี่สกัดเข้มข้นพร้อมดื่ม, ฯลฯ,.... ซึ่งจะเป็น​ อาหารหุ่นยนต์อาหารของเล่น​(robot​ food)หรือ ซุปเปอร์​ฟู๊ด(super​ food)​ ​อาหารชั้นสูง​สุดยอดอาหาร​ที่มหัศจรรย์​เหนือธรรมชาติ​ที่ผลิตจากเครื่องจักร​หุ่นยนต์​ที่ทันสมัย​จึงไม่อาจหาพบได้ทั่วไป​เองตามธรรมชาติ​ ส่วนมากจะบรรจุอยู่ภาชนะ​ หรือ​ กล่อง​ที่ออกแบบ​สวยงาม​ทันสมัยน่าทานกะทัดรัด​พกพาสะดวกที่จะเน้นที่คุณภาพ​ไม่ได้เน้นปริมาณ​ มีรสชาติอร่อยหวานกลมกล่อม​เป็นที่นิยมของมหาชน​ ที่จะมีภาพลักษณ์​เป็นอาหารของวัยรุ่น​คนรุ่นใหม่​ที่รักสุขภาพ​ความงามที่สดใสแข็งแรง​ร่าเริง​แจ่มใส​มีชีวิ​ตชีวา ที่เมื่อเราทานทุกวันแล้วร่างกาย​ของเรา​ย่อมมีภาพลักษณ์​แบบนั้นไปตามนั้นที่จะสอดคล้องกับเป้าหมายความเป็นหนุ่มอมตะมีอายุยืนยาวมหาศาลเหนือโลกของการเล่นโยคะสายกลาง, ซึ่งจะเป็น​การกินอาหาร​อย่างมีสติปัญญา​แบบผู้ฉลาดเลือกอาหารที่ดีที่สุด​ให้ร่างกาย​เราเองเพื่อการมีสุขภาพ​ร่างกายภายนอก​ที่ดีที่สุด​ ที่จะไม่กินแบบกินอะไรก็ได้ตามใจปากตามใจกิเลสตัณหาจนต้องเสียสุขภาพเจ็บป่วย​ทุกข์​เจ็บปวด​ทรมานในภายหลัง​ ซึ่ง​จะ​ทำให้เราค่อยๆลดละเลิกที่จะกินอาหารแบบเดิมๆที่รู้สึก​ว่าสกปรกเต็ม​ไปด้วยซากศพ​ซากพืชซากสัตว์​เผ็ดร้อนทำลายสุขภาพ​ที่เรากินอยู่ทุกวันตามๆคนทั่วไป​ส่วนมากกินกันตามปกตินั้น​ ที่จะพลิกมองมันเป็นอาหารที่ขัดแย้งกับเป้าหมาย​ของการเล่นโยคะสายกลาง​ ที่จะเป็น​อาหารนรกแห่งไฟนรกที่เป็นอาหารที่ดูคล้ายกองเศษขยะสิ่งปฏิกูล​รกสกปรกไปด้วยเศษขยะซากศพซากพืช​ซากสัตว์​เผ็ดร้อนบูดเน่าเต็ม​ไปด้วยเชื้อโรค​ที่เป็นเหมือนยาพิษ​​ร้ายอันตราย​ที่ทำลายสุขภาพทานแล้วทำให้เจ็บป่ว​ยทุกข์​เจ็บ​ปวดทรมานนำไป​สู่​ความแก่ชราความตายอย่างทรมานในที่สุด​(อาจอุปมา​ได้กับการที่มนุษย์​ไม่เชื่อฟั​งพระเจ้า​ไปกินผลไม้​รู้ดีรู้ชั่วเข้าไปจึงถูกพระเจ้า​ขับไล่จากสวนสวรรค์​ให้ต้องมาเกิด​ แก่​ ​เจ็บ​ ตาย​ในโลกมนุษย์​  หรือ​ อาภัสราพรหมเผลอกินง้วนดินเข้าไปจนฌานเสื่อมสูญเสีย​ความเป็นอมตะตกสวรรค์​เหาะไม่ได้อีกต่อไป)​ ที่ต้องยุ่งยากลำบากในการออกไปทำงานไปล่าสัตว์หาวัตถุดิบ-ต้องลำบากในการ​ปรุงอาหารต้องรอนาน-ต้องลำบากในการเคี้ยวด้วยฟันกัดขบกินที่เหมือนใช้มีดตัดกรีดเฉือนนั้น​-ต้องลำบากทรมานในการอิ่มท้องเกินไป​หนักท้อง-ต้องลำบากทรมานในการขับถ่ายปวดท้องรุนแรง​ จนทำให้เราไม่มีความอยากทานอาหาร​แบบเดิมๆอีกต่อไปในที่สุด.​ ซึ่งคนทั่วไป​ส่วนใหญ่​แม้จะเป็น​คนจนก็ตามก็สามารถทดลองกินอาหารสายกลางสากลอาหารหุ่นยนต์​ที่ราคาถูกที่วางจำหน่ายทั่วไปแทนอาหารหลักที่สกปรก​เต็มไปด้วยซากศพ​ซากพืช​ซากสัตว์​เผ็ดร้อนทำลายสุขภาพ​ได้, ​ ซึ่งหากเราทานแต่อาหารสายกลางสากลแทนล้วนๆอย่าง​เดียว​จนมีสุขภาพ​ร่างกาย​ดีขึ้นเรื่อยๆ​พร้อมกับเล่นโยคะสายกลาง​จนมีสุขภาพจิต​ดีขึ้นเรื่อยๆพร้อมกันควบคู่​กันไป เราก็จะมีคุณภาพชีวิต​ที่ดีขึ้นเรื่อยๆ​ร่ำรวยขึ้นเรื่อยๆสามารถมีเงินซื้ออาหารสายกลางสากลระดับพรีเมี่ยมอาหารเสริม​เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ​ที่มีราคาแพงที่คนรวยเท่านั้น​ที่ซื้อได้นั้นขึ้นเรื่อยๆได้เอง​ จนสามารถเลิกกินอาหารหลักที่เต็มไปด้วยซากศพ​ซากพืช​ซากสัตว์​เผ็ดร้อนทำลายสุขภาพแบบคนทั่วไปส่วนใหญ่​นั้นอย่างสิ้นเชิง​ได้เองในที่สุด​("การทำสงคราม​ต่อสู้กับคู่ต่อสู้​มารศัตรู​ของเรา​อันเป็นผู้อื่น​สิ่งต่างๆที่ไม่ใช่ตัวเราที่เป็นจิตสายกลางจิตตัว​รู้​จุดดวงวิญญาณ​นั้นเราควรมุ่งสนใจที่มารศัตรูภายในศัตรู​ใกล้ตัวของเรา​ที่เราชอบมองข้ามมาตลอด​ คือ​ จิตความคิดปรุงแต่งมายาอันเป็นมารศัตรู​ที่แท้จริง​สูงสุด​ของเรา​ และ​ ร่างกาย​เนื้อหนัง​ปรุงแต่​งมายาอันเป็น​มารศัตรู​ที่แท้จริง​ของเรานั้นเป็นหลัก, โดยการเล่นโยคะสายกลางทรมานกามทรมานจิตโดยทางสายกลาง​ ทำสงครามต่อสู้​กำจัดสังหารฆ่าจิตความคิดปรุงแต่งมายาโดยตรง​ จนจิตนิพพาน​ดับความอยากกิเลส​ตัณหา​ที่จะอยากส่งจิตออกไปรู้ไปรับรู้นอกจิตนั้นจนสามารถเข้าถึงพระเจ้า​ความสุขสูงสุด​ในโลกหน้าได้​ และ​ กินอาหารสายกลาง​สากลบูชากามบูชาร่างกาย​โดยทางสายกลาง​ ทำสงคราม​โดยอ้อมพลิกเปลี่ยน​สนามรบให้เป็นสนามรัก​ หันมารักร่างกายตัวเองรักสวยรักงาม​บำรุงบำเรอดูแลรักษา​​ตัวสุขภาพ​ร่างกาย​ตัวเองฝึกจิตฝึกร่างกายปรับ​เปลี่ยน​พฤติกรรม​การกินของเรา​แทนโดยฉลาดเลือกทานอาหารด้วยสติปัญญา​ไม่ได้ทานตามใจปากตามใจกิเลสตัณหา​ ​จิตเป็น​นายกายเป็น​บ่าว​ เราต้องใช้จิตบังคับ​ควบร่างกาย​ของเราให้ได้​ให้ร่างกาย​เป็น​เหมือน​หุ่นยนต์​ที่เคลื่อนไหว​ทำตาม​โปรแกรม​คำสั่งของ​เรา เพราะเรากินอะไรเข้าไป​ ร่างกายเราย่อมเป็น​แบบนั้น​ ฝึกร่างกายของเราให้มันกินตามที่เราสั่งการไม่ให้กินตามที่มันต้องการ​ จนร่างกาย​ของ​เราสามารถมีสุขภาพ​ร่างกาย​สดใสแข็งแรงดูเป็นหนุ่มมีสุขภาพ​ดีมีความสุขสูงสุด​ในโลกนี้ได้, จึงทำให้เรา​สามารถ​เป็นคนที่เดินบนทางสายกลาง​ที่สามารถ​มีความสุขสูงสุ​ดทั้งในโลกนี้​ และ​ โลกหน้าได้...")​... 

 

"อย่าเพิ่ง​หลงติดในสุขใดๆใน​โลก​ใน​จักรวาล​ในอวกาศ​-เวลาจนกว่า​เราจะเราจะได้พบกับพระเจ้า​อันเป็น​ความสุข​ที่​แท้จริง​สูงสุด​ที่มีแต่ความสุข​ล้วน​ๆตลอดกาล​ที่ปราศจาก​ความทุกข์​สิ้นเชิง, ซึ่ง​เมื่อเราสามารถ​ได้พบเจอได้รู้จักกับพระเจ้าชีว่าพระเจ้า​พระบิดาด้วยจิตของเราเองล้วนๆเพียง​จิต​เดียว​เท่านั้น​อย่างสุดจิต​สุดใจสุดแรงสุดพลังของเราได้แล้วเมื่อเราได้ตื่นรู้มองเห็นแสงอันสว่างจ้า​สูงสุด​ของพระจันทร์​สี​เงิน​ได้อย่างประจักษ์​แจ้งสูงสุด​แล้วนั้นเราจะพบว่าทุกอย่าง​ของเราทั้งร่างกาย​-จิต-ชีวิต​-ใจความ​รู้สึก​ของเราได้พลิกเปลี่ยน​ไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง​ตลอดกาล​ ที่เราจะยอมทำทุกอย่าง​ยอมสลัดทิ้ง​ทุกสิ่งทุกอย่าง​เพื่อพระเจ้า​เพียงสิ่ง​เดียว​เท่านั้น​จากนี้ไปจนนิรันดร์​, ดังนั้น​ เราจึงรีบกลับตัวกลับใจพลิกร่างกายพลิกจิตแปรพักตร์อพยพ​ย้ายหนีไปอยู่ฝ่ายของพระเจ้าชีว่าพระเจ้า​พระบิดาให้เร็วที่สุดเพื่อการพลิกมีชีวิต​ใหม่ที่เป็นอมตะนิรันดร์ในสวรรค์​จนพลิกใจความรู้สึก​ไม่ต้องทนทุกข์​ทรมานเกิด​ แก่​ เจ็บ​ ตาย​อีกต่อไป​ เพราะการยอมอยู่ฝ่ายซาตานเราย่อมกลายเป็น​มารสัตว์​นรกลูกสมุนของพญามารซาตาน​ที่ต้องได้รับผลของบาปกรรม​เป็นความตายจากความเป็นอมตะอย่างทุกข์​ทรมานจนกลายเป็น​ภูตผี​วิญญาณ​ร้ายที่ถูกจองจำในบึงไฟนรกสังสารวัฏชั่วกัปชั่วกัลป์​ไม่ได้ผุดได้เกิดในที่สุดแน่นอน​, ที่ถึงแม้จะมีเงินร้อยล้านพันล้านก็ไม่สามารถ​ซื้อชีวิตจากร่างกายที่กำลังทุกข์​เจ็บ​ปวดทรมานจนทนไม่ไหว​ขาดใจตายได้หากร่างกายของเราไม่ได้มีสุขภาพ​ดีอย่างแท้จริง​จากภายในที่ลึกที่สุดอันเป็น​พระเจ้า​นั้น  แต่ถ้าร่างกาย​ของ​เรามีสุขภาพ​ดีอย่างแท้จริง​จากภายในที่ลึกที่สุดด้วยพลังวิเศษ​ของพระเจ้า​จากการเล่นโยคะสายกลาง​จนสามารถทำให้ร่างกาย​ของเราไม่เจ็บได้อย่างแท้จริง​สูงสุด​ที่ไม่ต้องสนใจความทุกข์​ทรมานเกิด​ แก่​ เจ็บ​ ตาย​ของร่างกาย​อีกต่อไปได้สำเร็จ​แล้วนั้นเราจะเอากี่ร้อยล้านพัน​ล้านแค่ไหนยังไง​ก็ได้​ เพราะการเล่นโยคะสายกลาง​ย่อมส่งผล​ทำให้ชีวิตของเราจะค่อยๆพลิกจากนรกมายาสู่สวรรค์​มายามากขึ้น​เรื่อยๆที่จะทำให้เรามีคุณภาพชีวิต​ที่ดีขึ้นสนุกสบายเพิ่มขึ้นร่ำรวยเพิ่มขึ้น​เรื่อยๆเอง​โดยพลังอำนาจวิเศษ​ของพระเจ้าชีว่าพระเจ้า​พระบิดา​นั้น ที่จะค่อยๆพลิกชีวิตของเรา​กลายเป็น​ราชามหาเศรษฐีที่เป็นหนุ่มอมตะมีอายุ​ยืนยาวมหาศาลเหนือโลกที่จะไม่แก่ได้อย่างแท้จริง​สูงสุด​ จนสามารถ​กลายเป็นพระเจ้าอันเป็น​ราชาจ้าวจักรวาล​สูงสุดที่เป็นอมตะอย่างแท้จริง​สูงสุด​เหนือโลกเหนือจักรวาล​เหนืออวกาศ​-เวลาที่จะไม่ตาย-ไม่เกิดได้อย่างแท้จริงสูงสุด​ได้เองในที่สุดแน่นอน​. ดังนั้น​ คนทั่วไปส่วนใหญ่ในโลกใน​จักรวาล​นั้น​ใครๆก็สามารถเล่นโยคะสายกลาง​จนร่ำ​รวยเป็น​มหาเศรษฐี​เป็นสุดยอด​ไฮโซ​ตัวจริงไฮโซของจริงผู้สมควร​ถูกยก​ย่องให้เป็นคนชั้นสูง​มนุษย์​ชั้นสูงที่ให้คนเคารพนับถือ​ได้อย่างสนิทใจที่สุดจนสามารถกลายเป็น​พระเจ้าได้จริงในที่สุด​จากการเล่นโยคะสายกลางอย่างตั้งใจจริง​อย่างต่อเนื่อง​เป็นประจำทุกวันนั้นได้เท่าเทียมกัน​หมด​ทุกคน​เพราะโดยแท้จริง​สูงสุด​แล้วตัวเราของทุกคนนั้นคือพระเจ้าชีว่าพระเจ้า​พระบิดาอย่างยุติธรรม​เท่าเทียมกัน​หมด(ปถุชนคนธรรมดา​ๆทั่วไปที่ดูเหมือน​ไม่มีพลังจิตพลังสติใดๆเลยนั้นทุกคนสามารถพลิก​เป็นผู้วิเศษ​คนที่มีพลังจิตสูงสุด​พลัง​สติสูงสุด​สามารถแสดง​อิทธิฤทธิ์​ปาฏิหาริย์​ได้สูงสุด​จนสามารถกลายเป็น​พระเจ้า​ได้ในที่สุด​ด้วยการมุ่งมั่นตั้งใจ​อย่างสูง​สุด​ในการเล่นโยคะสายกลาง​นี้เพียงอย่าง​เดียว​เท่านั้น​โดยไม่ต้องพึ่งพา​อ้อนวอน​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​ใดๆภายนอก​มาช่วยเพราะตัวเราที่แท้​จริง​สูงสุดในภายในที่ลึกที่สุด​นั้นก็คือพระเจ้า​อันเป็น​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​ที่แท้จริง​สูงสุด​อยู่​แล้ว)​, ดังนั้น​ แม้ว่าในกรณีที่​แย่ที่สุดโดยทางสายกลาง​ที่เราต้องเกิดเป็นคนบ้านนอกแก่ๆจนๆที่สังคมครอบครัว​ชนบทรังเกียจ​ประนามสาปแช่ง​ในชนบทมาก่อนก็ตามเพราะมันก็เป็นเพียงมายาสูงสุดแห่งความเกลียดที่แบ่งแยกรูปธรรม​นามธรรมอันเป็น​สิ่งต่างๆสิ่งปรุงแต่ง​มายาต่างๆให้แตกต่างตรงกันข้าม​กันในความฝันมายาเสมือนจริงอันเป็น​เปลือกมายาเท่านั้น​เอง​ ไม่ได้มีผลกระทบ​ใดๆต่อพระเจ้า​อันเป็นความรักแท้​สากลจักรวาล​สูงสุด​ความเป็นเอกภาพ​หนึ่งเดียวสูงสุด​แก่นแท้​สูงสุด​ของสรรพสิ่ง​นั้นเลยอย่างใดเลยอย่างสิ้นเชิง​. ซึ่งผู้เล่นโยคะสายกลางอย่างเต็มที่​ต่อเนื่อง​เป็นประจำทุกวันแล้วย่อมจะรู้สึก​ว่าชีวิต​หมดปัญหา​ไม่มีความเครียดวิตกกังวล​คิดมากกับชีวิต​ในอดีต​-ปัจจุบัน​-อนาคตของตัวเองเลย​ ที่ไม่ว่าชีวิตในอดีตจะแย่แค่ไหนยังไงมาก่อนก็ตามก็จะไม่แคร์ไม่สนใจช่างหัวมัน เพราะยังไง​ก็มั่นใจสูงสุด​ว่าชีวิตในอนาคตจะต้องเป็นชีวิตที่ดีที่สุดแน่นอน​ โดยขอเพียง​ให้ทำชีวิตในปัจจุบันให้ดีที่สุด​โดยทางสายกลาง​ด้วยการเล่นโยคะสายกลาง​นี้ให้เต็มที่​ให้ได้เท่านั้น​ก็พอเเล้ว​ ชีวิตมายาในความฝันมายาเสมือน​จริงมันจะพลิก​ หรือ​ ไม่พลิกไม่ต้องไปสนใจเพราะโดยเนื้อแท้ที่สุด​แล้วล้วน​เป็นฝันร้ายมายา​เสมือน​จริง​นรกมายาขุมที่ลึกที่สุดที่ไม่มีอะไรสิ่งใดสามารถอดทนรอดตั้งอยู่​ดำรงอยู่ได้แม้แต่อนุภา​คเดียวในวินาที​เดียว​เหมือนกัน​เท่าเทียมกัน​หมดไม่ว่ามันจะดูเหมือนเป็นฝันดีเป็นสวรรค์​แค่ไหนยังไงก็ตาม​ จึงให้สนใจแต่พระเจ้าให้รักแต่พระเจ้า​อย่างสุดจิต​สุดใจสุดแรงสุดพลัง​ให้ได้เพราะไม่ว่าใครจะเป็นใครจะตาย-ฟ้าจะถล่ม​-ดินจะทะลาย​-โลกจะแตก​-จักรวาล​จะดับหายไป​-กาลเวลา​จะหมุนเวียน​ผ่านไปกี่ล้านๆกัปป์กัลป์​นั้น​ พระเจ้าอันเป็น​ชีว่าพระเจ้า​พระบิดาความรักแท้สากล​จักรวาล​สูงสุด​นั้นก็ยังตั้งอยู่​ดำรงอยู่เป็น​อมตะนิรันดร์​อยู่​อย่างนั้น​เองตลอดไป​เพราะนี่แหละ​คือสิ่งเดียวที่จะดำรงคงอยู่​ร่วมกับเราตลอดเวลา​ และ​ ตลอดกาลไม่มีวันเหินห่าง​ทอดทิ้ง​เราเลยไม่ว่ากรณีใดๆก็ตาม..."

 

 

3.)​การเล่นโยคะสายกลางจะส่งผลต่อร่างกาย​-จิต-ชีวิต​-ใจความรู้สึก​ของเรา​อย่างไรบ้าง? 

    โดยการเล่นโยคะสายกลางการเพ่งกสิณจิตสายกลาง​จิตตัว​รู้​จุดดวงวิญญาณ​อย่างสูงสุด​โดยที่จิตตัว​รู้​จะสนใจเพ่งรู้แต่ตัวจิตตัว​รู้​เองล้วนๆเพียงจิตตัว​รู้​เดีย​วเท่านั้นที่จิตจะไม่มีการรู้​ไม่มีการรับรู้กับสิ่ง​ต่าง​ๆอย่างสิ้นเชิง​จนจิตโมกษะสูงสุดพ้นทุกข์​สูงสุด​เป็นอิสระ​จากทุกสิ่งทุกอย่าง​กลายเป็น​หนึ่งเดียว​กับพระเจ้า​อย่างฉับพลัน​ทันที​จนสามารถ​ชาร์จ​พลัง​วิเศษ​จาก​พระเจ้า​ได้นั้นจะเป็นการพักผ่อนนอนหลับ​ที่ดีที่สุดที่จะหาความสุขสูงสุดจากการนอนหลับ​พักผ่อ​น​หลับสนิทหลับลึกอย่างสูง​สุด​ ​"ที่จะเหมือน​ว่าให้เราได้ลองตายก่อนเล่นๆโดยทางสายกลาง​ดูเล่นๆก่อน​ ลองถอดจิตไปเที่ยวโลกหน้าเล่นๆที่มีแต่จิตล้วนๆเพียง​จิต​เดียว​เท่านั้นอันเป็น​พระเจ้า​นั้นว่าจะเป็นยังไง​ ลองเทสต์​ดูเล่นๆว่าถ้าเราหลับสนิทตายสนิทดับสนิทจริงๆที่ไม่รู้​สึกว่ามีร่างกาย​-มีจิต-มีชีวิต​-มีใจความ​รู้สึก​อีกต่อไป​แล้วที่รู้สึก​สูญเสีย​หมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง​ไม่เหลือใครอะไรสิ่งใด​ที่เป็นของเรา​ในโลก​นี้​แล้วตัวเราจะยังคง​ดำรงอยู่ได้อีกไหม? ดำรงอยู่อย่างไร?เราจะทนอยู่แบบนั้นได้ไหม? เพื่อให้เราคุ้นเคย​กับโลกหน้าคุ้นเคย​กับความตายคุ้นเคย​กับพระเจ้าให้เต็มที่​จนเราสามารถ​ไม่กลัวไม่เครียดวิตกกังวล​คิดมาก​กับ​ความตายจากโลกนี้อีกต่อไปรวมถึง​ไม่กลัวไม่เครียดวิตกกังวล​คิดมาก​กับการมีชีวิต​อยู่​ในโลก​นี้​ด้วยเพราะสำหรับผู้​ที่​มีพลังจิตสูงสุด​พลังสติสูงสุด​แล้วย่อมเป็นอมตะนิรันดร์​ตั้งอยู่​ดำรงอยู่ตลอด​กาลสามารถอยู่ยงคงกระพัน​อยู่รอดได้ในทุกสภาวะไม่ว่าจะมีชีวิต​อยู่ในโลกใน​จักรวาล​ในสภาพสุดแร้นแค้น​ทุรกันดาร​ที่ไม่มีเงิน(ไม่สามารถ​ทำงานหาเงินใช้​เงินแม้แต่​บาท​เดียวเพราะเราทำงานหนักเพื่อแลกเงินแบบมนุษย์ไม่ได้​ทำงานร่วมกับ​มนุษย์​ไม่ได้)​ ไม่มีใคร(ไม่มีมนุษย์ที่เข้าข้าง​เราที่เป็นมิตร​ช่วยเหลือ​เราได้เลยแม้แต่คนเดียว​เพราะเราใช้ชีวิต​แบบมนุษย์​ไม่ได้ใช้ชีวิต​ร่วมกับ​มนุษย์​ไม่ได้​ใช้ชีวิต​แบบมีความรักเฉพาะ​ส่วนตัว​มีครอบครัว​เฉพาะ​ส่วนตัว​แบบมนุษย์​กับมนุษย์​ไม่ได้)​ ไม่มีธรรมชาติ​สิ่งมีชีวิต(เพราะเราใช้ชีวิต​ในธรรมชาติ​ป่าเขาลำเนาไพร​แบบสัตว์​แบบมนุษย์​ไม่ได้)​ ไม่มีอาหาร​(เพราะเรากินอาหาร​แบบสัตว์​แบบมนุษย์​ไม่ได้)​ ไม่มีน้ำ​ ไม่มีอากาศ​ แม้แต่ไม่มีร่างกาย​ของเรา​อีกแล้ว​ก็ตาม, เพราะว่า​ตัวเราโดยแท้จริง​สูงสุด​แล้วเป็นพระเจ้า​ที่ดำรงอยู่รอด​อย่างสัมบูรณ์​ได้ด้วยตัวเอง​ล้วนๆตลอดกาล​ ​เราจึงไม่จำเป็น​ต้องพึ่งพา​อาศัย​ใครอะไรสิ่งใด​ในโลกใน​จักรวาล​ในอวกาศ​-เวลา​ที่โดยแท้จริง​สูงสุด​แล้ว​ล้วนเป็นสูญญตาความว่าง​ที่แท้จริง​สูงสุด​ที่ปราศจาก​กาลเวลาสิ้นเชิง​ที่ไม่มีแม้แต่​อนุภาค​เดียว​ในวินาที​เดียวนั้นเพื่อ​ความอยู่รอด​ของเรา​เลยอย่างสิ้นเชิง​...", โดยที่การเล่นโยคะ​สายกลาง​จะเป็นการตั้งสติ​รวมพลังจิต​ทั้งหมดให้ตัวเราอันเป็น​จิตสายกลางจิตตัว​รู้​จุดดวงวิญญาณ​นั้นเพ่งกสิณมุ่งเป้าโฟกัสสนใจ​เพ่งรู้แต่ตัวจิตตัว​รู้​เอง​ล้วนๆเพียงจิตตัว​รู้​เดียว​เท่านั้นอย่างสุดจิ​ตสุดใจสุดแรงสุดพลัง​ของ​เราเพื่อชุบตัว​ชาร์จ​พลังวิเศษ​จากพระเจ้าเพื่อเสวยสุขวิเศษ​สุขทิพย์​วิมุติสุข​บรมสุข​ให้ถึงขีดสุด​​นั้นจะส่งผลอย่างฉับพลัน​ทันที​ และ​ อย่าง​ต่อเนื่อง​ค่อยเป็นค่อยไป​ต่อร่างกายเนื้อหนังปรุงแต่งมายาของเรา​ และ​ จิตความคิดปรุงแต่ง​มายาของ​เราในโลกใน​จักรวาลในอวกาศ​-เวลาพร้อม​กันหนึ่งเดียว​กัน​สูงสุด​ พร้อมกันนั้นก็จะส่งผลกับชีวิต​ของเรา​ และ​ ใจความรู้สึก​ของเรากับสิ่ง​ต่าง​ๆนั้นตามไปด้วยเองอัตโนมัติ​ ​จึงส่งผล​กระทบ​ต่อ​องค์​รวมทั้งหมด​ของเรา​ในโลกนี้ด้วยเองอัตโนมัติด้วยการเล่นโยคะสายกลาง​เพียง​อย่างเดียวเท่านั้น​. ​แต่เราไม่จำเป็นต้องพยายามอดทนเข้าฌานนั่งสมาธิ​หลับตาเล่นโยคะสายกลางที่จะนั่งนิ่งๆหยุดหายใจหยุดเคลื่อนไหว​ไม่กระดุกกระดิก​นอนหลับสนิทสูงสุด​โดยไม่มีการฝันใดๆไม่มีการคิดนึกใดๆทั้งวันทั้งคืนแบบการเข้าฌานทั่วไป​นั้นแต่อย่างใด​, โดยเมื่อรู้สึ​กว่าชาร์จ​พลังวิเศษ​จากพระเจ้า​ในฌานพระเจ้า​สมาบัติ​ได้พอสมควร​แล้วมีพลังเต็มที่​แล้วไม่อยากชุบตัวชาร์จ​พลัง​อีกต่อไป​แล้วนั้นเราสามารถออกจากฌานเพื่อเปลี่ยน​บรรยากาศ​สลับมาผ่อนคลายร่างกาย​เคลื่อนไหว​ออกกำลังกายเคลื่อนไหว​ออกกำลังจิตอย่างสนุกสบายอย่างฉลาดรอบรู้​เพื่อส่องแสง​ถ่ายทอด​พลังวิเศษ​ที่เราได้ชาร์จ​มาจากพระเจ้า​ในโลกหน้านั้นมายังร่างกาย​-จิต-ชีวิต​-ใจความรู้สึก​ของเราในโลกนี้แทนโดยอาจมองเป็นการส่งผลกระทบโดย​แยกเป็น​ส่วนๆของร่างกาย​-จิต-ชีวิต​-ใจความรู้สึก​ของเรา​ (ซึ่ง​จะเป็นการชำแหละ​อย่างละเอียด​ให้เห็นถึงกระบวนการแต่ละขั้นๆของการกว่าจะได้เป็นพระเจ้า​สมาบัติโลกส่วนตัว​อย่าง​สูงสุ​ดของเราที่สามารถ​ตั้งมั่น​ได้ทั้งวัน​ทั้งคืนนั้นจนสามารถทำให้นิโรธ​ดับทุกข์​สิ้นเชิงนั้นทำ​ได้อย่างไรเป็น​ขั้นๆส่วนๆไป)​ คือ​ (1.)ผลกระทบทางร่างกาย​(body​ effect)​ จะส่งผลทำให้ร่างกาย​ของเราสามารถ​มีพลัง​สูงสุด​ที่จะผ่อนคลาย​ได้อย่างสูงสุด​ เพราะจากการที่เราเล่นโยคะสายกลางซึ่ง​จะส่งผลทำให้ร่างกาย​ของ​เราเหมือนกับว่าจะทนไม่ไหวเกิดอาการ​ช๊อคสุดขีดหยุดเคลื่อนไหว​หยุดหายใจทำอะไรไม่ได้อีกต่อไป​ต้องหลับตาปี๋พร้อมขมวดบีบหัวคิ้ว​อย่างรุนแรงสุดขีดตามไปด้วย​เองอัตโนมัติ​นั้นจึงเหมือนกับว่าร่างกาย​ของเราได้ถูกบีบหดอย่างรุนแรง​อย่างฉับพลั​นทันทีจนหายไป​ เหมือนกับว่าร่างกายทั้งหมด​ได้อัดแน่นรวมพลังทั้งหมด​กันเป็นจุดเดียวที่ จุดตาที่สาม​(third eye point)​ อันเป็น​จุดตำแหน่ง​ของตาทิพย์​ภายในตรงตำแหน่ง​ จักระโยคะ(yoga​ chakras)​ ​ที่​ 6 อันเป็นจักร​ อาชณะ(ajna)​ ที่สัมพันธ์​กับ​ ต่อมใต้สมอง(pituitary gland) บริเวณ​ภายในจุดกึ่งกลางหน้าผาก​ระหว่าง​คิ้วนั้น, โดยที่จุดนี้จะเป็น​ จุดตาสายกลาง​(middle​ eye​ point)​ ที่เป็นจุดตำแหน่ง​ของตาสายกลางหนึ่งเดียว​เหนือตาทั้งสองข้างของเราที่แบ่งแยก​ออกเป็นสองข้างอย่างชัดเจน​สุดโต่ง​นั้น, ซึ่ง​จะ​เป็น​จุดศูนย์กลาง​ศูนย์​รวมพลังทั้งหมด​ของร่างกายจุดสมดุลหยุดนิ่ง​มั่นคง​ของร่างกาย​ที่อัดแน่น​เต็ม​เปี่ย​มไปด้วยพลังงานวิญญาณ​บริสุทธิ์​เหนือโลกที่ปิติสุขเสียวซาบซ่านเย็นยะเยือก​ล้วนๆอย่างมหาศาล​ จึงสามารถทำให้รู้สึกปิติสุขเสียว​สดชื่น​ตื่นตัวขึ้นมาได้ง่ายๆรวดเร็ว​ฉับพลัน​ทันที​นั้น(จุดนี้จึงเหมาะเป็น​ฐานที่ตั้งแห่งสติ​ หรือ​ จิตสายกลาง​จิตตัว​รู้​จุดดวงวิญญาณ​เพื่อใช้ในการเจริญสติเพ่งกสิณจิตสายกลางนั้นเพราะร่างกาย​จะได้ไม่เจ็บปวด​เวลาเพ่งกสิณ)​, จึงเหมือนว่าเกิดมี​ การเพ่งกสิณจุดตาสายกลาง(middle​ eye point focus meditation​)​ ขึ้นมาด้วยเองอัตโนมัติ​ "ที่จะรู้สึก​ว่าได้มีการรวมพลังจิตทั้งหมด​โฟกัสเพ่งสนใจแต่จุดตาสายกลางจุดตาที่สามล้วนๆเพียงจุดเดียวเท่านั้น​อย่างสุดจิตสุดใจสุดแรงสุดพลังอย่างฉับพลัน​ทันที...." ตามไปด้วยเองอัตโนมัติด้วยการที่ร่างกาย​หลับตาปี๋พร้อมขมวดบีบหัวคิ้ว​อย่างรุนแรงสุดขีดตามไปด้วย​เองอัตโนมัติ​นั้น, จึงเหมือนกับว่าร่างกายของเรา​ได้​ถูก ชัตดาวน์​ปิสวิตช์​ร่างกาย​(shute down​ turn-off body switch)​ ที่ปุ่มจุดตาสายกลางจุดตาที่สามนั้นตามธรรมชาติอย่างฉับพลันทันที​เองอัตโนมัติ​ ที่จะเป็น การพลิกร่างกาย​อย่างฉับพลัน​ทันที(sudden body​ reverse)​ ที่จะเป็นการปรับร่างกาย​ให้รู้สึ​กปิติสุขเสียวซาบซ่านสดชื่นตื่นตัวเหนือโลกอย่างง่ายๆรวดเร็ว​ฉับพลั​นทันทีที่จะดับร่างกาย​ดับความทุกข์​เจ็บปวดทรมานจนขาดใจตายของร่างกาย​นั้นให้ไม่เจ็บได้อย่างสูงสุดตามไปด้วย​เองอัตโนมัติ​ ที่เมื่อเราหันมาสนใจร่างกายของ​เรา(ส่องแสง​ถ่ายทอดพลังวิเศษ​จากพระเจ้า​ที่เราได้ชาร์จ​มานั้นมายังร่างกาย​ของเรา​)​ โดยให้เดินจิตให้จิตสนใจชำเลืองดูภายในร่างกาย​ของเรา​เองอย่างต่อเนื่อง​ยาวนาน​ที่จุดตาสายกลางจุดตาที่สามที่เหมือนกำลังถูกเพ่งกสิณจุดตาสายกลางอย่างสูงสุดพร้อมกันไปด้วยที่กำลังถูกใช้ปิดสวิตช์​ร่างกายที่ปุ่มนี้นั้นจะ​พบว่าสามารถ​สุขกายได้อย่าง​สูงสุดที่จะรู้สึก​อิ่มทิพย์​ไม่รู้สึกหิวด้วยสุขวิเศษ​สุขทิพย์​บริสุทธิ์​วิมุติสุข​บรมสุข​ที่รู้สึก​ว่าร่างกาย​เนื้อหนังปรุงแต่ง​ที่ทุกข์​เจ็บ​ปวดทรมานค่อยๆหายไป​ ร่างกายค่อยๆพลิกกลายเป็นสูญญากาศอากาศ​บริสุทธิ์​ที่​จะปรับสมดุลร่างกาย​เนื้อหนัง​ปรุงแต่งมายา​ของเราที่ทุกข์เจ็บ​ปวดทรมานให้พลิกกลายเป็นร่างกาย​ที่ปิติสุขเสียวซาบซ่านสดชื่นตื่นตัวเหนือโลกขึ้นมาอย่างฉับพลัน​ทันที​เรื่อยๆแทน​ ที่จะเป็นกายวิเศษ​ กายทิพย์​บริสุทธิ์(pure​ divine body)​ ของพระเจ้า​อันเป็น​พลังงาน​วิญญาณ​บริสุทธิ์​ของพระเจ้า​ในรูปของพลังงาน​ปราณไร้รูปที่แผ่ซ่านแผ่ขยายไปทั่วทุกทิศ​ทางที่เป็นสูญญากาศ​อากาศบริสุทธิ์​ที่ลมปราณ​ลมหายใจสงบนิ่งผ่อนคลาย​สูงสุด​(ร่างกายตั้งมั่นหยุดนิ่ง​สงบนิ่ง​ไม่มีการเคลื่อนไหว​หายใจเข้า-​ออก​ที่จะสมดุลหยุดนิ่งมั่นคงปกติ​ในภวังค์​กึ่งตื่นกึ่งหลับที่จะว่าตื่นก็ไม่ใช่​ และ​ หลับก็ไม่ใช่เหนือการตื่น​ และ​ การหลับของร่างกาย​เนื้อหนัง​ปรุงแต่ง​)​ด้วยความปิติสุขเสียวซาบซ่านสดชื่น​ตื่นตัวเหนือโลกที่รู้สึก​ตัวเบาไร้น้ำหนักล่องลอย​อิสระ​เหนือโลกเองอัตโนมัติ​โดยไม่รู้สึกว่ามีร่างกาย​อีกต่อไป(จึงส่งผล​ทำให้ร่างกายเนื้อหนัง​ปรุงแต่ง​ของเรารู้สึก​มีพลังสามารถ​พร้อมจะเคลื่อนไหว​เดินลมปราณ​รักษา​โรคด้วยตัวเองจากภายใน​ เดินกำลังภายในวิชาตัวเบาเหาะเหินเดินอากาศ​(inner power exercise)​ ด้วยพลังงานวิญญาณ​บริสุทธิ์​ที่จะออกกำลังร่างกาย​ภายในอย่างสนุกสบายโดยทางสายกลาง​ อันจะเป็น​ การพลิกร่างกายแบบค่อยเป็นค่อยไป(gradually​ body reverse​)​ ที่จะเป็น การนวดผ่อนคลาย​ร่างกาย​ภายใน(relax​ massage inner body)​ ค่อยๆปรับให้ร่างกาย​รู้สึก​ปิติสุขเสียวซาบซ่านสดชื่นตื่นตัวเหนือโลกแบบต่อเนื่อง​ช้าๆค่อยเป็น​ค่อย​ไป​เรื่อยๆทุกวัน, โดยเราจะรู้สึก​อยากจะเดินลมปราณ​ นวดผ่อนคลาย​ลมหายใจ​อย่างสูง​สุดโดยทางสายกลาง​(maximum relax​ breathing by​ middle​ way)​ ตามไปด้วย​เองอัตโนมัติ, โดยจะหันมาสนใจ ปรับสมดุลลมหายใจให้สมดุลเชิงการเคลื่อนที่(motion  balance​ breathing tune)​ โดยทางสายกลาง​ที่จะเป็น การหายใจแบบสายกลาง​(middle​ breating)​ โดยการสนใจตัวอากาศ​ลมปราณ​ลมหายใจ​เข้า-ออกในปัจจุบัน​โดยการหายใจเข้า​ลึก​ๆ-หายใจออกยาวๆอย่างผ่อนคลาย​อ่อนโยน​นุ่มนวล​อย่างมีจังหวะการหายใจที่คงที่แน่นอน​มั่นคง​สม่ำเสมอโดยทางสายกลาง​(จึงคล้ายการหายใจแบบคลื่นที่มีความเร็วคงที่)ที่จะเป็น การหายใจแบบหุ่นยนต์​(robot​ breathing)​ ที่เหมือนร่างกาย​กำลังเป็น​หุ่นยนต์​ที่กำลังถูกสะกดจิต​ให้หายใจเดินลมปราณ​ไปตามคำสั่งโปรแกรม​อัตโนมัติให้หายใจอย่างมีจังหวะ​คงที่มั่นคง​สม่ำเสมอโดยควบคุม​ตัวเองไม่ได้ที่จะหายใจแบบสายกลาง​ที่รู้สึกสมดุล​พอเหมาะ​พอดีไม่เร็วไป-ไม่ช้าไปที่ไม่รู้สึกว่ามีการหายใจเลยที่เบาเกินไปแบบการหายใจตามปกติของคนทั่วไป​ส่วนใหญ่​ที่ปล่อยตามสบายเกินไปจนไม่รู้​สึกว่าหายใจอยู่ที่หย่อนไป และ​ หายใจหนักเกินไป​จนรู้สึก​อึดอัด​ลำบากยุ่งยากใช้พลังมาก​แบบ​ การหายใจแบบโยคี(yogi breathing)​ การหายใจแบบมีพลังหายใจทั่วปอดทั่วท้องของฤาษีโยคีที่จะยกไหล่ยกกระบังลมขึ้นหายใจเข้าสุดพลังสูดอากาศ​เข้าไปเต็มปอดเต็มท้องจนหน้าท้องพอง​ แล้วจึงลดไหล่ลดกระบังลมลงหายใจออกสุดพลังคายอากาศ​ออกจนหมดปอดหมดท้องจนหน้าท้องยุบ​ ที่ต้องบังคับเกร็งฝืนหายใจอย่างหนักเกินไ​ปที่ตึงไป(แต่เนื่องจาก​เราหายใจแบบเบาเกินไปแบบคนทั่วไปส่วนใหญ่ที่หย่อนไปนั้น​มานานทั้งชีวิต​แล้วลมหายใจจึงเสียสมดุลมานานหลายสิบปีมาก​ จึงจำเป็นต้องเร่งปรับสมดุลลมหายใจใหม่ให้​ สมดุลเชิงการหยุดนิ่ง(none-motion​ balance)​ โดยทางสายกลาง​ให้ได้ก่อน,​ โดยกัดฟัน​สู้พยายาม​สูดลมไว้พลิกเปลี่ยน​บรรยากาศ​เป็นการหายใจใหม่เป็นการหายใจแบบโยคีดูหนักไปของฤาษีโยคีที่ตึงไปนั้นให้เต็มที่​สูงสุ​ดแทนบ้างในช่วงแรกๆก่อน​ ซึ่งพอลมหายใจสามารถ​สมดุลสูงสุดเชิงการหยุดนิ่งโดยทางสายกลาง​ได้แล้วที่ร่างกาย​จะรู้สึก​หยุดนิ่งร่างกาย​อัดแน่นไปด้วยอากาศ​ปราณจนรู้สึก​ปิติสุขเสียวซาบซ่านสดชื่นตื่นตัวเหนือโลกที่แผ่ซาบซ่านไปทั้งตัวอย่างต่อเนื่อง​มั่นคงยาวนานไม่รู้​สึกว่ามีการหายใจมีการเคลื่อนไหว​ใดๆอีกต่อไปที่จะรู้สึก​ว่าร่างกาย​ของเรา​ได้หยุดพักหยุดนิ่งพักผ่อนอย่างเต็มที่​สูงสุด​แล้วเองอัตโนมัติแล้ว​ก็จะสามารถพร้อม​ผ่อนคลายสูงสุด​เป็นสายกลางเป็นการหายใจแบบสายกลางที่สมดุลเชิงการเคลื่อนที่โดยทางสายกลาง​ได้ตามธรรมชาติ​เองอัตโนมัติ​ ไม่ต้องหายใจแบบโยคีอีกต่อไปจึงปล่อยให้ร่างกาย​หยุดนิ่งผ่อนคลาย​สบายสูงสุด​ไปเรื่อยๆอย่างนั้นจนกว่าจะเริ่มรู้สึก​อยากหายใจขึ้นมาเองจึงค่อยหายใจแบบสายกลางที่คล้ายการหายใจแบบคลื่นที่มีความเร็ว​คงที่นั้นต่อไ​ป, ซึ่ง​การหายใจแบบสายกลาง​จะเหมาะกับคนที่เดินทางสายกลาง​ระหว่าง​ทางโลกปุถุชน​คนทั่วไป​ส่วนใหญ่​ กับ​ ทางธรรม​ฤาษีโยคี​ ที่จะเป็นเหมือนการทำศัลยกรรม​ร่างกาย​ภายใน​ใหม่หมด​ด้วยตัวเองจัดระเบียบ​ลมหายใจ​ใหม่หมดที่จะทำให้ร่างกายของเรา​มีสุขภาพ​ดีสมดุลมีพลัง​แบบลืม​ร่างกาย​เก่าๆเดิมๆที่เคยแย่นั้นได้สูงสุด​โดยทางสายกลาง​)​ ที่จะรู้สึกเหมือนร่างกายเป็น​กายทิพย์​บริสุทธิ์​สูญญากาศ​ความว่าง​อากาศบริสุทธิ์ที่​ว่างเปล่า​ไร้ขอบเขต​ไร้ขีดจำกัดที่รู้สึ​กปลอดโปร่ง​โล่งสบายหายใจได้ทั่วปอดหายใจได้ทั่วท้องนวดอย่างเต็มที่สูงสุด​ที่จะผ่อนคลาย​ร่างกายภายในอย่างสูงสุด​ด้วยพลังลมปราณเดิมแท้บริสุทธิ์​ที่มาจากภายในที่ลึกที่สุด​ของตัวเราเองล้วนๆอย่างต่อเนื่อง​ไปเรื่อยๆสบายๆอย่างรู้สึก​เป็นธรรม​ชาติเหมือนกำลังหายใจอยู่ตามปกติ​ พร้อมกัน​นั้นก็จะสวดมนต์​ท่องคาถาท่องคำบริกรรม​ คำโยคะมานตรา(mantra yoga​ word)​ อันเป็นคำพยางค์เดียว​สั้นๆง่ายๆ​สองคำอะไรก็ได้ เช่น​ "พระ"-"เจ้า","จิต"-"หนึ่ง​",ฯลฯ,... ที่ใช้ท่องหมุนเวียน​พลิกสลับไปมาเรื่อยๆไม่พัวพัน​กับคำใดคำหนึ่งอย่างชัดเจน​สุดโต่ง​ อันจะเป็น​ คาถาสายกลาง(middle​ magic)​ หรือ​ คาถาที่แท้จริง​สูงสุด​(ultimate​ real​ magic)​ ที่เป็นเวทมนตร์​คาถาง่ายๆกระทัดรัดไม่ต้องเสียเวลาท่องจำยุ่งยากลำบากนั้นที่จะท่องในใจเพื่อให้จิตเป็นกลางสมดุล​ไปพร้อมกัน​กับการผ่อนคลาย​เคลื่อนไหว​ร่างกาย​ลมหายใจ​เข้า-ออกหายใจแบบสายกลาง​หายใจแบบหุ่นยนต์​อย่างใหม่สดตลอดเวลา​ที่จะเป็น การปรับสมดุล​จิตแบบเคลื่อนไหว​ต่อเนื่อง​ช้าๆค่อยเป็นค่อยไป​(continue​ mind​ balance​ tune)​ โดยทางสายกลาง​นั้นไปด้วยเรื่อยๆเพื่อนวดผ่อนคลาย​จิตใจ​ไปด้วย​(ซึ่งคาถาสายกลาง​จะเป็นคาถาอาคม​ความคิดที่ถูก​สร้าง​ขึ้น​มาที่ถูกฝึกจิตสะกดจิต​ตัวเองให้ป้องกัน​ต่อสู้​กำจัดสังหาร​ฆ่าจิตความคิดปรุงแต่งมายา​อย่างต่อเนื่อง​ในขณะที่​เคลื่อนไหว​นั้นโดยตรงเพื่อให้จิตเป็น​กลางสมดุลระหว่างคำโยคะมานตราสองคำนั้นโดยไม่สุดโต่ง​พัวพันแต่คำใดคำหนึ่ง​อย่างชัดเจน​ได้)​ โดยพยายามท่องในใจให้ดังที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อกลบเสียง​ของจิตความคิดปรุงแต่งมายาที่คิดในจิตนั้นเพื่อป้องกัน​ต่อสู้​กำจัดสังหารฆ่าจิตความคิดปรุงแต่งมายา​ที่เกิดขึ้น​มาอย่างต่อเนื่อง​ตลอดเวลาในขณะที่​เราเคลื่อนไหว​โดยที่เราไม่รู้ตัวนั้น​ไปด้วย​ จนรู้สึ​กว่าร่างกาย​ภายในได้ถูกนวดผ่อนคลาย​อย่างเต็มที่​จนเคลิบเคลิ้ม​ล่องลอย​อยู่ในภวังค์เหนือโลก​ตามไปด้วย​เองอัตโนมัติ(ซึ่ง​จะช่วยเสริมประสิทธิภาพ​ให้ฌานพระเจ้า​สมาบัติ​สามารถมีพลัง​อำนาจสูงสุด​สามารถ​มั่นคงตั้งมั่นอยู่ได้ทั้งวัน​ทั้งคืนได้จนสามารถแสดงอิทธิฤทธิ์​ปาฏิหาริย์​ได้สูงสุด​ต่อไป​)​, ซึ่ง​จะส่งผลทำให้ร่างกายเนื้อหนัง​ปรุงแต่ง​มายาของเราได้รับพลังอำนาจจาก​จิตหนึ่ง​สมาบัติ​ที่ไม่สนใจรู้สึกทุกข์​กับสิ่งต่างๆใน​โลก​ใน​จักรวาล​ในอวกาศ​-เวลาอย่างสิ้นเชิงจากการเล่นโยคะสายกลาง​นั้นได้อย่างเต็มที่โดยตรง​จนร่างกาย​เนื้อหนังปรุงแต่ง​จากหยาบทึบหนักสกปรกก็ค่อยๆพลิกกลายเป็น​ละเอียด​บริสุทธิ์​เป็นกายทิพย์​บริสุทธิ์​ความว่างสูญญากาศ​อากาศ​บริสุทธิ์​ยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ จึงทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในภวังค์เหนือโลกเหมือนอยู่​ความฝันมายาเสมือน​จริง​ที่ได้ฝันว่าเหาะหนีกลับสู่ห้วงอวกาศอันเป็นโลกแห่งร่างกาย​วัตถุสสารต้นกำเนิดที่รู้สึก​ตัวเบาไร้น้ำหนักล่องลอย​อิสระ​ในห้วงอวกาศสูญญากาศอันเป็นความว่างที่ว่างช่องว่าง​ของเทหวัตถุ​ดวงดาวต่างๆในจักรวาล​เหนือโลก​นั้น, จึงทำให้เรามีสุขภาพ​ร่างกาย​ดีเหนือโลกที่จะแข็งแรง​ไม่เจ็บป่วยไม่มีโรคร้ายเชื้อโรคร้ายต่างๆภัยพิบัติ​ภัยธรรมชาติ​อุบัติเหตุ​การถูกสังหาร​ฆาตกรรม​ถูกทำลายชีวิตต่างๆอันเป็นความทุกข์​เจ็บ​ปวดทรมานต่างๆในโลกมาเบียด​เบียน​ทำร้ายทำอันตรายร่างกาย​เนื้อหนัง​ปรุงแต่ง​ของเราได้​ ที่จะทำให้เรารู้สึก​ว่าสุขกายมีสุขภาพ​ร่างกาย​ดีสดใสแข็งแร​งขึ้นเรื่อยๆตามไปด้วยเองอัตโนมัติ​ จนสามารถ​มีร่างกาย​ที่ปิติสุขเสียวซาบซ่านสดชื่น​ตื่นตัวเหนือโลกได้อย่างมั่นคงสูงสุ​ดที่จะทำให้สามารถ​มีร่างกาย​เป็น​หนุ่มอมตะมีอายุ​ยืนยาว​มหาศาลเหนือโลกที่อยู่​ยงคงกระพัน​ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้แบบราชาจักรพรรดิ​ที่มีพระชนม์​ยิ่งยืนนาน​เป็น​หมื่นๆปีในห้วงอวกาศ​เหนือโลกโดยมีบารมีมหาศาลไม่มีผู้ใดทำร้ายทำอันตราย​ได้นั้นได้ถึงขีดสุด​ในที่สุด​ ซึ่ง​จะส่งผลทำให้ร่างกายของเรา​มีพลังการเคลื่อนไหว​ได้สูงสุ​ด(อันเป็นผลมาจากการหายใจแบบสายกลาง​หายใจแบบหุ่นยนต์​การหายใจที่สมดุลเชิงการเคลื่อนที่ที่คล้ายการหายใจแบบคลื่นที่มีความเร็ว​คงที่จนสำเร็จผลอย่างสูง​สุดเป็นพระเจ้า​สมาบัติ​​ในที่สุด​นั้นย่อมเป็นเหมือนว่าในพระเจ้า​สมาบัติ​ที่มีแต่พระเจ้า​อันเป็น​จิตล้วนๆเพียง​จิต​เดียว​เท่านั้น​นั้นร่างกาย​ของเรา​จะหายไปอย่างสิ้นเชิง​เหมือนกับว่าร่างกาย​ของเราได้แทรกตัวเข้ากับคลื่นแสงอันเป็นคลื่นแม่เหล็ก​ไฟฟ้า​ที่มีความเร็วสูงสุด​คงที่ในจักรวาล​คือ​ 3x10 ยกกำลัง​ 8  เมตร/วินาทีนั้นจึงทำให้ร่างกาย​เราสามารถเคลื่อนไหว​เดินทาง​ไปจุดไหนตรงไหนของโลกของจักรวาลก็ได้​ ยิ่งถ้าเราท่องคำบริกรรมคำโยคะไปพร้อมกับลมหายใจเข้า-ออกนั้นด้วยก็จะมีพลังจิตร่วมกับร่างกายนั้นด้วยที่จะสามารถบังคับให้ร่างกายให้กลาย​เป็นจิตที่มีความเร็ว​เหนือแสงเคลื่อนไหว​เดินทางไปมิติกาลเวลา​มิติทิพย์​ไหนๆก็ได้อีกด้วยการอธิฐานของพลังจิต​ ซึ่งแน่นอน​ว่า​เราก็ย่อมสามารถ​จะบังคับปรับแต่งร่างกายของเราใหม่ให้มีรูปร่าง​หน้าตา​ลักษณะ​ยังไง​ก็ได้ตามที่เราปรารถนาต้องการ​ที่จะให้ร่างกาย​ภายนอกหล่อให้สวยแค่ไหนยังไง​ก็ได้จะให้ร่างกาย​ภายในมีสุขภาพ​ดีแค่ไหนยังไง​ก็ได้ให้ร่างกาย​เนื้อหนัง​ปรุงแต่ง​กลายเป็นกายทิพย์​แค่ไหนยังไง​ก็ได้ที่จะเราจะได้ร่างกาย​ใหม่ที่ดีที่สุดตามที่เราต้องการ​นั้น)​ที่จะทำให้ร่างกาย​ของ​เราสามารถ​แสดงอิทธิฤทธิ์​ปาฏิหาริย์​เหนือมนุษย์​ทั่วไป​ในโลกได้​ เช่น​ เหาะเหินเดินอากาศ,ล่องหน​หายตัวไปมิติต่างๆ,ฯลฯ,... ไปด้วยอย่างเลี่ยง​ไม่ได้​เองอัตโนมัติ​)​(โดยที่เมื่อเรารู้สึก​ว่าสุขกายได้แล้วให้ท่องในใจว่า​ "สุขกายหนอๆ​ ร่างกาย​ของเรากลายเป็นกายทิพย์​บริสุทธิ์​ของพระเจ้า​ที่ปิติสุขเสียวซาบซ่านสดชื่นตื่นตัวเหนือโลก ที่จะสมดุล​หยุดนิ่ง​มั่นคง​ปกติในภวังค์​กึ่งตื่นกึ่งหลับที่จะว่าตื่นก็ไม่ใช่​ และ​ หลับก็ไม่ใช่อันเป็นการตื่นตัวสดชื่นที่แท้จริงสูงสุด​ ร่างกาย​ภายในของเรา​ตั้งมั่นไม่หวั่นไหว​กับความเจ็บปวดทรมานได้ตามธรรมชาติเองอัตโนมัติ​ ไม่เจ็บโดยทางสายกลาง​หนอๆ...")​ และ​ (2.)ผลกระทบทางจิต​(mind​ effect)​ พร้อมกันนั้นการเล่นโยคะสายกลาง​ก็จะส่งผลกระทบ​ต่อจิตของเราโดยตรงอยู่แล้วที่จะทำให้จิตของเรา​สามารถ​มีพลังสูงสุด​ที่จะตั้งมั่นมีสติ​รู้สึก​ตัวทั่วพร้อมมีพลังสติได้อย่าง​สูงสุด​ ที่เมื่อเราหันมาสนใจจิตของเรา(ส่องแสง​ถ่ายทอดพลังวิเศษ​จากพระเจ้า​ที่เราได้ชาร์จ​มานั้นมายังจิต​ของเรา​)​ โดยให้เดินจิตให้จิตสนใจชำเลืองดูภายในจิตของเรา​เองเพียง​แค่แว๊บเดียว​นั้นจะพบ​ว่าสามารถ​สบาย​จิตได้อย่างแท้จริง​สูงสุดที่จะรู้สึก​ตื่นรู้อย่างแท้จริงไม่รู้สึกง่วงเพราะจิตมีพลังสูงสุด​พร้อมที่จะทำการหยุดพักตัวเอง​ดับจิต ชัตดาวน์​ปิดสวิตช์​จิต(shute down​ turn-off mind​ switch)​ ที่ปุ่มจิตสายกลางจิตตัว​รู้​จุดดวงวิญญาณ​นั้นตามธรรมชาติอย่างฉับพลันทันที​เองอัตโนมัติ​ ​ ที่จะเป็น​ การพลิกจิตแบบฉับพลัน​ทันที(sudden mind​ reverse)​ ที่จะเป็นการปรับสมดุล​จิต​ให้รู้แจ้งเหนือโลกเหนือจักรวาล​อย่างง่ายๆรวดเร็ว​ฉับพลั​นทันทีที่จะทำให้จิตสามารถพลิกหยุดเสียสมดุล​เคลื่อนไหว​คิดนึกปรุงแต่งที่เครียดวิตกกังวลคิดมาก​​กับสิ่ง​ต่าง​ๆนั้นได้อย่างสิ้นเชิง​ทันที​ ที่จะเป็น​การที่จิตเดินจิตบนทางสายกลาง​ของจิตเองล้วนๆจนเกิด​การรู้​สายกลางเหนือการรู้​ และ​ ไม่รู้​ของจิตความคิดปรุงแต่ง​ที่แบ่งแยก​กันอย่างชัดเจน​สุดโต่ง​นั้นขึ้นมา​ โดยจะเป็น​การที่เมื่อเราชำเลืองจิตแค่แว๊บเดียวที่ตัวจิตสายกลางจิตตัวรู้ที่เหมือนกำลังได้ถูกเพ่งกสิณจิตสายกลางอย่างสูงสุดมาแล้วที่กำลังถูกใช้เป็นปุ่มปิดสวิตช์​จิตนั้นจะพบว่าจิตของเราจะให้จิตตัว​รู้​เพ่งกสิณมุ่งเป้า​โฟกัสสนใจ​เพ่งรู้แต่ตัวจิตตัว​รู้​เองล้วนๆเพียงจิตตัว​รู้​เดียว​เท่านั้นอย่างรุนแรง​รวดเร็ว​ฉับพลันทันทีในแว๊บเดียว​ตามไปด้วยตามธรรมชาติ​เองอัตโนมัติโดยไม่ต้องทำอะไรเลยแม้แต่อนุภาคเดียว​ในวินาที​เดียว​ ​ที่ในชั่วแว๊บเดียว​โดยไม่กินเวลาใดๆแต่เป็นตลอดกาลนิรันดร์​นั้นจะทำให้จิตจะไม่สนใจคิดนึกอยาก​รับรู้​อยากสนใจอยากรู้​อะไรสิ่งใดในโลกใน​จักรวาลอีกต่อไป​สิ้นเชิง​นอกจากสนใจแต่ตัวจิตเองล้วน​ๆเท่านั้น​(จิตเป็น​อิสระสูงสุ​ดในตัวเองเหนือ​สิ่งต่างๆในโลกใน​จักรวาล​ที่จะทะลุมิติหนีกลับคืนเข้าสู่​มิติของจิตวิญญาณต้นกำเนิดของตัวจิต​เองล้วนๆจนเกิดการรู้แจ้ง​สายกลางพร้อมที่จะชำระจิตให้บริสุทธิ์​น้อมจิตเปลื้องจิตถอดจินทิพย์​พลิกจิตล่องหนหายตัวแทรกตัวเข้าสู่พระเจ้าอันเป็น​สภาวะสายกลางที่แท้จริง​สูงสุดที่สัมบูรณ์​ในตัวเองที่เป็นอิสระ​สูงสุดบริสุทธิ์​สูงสุด​เหนือความมีอยู่​ และ​ ความไม่มีอยู่ที่ไม่เกี่ยวข้องสัมพันธ์​สัมพัทธกับสิ่งต่างๆใน​โลก​ใน​จักรวาลในอวกาศ​-เวลา​อีกต่อไป​อย่างสิ้นเชิง​นั้นเองอัตโนมัติ​ ที่จะรู้สึก​ว่าเวลาหยุดเดิน-โลกหยุดหมุน-จักรวาล​หยุดเคลื่อนไหว​สิ่งต่างๆสูญสลายหายไปสิ้นเชิง​อย่างฉับพลัน​ทันทีเองอัตโนมัติ​) จิตจึงพลิกกลายเป็นสิ่งวิเศษแท้จริง​มิติวิเศษ​แท้จริง​อาตมันจุดดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์ของพระเจ้า​ที่รู้แจ้ง​ในตัวเองส่องแสง​สว่างสุกใสสวยงาม​ในตัวเอง(ที่สามารถรู้-รับรู้-รู้แจ้​งในพระเจ้า​ได้สามารถ​ชาร์จ​พลังจากพระเจ้า​ได้เตรียม​พร้อมจะวิวัฒนาการ​กลายเป็น​พระเจ้า​ดวงวิญญาณ​สูงสุด​ที่ส่องแสง​สว่างจ้า​สูงสุด​ต่อไปเพราะจะเกิดการเคลื่อนมุ่งเข้าสู่จุดศูนย์กลาง​ศูนย์​รวมพลังงานทั้งหมดที่ใจกลางของอาตมันจุดดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์อันเป็น​พระเจ้า​นั้นเองอัตโนมัติ​)​ที่จิตความคิดปรุงแต่ง​มายาที่เป็นความเครียดความคิดปรุงแต่ง​ที่วิตกกังวล​คิดมากกับสิ่ง​ต่างๆใน​โลก​ใน​จักรวาล​นั้นหายไป(จิตตั้งมั่นหยุดนิ่งสงบนิ่งไม่มีการเคลื่อนไหว​เครียด​คิดนึกที่จะสมดุลหยุดนิ่งมั่นคง​ปกติในภวังค์​กึ่งรู้กึ่งไม่รู้ที่จะว่ารู้ก็ไม่ใช่​ และ​ ไม่รู้ก็ไม่ใช่เหนือการรู้​ และ​ การไม่รู้​ของจิตความคิด​ปรุงแต่ง)​จึงทำให้รู้สึก​สบายจิตอย่างแท้จริง​สูงสุดโดยไม่รู้สึกว่ามีจิตอีกต่อไป(จึงส่งผลทำให้จิตความคิดปรุงแต่งมายา​ของเรารู้สึก​มีพลังสามารถพร้อมที่จะออกกำลังจิตคิดนึกเคลื่อนไหวจิตอย่างฉลาดรอบรู้​เหนือจิตมนุษย์​ด้วย ญาณทิพย์​บริสุทธิ์​สายกลาง(middle​ pure​ devine wisdom)​ ที่ใช้ตรรกะ​เหตุผลโดยทางสายกลาง​ด้วย​พลังการรู้แจ้งในตัวเอง​ตรัสรู้ด้วยตัวเองที่เป็นความรู้สติปัญญา​ญานเดิมแท้บริสุทธิ์​อันเป็น​ วิวรณ์(revelation)​ การเปิดเผยของพระเจ้าที่โพล่งมาจากภายในที่ลึกที่สุดของตัวเราเองล้วนๆโดยทางสายกลาง​ ที่จะทำให้เราสามารถ​เห็นสามารถ​เข้าใจสรรพสิ่ง​ตามความเป็นจริง​โดยทางสายกลางที่จะแตกต่าง​ตรงกันข้าม​กับความรู้ความคิดความเข้าใจเดิมๆของสามัญ​สำนึกของจิตของเรา​อย่างสิ้นเชิงจึงทำให้ปุถุชน​คนทั่วไปส่วนใหญ่คิดไม่ถึง​ไม่อาจเข้าใจยอมรับ​ความรู้ตรงนี้​ได้​ที่จะเป็น​ การพลิกจิตแบบค่อยเป็นค่อยไป​(gradually​ mind reverse)​ ที่จะเป็นการค่อยๆปรับให้จิตให้รู้แจ้งเหนือโลกเหนือจักรวาล​แบบต่อเนื่อง​ช้าๆค่อยเป็น​ค่อย​ไป​เรื่อยๆทุกวันที่จะทำให้มีสุขภาพจิต​ดีเหนือโลกเหนือ​จักรวาล​ไม่เครียดวิตกกังวล​คิดมาก​กับ​สิ่ง​ต่าง​ๆในโลกใน​จักรวาล​ ที่จะทำให้เรา​รู้สึก​ว่าสบายจิตมีสุขภาพจิต​ดีขึ้นเรื่อยๆตามไปด้วย​เองอัตโนมัติ)​(โดยที่เมื่อเรารู้สึก​ว่าสบายจิตได้แล้วให้ท่องในใจว่า​ "สบายจิตหนอๆ​ จิต​ของเรากลายเป็นอาตมันจุดดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์ของพระเจ้า​ที่ตื่นรู้อย่างแท้จริง​ส่องแสง​สว่างสุกใสรู้แจ้งเหนือโลก​เหนือ​จักรวาล​ ที่จะสมดุล​หยุดนิ่งมั่นคงปกติในภวังค์​กึ่งรู้กึ่งไม่รู้ที่จะว่ารู้ก็ไม่ใช่​ และ​ ไม่รู้ก็ไม่ใช่อันเป็นการรู้แจ้งที่แท้จริงสูงสุด​  จิตภายใน​ของเรา​ตั้งมั่น​ไม่หวั่นไหว​กับความเครียด​วิตกกังวล​คิดมากได้ตามธรรมชาติ​เองอัตโนมัติ​ ​ไม่แก่โดยทางสายกลาง​หนอๆ...").​ ดังนั้น​ เมื่อ​เราสามารถ​รู้สึก​ว่าสุขกายสูงสุด​โดยดับร่างกาย​ชัตดาวน์​ปิดสวิตช์​ร่างกายที่ปุ่มจุดตาสายกลางจุดตาที่สามพลิกร่างกายทั้งแบบฉับพลันทันที​ และ​ ค่อยเป็น​ค่อยไปด้วยการออกกำลังร่างกาย​เดินลมปราณ​รักษา​โรคด้วยตัวเองจากภายในเดินกำลังภายในวิชาตัวเบาเหาะเหินเดินอากาศ​จนไม่รู้​สึก​ว่ามีร่างกาย​ และ​ สบายจิตสูงสุด​โดยดับจิตชัตดาวน์​ปิดสวิตช์​จิตที่ปุ่มจิตสายกลางจิตตัว​รู้​จุดดวงวิญญาณ​พลิกจิตทั้งแบบฉับพลันทันที​ และ​ ค่อยเป็น​ค่อยไปโดยออกกำลังจิตด้วยญานทิพย์​บริสุทธิ์​สายกลางจนไม่รู้สึกว่ามีจิตได้อย่างสมบูรณ์แบบ​ครบถ้วนสูงสุดพร้อมกัน​หนึ่ง​เดียว​กันโดยทางสายกลาง​เองอัตโนมัติ​จนรู้สึก​ว่าไม่มีร่างกาย​ไม่มีจิตอีกต่อไปอย่างสิ้นเชิง​ที่จะรู้สึก​ว่ามีแต่อาตมันจุด​ดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์​ล้วนๆเพียงสิ่ง​เดียว​ได้แล้ว​ (3.)ผลกระทบทางชีวิต(life effect)​ ย่อมจะส่งผลกระทบ​ทำให้เรารู้สึก​ว่าชีวิตเรามีพลังสูงสุด​ที่จะรู้สึก​ว่าชีวิต​หมดปัญหาอย่างแท้จริง​สูงสุดตามไปด้วย​เองอัตโนมัติ​ ที่เมื่อเราหันมาสนใจ​ชีวิตของเรา(ส่องแสง​ถ่ายทอดพลังวิเศษ​จากพระเจ้า​ที่เราได้ชาร์จ​มานั้นมายังชีวิต​ของเรา​) ​โดยให้เดินจิตให้จิตสนใจชำเลืองดูภายในชีวิต​อันเป็นชีวิตต้นกำเนิดเดิมแท้สูงสุด​ภายในที่ลึกที่สุด​ของเรา​เองที่จุดศูนย์กลาง​ศูนย์​รวมพลังงาน​ทั้งหมด​ของอาตมันจุดดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์เพียงสิ่งเดียวล้วนๆ​อันจะเป็นการน้อมอาตมันจุดดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์​สู่พระเจ้าปรมาตมันดวงวิญญาณ​สูงสุด​อย่างฉับพลัน​ทันที​เองอัตโนมัติ​ที่เหมือนกับว่าเราได้​ ชัตดาวน์​ปิดสวิตช์​ชีวิต​(shute down​  turn-off life switch) ​อย่างฉับพลัน​ทันที​เองอัตโนมัติ​นั้นจะพบว่าสามารถชีวิตหมดปัญหาได้​อย่างแท้จริง​สูงสุด​ที่จะรู้สึก​ว่าใหม่สดมีชีวิตชีวา​อย่างแท้จริง​สูงสุด​ไม่รู้สึกเบื่อเพราะเรามีชีวิต​กลายเป็น​พระเจ้า​ได้อย่างฉับพลัน​ทันทีเองอัตโนมัติ​ อันเป็น​ชีวิตวิเศษสูงสุดอันเป็นธรรมชาติ​ทิพย์​บริสุทธิ์​สูงสุด​ของพระเจ้า​ที่ไม่รู้สึกว่ามีชีวิตที่ต้องเกิด​ แก่​ เจ็บ​ ตายตามธรรมดา​อีกต่อไป(ชีวิตตั้งมั่น​หยุดนิ่งสงบนิ่งไม่มีการเคลื่อนไหว​ดิ้นรน​ที่จะสมดุลหยุดนิ่งมั่นคงปกติ​ในสภาวะกึ่งมีอยู่กึ่งไม่มีอยู่ที่จะว่ามีอยู่ก็ไม่ใช่​ และ​ ไม่มีอยู่ก็ไม่ใช่เหนือการมีชีวิ​ตอยู่​ และ​ การตายไปแล้วที่ไม่มีชีวิต​อยู่อีกต่อไป​ของชีวิตมายา​ปรุงแต่ง)ที่จะ​รู้สึกเองอัตโนมัติ​อย่างฉับพลัน​ทันทีว่าทั้งหมด​ทั้งปวง​ไม่มี​อะไร​เลยไม่เป็น​อะไรเลยอย่างสิ้นเชิง​นอกจากพระเจ้าชีว่าพระเจ้า​พระบิดา​ อันเป็นจักรวาล​อันแท้จริง​สูงสุด​​สวรรค์​อัน​แท้จริง​ชั้น​สูงสุด​ในรูปของดวงวิญญาณ​สูงสุด​ที่เป็​นรูปอมตะที่แท้จริงสูงสุด​ที่เปิดเผยเรียบง่ายสูงสุด​ที่ปราศจาก​รูปร่างลักษณะมายาที่ลึกลับซับซ้อน​ต่างๆสิ้นเชิงในลักษณะ​ของจุดแสงอันสว่างจ้า​อย่างแท้จริง​สูงสุด​ของการตรัสรู้​การรู้แจ้ง​การตื่นรู้ที่แท้จริง​สูงสุด​ อันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดความสุขที่ดีที่สุด​ความรัก​แท้สากลจักรวาล​สูงสุดความเป็นองค์​รวมเอกภาพ​หนึ่งเดียว​ที่แท้จริง​สูงสุดของสรรพสิ่ง​นั้นล้วนๆ​เพียงสิ่ง​เดียว​เท่านั้น​ตลอดกาล​ อันจะเป็น​การมองโลกมองจักรวาล​แบบองค์​รวม​อันเป็นพระเจ้า​นั้นในแง่ดีได้อย่างสูงสุดแบบคนที่รักพระเจ้า​อย่างสุดจิตสุดใจสุดแรงสุดพลังที่จะคิดนึกถึงแต่พระเจ้า​รู้สึก​แต่ว่ามีแต่พระเจ้า​เท่านั้นเพียงสิ่ง​เดียว​ตลอดกาลไม่รู้สึกว่ามีสิ่งอื่นนอกจากนี้เลย(จึงส่งผล​ทำให้ชีวิต​ปรุงแต่ง​มายาของเรารู้สึก​มีพลังสามารถพร้อมที่จะพลิกเคลื่อนไหววิวัฒนาการ​พ้นจากชีวิตในนรกมายาพลิกสู่ชีวิตในสวรรค์​มายาระดับสูง​ขึ้นเรื่อยๆด้วยพลังธรรมชาติ​ทิพย์​บริสุทธิ์​สูงสุดจักรวาล​อันแท้จริง​สูงสุด​​สวรรค์​อันแท้จริง​ชั้น​สูงสุด​หนึ่ง​เดียวที่มาจากภายใน​ที่ลึกที่สุดของตัวเรา​เองล้วนๆ ที่จะทำให้เรารู้สึก​ว่า​ชีวิต​หมดปัญหา​มี​คุณภาพ​ชีวิต​ที่ดีเพิ่มขึ้น​เรื่อย​ๆด้วยตามไปด้วยเองอัตโนมัติ​)(โดยที่เมื่อเรารู้สึก​ว่าชีวิตหมดปัญหาได้​แล้วให้ท่องในใจว่า​ "ชีวิตหมดปัญหา​หนอๆ​ ชีวิต​ของเรากลายเป็นพระเจ้า​ที่เป็นชีว่าพระเจ้า​พระบิดาปรมาตมันธรรมชาติ​ทิพย์​บริสุทธิ์​สูงสุด​ของพระเจ้าที่เป็นสภาวะสายกลางที่แท้จริง​สูงสุด​ความรักแท้สากลจักรวาล​สูงสุดองค์​รวมเอกภาพความเป็นหนึ่งเดียวที่แท้จริง​สูงสุดของสรรพสิ่ง​ในรูปของจุดหนึ่งอันไร้ขอบเขต​ขีดจำกัดใดๆสิ้นเชิง​ในรูปของดวงวิญญาณ​สูงสุดองค์​ความดีสูงสุด​ที่เป็นจุดแสงอันสว่างจ้าสูงสุด​ของการตรัสรู้​การรู้แจ้ง​การตื่นรู้อย่างแท้จริง​สูงสุด​ด้วยความเบิกบาน​ใหม่สดมีชีวิต​ชีวาอย่างแท้จริง​สูงสุด​ที่เป็นอมตะนิรันดร์ในสวรรค์​อัน​แท้จริง​ชั้น​สูงสุด​ ​ที่จะสมดุลหยุดนิ่งมั่นคง​ปกติ​ในสภาวะกึ่งมีอยู่กึ่งไม่มีอยู่ที่จะว่ามีอยู่ก็ไม่ใช่​ และ​ ไม่มีอยู่ก็ไม่ใช่ที่จะมีอยู่ตั้งอยู่​ดำรงอยู่อย่างแท้จริง​สูงสุด​ ชีวิต​ภายในของเรา​ตั้งมั่นไม่หวั่นไหวกับความเสียสมดุลเคลื่อนไหว​แปรปรวนผิดปกติ​ได้ตามธรรมชาติ​เองอัตโนมัติ​ ​ไม่ตาย-ไม่เกิดโดยทางสายกลาง​หนอๆ...")​ และ​ (4.)ผลกระทบทางใจความรู้สึก​(feeling​ effect)​ ที่จะส่งผลกระทบ​ทำให้รู้สึก​ว่าใจความรู้สึก​ของเรามีพลังสูงสุดตามไปด้วย​เองอัตโนมัติ​ที่จะรู้สึก​ว่า​บอกลา​ใจความรู้​สึกปรุงแต่ง​มายา ที่เมื่อเราหันมาสนใจใจความรู้สึก​ของเรากับสิ่ง​ต่าง​ๆ(ส่องแสง​ถ่ายทอดพลังวิเศษ​จากพระเจ้า​ที่เราได้ชาร์จ​มานั้นมายังใจความรู้สึก​ของเรา​กับสิ่ง​ต่าง​ๆสิ่งปรุงแต่ง​มายาต่างๆ)​ ​โดยให้เดินจิตให้จิตสนใจชำเลืองดูภายในใจความรู้สึก​อันเป็นใจความรู้สึก​ต้นกำเนิดเดิมแท้สูงสุด​ภายในที่ลึกที่สุด​ของเรา​เองอันเป็นจุดศูนย์กลาง​ศูนย์​รวมพลังงาน​ทั้งหมด​ของอาตมันจุด​ดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์​ที่จะเป็นอาตมันจุด​ดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์​ที่​มีพลังอำนาจสูงสุด​สะอาด​สูงสุด​ สว่าง​สูงสุด​ สงบ​สูงสุด​ที่รู้แจ้งเห็นจริง​สูงสุด​รู้อยู่​เฉยๆอยู่​อย่างนั้น​เองอย่างที่สุด​ที่เหมือนกับว่าเราได้​ ชัตดาวน์​ปิดสวิตช์ใจความ​รู้สึก​(shute down​ turn-off feeling​ switch)​ อย่างฉับพลัน​ทันที​เองอัตโนมัตินั้นจะพบว่าสามารถบอกลา​ความรู้สึก​ปรุงแต่ง​มายาได้อย่างแท้จริง​สูงสุดตามไปด้วย​เองอัตโนมัติ​ ที่จะรู้สึก​ว่าไม่มีความรู้สึกปรุงแต่​งมายาเฉพาะส่วนตัวใดๆ​อีกต่อไป​อย่างสิ้นเชิงเองอัตโนมัติ​เพราะเรามีใจความรู้สึก​เป็นนิพพานที่ดับทุกข์​สิ้นเชิงดับไม่เหลืออย่างแท้จริง​สูงสุดไม่มีการรู้สึก​ทุกข์​ทรมานในการเกิด แก่​ ​เจ็บ​ ตาย​อีกต่อไป​อย่างสิ้นเชิงเองอัตโนมัติ​(ใจความรู้สึ​กตั้งมั่น​หยุดนิ่งสงบนิ่งไม่มีการเคลื่อนไหว​ทุรนทุราย​ด้วยกิเลส​ตัณหา​ที่จะสมดุลหยุดนิ่งมั่นคง​ปกติในสภาวะกึ่งสุขกึ่งทุกข์ที่จะว่าสุขก็ไม่ใช่​ และ​ ทุกข์​ก็ไม่ใช่​เหนือการมีความสุขมายา​ และ​ การมีความทุกข์​มายาที่ไม่มีความสุขมายาของใจความรู้สึก​มายา​ปรุงแต่ง), อันเป็น หัวใจ​ทิพย์​บริสุทธิ์​สูงสุด(maximum​ pure​ divine heart​)​ ของพระเจ้า​ที่เป็นใจความรู้สึกที่​ธรรมดา​ที่สุดกับสิ่งต่างๆ​สิ่งปรุงแต่ง​มายาต่างๆ​ที่จะรู้สึก​พอใจสูงสุดจนไม่ต้องการ​รู้สึก​กับใครอะไร​สิ่งใดอีกต่อไป​อย่าง​สิ้นเชิง​ที่ไม่รู้สึกว่ามีใจความรู้สึกสุขปรุงแต่ง​มายาเฉพาะส่วนตัว-ทุกข์​ปรุงแต่ง​มายาเฉพาะส่วนตัวกับสิ่งต่างๆสิ่งปรุงแต่ง​มายาต่างๆที่แสนจะเป็น​เรื่อง​ธรรมดาอย่างที่สุด​นั้นให้ต้องเสียเวลาสนใจเอาจริง​เอาจังยึดมั่น​ถือ​มั่นมันให้ทุกข์ให้เครียดวิตกกังวล​คิดมาก​อีกต่อไป​ เพราะ​เราสามารถ​มองเห็น​สรรพสิ่ง​ตามความเป็นจริง​อย่างที่สุดมองโลกตามความเป็นจริง​อย่างถึงที่สุดจนยอมรับความจริง​ของสรรพสิ่งโดยดุษณี​อย่างที่สุดด้วยความรู้สึ​กโกรธ​เกลียดมันอย่างสุดจิตสุดใจสุดแรงสุดพลัง จนไม่รู้​สึกอะไรกับมันอีกต่อไปอย่างสิ้นเชิง​ในที่สุด​ ที่เราจะรู้สึก​ว่าสิ่งต่างๆสิ่งปรุงแต่ง​มายาต่างๆใน​โลก​ใน​จักรวาลในอวกาศ​-เวลานั้นล้วนเป็น​เพียง​สูญญตาอันเป็นความว่างที่แท้จริงสูงสุด​ที่ปราศจาก​กาลเวลา​สิ้นเชิง​ที่ว่างจากทั้งความมีอยู่​ และ​ ความไม่มีอยู่อย่างสิ้นเชิงตลอด​กาล อันเป็นสูญญากาศ​ที่แท้จริงสูงสุด​ที่ว่างอย่างยิ่งยวดว่างยิ่งกว่าว่างที่จะว่างจากทั้งความมีอยู่​ และ​ ความไม่มีอยู่​ จึงว่างจนไม่มีแม้แต่​ความว่างที่กำหนดนิยามเรียกชื่อ​ได้ว่าว่างนั้นอีกต่อไป​ จึงเป็นความว่างธรรมดาๆที่มีอยู่จริงตามธรรมชาติ​ที่ไม่อาจว่างไปกว่านี้ได้อีกแล้ว(แต่พอดีว่าเราใช้จิตความคิดปรุงแต่ง​มายาเฉพาะ​ส่วนตัว​ กับ​ ร่างกายเนื้อหนัง​ปรุงแต่ง​มายาเฉพาะส่วนตัวของเรา​ไปรู้ไปรับรู้สิ่งปรุงแต่ง​มายาต่างๆที่มีอยู่มายาชั่วคราว​ในชีวิต​ปรุงแต่ง​มายาเฉพาะส่วนตัว​ของเราจึงทำให้เกิดเป็นความรู้สึกปรุงแต่ง​มายาเฉพาะ​ส่วนตัวที่รู้สึก​ว่ามันเหมือนมีอยู่ขึ้นมาก็เท่านั้น​เอง​ ซึ่งเป็นอุปทานความรู้สึกมายา​ชั่วคราว​ที่เชื่อไม่ได้​จึงทำให้หลงเข้าใจผิดจนไม่รู้สึกว่ามันเป็นความว่างที่แท้จริง​สูงสุด​นั้นได้​เล​ย​ แต่ถ้าเราไม่ไปรู้ไปรับรู้อะไรกับมันแล้วมันก็จะยังคงเป็น​ความว่าง​ที่แท้จริง​สูงสุด​ของมันอยู่อย่างนั้น​เหมือนเดิม​ตลอดกาล)​ ,​ จึงเป็นสิ่งที่ไม่สำคัญอย่างสิ้นเชิง​ ไม่จำเป็น​อย่างสิ้นเชิง ไม่มีพลังอำนาจ​อย่างสิ้นเชิง ไม่มีคุณค่า​ความหมายอย่างสิ้นเชิง​ ไม่น่าสนใจอย่างสิ้นเชิง​ตลอด​กาล,​ อันเป็นความธรรมดาที่สุดที่ไม่มีอะไรสิ่งใด​น่าสนใจ​อย่างสิ้นเชิง​ จึงรู้สึก​ว่าไม่มีอะไรสิ่งใดให้ต้องสนใจดู-ให้ต้องสนใจคิด-ให้ต้องสนใจทำ-ให้ต้องสนใจรู้สึก​อีกต่อไป​อย่างสิ้นเชิงตลอด​กาล,​ จึงทำให้เราสามารถนิพพาน​จนรู้สึก​พอใจสูงสุดไม่ต้องการ​รู้สึก​กับอะไรสิ่งใด​อีกต่อไปอย่างสิ้นเชิง​ ที่จะรู้สึก​วางเฉยอย่างแท้จริง​สูงสุด​กับสิ่งต่าง​ๆ​(จึงส่งผล​ทำให้ใจความรู้สึก​มายาปรุงแต่ง​ของเรารู้สึก​มีพลังสามารถพร้อมที่จะเคลื่อนไหวทางมิติอารมณ์​ความรู้สึก​อย่างเต็มที่​ ด้วยที่จะสักแต่ว่า​เล่นเกม​ส์แสดงละครชีวิต​มายา​ในความฝันมายาเสมือนจริงอย่างตรงไปตรงมา​ต่ออารมณ์​ความรู้สึกเดิมแท้บริสุทธิ์​สูงสุด​ที่มาจากภายในที่ลึกที่สุดของตัวเรา​เองล้วนๆนั้นอย่างสมจริง​ที่สุดเท่าที่​จะ​ทำได้ที่มารมาก็ด่า​ เทพมาก็ชมเล่นๆด้วยความรู้สึกโกรธ​เกลียด​-รักโลภ​-หลงไหลอย่างตีบทแตก​เต็มที่เต็ม​กำลังเป็นปุถุชน​ที่ดูเหมือน​มัวเมาในกิเล​สตัณหา​ให้เต็ม​ที่โต้ตอบสิ่งต่างๆอย่างตรงไปตรงมา​กลับคืนเพื่อ​อรรถ​รสการมีสีสัน​มีชีวิต​ชีวาของการเล่นเกม​ส์แสดง​ละครชีวิตม​ายาในความฝันร้ายมายาเสมือนจริงตามแผนการ​ของพระเจ้า​นั้นไปวันๆเท่านั้นเองมันจะสุขมายาจะทุกข์มายาแค่ไหน​ยังไง​ก็ช่างหัวมันแค่มายาแค่ฝันไปเดี๋ยว​ตื่นมาก็หายหมดเองกลายเป็น​โมฆะหมดเอง​ ที่จะรู้สึก​เหมือน​ว่าไม่มีใครอะไรสิ่งใดให้ต้องดูจริงๆ-ให้ต้องคิดจริงๆ-ให้ต้องทำจริงๆ-ให้ต้องรู้สึก​จริงๆแต่อย่างใดแม้มันจะเหมือนจริงสมจริงแค่ไหนยังไง​ก็ตาม,​ จึงคิดเล่นๆเสียว่า "อตัมมยตาที่เข็ดหลาบ​กับความทุกข์​ด้วยความ​โกรธ​เกลียด​สูงสุด​ ​นั่นแหละ​ คือภูมิคุ้มกัน​เกราะป้องกัน​ความ​ทุก​ข์พื้นฐาน​ที่ดีที่สุด​ของ​เรา, ความทุกข์​ที่แท้จริงสูงสุด​อยู่ที่ไหน​ การนิโรธ​ที่แท้จริง​สูงสุด​การดับทุกข์​สิ้นเชิง​ย่อมอยู่ที่นั่น, ที่ที่อันตราย​ที่สุดอันเป็นระดับสามัญ​สำนึกธรรมดา​ๆที่มีจิตความคิดปรุงแต่ง​มายาที่มีร่างกาย​เนื้อหนัง​ปรุงแต่ง​มายาที่เป็นกองทุกข์​ทนทุกข์เจ็บ​ปวดทรมานตลอดเวลา​นี่แหละคือ​ที่ที่ปลอดภัยที่สุด​ เพราะยิ่งอันตรายยิ่งมีมารศัตรู​มีความทุกข์​เจ็บ​ปวดทรมานมากเท่าไหร่​เราก็ยิ่งมีสติระวังตัวสามารถหนีกลับสู่พระเจ้า​จนปลอดภัย​สูงสุด​ชุบตัว​ชาร์จ​พลังจากพระเจ้าจนมีพลัง​จิตพลังสติได้มากเท่านั้นเพราะเราจำเป็นต้องใช้ให้จิตความคิดปรุงแต่ง​มายากำจัดตัวมันเองล้วนๆเท่านั้นเพื่อให้เกิดสติสูงสุด​เราจึงจำเป็นต้องเสี่ยงตายอยู่ในที่ที่อันตราย​ที่สุดนี้, ความทุกข์​เจ็บ​ปวด​ทรมานคือสัญญาณ​เตือนภัย​ให้เราระมัดระวัง​มีสติรู้สึก​ตัวไม่ประมาทในนรกอเวจี​นี้,​ มารศัตรู​ชีวิตซาตาน​สัตว์​นรกมายาคือยาชูกำลัง​ ความโกรธ​เกลียดอาฆาตแค้นพยาบาทจองเวรคือไฟพลังสู่ความสำเร็จ, ทนเจ็บนิดเดียวทนแสบ​แป๊บเดียว​เดี๋ยว​ก็ได้สุขสบายไปทั้งชาตินี้ชาติหน้าไปจนนิรันดร์​ ยิ่งทุกข์​เจ็บ​ปวดทรมานจนทนไม่ไหว​ขาดใจตาย​ในนรกขุมที่ลึกมากเท่าไหร่​ ก็ยิ่งพลิกกลายเป็น​ปิติสุขสงบเป็นอมตะนิรันดร์​ในสวรรค์​ชั้นสูง​มากเท่านั้น, พิษร้ายความทุกข์​เจ็บ​ปวดทรมานของมารสัตว์​นรกนั่นแหละ​ คือภูมิคุ้มกัน​ยาชาเซรั่ม​ยาแก้พิษ​ยาถอนพิษ​ให้พ้นทุกข์​จากพิษ​ร้ายของมารสัตว์​นรกได้ในตัวมัน​เอง​, ถ้ามารไม่มี​ บารมี​ก็ไม่เกิด​ ยิ่งมารมาก​ บารมียิ่งมาก​ ย่อมแสดงว่า​เราเป็นคนมีบุญญาบารมีมาก​ย่อมต้องสำเร็จบรรลุ​มรรคผลกลายเป็น​พระเจ้าได้​ในที่สุด​แน่นอน(เพราะสิ่งต่างๆสิ่งปรุงแต่ง​มายาต่างๆในโลกใน​จักรวาล​ในอวกาศ-เวลาล้วนเป็นบาปความชั่วร้ายที่จะอยู่ฝ่ายอธรรมที่มืดมิดอย่างแท้จริง​สูงสุด​ที่จะเป็นมารศัตรูของพระเจ้า​ความสว่างจ้าอย่างแท้จริง​สูงสุด​ จึงทำให้พระเจ้า​ที่อยู่ฝ่ายธรรมมะต้องมีกองทัพ​ศัตรู​มหาศาลทั่วทั้งจักรวาล​จึงมีบารมี​สูงสุด, ยังไง​ธรรมมะย่อมชนะอธรรมเพราะในท้ายที่สุด​แล้วฝ่ายพระเจ้าจะเป็นอมตะนิรันดร์​เป็นผู้ชนะสูงสุด​ที่ดำรงอยู่ตลอดกาล​ ส่วนสิ่งต่างๆฝ่ายอธรรมย่อมจะลอยนวล​ด้วยการมีอยู่ดำรงอยู่จอมปลอม​ด้วยความสุขจอมปลอม​แค่ในช่วง​แรกแล้วย่อมได้รับผลบาปกรรมทุกข์​ทรมานในท้ายที่สุด​ คือความตายที่ต้องพ่ายแพ้​สูญสลายถูกกำจัดให้หายไปตลอดกาล​ ผู้ที่พลิกจิตรู้แจ้งจนพลิกใจกลับตัว​กลับใจเป็นคนดีของพระเจ้าที่รักแต่พระเจ้า​อย่างสุดจิตสุดใจสุดแรงสุดพลังแล้วโกรธ​เกลียด​สิ่งต่างๆอันเป็นซาตานนั้นอย่างสุดจิตสุดใจสุดแรงสุดพลังที่เปลี่ยน​ใจย้ายมาอยู่ฝ่ายธรรมะฝ่ายพระเจ้านั้นจึงจำต้องมีกองทัพมารศัตรู​มากมายมหาศาลทั่วโลก​ทั่วจักรวาล​เป็นเรื่อง​ธรรมดา​ ​แต่ก็จะมีบุญญาบารมีมหาศาลเช่นกัน​ที่จะทำให้ได้รับรางวัล​ชัยชนะเป็นราชา​มีชีวิต​นิรันดร์จน​กลายเป็นหนึ่งเดียว​กันกับพระเจ้ารอดพ้นจากบาปกรรม​การเกิด แก่​ ​เจ็บ​ ตาย​ได้ในที่สุด​แน่นอน,ไม่ว่าจะดูเหมือน​ว่าจะมีมารศัตรู​ทั่วโลก​ทั่วจักรวาล​มากมายมหาศาล​แค่ไหนก็ตามเราก็ไม่เคยหวั่นเพราะแค่พระเจ้า​เพียงแค่​สิ่ง​เดียว​เท่านั้น​ก็มากเกินพอที่จะเอาชนะ​ทุกสิ่งทุกอย่าง​ได้เพราะสำหรับพระเจ้า​แล้ว​สิ่งต่างๆล้วน​เป็น​เพียง​สูญญตาความว่างที่แท้จริง​สูงสุด​ที่ปราศจาก​กาลเวลา​สิ้นเชิง​เท่านั้น​เอง, มุ่งฉลาดเลือกกำจัดมารภายในจิตของเราให้สิ้นซากด้วยสติปัญญา​โดยทางสายกลาง​ให้ได้เท่านั้นก็พอ แล้วเราก็จะไม่จำเป็น​ต้องโง่เขลา​ไปเสียเวลามุ่งกำจัดมารภายนอกให้ยุ่งยาก​ลำบากเหน็ดเหนื่อยให้หล่นสู่ความผิดพลาด​อยู่ร่ำไปอีกต่อไป.​ ที่ตัวเราสามารถ​มีอยู่ดำรงอยู่ตลอดกาล​ได้แบบนี้เพราะตัวเรา​เอง​ล้วนๆเท่านั้น​ไม่เกี่ยว​กับผู้อื่น​ใครอะไรสิ่งใด​ทั้งสิ้น​เลย, ร่างกาย​ของเรา​มันจะมีความสุข​ หรือ​ ไม่มีความสุข​ยังไง​ก็ช่าง​หัวมัน​เพราะ​ร่างกาย​ของเรา​ไม่ใช่ตัวเรา​ มันจึงเดี๋ยว​ก็​สุขเดี๋ยว​ก็ทุกข์​เป็น​เรื่องธรรมดา​ของมัน, แต่ความสุขอยู่ที่ตัวเราอันเป็น​จิตสายกลาง​จิตตัว​รู้​จุดดวงวิญญาณ​นั้นจะต้องมีพลัง​สูงสุด​มีความสุข​สูงสุด​ที่มีแต่จิตล้วนๆเพียง​จิต​เดียว​เท่านั้นสภาพรู้ล้วนๆเพียง​สภาพรู้เดียว​เท่านั้นการมีอยู่ดำรงอยู่ล้วนๆเพียงการมีอยู่ดำรงอยู่เดียว​เท่านั้นความสุข​ล้วนๆเพียง​ความสุขเดียว​เท่านั้นตัวเราล้วนๆเพียง​ตัวเราเดียวเท่านั้น​ตลอด​กาลอยู่เสมอเท่านั้น​, ดังนั้น​ จงรักแต่ตัวเราที่แท้จริง​สูงสุด​อันเป็น​พระเจ้าชีว่าพระเจ้า​พระบิดาอันเป็น​ความรักแท้สากล​จักรวาล​สูงสุด​นั้น​อย่างสุดจิตสุดใจสุดแรงสุดพลังโดยมุ่งสนใจแต่ตัวเราอันเป็น​จิตสายกลาง​จิตตัว​รู้​จุดดวงวิญญาณ​นั้นเพื่อให้ตัวเรามีพลัง​สูงสุด​มีความสุข​สูงสุด ​แล้วจงอตัมมยตาโกรธ​เกลียด​ผู้อื่น​สิ่งต่าง​ๆสิ่งปรุงแต่ง​มายาต่างๆ​ที่โดยแท้จริง​สูงสุด​แล้วเป็นซาตานอันเป็น​มายาสูงสุด​แห่งความเกลียดนั้นอย่างสุดจิตสุดใจสุดแรงสุดพลังที่มันล้วนมุ่งเป็นมายาลวงหลอกทำร้ายทำอันตราย​เราให้เราขาดสติเสื่อมพลังทุกข์​เจ็บ​ปวดทรมานจนต้องตายในที่สุด​, เมื่อตัวเรามีพลัง​​มีความสุข​​ก็ไม่ต้องมีใครอะไรสิ่งใดให้เราต้องกลัว​​ เพราะไม่มีใครอะไรสิ่งใดสามารถ​ทำร้ายทำอันตราย​ตัวเราที่เป็นความสุขนั้นได้ในทุกระดับ​ ไม่ว่าตัวเราที่เป็นจิตสายกลาง​จิตตัว​รู้​จุดดวงวิญญาณ​-ตัวเราที่แท้จริง​ที่เป็นอาตมันจุด​ดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์​-ตัวเราที่แท้จริง​สูงสุด​ที่เป็นพระเจ้า​ดวงวิญญาณ​สูงสุด, มันก็เพียงแค่​ดูเหมือนลวงหลอกว่าสามารถ​ทำร้ายทำอันตราย​ร่างกาย(ทางประสาท​สัมผัส​)​ของเรา​-จิต(ทางความคิดนึก)​ของเรา​-ชีวิต​(ทางความสัมพันธ์​)​ของเรา​-ใจความรู้สึก(ทางอารมณ์​)​ของเราได้เท่านั้นเองซึ่งล้วนไม่ใช่ตัวเราในทุกระดับแต่อย่างใด, เสียใจด้วยซาตานมารสัตว์​นรกเอ๋ย​ เรารู้จัก​เจ้าแล้วเจ้าจะลวงหลอกทำร้ายทำอันตราย​ตัวเราไม่ได้​อีกต่อไป​)​... ".​,​ เราจึงมีสุขภาวะอารมณ์​ที่ดีขึ้นเรื่อยๆตามไปด้วย​เองอัตโนมัติ​ แบบคนที่โกรธ​เกลียด​สิ่งต่างๆอย่างสุดจิตสุดใจจนถึงที่สุดจนไม่อยากสนใจมันอีกต่อไป​อย่างสิ้นเชิง​)(โดยที่เมื่อเรารู้สึก​ว่าบอกลาใจความรู้สึก​ปรุงแต่ง​มายาได้แล้วให้ท่องในใจว่า​ "บอกลาใจความรู้สึกปรุงแต่ง​มายา​หนอๆ​ ใจความรู้สึก​ของเรากลายเป็นนิพพานที่เป็นใจความรู้สึก​ทิพย์​บริสุทธิ์​สูงสุดของพระเจ้า​ที่วางใจเป็นกลางวางอุเบกขา​วางเฉยอย่างแท้จริง​สูงสุด​กับสิ่งต่างๆสิ่งปรุงแต่ง​มายาต่างๆที่ล้วน​เป็น​สูญญตาอันเป็น​ความว่างที่​แท้จริง​สูงสุด​ที่ปราศจาก​กาลเวลา​สิ้นเชิง​,​ จึงเป็นสิ่งที่ไม่สำคัญอย่างสิ้นเชิง​ ไม่จำเป็น​อย่างสิ้นเชิง ไม่มีพลังอำนาจ​อย่างสิ้นเชิง ไม่มีคุณค่า​ความหมายอย่างสิ้นเชิง​ ไม่น่าสนใจอย่างสิ้นเชิง​ตลอด​กาล​ จนไม่มีความรู้สึกปรุงแต่ง​มายาใดๆอีกต่อไป​ ที่จะสมดุลหยุดนิ่ง​มั่นคง​ปกติในสภาวะกึ่งสุขกึ่งทุกข์ที่จะว่าสุขก็ไม่ใช่​ และ​ ทุกข์​ก็ไม่ใช่ที่จะนิโรธ​ดับทุกข์​อย่างแท้จริง​สูงสุด​ ใจความรู้สึก​ภายใน​ของเรา​ตั้งมั่น​ไม่หวั่นไหว​กับกิเลสตัณหาที่ทำให้ทุกข์​ทรมานเกิด​ แก่​ เจ็บ​ ตาย​ได้ตามธรรมชาติ​เองอัตโนมัติ​ ดับทุกข์​สิ้นเชิงโดยทางสายกลาง​หนอๆ..."). ซึ่งเมื่อเราเล่นโยคะสายกลางชุบตัว​ชาร์จ​พลังวิเศษ​สะสมพลัง​วิเศษ​ของพระเจ้าอันเป็น​ตัวเราที่แท้จริง​สูงสุด​นั้นได้พอสมควร​แล้ว​ เราก็จะสามารถส่องแสง​ถ่ายทอด​พลังวิเศษที่ชาร์จ​จากพระเจ้านั้นมายังตัวเรามายาของเรามายาอันเป็นเพียง​มายาที่เป็นตัวละครมายาในการเล่นเกม​ส์แสดงละครมายาตามแผนการของพระเจ้า​ในโลกใน​จักรวาล​ในอวกาศ​-เวลานั้นได้ตลอดสายครบทั้งองค์​รวมร่างกาย-จิต-ชีวิต​-ใจความรู้สึกของเรา​ได้ถึงขีดสุด​ตามไปด้วย​เองอัตโนมัติ(จึงทำให้การปฏิบัติ​จริงๆ​โดยแก่นแท้​พื้น​ฐานของโยคะสายกลาง​ยังคงมีขั้นตอน​เดียวสเตปเดียว​คือ​ การเพ่งกสิณจิตสายกลางอย่างสูงสุดเพื่อพลังสติสูงสุด​เพื่อเข้าถึงพระเจ้า​อันเป็น​ความสุขสูงสุด​ในโลกหน้าหลังความตายของร่างกายนั้นเหมือน​เดิม​ ส่วนการส่องแสง​ถ่ายทอด​พลังวิเศษที่ชุบตัว​ชาร์จ​จากพระเจ้านั้นมายังร่างกาย​-จิต-ชีวิต​-ใจความรู้สึก​ของเราในโลกนี้ที่ร่างกาย​กำลังมีชีวิต​อยู่ให้มีความสุข​สูงสุด​ในโลกนี้ตามไปด้วย​นั้นเป็นผลที่ต้องเกิดตามมาเองจากการปฏิบัติ​นั้นเองอัตโนมัติ​อย่างเลี่ยงไม่ได้เท่านั้น, ซึ่ง​ตรงนี้จะทำให้เกิดมายาการปฏิบัติ​มายาเปลือกมายาเปลือกนอกขึ้นมาที่ต้องมีถึง​ 3 ช่วง​ 4 ขั้นตอน​ที่ลำยากยุ่งยาก​ซับซ้อน​ขึ้นมาอย่างเลี่ยง​ไม่ได้​ คือ​ (1.)ในเบื้องต้นเราควรสุขกายให้เต็ม​ที่เป็นพื้นฐานให้ได้ก่อนโดยเพ่งกสิณจุดตาสายกลางอย่างสูงสุดปิดสวิตช์​ร่างกายก่อน​ จากนั้น​ (2.) ในท่ามกลางจึงค่อยสบายจิตให้เต็มที่​ตามมาโดยเพ่งกสิณจิตสายกลางอย่างสูงสุดปิดสวิตช์​จิตตามไปด้วย​เองอัตโนมัติ​ ที่จะทำให้​ (3.) ในเบื้องปลายเราจึงสามารถมีชีวิตหมดปัญหา​ด้วยพระเจ้า​ และ​ บอกลาความใจรู้สึกปรุงแต่ง​มายาด้วยนิพพานด้วยการใช้ญาณทิพย์​บริสุทธิ์​สายกลางนั้นอย่างเต็มที่​ตามไปด้วยเองอัตโนมัติ​, ซึ่ง​หมายความว่าในการปฏิบัติ​จริงๆนั้นเราจะหันมาเพ่งร่างกาย​เพ่งกสิณจุดตาสายกลางอย่างสูงสุดโดยการรวมพลังจิตทั้งหมด​โฟกัสเพ่งสนใจแต่จุดตาสายกลางจุดตาที่สามล้วนๆเพียงจุดเดียวเท่านั้น​อย่างสุดจิตสุดใจสุดแรงสุดพลังอย่างฉับพลัน​ทันทีเพื่อปิดสวิตช์​ร่างกายพร้อมกับการผ่อนคลาย​ร่างกาย​อย่างสูงสุดด้วยการผ่อนคลาย​ลมหายใจสูงสุด​โดยทางสายกลาง​ไปด้วยนั้นอย่างต่อเนื่องยาวนาน​เป็นพื้นฐานให้ได้ก่อนแทนเพื่อเป็นการวอร์ม​อัพร่างกาย​ให้พร้อมเต็มที่ให้ร่างกายรู้สึก​ปิติสุขเสียวสดชื่น​ตื่นตัวให้มากที่สุดเท่าที่​จะ​ทำได้ก่อนซึ่งต้องทุ่มเท​ใช้เวลาต่อเนื่อง​ยาวนาน​ เพราะการเล่นโยคะสายกลาง​ที่เพ่งกสิณจิตสายกลางอย่างสูงสุดเพื่อปิดสวิตช์​จิตนั้นเป็นการปฏิบัติ​สายกลาง​แค่แป๊บเดียว​แว๊บเดียว​อย่างรุนแรง​รวดเร็ว​ฉับพลัน​ทันทีไม่ต้องใช้เวลามากมายเลยเพียงแค่เตรียม​ร่างกาย​ให้พร้อมเต็มที่ได้ก็ทำได้ทันทีที่ต้องการ​.​ จึงทำให้โยคะสายกลางดูเหมือน​ว่าพลิก​กลายเป็น​การมุ่งเน้นดูแลสุขภาพร่างกายในโลกนี้เป็น​หลักแทนไม่ได้ปฏิบัติเพื่อมุ่งผลทางจิตวิญญาณ​ในโลกหน้าที่จะบรรลุมรรคผลนิพพานแบบฤาษีโยคี​แต่อย่างใด)​.​ ดังนั้น​ การเล่นโยคะสายกลางทั้ง​ที่เป็นการปฏิบัติ​จริงๆโดยแก่นแท้​พื้นฐาน​ และ​ ที่เป็นการปฏิบัติ​มายาเปลือกมายาเปลือกนอกนั้นจึงสามารถ​ส่งผล​ทำให้ร่างกาย​-จิต-ชีวิต-ใจความรู้สึก​ของเราในโลกนี้สามารถ​มีพลังได้อย่างแท้จริง​ถึงขีดสุดจนสามารถ​รู้สึก​สุขกาย(มีสุขภาพ​ร่างกาย​ดีมีร่างกาย​เป็น​กายวิเศษ​กายทิพย์บริสุทธิ์ของพระเจ้า​อันเป็น​สูญญากาศ​อากาศ​บริสุทธิ์​พลังงานปราณไร้รูปที่แผ่ซ่านปิติสุขเสียวซาบซ่านสดชื่น​ตื่นตัวเหนือโลกอันเป็น​ร่างกาย​ที่ดีที่สุด​ที่สามารถ​ไม่เจ็บได้อย่างแท้จริ​งสูงสุด​)​ - สบายจิต(มีสุขภาพ​จิตดีมีจิตเป็นสิ่งวิเศษ​มิติวิเศษ​อาตมันจุด​ดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์ของพระเจ้า​ที่ส่องแสง​สว่างสุกใส​รู้แจ้ง​เหนือโลกเหนือจักรวาล​ตื่นรู้อย่างแท้จริงอันเป็น​จิตที่ดีที่สุด​ที่สามารถ​ไม่แก่ได้อย่างแท้จริ​งสูงสุด​​)​ - ชีวิต​หมดปัญหา​(มีคุณภาพ​ชีวิต​ที่ดีมีชีวิตที่เป็นชีวิตวิเศษ​สูงสุด​อันเป็น​ธรรมชาติ​ทิพย์​บริสุทธิ์​สูงสุด​ของพระเจ้านั้นเป็นพระเจ้า​​ ​อันเป็น​จักรวาล​อันแท้จริง​สูงสุด​สวรรค์​อัน​แท้จริง​ชั้น​สูงสุด​ในรูปของดวงวิญญาณ​สูงสุด​ที่​เป็​นแสงอันสว่างจ้า​อย่างแท้จริง​สูงสุดของการตื่นรู้ที่แท้จริง​สูงสุด​อันเป็นสิ่งวิเศษ​สูงสุด​สิ่ง​ที่​ดี​ที่สุด​ความรักแท้​สากล​จักรวาล​สูงสุด​ อันเป็น​ธรรมชาติ​ชีวิต​ที่ดีที่สุด​ที่สามารถ​ไม่ตาย-ไม่เกิดได้อย่างแท้จริ​งสูงสุด​​ อันจะเป็น​การมองโลกมองจักรวาล​แบบองค์​รวมที่เป็น​พระเจ้า​นั้นในแง่ดีได้อย่างสูงสุด​​)​ - บอกลา​ใจความรู้สึกปรุงแต่ง​มายา(มีสุขภาวะอารมณ์​ดีมีใจความรู้สึก​เป็น​หัวใจทิพย์​บริสุทธิ์​สูงสุด​ของพระเจ้า​ อันเป็น​นิพพานความดับทุกข์​สิ้นเชิง​ที่ปราศจาก​ความรู้สึกปรุงแต่ง​มายาใดๆสิ้นเชิง​ ที่​จะเป็น​ความรู้สึก​ที่ธรรมดาที่สุดกับสิ่งต่าง​ๆ​สิ่งปรุงแต่ง​มายาต่างๆ ​อันเป็นใจความรู้สึก​ที่ดีที่สุด​ที่สามารถ​ดับทุกข์​สิ้นเชิง​ได้อย่างแท้จริ​งสูงสุด​​ที่จะวางใจเป็นกลางวางอุเบกขา​รู้สึก​วางเฉย​อย่างแท้จริง​สูงสุดกับสิ่ง​ต่าง​ๆ​สิ่งปรุงแต่ง​มายาต่างๆ จึงไม่มีความรู้​สึกกับใครอะไรสิ่งใดอีกต่อไป​อย่าง​สิ้นเชิง​ อันจะเป็น​การมองสิ่งต่างๆในแง่ร้ายอย่างสูงสุดจนเลิกสนใจสิ่งต่างๆอีกต่อไป​ได้อย่างสิ้นเชิง)​ได้ถึงขีดสุดได้ในที่สุด​แน่นอน, ซึ่ง​จะทำให้เรา​สามารถ​พลิกเปลี่ยน​กลายเป็น​คนใหม่ที่คล้ายเด็กน้อยผู้เบิกบานบริสุทธิ์​ไร้เดียงสา​เหมือน​เราคนเดิมตอนแรกเกิดใหม่ในโลกนี้นั้นได้อีกครั้ง​ ที่จะเป็น เด็กน้อย​ของพระเจ้า(baby of​ God)​ ที่สามารถ​ได้รับ​ เอกสิทธิ์​สูงสุด​(maximum privilege)​ การคุ้มครอง​ดูแ​ลให้พรอย่างดีที่สุดจากอ้อมกอด​ของพระเจ้าชีว่าพระเจ้า​พระบิดาที่จะเหมือนว่าเราได้ทำ ประกันชีวิต​อย่างแท้จริง​สูงสุด(ultimate​ real​ life​ insurance)​ กับพระเจ้า​ อันจะเป็นการการันตี​สูงสุด​ด้วยพลังอำนาจสูงสุด​ของพระเจ้า​ที่จะทำให้เรามั่นใจได้สูงสุด​ว่าเราจะรู้สึก​ปลอดภัยสูงสุด​ รุ่งเรือง​สูงสุด​ มั่นคง​สูงสุดทั้งในโลกหน้า​ และ​ ในโลกนี้​ด้วยอ้อมกอด​ของรักแท้สากล​จักรวาล​สูงสุ​ดของพระเจ้าอันเป็น​ปัจจุบัน​และอนาคตที่แท้จริง​สูงสุด​ของเรา​อย่างยุติธรรม​เท่าเทียมกัน​หมดนั้น(ซึ่งการเป็นเด็กน้อย​ของพระเจ้า​ตรงนี้​จะเป็นความสัมพันธ์​ที่แท้จริง​ของ​เรากับพระเจ้าเพราะตัวเราที่แท้จริง​เป็นอาตมันจุุด​ดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์​ที่​เปรียบเสมือน​ลูก​ของพระเจ้าชีว่าพระเจ้า​พระบิดาดวงวิญญาณ​สูงสุด​ผู้ให้กำเนิดของเรา​นั้น​ จึงทำให้ความสัมพันธ์​ของตัวเรากับผู้อื่​นในโลกใน​จักรวาล​ในอวกาศ​-เวลาจึงล้วน​เป็น​เพียง​ความสัมพันธ์​ปรุงแต่ง​มายาการเล่นเกม​ส์แสดง​ละครมายาเท่านั้น)​ เราจึงเต็​มเปี่ยมล้น​อัดล้นไปด้วย​ความสุขความรักอันแท้จริง​จากพระเจ้าที่จะสามารถ​เป็น​หนุ่มอมตะมีอายุยืนยาว​มหาศาลเหนือโลกได้ด้วยพลังวิเศษ​สูงสุด​ของพระเจ้าอันเป็น​ความรักแท้สากล​จักรวาล​สูงสุด​ที่เป็นความรักแท้ของจริงที่มาจากภายในที่สุดของจิตใจของเราเองของตัวเราเองล้วนๆนั้น,​ "เมื่อเราสามารถพักรบพบรักค้นพบรักที่ดีที่สุดรักแท้สูงสุ​ดรักเดียว​สูงสุด​ในส่วนลึก​ที่สุดของจิตใจของเรา​ที่เป็นตัวเราเองล้วนๆนั้นได้แล้วเราจะสามารถ​หยุดหัวใจไว้กับรักแท้สูงสุด​นี้ไว้ด้วยอ้อมกอดของพระเจ้าด้วยความรักแท้​สากล​จักรวาล​สูงสุด​อันไร้ขอบเขต​ขีดจำกัดใดๆสิ้นเชิง​นั้นไว้ได้ตลอดกาล​ เราจะกลายเป็นเด็กน้อยของพระเจ้า​อยู่อย่างนั้นตลอดไป​ ไม่มีการดิ้นรนแสวงหายึดติดยึดมั่น​ถือ​มั่น​เอาจริงเอาจัง​กับความรักใดๆในโลกใน​จักรวาล​ในอวกาศ​-เวลาที่ล้วนเป็นเพียง​ความรักมายาเฉพาะส่วนตัว​ความรักจอมปลอมปรุงแต่ง​มายาที่มีขอบเขต​ขีดจำกัดขึ้นกับเงื่อนไขผลประโยชน์ที่ล้วน​เป็น​มายาสูงสุด​แห่งความเกลียดนั้นอีกต่อไป, การดิ้นรน​แสวงหา​ความรักจากภายนอกจากผู้อื่นนั้น​เราย่อมได้เจอแต่ความเกลียดที่จะรักสิ่งโน้นแล้วเกลียด​สิ่งนี้สร้างความแบ่งแยก​แตกต่าง​ไม่มีที่สิ้นสุด​จึงย่อมเจอแต่ความทุกข์​ร่ำไปย่อมนำไปสู่ความตายในที่สุด​ ส่วนการดิ้นรนแสวงหาความรักจากภายในจากตัวเราล้วนๆนั้นย่อมเจอแต่เอกภาพองค์ความความเป็นหนึ่ง​เดียว​สูงสุด​ความรักแท้สากล​จักรวาล​สูงสุด​ที่เป็นความสุขล้วนๆตลอดกาล​ย่อมนำไปสู่ความเป็นอมตะนิรันดร์​ในที่สุด​.เมื่อเราสามารถเดินทางสายกลาง​ย้อนจิตสวนทางจิตที่คิดนึกสุดโต่งไปตามกระแสกาลเวลามายานั้น​ได้จนจิตสมดุลหยุดนิ่งสงบนิ่ง​สูงสุด​เป็นความรักแท้​สากล​จักรวาล​สูงสุด​ตลอดกาล​ได้แล้วเราย่อมสามารถย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กน้อยที่เต็มไปด้วย​ความรัก​แท้สูงสุด​ได้จริงๆเหมือน​เดิมอีกครั้งที่จะเป็นเด็กน้อย​ของพระเจ้า​อยู่​อย่างนั้น​ตลอด​ไป(ไม่ดิ้นรนแบ่งแยกเด็ก​น้อยออกจาก​ตัวเอง​จนนำไปสู่ความตายอีกต่อไป)​...". โดยที่เราจะสามารถส่องแสง​ความสุขความงามความรักอันแท้จริง​สูงสุด​ของพระเจ้าชีว่าพระเจ้า​พระบิดา​อันเป็น​ความรักแท้​สากลจักรวาล​สูงสุด​นั้นโดยทางสายกลาง​ให้ประจักษ์​แก่มหาชนชาวโลกชาวจักรวาล​ได้​ที่จะเปลี่ยน​ไปจากตัวเราคนเดิมนั้นอย่างสิ้นเชิง.​ ซึ่ง​แน่นอนว่าจะทำให้เรามีชีวิต​ใหม่ที่แตกต่างพลิกไป​จากชีวิต​เดิมๆสิ้นเชิงด้วยความสุขของจริงสัมบูรณ์​ระดับสากลจากภายในที่ลึกที่สุดอันเป็นสุขวิเศษ​สุขทิพย์บริสุทธิ์​วิมุติสุขบรมสุขที่แท้จริง​สูงสุด​อันเป็นจักรวาล​อันแท้จริง​สูงสุด​สวรรค์​อัน​แท้จริง​ชั้น​สูงสุดหนึ่ง​เดียวนั้นย่อมเป็น​เหมือนแม่เหล็ก​ที่จะดึงดูด​ความสุขมายาสวรรค์​มายาจากภายนอกมหาศาลรอบตัวเรา​เข้ามาสู่​ตัวเราเองเรื่อยๆพร้อมกับผลักไส​ขับไล่ความทุกข์​มายานรกมายาต่าง​ๆให้หนีห่างจากตัวเราไปเรื่อยๆเองด้วยพร้อมกัน​ ซึ่งความสุขที่แท้​จริง​สูงสุด​จากภายในที่ลึกที่สุดของจิตของเรา​จากการเล่นโยคะสายกลาง​นั้นจะค่อยๆสุขจนไหลล้นออกมาสู่ร่างกายภายนอกสู่ชีวิต​ภายนอกเองอัตโนมัติ​จนค่อยๆทำให้เรา​กลายเป็น​ คนที่สามารถ​มีความสุข​ที่สุดในจักรวาล(maximum happy​ human in​ universe​)​ ที่เป็นคนที่มีสุขภาพ​ดีที่สุดคนงามที่สุด​ในจักรวาล​ที่มีสุขภาพ​ดีสูงสุด​แบบองค์​รวม​ครบถ้วน​ทั้งทางร่างกาย​-จิต-ชีวิ​ต-ใจความ​รู้สึกที่สามารถ​รู้สึก​ว่าสุขกาย-สบายจิต-ชีวิต​หมดปัญหา​-บอกลาใจความ​รู้สึก​ปรุงแต่ง​มายานั้นมากขึ้น​เรื่อย​ๆทุกวันเองอัตโนมัติ​ จนทำให้เราสามารถ​ร่ำรวยได้อย่างแท้จริง​สูงสุดจนเป็น​ ราชาจ้าวจักรวาล​สูงสุด(ultimate​ king​ of​ the​ universe​)​ หรือ​ พระเจ้า​อันเป็นสิ่งสูงสุด​ความเป็นที่หนึ่งสูงสุด​ตลอดกาลนั้นในที่สุด​เองอัตโนมัติ​ ​ที่มั่นใจ​สูงสุ​ดว่าไม่มีทางกลับไปทุกข์​ยากจนลำบากเหมือน​แบบเดิมๆอีกแน่นอน("ในเมื่อตัวเราที่แท้จริง​สูงสุด​นั้นเป็นพระเจ้า​อันเป็นสิ่งสูงสุด​ความเป็นที่หนึ่งสูงสุด​ตลอดกาล ดังนั้น​ โดยเนื้อแท้​สูงสุ​ดแล้วตัวเราย่อมเป็นพระเจ้า​เป็นราชาจ้าวจักรวาล​สูงสุด​ที่ร่ำรวยสูงสุด​ในจักรวาลตลอด​กาล, ดังนั้น​ จึงเป็นไปไม่ได้​เลยที่เราจะมีชีวิตลำบากยากจนในโลกใน​จักรวาล​ เราจะต้องมีชีวิต​ในโลกใน​จักรวาล​แบบราชาที่ร่ำรวยสนุกสบายที่สุดในโลกในจักรวาล​เท่านั้​นจะเป็นอย่างอื่นนอกไปจากนี้ไม่ได้เลย, ดังนั้น​ ความรวยระดับร้อยล้านพัน​ล้านทั่วโลกทั่วจักรวาล​อันเป็นทรัพย์สิน​เงินทองทั่วโลก​ความเป็นอมตะนิรันดร์​ทั่วจักรวาล​จะต้อง​หลั่งไหล​มาหาเราตัวเราทุกทิศทาง​ตลอด​เวลาเพราะตัวเรา​ที่แท้จริง​สูงสุด​เป็นพระเจ้า​เป็นความสุข​ที่แท้จริงสูงสุด​ที่ร่ำรวยสนุก​สบายจากภายในที่ลึกที่สุด​ เราจึงเป็น​เหมือน​มนุษย์​แม่เหล็ก​ที่ดึงดูด​ความสุขต่างๆมหาศาล​ทั่วโลก​ทั่วจักรวาล​เข้ามาหาเราเองอัตโนมัติโดยไม่รู้ตัว​แม้ว่าเราจะไม่ต้องการ​ความสุขมายาเลยก็ตาม,​ เพราะเป็นความร่ำรวยภายในตามธรรมชาติ​ของพระเจ้า​เองล้วนๆที่พระเจ้าสิ่งสูงสุด​จะต้องร่ำรวยอย่างแท้จริง​สูงสุด​เท่านั้นมันไม่ใช่ความร่ำรวยภายนอกที่มาจากฝีมือการกระทำใดๆการดิ้นรน​พยายาม​ใดๆของมนุษย์​ หรือ​ ของใครอะไรสิ่งใด​เลยอย่างสิ้นเชิง​ เราจึงสามารถ​ร่ำรวยสนุก​สบายได้อย่างง่ายๆโดยแทบไม่ต้องทำงานไม่ต้องออกแรงร่างกาย​เลยแม้แต่​นิดเดียว​ เหมือนกับว่าเราเกิดมาบนกองเงินกอง​ทองเลยเกิดมาเพื่อรวยเลยเท่านั้น​ที่รู้จัก​แต่คำว่ารวยแล้วก็รวยอย่างเดียวเท่านั้น​ไม่มีความเครียด​วิตกกังวล​คิดมาก​กับ​ปัญหา​เรื่องเงินทอง​เลยแม้แต่อยากจะคิด, ไม่ว่าในอดีต​ที่ผ่านมา​เราเคยลำบากยากจนแค่ไหนยังไงก็​ตามช่างมันแต่ปัจจุบัน​และอนาคต​จากนี้ไปจนนิรันดร์​เราจะมีแต่คำว่ารวยๆๆแล้วก็รวยให้ถึงขีดสุดเท่านั้น, ถ้าเราโง่เขลา​คิดว่าเชื่อว่าเราจนเราไม่มีเงินเราเกิดมาจนเราก็จะท้อจะยิ่งจนไปเรื่อยๆทุกวัน​ แต่ถ้าเราฉลาดพอที่จะคิดว่าเชื่อว่ายังไงเราก็ต้องรวยแน่นอน​ 100% โดยไม่มีข้อลังเล​สงสัย​ใดๆสิ้นเชิง​เพราะตัวเราที่แท้จริง​สูงสุด​เป็นพระเจ้า​ด้วยสติปัญญา​ญาณ​อันหมดจดถึงที่สุดที่มาจากการเล่นโยคะสายกลาง​นั้นเราก็จะรวยอย่างแท้จริง​มากขึ้นทุกวันๆไป​เรื่อย​ๆจนถึงขีดสุดแห่ง​ความรวยที่กลายเป็นพระเจ้า​ได้แน่นอน, อย่ามัวไปสนใจเชื่อผู้อื่นสิ่งต่างๆสิ่งปรุงแต่ง​มายาต่างๆที่ล้วนเป็นความทุกข์​สูงสุด​ที่จะเป็นมายาสูงสุด​แห่งความเกลียดที่มาสร้างความเกลียด​ชังขัดแย้ง​โต้แย้ง​ลวงหลอกให้เรารู้สึก​จนกว่าคนอื่นขึ้นมาให้มองมันเป็นความว่าง​ที่แท้จริง​สูงสุด​ที่ไม่สำคัญอย่างสิ้นเชิง​ ไม่จำเป็น​อย่างสิ้นเชิง ไม่มีพลังอำนาจ​อย่างสิ้นเชิง ไม่มีคุณค่า​ความหมายอย่างสิ้นเชิง​ ไม่น่าสนใจอย่างสิ้นเชิง​ตลอด​กาลไปซะ​ ​แล้วให้มุ่งสนใจเชื่อมั่นสูงสุดมั่นใจสูงสุด​แต่ตัวเราที่แท้จริง​สูงสุด​ที่เป็นพระเจ้าที่เป็นความสุขสูงสุด​ร่ำรวยสูงสุด​ตลอดกาล​ที่ไม่มีใครอะไรสิ่งใด​ทัดเทียม​ได้นั้นแทน​ แล้วความร่ำรวยภายในที่ลึกที่สุด​ของเรา​จะค่อยๆล้นออกมา​เป็นความร่ำรวยภายนอกเองอัตโนมัติ, เราต้องมุ่งสนใจแต่ความสุขที่แท้​จริง​สูงสุด​ความรวยที่แท้จริง​สูงสุดแก่นแท้​สูงสุด​ภายในที่ลึกที่สุด​ทางจิตที่อยู่​เหนือเงินที่เงินซื้อไม่ได้​เป็นหลัก​ ส่วนความสุขภายนอกความรวยภายนอกทางร่างกาย​มันเป็นแค่เปลือกมายาความสุขชั่ววูบ​ความรวยชั่วคราว​ที่เป็นมายากับดักเหยื่อ​ล่อให้หมู่สัตว์ยอม​หลงติดในสังสารวัฏ​เท่านั้น​...")​...

 

 

      เราจึงใช้ชีวิตมายาในโลกใน​จักรวาล​ในอวกาศ​-เวลาแบบเด็กน้อยของพระเจ้าคนที่สามารถ​มีความสุขที่สุด​ในจักรวาล​ที่เป็นคนที่มีสุขภาพ​ดีที่สุดคนงามที่สุด​ในจักรวาลผู้ที่สามารถ​มีทั้งพลังจิต​สูงสุด​ และ​ พลังร่างกายวัตถุ​สสารสูงสุด​พร้อมกัน​ได้ในคนๆเดียว​ที่จะใช้ชีวิต​เป็นเหมือน​ปุถุชน​ที่มัวเมาในกิเลส​ตัณหา​อย่างสูงสุด​โดยทางสายกลาง​ที่​สามารถ​ง่วงก็นอนด้วยความโกรธ​เกลียด(ผลักออกอยากพ้นทุกข์​)​สูงสุด​-หิวก็กินด้วยความโลภรัก(ดึงเข้าอยากได้ปิติสุข)​สูงสุด​-เบื่อก็เที่ยวด้วยความหลงไหล(ค้างคาอยากสุขสงบ)​สูงสุด​โดยทางสายกลาง​ ที่จะทำสงคราม​ต่อสู้​กับผู้อื่น​สิ่ง​ต่าง​ๆสิ่งปรุงแต่ง​มายาต่างๆโดยการเล่นโยคะสายกลาง​ด้วยกิเลส​ตัณหา​ความโกรธ​เกลียด​สูงสุด​โดยทางสายกลาง​จนมีพลังจิตสูงสุด​พลังสติสูงสุด​สามารถ​เข้าถึง​พระเจ้า​จนนิพพาน​มีใจความ​รู้สึก​ที่วางเฉยอย่างแท้จริง​สูงสุด​กับสิ่ง​ต่าง​ๆสิ่งปรุงแต่ง​มายาต่างๆกำจัดความโกรธ​เกลียด​สิ้นซากไปตามธรรมชาติ​เองอัตโนมัติ​ จนสามารถเปลื่ยน​จากสนามรบให้เป็น​สนามรักพลิกเปลี่ยน​เป็นความโลภรักสูงสุด​มีพลังร่างกาย​วัตถุสสารสูงสุด​ และ​ ความหลงไหลสูงสุดมีพลังชีวิตสูงสุด​พลังใจความรู้สึก​สูงสุด​โดยทางสายกลางที่จะมีกิเลสตัณหาโกรธ​-โลภ-หลงอย่างสูงสุด​จนสามารถ​ปราศจาก​กิเลสตัณหา​ทั้งหมด​ไปตามธรรมชาติ​เองอัตโนมัติในที่สุด​(เราจะใช้วิธีหนามยอกเอาหนามบ่งตาต่อตาฟันต่อฟัน​ โกรธ​เกลียด​ก็บอกว่าโกรธ​เกลียด​ โลภรักก็บอกว่าโลภรัก​ หลงไหลก็บอกว่าหลงไหล​ ตรงไปตรงมา​ต่ออารมณ์​ความรู้สึก​ใส่อารมณ์​ไปเต็มที่อย่างมีสีสัน​มีชีวิตชีวา​ ไม่ได้มีการพยายามเก็บกดกิเลส​ตัณหา​ไว้เพื่อทรงอารมณ์​ฌานสมาธิจนดูตายซากทางอารมณ์​แบบฤาษีโยคีทั่วไป​แต่อย่างใด​ แต่โดยพื้นฐานภายใน​แล้วเรา​ก็​ยังคง​เป็น​ฤาษีโยคีระดับสูง​สุด​ที่มีพลังจิตสูงสุด​พลังสติสูงสุด​มีจิตแข็งกล้าไม่หวั่นไหว​ใจอ่อน​กับใครอะไรสิ่งใด​ทั้งสิ้นด้วยจิตที่นิพพาน​ไร้ความรู้สึก​ใดๆสิ้นเชิง​อยู่เหมือนเดิม​ ​เพียงแค่​ภายนอกที่เปิดเผยนั้นเราดูเหมือน​ปุถุชน​สูงสุดที่มีอารมณ์​ความรู้สึก​สูงสุด​เท่านั้น​เอง​ ด้วยเหตุนี้​เราจึงยังคง​ใช้ชีวิต​โดยพื้นฐานแบบฤาษีโยคีที่ชอบเก็บตัวปลีกวิเวกนั่ง​สมาธิเข้าฌานลำพังคนเดียวในจิตหนึ่งสมาบัติ​โลกส่วนตัวอย่าง​สูง​สุดนั้น​อยู่​เสมอแม้จะต้องใช้ชีวิต​อยู่​ร่วมกับปุถุชน​คนส่วนใหญ่ในสังคม​ก็ตาม)​, โดยจะเป็น​การใช้ชีวิต​แบบพยายามหนี เอาตัวให้รอดอย่างสูงสุด(maximum survive)​ พยายามหนี​เอาชีวิตให้รอดที่พยายามหนีตายจากภัยอันตราย​คมมีดของใบมีดดาบสังหารของซาตานยมทูต​พญามัจจุราช​ที่เป็นมายาสูงสุด​แห่งความเกลียดที่กรีดเฉือนแบ่งแยกสิ่งต่าง​ๆสิ่งปรุงแต่ง​มายาต่างๆตัดขาดออกจาก​กันอย่างทุกข์​เจ็บปวด​ทรมานสูงสุด​ตลอดเวลา​อย่างโหดเหี้ยม​สูงสุด​ในนรกมายาขุมที่ลึกที่สุดที่มีแต่ความทุกข์​ที่แท้จริง​สูงสุด​นั้นเพื่อ​หนีเข้าสู่อ้อมกอด​ของพระเจ้าอันเป็น​ความรักแท้สากลจักรวาล​สูงสุดในสวรรค์​อัน​แท้จริง​ชั้น​สูงสุด​หนึ่ง​เดียวที่ปลอดภัย​สูงสุด​ รุ่งเรือง​สูงสุด​ มั่นคง​สูงสุด​มีแต่ความสุขที่แท้​จริง​สูงสุด​ความสุขล้วนๆนิรันดร์​นั้น​โดยการชำระชีวิต​ให้บริสุทธิ์​นำพาชีวิตถอดชีวิตให้ค่อยๆล่องหนหายตัวหนีเข้าสู่ชีวิตนิรันดร์​สวรรค์​อันแท้จริง​ชั้น​สูงสุด​หนึ่งเดียวอันเป็น​พระเจ้า​นั้นโดยการค่อยๆนำพาร่างกาย​ให้หนีกลับสู่มิติแก่นแท้​สูงสุด​ของ​ร่างกาย(โดยอาศัย​ทางรอด​ช่องโหว่​ของร่างกาย​อันเป็น​ตัวอากาศ​ลมปราณ​ลมหายใจ​เข้า-ออก​นั้น)​ชำระร่างกาย​ให้บริสุทธิ์​มีพลังหายใจแบบสายกลาง​หายใจแบบหุ่นยนต์​พร้อมกับ​ท่องคำมานตราโยคะไปด้วยเพื่อปรับสมดุลจิตแบบเคลื่อนไหว​ต่อเนื่อง​ช้าๆค่อยเป็นค่อยไป​ และ​ นำพาจิตให้หนีกลับสู่มิติแก่นแท้​สูงสุด​ของ​จิต​(โดยอาศัย​ทางรอด​ช่องโหว่​ของจิตอันเป็นตัวจิตสายกลางจิตตัว​รู้​จุดดวงวิญญาณ​นั้น)ชำระจิตให้บริสุทธิ์​มีพลังเพื่อปรับสมดุลจิตแบบหยุดนิ่ง​รวดเร็ว​ฉับพลันทันที​ โดยจะเป็นลักษณะ​ของ​การนั่งทำสมาธิที่สนใจเพ่งกสิณจิตโดยทางสายกลาง​จนจิตส่องแสง​สว่างจ้า​สูงสุด​พร้อมกับร่างกายภายใน​อากาศลมปราณ​ลมหายใจ​ และ​ จิตคำโยคะมานตราบริกรรม​ภาวนาร่ายเวทมนตร์​ที่เคลื่อนที่​สูงสุ​ดหมุนเวียน​เป็นวงกลม​ค่อยๆหนีจากแรกผลักแรงดึงดูด​ล่องลอย​หนีจากพื้นโลกไปเรื่อยๆ​ "โดยการค่อยๆพยายาม​พลิกเปลี่ยน​ให้จิตหยุดนิ่ง​สูงสุด​ชำระล้างจิตของเรา​ให้บริสุทธิ์​เพ่งจิตทำจิตของเราให้เป็นจุดดวงวิญญาณอันเป็น​จิตทิพย์​จุดพลังงาน​แสงสว่าง​ที่บริสุทธิ์​มากขึ้น​เรื่อย​ๆ​จนกลายเป็น​พระเจ้า​ดวงวิญญาณสูงสุดซุปเปอร์​จิตที่สว่าง​จ้าสูงสุดหนีกลับสู่มิติแก่นแท้​สูงสุด​ของจิตโดยอาศัย​ทางรอดช่องโหว่​จิตสายกลาง​จิตตัว​รู้​จุดดวงวิญญาณ​ของจิตของเรา​ และ​ ให้ร่างกาย​เคลื่อนไหว​สูงสุด​ชำระล้างร่างกาย​ของเรา​ให้บริสุทธิ์ผ่อนคลาย​ร่างกาย​ทำร่างกาย​ของเรา​ให้เป็น​ความว่างที่เป็นกายละเอียด​กายทิพย์​บางเบาสบายไร้น้ำหนักที่บริสุทธิ์​มากขึ้น​เรื่อยๆจนกลาย​เป็นความว่าง​สูงสุดที่มืดมิด​สูงสุดหนีกลับสู่มิติแก่นแท้​สูงสุด​ของร่างกาย​โดยอาศัย​ทางรอด​ช่อง​โหว่อากาศ​ลมหายใจ​ลมปราณ​ของร่างกาย​ของเรา​นั้น​, จึงทำให้เราควรพยายามรักษา​ร่างกาย​ภายนอก​ให้แข็งแกร่ง​ตั้งมั่นสมดุล​ในอริยาบถสายกลาง​ท่านั่ง​ขัดสมาธิโยคะ​ ส่วนร่างกาย​ภายในให้ผ่อนคลาย​หายใจแบบสายกลางพร้อม​กับท่องคำมานตราโยคะไปด้วยจนรู้สึก​ว่าร่างกาย​เป็น​อากาศ​ลมปราณ​ลมหายใจ​ที่ว่างเปล่า​เบาสบายล่องลอย​ไร้น้ำหนักในภวังค์​อยู่เสมอ​ เพื่อทำให้เราสามารถ​เล่นโยคะสายกลางเพ่งกสิณจิตสายกลาง​จิตตัว​รู้​จุดดวงวิญญาณ​อย่างสูงสุด​​จนจิตสามารถ​ตั้งมั่นสมดุล​ล่องลอยอิสระ​ส่องแสง​สว่างจ้า​สูงสุด​เหนือร่างกาย​(เหมือน​กับพระจันทร์​สี​เงิน​ที่ส่องแสง​สว่างจ้า​เหนือโลกเหนือจักรวาล​เหนืออวกาศ​-เวลานั้น)​ให้ได้ต่อเนื่อง​ยาวนาน​ที่สุด​เท่าที่​จะ​ทำได้, ค่อยๆทำความสะอาด​ชำระล้างจิต​ และ​ ร่างกาย​ของเรา​ให้บริสุทธิ์​กำจัดเศษ​ขยะสิ่งปฏิกูล​ที่สกปรกรกไร้ค่า​ไร้​ความหมาย​ออกไปจากจิต​ และ​ ร่างกาย​ของเรา​ไปเรื่อย​ๆอย่าง​ต่อเนื่อง​เป็น​ประจำทุกวันแล้วเราจะค่อย​ๆมีชีวิต​ และ​ มีใจความ​รู้สึก​ที่บริสุทธิ์มีพลัง​อำนา​จ​มากขึ้นเรื่อย​ๆทุกวันเองอัตโนมัติ, จิตพร้อม​(จิตหยุดนิ่ง​สูงสุด)​ กายพร้อม(ร่างกาย​เคลื่อนไหว​สูงสุด​)​ เราทำได้แน่นอน​..." ,​ ซึ่ง​จะทำให้เราพลิกเปลี่ยน​มองโลกใหม่หมดจากเดิมอย่างสิ้นเชิง​ที่เราจะมองว่าโลกหน้าคือโลกที่แท้จริง​สูงสุด​ของเรา​เป็นที่อาศัยที่แท้จริง​สูงสุด​ของ​เราเป็นโลกหลักพื้นฐาน​ถาวรตลอด​กาล​ของเรา​ ส่วนโลกนี้เป็นเพียง​โลกสมมุติ​มายาชั่วคราว​ที่แวะมาเที่ยวเล่นๆสังเกตุการณ์​เล่นๆแค่ชั่วครั้งชั่วคราวที่อาจขาดสติ​เผลอฝันไปบ้างอะไร​บ้าง​เท่านั้น​ที่โดยแท้จริง​สูงสุด​แล้วเป็นเพียงความว่าง​สูงสุดที่ไม่มีแม้แต่​อนุภาค​เดียว​ในวินาที​เดียว​ให้เราสามารถ​พักพิง​อาศัย​ได้, โดยที่เราสามารถ​มีอิสระเต็มที่​ที่จะเลือกเดินทาง​ไปมาระหว่าง​สองโลกนี้ได้ตามใจชอบ​ คือ​ ถ้าเรารู้​สึกเบื่อโลกนี้รู้สึก​ว่ามันเป็นนรกก็สามารถถอดจิตหนีไปโลกหน้า​อันเป็น​สวรรค์​อัน​แท้จริง​ชั้น​สูงสุด​นั้นได้ฉับพลัน​ทันที​ที่ต้องการ​ และ​ ถ้าตัวเรา​ชุบตัว​ชาร์จ​พลังวิเศษ​จากพระเจ้าในโลกหน้าอย่าง​เต็ม​ที่แล้วเบื่อๆก็อาจแวะกลับไปเที่ยวโลกนี้บ้างอะไร​บ้างก็ได้​เพราะเราก็มีพลังวิเศษ​ของพระเจ้า​มาช่วยให้เราพลิกนรกให้เป็น​สวรรค์พอบรรเทา​ทุกข์ไปได้แล้ว, จึงเหมือน​กับว่าตัวเราอันเป็น​จิตโดยทางสายกลาง​นั้นให้หนีรอดไปรอที่พระเจ้า​ที่โลกหน้า​ก่อน​ แล้วจึงค่อยๆทำให้ร่างกาย​ของ​เรารวมถึง​ชีวิ​ตของเรา​ค่อยๆหนีรอดจากโลกนี้พ้นจากโลกพ้นจากจักรวาล​ไปแบบช้าๆค่อยเป็น​ค่อยไปเรื่อยๆตามไปทีหลัง​เพื่อเป็นการแสดงพิสูจน์​ว่าตัวเราจิตของเรา​โดยทางสายกลาง​นั้นได้หนีรอดจากโลกนี้ได้สำเร็จสูงสุด​จริงๆไปก่อนแล้วเท่านั้น​เอง ที่จะทำให้เรายอมทนมีชีวิต​อยู่ในโลกนี้เพื่อ สร้างสมบารมี(create​ prestige​)​ เพื่อเดินทางชีวิตหาความสุขสูงสุด​ทางจิตใส่ตัวไปวันๆ​ ค่อยๆทำจิตให้เป็น​กลางสมดุล​ทั้งแบบหยุดนิ่ง​ และ​ แบบเคลื่อนที่​ ​ค่อยๆเดินทาง​ชีวิต​ให้ค่อยๆ หนีกลับสู่สวรรค์(come​ back​ to​ heaven)​ โดยค่อยๆพยายามหนี​พ้นจากนรกพ้นจากความทุกข์​ไปเรื่อยๆจนสมบูรณ์​สูงสุด​ในที่สุด​ เหมือนเพื่อรอให้ชีวิต​ของเราค่อยๆกลายเป็น​พระเจ้า​ชีว่าพระเจ้า​พระบิดาในสวรรค์​อัน​แท้จริง​ชั้น​สูงสุด​ในโลกหน้าในปัจจุบันและอนาคต​ที่แท้จริงสูงสุดของเรา​นั้นด้วยการเล่นโยคะสายกลาง​ปรับสมดุลจิตฝึกจิตทรมาน​จิตโดยทางสายกลางเพื่อสร้างพลัง​จิตพลังสติให้มีพลัง​สูงสุดให้มากที่สุดเท่าที่​จะ​ทำได้เพราะเชื่อ​ว่าจิตที่​มีพลัง​อำนาจสูงสุดย่อมสามารถ​เอาชนะได้ทุกอย่างจึงสนใจใช้เวลาส่วนใหญ่​นั่งสมาธิ​หลับตาเพ่งกสิณจิตสายกลางอย่างเต็มที่​เพียง​อย่าง​เดียว​เท่านั้น​ที่จะชุบตัว​ชาร์จ​พลังวิเศษ​จากพระเจ้าชีว่าพระเจ้า​พระบิดา​ไปวันๆไม่สนใจโลกสิ่งต่างๆสนใจจักรวาล​อันเป็นเพียงอดีต​ที่แท้จริงสูงสุด​ที่​แก้ไขเปลี่ยนแปลง​ทำอะไรกับมันจริงๆไม่ได้อย่างสิ้นเชิง​นั้นให้เครียดให้เหนื่อย​เพราะจะเพ่งแต่จิตจนรู้สึก​ว่ามีแต่พระเจ้า​อันเป็น​จิตล้วนๆเพียง​จิต​เดียว​เท่านั้น​ในพระเจ้า​สมาบัติ​นั้น ที่ดูเหมือนว่า​ใช้ชีวิต​เล่นๆไปวันๆแบบ มนุษย์​ต่างดาว​ต่างมิติเมล็ด​พันธุ์​แห่งดวงดาว​ของพระจันทร์​สี​เงิน​นักเดินทาง​ท่องเวลาทะลุมิติผู้สังเกตการณ์​จากต่างมิติ(alien​ traveler​)​ โดยเป็นเพียง​ผู้ดูเฉยๆผู้รู้เฉยๆผู้สังเกตการณ์เฉยๆ​ไม่ใช่ผู้กำลังเล่นเกม​ส์ผู้กำลังแสดงละครในการเล่นเกม​ส์เล่นละครมายาไปตามแผนการ​ของพระเจ้า​นั้นที่เพียงแค่เดินทาง​แวะผ่านมาเที่ยวเล่นๆมาชำเลืองดูชีวิตมายาที่คงเหลือ​ที่แค่มาสังเกตการณ์​เล่นๆ(รู้แล้วปล่อยๆๆๆไม่ยึดติด​กับการรู้ใดๆราวกับว่าไม่ได้มีการรู้การรับรู้​ใดๆเลยนั้น)​มาเล่นเกม​ส์แสดงละคร​มายาตามแผนการ​ของพระเจ้า​นั้นเล่นๆแค่ชั่วคราวแว๊บเดียวแป๊บเดียวเพราะแม้ว่าตัวเราอันเป็นจิตที่เป็นจิตสายกลาง​จิตตัว​รู้​จุดดวงวิญญาณ​จะสามารถโมกษะหลุดพ้น​จากทุกสิ่งทุกอย่าง​พ้นทุกข์​สิ้นเชิง​โดยหนีกลับสู่มิติแก่นแท้​สูงสุด​ของจิตอันเป็น​พระเจ้า​นั้นได้แล้วก็​ตาม​ แต่เรายังเหลือกองขันธ์กองทุกข์​อันเป็นร่างกาย​เนื้อหนัง​ปรุงแต่ง​ที่ยังคงค้างคาด้วยความต่อเนื่อง​มายาเป็นหนี้กรรมของความโง่เขลา​จากอวิชชา​ความไม่รู้​ของ​เราอยู่ในโลกมายานี้อยู่ ที่เราต้องชดใช้บาปกรรมต้องทนใช้ชีวิต​เดินทางไปต่อไปเรื่อยๆตลอดเวลาไม่ได้หยุดพักที่ใด​ไม่ได้ตั้งใจ​มาพักอาศัย​อยู่ที่ใดยาวนาน​ถาวรตลอดกาลแต่อย่างใดเพราะที่พักอาศัย​ที่แท้จริง​สูงสุด​ของเราอันเป็น​เหมือน บ้านต้นกำเนิดที่แท้จริ​งสูงสุด(ultimate​ real​ original home)​ ของเราที่จะเป็น​เหมือน​ ฐานทัพ​ที่แท้จริงสูงสุด(ultimate​ real​ cantonment)​ ของเราที่เราใช้เป็นฐานกำลังที่หลบภัยหลบซ่อนตัวทางจิตในการทำสงครามต่อสู้​กับผู้อื่น​สิ่งต่างๆสิ่งปรุงแต่ง​มายาต่างๆอันเป็นฝ่ายศัตรู​ของพระเจ้า​นั้น​ ก็คือ​ มิติวิเศษ​สูงสุดมิติแก่นแท้​สูงสุด​ของจิตอันเป็น​พระเจ้าที่ปลอดภัยสูงสุด​ รุ่งเรือง​สูงสุด​ มั่นคง​สูงสุด​ตลอดกาล​ที่เราสามารถหลบลี้หนีภัยอันตราย​ต่างๆกลับไปสู่อ้อมกอด​แห่งความรักแท้​สากล​จักรวาล​สูงสุด​ของพระเจ้า​ชีว่าพระเจ้า​พระบิดาได้ทันที​ทุกที่​ทุกเวลา​ที่​ต้องการ​ด้วยจิตหนึ่ง​สมาบัติ​โลกส่วนตัว​อย่าง​สูงสุด​ของเรา​ที่มีมหาสติสูงสุด​นั้นเท่านั้นที่เราจะรู้สึก​ว่าโลกนี้จักรวาลนี้​ไม่ใช่ที่อยู่อาศัย​ถาวรตลอด​กาลของเราอีกต่อไป​, ซึ่ง​เราจะค่อยๆวิวัฒนาการ​พ้นจากความเป็นมนุษย์​โลกชาวโลกวิวัฒนาการ​สู่ความเป็นมนุษย์ต่างดาว​ต่างมิติชาวจักรวาล​ ที่จะเราค่อยๆลดละเลิกที่จะ คิดแบบจิตมนุษย์​โลก(human mind​ thinking)​ อันเป็นการคิดนึกสุดโต่ง​ด้วยสามัญ​สำนึกทั่วไป​ของจิตสำนึกที่สกปรก​ เศร้า​หมอง​ แปรปรวน​ที่เป็น ความคิดขยะ(junk think)​ ที่จะคิดนึกเข้าใจว่ามีสิ่งต่างๆมากมายมหาศาลรก​เต็ม​ไปหมดในโลกใน​จักรวาล​ในกระแสกาลเวลา​อันจะทำให้จิตสกปรก​เกิดความเครียดฟุ้งซ่านขาดสติ​วิตกกังวล​คิดมาก​กับ​สิ่ง​ต่าง​ๆ​ในโลกใน​จักรวาล​จนทำให้สุขภาพ​จิต​แย่ลงทุกวันๆนั้น ที่จะค่อยๆเปลี่ยน​มาเป็นการชำระจิตให้บริสุทธิ์​ล้างสมองคิดใหม่ในมุมมอง​ใหม่คิดนึกด้วยญาณทิพย์​บริสุทธิ์​สายกลางอย่างหมดจด​ถึง​ที่สุดอันเป็น​ความคิดที่สะอาด​ สว่าง​ ​สงบ​จากการเล่นโยคะสายกลาง​ที่จะมองโลกตามความเป็นจริง​อย่างถึงที่สุดโดยมองว่า​สิ่งต่าง​ๆสิ่งปรุงแต่ง​มายาต่างๆโดยแท้จริง​สูงสุด​แล้วล้วนเป็น​เพียงสูญญตาความว่างที่แท้จริง​สูงสุด​ที่ปราศจาก​กาลเวลา​สิ้นเชิงที่ว่างจากทั้งความมีอยู่​ และ​ ความไม่มีอยู่อย่างสิ้นเชิงตลอด​กาล,​ จึงเป็นสิ่งที่ไม่สำคัญอย่างสิ้นเชิง​ ไม่จำเป็น​อย่างสิ้นเชิง ไม่มีพลังอำนาจ​อย่างสิ้นเชิง ไม่มีคุณค่า​ความหมายอย่างสิ้นเชิง​ ไม่น่าสนใจอย่างสิ้นเชิง​ตลอด​กาล. ที่เราจะค่อยๆมีสุขภาพจิต​ดีขึ้น​มีสติปัญญา​ฉลาดรอบรู้​ขึ้นเรื่อยๆทุกวันแทน-ค่อยๆลดละเลิกที่จะ กินอาหารแบบมนุษย์​โลก(human food eating) ​อันเป็นการกินอาหารสุดโต่ง​ที่สกปรก​ เศร้า​หมอง​ แปรปรวน​ที่เป็น อาหารขยะ(junk​ food)​ ที่รกเต็มไปด้วย​ซากศพซากพืช​ซากสัตว์​เผ็ดร้อนทำลายสุขภาพจนทำให้ร่างกาย​สกปรกสุขภาพร่าง​กายแย่ลงทุกวันๆนั้น​ ที่จะค่อยๆเปลี่ยน​มาเป็นการชำระล้างร่างกาย​ให้บริสุทธิ์ล้างพิษ​จาก​ร่างกาย​ภายในด้วยกินอาหารสายกลางสากลที่สะอาด​ สว่าง​ สงบที่เป็นอาหารเหลวอาหารเสริม​เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ​ที่ราคาแพงขึ้นเรื่อยๆมีสุขภาพร่าง​กายดีขึ้นเรื่อยๆเป็นหนุ่มอมตะสดใสแข็งแรง​ขึ้น​เรื่อยๆทุกวันแทน-ค่อยๆลดละเลิกที่จะ​ ใช้ชีวิตแบบมนุษย์​โลก(human​ home​ living)​ อันเป็นการใช้ชีวิตสุดโต่ง​ในบ้านเรือน​ดินแดนเฉพาะส่วนตัว​ของปุถุชนที่แยกกันอยู่เป็นหย่อมๆในดินแดน​ชนบทอันเป็น​ดินแดนโลกภายนอก​ที่สกปรก​ เศร้า​หมอง​ แปรปรวน อันเป็น​ ดินแดน​ขยะ(​junk​ place)​ ที่รกไปด้วยป่าชัฏป่าเขาลำเนาไพรต้นไม้ใหญ่ลึกลับน่ากลัว​เต็ม​ไปด้วยสัตว์​ร้ายที่ดุร้ายน่ากลัว​ มีธรรมชาติโหดร้ายสกปรกเต็มไปด้วยซากพืชเศษใบไม้​กลาดเกลื่อน​ซากศพซากสัตว์​ที่ย่อยสลาย​เป็นแผ่นดินก้อนหิน​ภูเขาที่ทุรกันดาร​แห้งแล้งขาดเทคโนโลยี​ที่อำนวยความสะดวก​สบาย, ที่ปุถุชน​คนทั่วไป​ส่วนใหญ่มนุษย์​ในดินแดน​นี้จะใช้ชีวิต​ที่มุ่งสนใจแต่ความสุขในโลกนี้แบบสัตว์​โลกที่ไม่สนใจความสุขโลกหน้า​ ที่จะใช้ชีวิต​สัมพันธ์​ผูกพันกันอย่างลึกซึ้ง​ในครอบครัว​สุดโต่ง​ด้วยความรักเฉพาะส่วนตั​ว​ อันเป็นรักมายาแค่เปลือกมายาเปลือกนอกที่มีเงื่อนไข​ผลประโยชน์​ด้วยความสัมพันธ์​ทางสายเลือดที่ลำเอียงด้วยอภิสิทธิ์​ส่วนตัวที่ไม่ยุติธรรม​ไม่เท่าเทียมกันในโลกมายา​ที่ไปมัวแต่สนใจหลงรักผู้อื่นสิ่งอื่นภายนอก​มากกว่าตัวเราเองภายในมากกว่า​พระเจ้าที่จะหลงลืมทรยศ​เนรคุณไม่สนใจ​พระเจ้า​ชีว่าพระเจ้า​พระบิดาไม่สนใจที่จะสัมพันธ์​อย่างแท้จริง​กับพระเจ้า​ว่าแท้จริง​แล้ว​เราเป็นเด็กน้อยของพระเจ้า​นั้น, แต่กลับไปสนใจทุ่มเทเอาจริงเอาจัง​กับความสัมพันธ์​ปรุงแต่ง​มายาความรักเฉพาะ​ส่วนตัว​ในครอบครัว​ที่เป็นความเกลียดชัง​ที่สร้างมายาสงครามความขัดแย้ง​แบ่งแยกแตกต่าง​ทางเพศวัยเชื้อชาติ​ภาษาดวงดาวที่เป็นทางของฝ่ายซาตาน​มารสัตว์​นรก​ที่สร้างความเกลียดชังที่ทำลายแบ่งแยก​ความเป็นเด็กน้อยของพระเจ้าทำลายความเป็นเด็กน้อย​ออกจากตัวเราไปเรื่อยๆที่นำไปสู่ความตายในที่สุด(​ซึ่งจะยังอุปทาน​ยึดมั่น​ถือ​มั่น​ผูกพันเป็นบ่วงร้อยรัดให้ดิ้นรนสร้างภพสร้างชาติเวียนว่าย​ตาย​เกิด​ไม่รู้​จบในสังสารวัฏด้วยอวิชชา​ความไม่รู้​ที่ขัดแย้งกับทางสายกลาง​ของฝ่ายพระเจ้า​ ทางสวรรค์​ของเทพพรหมการมีชีวิต​นิรันดร์​เป็นหนุ่มอมตะมีอายุ​ยืนยาว​มหาศาลเหนือโลกด้วยความรักแท้สากลจักรวาล​สูงสุดที่เป็นความรักแท้ของจริงที่มาจากภายในที่สุดของจิตใจของเราเองของตัวเราเองล้วนๆนั้น​อันเป็น​ผลที่มาจากการเล่นโยคะสายกลาง​นั้น)​ อันจะทำให้ชีวิต​สกปรกเต็มไปด้วย​ความสัมพันธ์มายา​ผูกพัน​เป็น​บ่วงร้อยรัดผูกติดให้ขาดอิสระจมในโลกจนทำให้คุณภาพ​ชีวิต​แย่ลงลงทุกวัน​ๆนั้น​ ที่จะค่อยๆเปลี่ยน​มาเป็นการชำระล้างชีวิต​ให้บริสุทธิ์ด้วยความรักสากลจักรวาล​ที่บริสุทธิ์​เหนือความรักเฉพาะส่วนตั​วโดยเริ่มจากการใช้ชีวิตแบบ ครอบครัว​สายกลาง(middle​ family)​ ที่เราจะเป็นเด็กน้อย​ของพระเจ้า​ที่เป็นทั้งพ่อ(ที่พ้นทุกข์สูงสุด​แบบฤาษีโยคีด้วยความโกรธ​เกลียดสูงสุ​ด)​-ทั้งแม่(ที่ได้ปิติสุขแบบเด็กวัยรุ่น​ด้วยความโลภรักสูงสุด)​-ทั้งลูก(ที่สุขสงบสูงสุด​แบบเด็กน้อย​ด้วยความหลงไหลสูงสุด)​ในคนๆเดียว​กัน(ที่ไม่ได้แยกพ่อแม่ลูกออกจาก​กันเป็นคนละคนสามคนแบบครอบครัว​สุดโต่ง​นั้น)​ใน​ ห้องสายกลาง(middle​ room)​ อันจะเป็น​​ บ้านสายกลาง(middle​ home)​ ที่สะอาด​ สว่าง​ ​สงบ​อันเป็นห้องโลกภายในสำหรับการใช้ชีวิต​เฉพาะ​ส่วนตัวแบบครอบครัว​สายกลางของเรา​ที่ไม่สุดโต่งระหว่าง​ห้องที่มีคนอยู่ที่จะเป็น​ห้องที่รกไปด้วยเฟอร์นิเจอร์​สิ่งของมากมาย​ กับ​ ห้องที่ไม่มีคนอยู่ที่จะเป็นห้องโล่งๆว่างๆไม่มีเฟอร์นิเจอร์​สิ่งของอะไรเลย, โดยจะเป็น​ห้องที่มีคนอยู่ที่สะอาด​ สว่าง​ สงบที่จะตกแต่ง​ภายในแบบสไตล์​โมเดิร์น​ที่เรียบง่าย​ทันสมัย​ลดทอนมีแต่เฟอร์นิเจอร์​สิ่งของที่จำเป็น​เท่านั้น(คล้ายๆแบบห้องของยานอวกาศ)​จึงดูโล่งๆว่างๆเหมือนห้องไม่มีคนอยู่.​ ถ้าเราเกิด​เป็น​ชาวบ้านในชนบท​เราก็อาจใช้ชีวิตเก็บ​ตัวอยู่แต่ในห้องนอน​ของบ้านสุดโต่ง​ของเราที่จะใช้​เป็นห้องสายกลางบ้านสายกลาง​ในการเล่นโยคะสายกลาง​ของเราที่สามารถ​หาความสุขจากการนอนได้เต็มที่​ง่วงก็นอนด้วยความโกรธ​เกลียด​สูงสุด​ไปก่อนแล้วพอเราเล่นโยคะสายกลาง​อย่างสำเร็จผลจนพลิกชีวิต​เราเองให้ร่ำรวยมหาศาล​ได้เราจึงค่อยย้ายไปใช้ชีวิตในห้องสายกลาง​ระดับสากลที่สามารถ​หาความสุขจากการกินได้เต็มที่สามารถ​หิวก็กินด้วยความโลภรักสูงสุด​ใน เมืองสายกลาง​สากล(middle​ univeral city)​ หรือ​ ซุปเปอร์​ซิตี้(super​ city)​(อันเป็นเมืองหุ่นยนต์​เมืองของเล่น​ที่ทันสมัย​ล้ำยุคที่เป็นสิ่งก่อสร้าง ​มิกส์​ยูส​คอมเพล็กซ์(mixuse complex)​ ที่เป็นที่รู้จัก​กันในนามของห้างสรรพสินค้าพลาซ่าสากล​ชื่อดัง​ระดับโล​กอันเป็น​ห้องโลกภายในขนาดเล็ก​ๆมากมายรวมกันเป็นห้องโลกภายในขนาดใหญ่​โตมหาศาลที่ทันสมัย​ล้ำยุคสะอาด​ สว่าง​ สงบอันเป็นอารยธรรม​สากลหนึ่ง​เดียว​ที่เหมือนกันหมดทั่วโลกที่ให้บริการ​เป็นสากลสาธารณะ​แก่มหาชนทุกเพศ​ทุก​วัย​ทุกเชื้อชาติ​ทุกภาษา​อย่างยุติธรรม​เท่าเทียมกัน​หมด​ ในรูปของโรงแรมสากลคอนโดมิเนียม​สากล(ห้องนอนสากล)​เชื่อมต่อ​กับห้างสรรพสินค้า​พลาซ่าสากล(ห้องกินสากล)​เชื่อมต่อ​กับระบบบรถไฟฟ้าสาธารณะ(ห้องเที่ยวสากล)​ที่จะเชื่อมต่อกับ​สนามบิน​นานาชาติ​ทั้งหมดทั่วโลก​ จึงเหมือนเป็นเมืองมหานครหนึ่งเดียวของโลกที่เชื่อมโยงเมืองต่างๆประเทศ​ต่างๆทั้งหมด​เข้าด้วยกันด้วยความรักสากลโดยทางสายกลาง​ที่อยู่​เหนือเมืองต่างๆประเทศ​ต่างๆที่แบ่งแยก​กันอย่างชัดเจน​สุดโต่งด้วยความเกลียดชัง​ด้วยภูมิประเทศ​ขนบธรรมเนียมประเพณี​วัฒนธรรม​ที่แตกต่าง​กัยในโลก​นั้น)​ในมหานครดินแ​ดนสากลนานาชาติอันเป็น​ดินแดน​สากลสาธารณะ​ที่เต็มไปด้วย​ห้องโลกภายในมากมายมหาศาล​ที่รู้สึกมีชีวิตชีวา​ทันสมัยล้ำยุคอันเป็นมหาขุมพลังทางวัตถุ​สสารของโลกที่เราสามารถเข้าไปชุบตัว​ชาร์จ​พลังให้กับร่างกาย​เราให้กับชีวิต​เราได้มากขึ้นเรื่อยๆมีคุณภาพชีวิต​ดีขึ้น​เรื่อยๆทุกวันแทน​ ที่จะทำให้เราพร้อมที่จะค่อยๆสามารถ​มี จิตแบบมนุษย์​ต่างดาว​ต่างมิติ(alien​ mind)​ ที่มีพลังจิตสูงมากๆจิตบริสุทธิ์​มีพลังสามารถโทรจิตติดต่อสื่อสาร​กันได้โดยตรงไม่ต้องผ่านทางร่างกาย​ โดยเราสามารถ​ค่อยๆเริ่มจากการใช้จิตของเรา​โทรติดต่อ​สื่อสาร​เชื่อมโยง​สัมพันธ์​กับพระเจ้า​ชีว่าพระเจ้า​พระบิดาโดยตรงล้วนๆโดยทางสายกลาง​จนจิตบริสุทธิ์​กลายเป็น​อาตมันจุด​ดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์​ด้วยการเล่นโยคะสายกลาง​นั้น-พร้อมที่จะมี ร่างกายแบบมนุษย์​ต่างดาว​ต่างมิติ(alien​ body)​ ที่มีพลังร่างกาย​สูงมากๆร่างกายบริสุทธิ์​เป็นกายทิพย์​โปร่งแสง​ตัวเบาไร้น้ำหนักสามารถเหาะเหินเดินอากาศ​ล่องหนหายตัวได้​ โดยเราสามารถ​ค่อยๆเริ่มจากการออกกำลัง​ภายใน​เดินลมปราณ​วิชาตัวเบาจนร่างกา​ยบริสุทธิ์​กลายเป็น​กายทิพย์​บริสุทธิ์​อย่างต่อเนื่อ​งอันเป็น​ผลมาจากการเล่นโยคะสายกลาง​นั้น-พร้อมที่จะมี ชีวิตแบบมนุษย์​ต่างดาว​ต่างมิติ(alien​ life)​ ที่มีคุณภาพชีวิ​ตสูงมากๆที่จะมีชีวิต​บริสุทธิ์​สัมพันธ์​กันอย่างสงบสุขเหนือโลกด้วยความรักสากลจักรวาล​ในห้วงอวกาศ​สากลจักรวาล​ใช้ชีวิต​ใน โลกสายกลาง​สากลจักรวาล(middle​ universe​ world)​ หรือ ซุปเปอร์​เวริลด์(super​ world)​ ที่เป็นโลกหุ่นยนต์โลกของเล่นที่ทันสมัย​ล้ำยุคไฮเทคสูงสุ​ดที่เป็นยานอวกาศจานบิน​ ​ยูเอฟโอ​(U.F.O)​ อันเป็น​ห้องโลกภายในที่มีขนาดมหึมา​ยิ่งใหญ่​อลังการ​ทันสมัยล้ำยุคไฮเทคที่สะอาด​ สว่าง​ สงบเหนือโลกที่สามารถ​หาความสุขจากการเที่ย​วได้เต็มที่​เบื่อ​ก็เที่ย​วด้วยความหลงไหล​สูงสุด(ที่จะเป็นยานแม่ยานศูนย์กลาง​ลำใหญ่ห้องเที่ยวขนาดใหญ่​โตมหึมา​ที่รวมเอาทั้งห้องนอนและห้องกินมากมายมหาศาลไว้ภายในยานที่เชื่อมต่อกับยานอวกาศ​ยานลูกยานลำเล็กๆต่างๆที่จะเชื่อมต่อ​กับมหานครของดวงดาวต่างๆในจักรวาล​มิติต่างๆทั่วทั้งจักรวาลด้วยความรักสากลจักรวาล​นั้น​ จึงเป็นเหมือนโลกหนึ่งเดียวของจักรวาลโดยทางสายกลาง​ที่อยู่เหนือดวงดาวต่างๆมิติต่างๆที่แบ่งแยก​กันอย่างชัดเจน​สุดโต่งด้วยความเกลียดชังในจักรวาล​นั้น)​ต่อไปในอนาคตข้างหน้า​ที่มนุษย์​จะติดต่อสัมพันธ์​กับมนุษย์​ต่างดาว​ต่างมิติอย่างเป็นทางการ​ได้ในยุคอนาคต​ โดยเราสามารถ​ค่อยๆเริ่มจากการใช้ชีวิต​สากลในสวรรค์​บนดินเมืองสายกลางสากลในมหานครด้วยพลังแห่งความรักแท้สากลจักรวาล​สูงสุ​ดของพระเจ้า​จนชีวิตบริสุทธิ์​เป็นหนุ่มอมตะมีอายุยืนยาว​มหาศาลเหนือโลกอันเป็น​ผลมาจากการเล่นโยคะสายกลาง​นั้น, "ในเมื่อ​ตัวเราที่แท้จริง​สูงสุด​เป็นพระเจ้าอันเป็น​ดวงวิญญาณ​สูงสุด​ซุปเปอร์​จิตสิ่งสูงสุด​, ดังนั้น​ เมื่อเราต้องปรากฏ​ตัวในโลกนี้จักรวาล​นี้​เราจึงไม่ใช่มนุษย์​คนธรรมดา​ทั่วไป​ที่คิด-นอน-กิน-ใช้ชีวิต​แบบมนุษย์​คนธรรมดา​ทั่วไป​ได้​ เราจึงต้องคิด-นอน-กิน-ใช้ชีวิต​แบบมนุษย์​ชั้นสูง​ซุปเปอร์​มนุษย์ยอดมนุษย์เหนือ​มนุษย์​เท่านั้น​, โดยมนุษย์​ที่มีจิตสกปรก-ย่อมเสพกินอาหาร​สกปรกจนร่างกายสกปรก-ย่อมมีชีวิต​ที่สกปรก​เกิด​ แก่​ เจ็บ​ ​ตาย​ในโลกเช่นเดียวกับ​สัตว์​โลกที่สกปรก​ เศร้า​หมอง​ แปรปรวน,​ ส่วนมนุษย์​ที่มีจิตบริสุทธิ์​-ย่อมเสพกินอาหาร​บริสุทธิ์​จนร่างกาย​บริสุทธิ์​-ย่อมมีชีวิตบริสุทธิ์​เป็นหนุ่มอมตะมีอายุยืนยาว​มหาศาลเหนือโลกเช่นเดียวกับ​มนุษย์​ต่างดาว​ต่างมิติที่สะอาด​ สว่าง​ สงบนั้น, ซึ่ง​ผู้ที่เล่นโยคะสายกลาง​ที่เพ่งกสิณจิตสายกลาง​จิตตัว​รู้​จุดดวงวิญญาณ​อย่างสูงสุด​จนชำนาญอย่างดีแล้วจนจิตเป็นกลางจิตสมดุลจิตตั้งมั่น​อย่างดีแล้วย่อมรู้เองว่าควรคิดอะไรยังไง​-ไม่ควรคิดอะไรยังไง​ อะไรควรกิน-อะไรไม่ควรกิน​ ควรจะใช้ชีวิต​แบบไหนกับใครในดินแดน​ไหน-ไม่ควรใช้ชีวิตแบบไหนกับใครในดินแดน​ไหนได้เองโดยไม่จำเป็น​ต้องมีใครบอกใครสอน, ซึ่งเราจะค่อยๆเรียนรู้​ด้วยตัวเองที่จะค่อยๆเป็นศีลธรรม​ที่รู้ว่าอะไรควรทำต้องทำ-อะไรไม่ควรทำอย่าทำห้ามทำ​ อันเป็นการสร้าง​ระเบียบ​วินัย​ให้ตัวเราเองนั้นเองอัตโนมัติ, แต่มนุษย์​โลกทั่วไป​ส่วนใหญ่จิตไม่เป็นกลางจิตเสียสมดุล​จิตไม่ตั้งมั่น​จึงจิตอ่อนใจอ่อน​มองโลกนี้ในแง่ดี​เกินไปจนติดสุขมายาในโลกจนประมาทขาดสติขาดระเบียบ​วินัยทำให้เป็นคนไร้ศีลธรรมจิตใจตกต่ำชีวิตตกต่ำจมติดอยู่ในโลกต้องเกิด​ แก่​ เจ็บ​ ตาย​ในโลกเช่นเดียวกับสัตว์​โลก.​.."ซึ่ง​จะเป็นการค่อยๆฝึกจิตโดยเล่นโยคะสายกลาง​นอนสายกลางค่อยๆปรับเปลี่ยน​พฤติกรรม​การนอนใหม่-ค่อยๆฝึก​ร่างกาย​โดยกินอาหารสายกลางค่อยๆปรับเปลี่ยนพฤติกรรม​การกินใหม่-ค่อยๆปรับปรุงชีวิต​ยกระดับ​ชีวิตโดย​วิถีการใช้ชีวิต​แบบสายกลางค่อยๆปรับ​เปลี่ยน​พฤติกรรม​การใช้ชีวิต​​ใหม่, ที่จะค่อยๆชำระล้างกำจัดลดทอนความเป็นมนุษย์โลกของเราความเป็นคนบาปของพระเจ้าที่สกปรก​ด้วยบาปความเป็นมารความเป็นชาวบ้านในชนบทดินแดน​เฉพาะ​ของเราที่สกปรก​ยากจนต่ำต้อยจมอยู่กับ​อดีตวนเวียน​ว่ายตายเกิดผูกพันสร้าง​ภพชาติไม่รู้​จบด้วยความรักเฉพาะ​ส่วนตัวความเป็นเฉพาะส่วนตัว​การมีขอบเขต​ขีดจำกัดของเราให้ลดลง​เรื่อยๆทุกวันแล้วค่อยๆเสริมสร้าง​เพิ่มพูน​ความเป็นมนุษย์​ต่างดาว​ต่างมิติ​ของเราความเป็นผู้มีบุญของพระเจ้า​ที่สว่างด้วยบุญญาบาร​มีความเป็นเทพความเป็นชาวเมืองในมหานครดินแดนสากลของเราที่ร่ำรวยไฮโซ​แอคทีฟกับปัจจุบัน​มุ่งสู่อนาคตมุ่งสู่​ความเป็นหนุ่มอมตะมีอายุยืนยาว​มหาศาล​เหนือ​โลกด้วยความรักสากลจักรวาล​สูงสุด​จนถึงขีดสุด​จนเป็นอมตะนิรันดร์​-ความเป็นสากลโกอินเตอร์​โกสากลจักรวาลความเป็นอิสระไร้ขอบเขต​ขีดจำกัดของเรา​ให้เพิ่มมากขึ้น​เรื่อยๆทุกวัน(ในช่วงแรกๆจะเป็นทดลอง​พลิกสลับไปมาระหว่าง​การใช้ชีวิต​แบบทางโลกแบบชัดเจน​สุดโต่งที่บูชากามง่วงก็นอน-หิวก็กิน-เบื่อ​ก็​เที่ย​วอย่างเต็มที่เป็นปุถุชน​แบบสูงสุด​มัวเมาในกิเลส​ตัณหา​สูงสุด​มุ่งแต่ความสุข​สูงสุด​ในโลกนี้ล้วนๆ​ พอเบื่อทางโลกก็พลิกเปลี่ยน​มาใช้ชีวิต​ทางธรรม​แบบชัดเจน​สุดโต่งที่ทรมานกามงดนอน-งดอาหาร-งดเที่ยวอย่างเต็มที่เป็นฤาษี​โยคีแบบสูงสุดดับกิเลส​ตัณหาสูงสุด​มุ่งแต่ความสุขสูงสุด​ในโลกหน้าล้วนๆแทน​ พอเบื่อทางธรรม​ก็พลิกเปลี่ยน​ไปทางโลกอีกแบบนี้​ไปเรื่อยๆพลิกเปลี่ยน​สลับไปมา​โดยไม่พัวพัน​กับทางใดทาง​หนึ่ง​เป็นพิเศ​ษ​ ที่จะค่อยๆปรับสู่สายกลางสมดุล​เองอัตโนมัติ​จนเราสามารถ​เดินบนทางสายกลาง​ระหว่างทางโลก​ และ​ ทางธรรมที่สามารถสุขสูงสุดในโลกนี้และในโลกหน้า​ได้พร้อมกันสูงสุด​​ได้สำเร็จในที่สุด)​จนสามารถทำให้เราสามารถ​ชำระล้างชีวิตให้บริสุทธิ์​สูงสุด​ใน โลกสีน้ำเงินดวงดาวแห่งสายน้ำ(blue​ planet​ : star​ of​ water)​ ด้วยพลังแห่งสายน้ำอันมหาศาลของมหาสมุทร​ต่างๆในโลกนั้นจะเหมือนเป็นฟ้าดินที่จะเป็นพยานแห่งบุญกุศล​ความดีของเราจากการเล่นโยคะสายกลางที่ทำให้เราสามารถมีพลังร่างกาย​สูงสุด​-มีพลังจิตสูงสุด​-มีพลังชีวิตสูงสุด​สามารถเป็นมนุษย์ไฮโซ​ที่แท้จริง​สูงสุด​ได้ถึงขีดสุดในโลกสีน้ำเงินอย่างมั่นใจสูงสุด​ว่าไม่มีทางกลับไปยากจนไปเกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิต​ในบ้านเรือนชาวบ้านในชนบทในโลกอีกต่อไปสิ้นเชิง​นั้นที่จะมาช่วยชำระล้างบาปทำให้เราพ้นจากความเป็นมนุษ​ย์โลกอันเป็นคนบาปของพระเจ้า​ที่จะรอดพ้นจากมลทิน​ บาปกำเนิด(origin​ sin)​ การเกิด แก่​ เจ็บ​ ​ตายในโลกสีน้ำเงินอันเป็น​เหมือนนรกมายาบนดินนั้นไปตลอดกาล​กลายเป็น​มนุษย์​ต่างดาว​ต่างมิติจริงๆที่เป็นหนุ่มอมตะมีอายุยืนยาว​มหาศาลเหนือโลกด้วยความรักสากลจักรวาล​ในสากลจักรวาล​อันเป็น​เหมือน​สวรรค์​มายาเหนือโลกได้จริงๆในที่สุด(หมายความ​ว่า​ในอนาคต​น้ำจะท่วมโลกหมดสิ้นจนมนุษย์​ไม่อาจอาศัยอยู่ต่อไปได้​ มนุษย์​ที่จะรอดนั้นจะเป็นคนมีบุญญาบารมีที่สามารถ​วิวัฒนาการ​เป็นมนุษย์​ต่างดาวต่างมิติ​ได้เท่านั้น​​ ซึ่ง​จะเป็น​เหมือน ​วันพิพากษา​(judgment day)​ ที่มนุษย์​จะถูกตัดสินลงโทษ​โ​ดยพระเจ้า​อย่างยุติธรรม​ที่ในวันนั้น​ใครที่เป็นคนดีของพระเจ้า​ทำดีเชื่อฟังอยู่ฝ่ายของพระเจ้า​จนกลายเป็นผู้วิเศษ​ซุปเปอร์มนุษย์​เทพบุตร​ที่เป็น​หนุ่มอมตะมีอายุ​ยืนยาว​มหาศาลเหนือโลกย่อมได้ขึ้นสวรรค์​รอดพ้นจากไฟนรกไฟบรรลัย​กัลป์​ และ​ ใครเป็นคนชั่วของพระเจ้า​ทำชั่วไม่เชื่อ​ฟังพระเจ้าหลงผิดอยู่ฝ่ายซาตานจน​กลายเป็น​มารสัตว์นรกที่ต้องเกิด​ แก่​เจ็บ​ ​ตาย​ในโลกด้วยบาปกำเนิดย่อมได้รับผลกรรมตกนรกทุกข์​ทรมานด้วยไฟนรกไฟบรรลัยกัลป์ไม่ได้ผุดได้เกิด​ชั่วกัปชั่วกัลป์​)​, ที่จะเป็นการใช้ชีวิตเดินทางชีวิต​บนทางสายกลางอันเป็น​ผลมาจากการเล่นโยคะสายกลาง​นั้นจะทำให้​เราจะค่อยๆ​ลดละเลิกที่จะอยู่ฝ่ายซาตานที่ทรยศ​เป็นศัตรู​กับพระเจ้า​นั้นแล้วค่อยๆเปลี่ยนมา​เป็น​การ กลับตัวกลับใจแปรพักตร์อพยพ​ย้ายหนีไปอยู่ฝ่ายของพระเจ้า(repent​ my​ self​ renege​ to​ the​ God​ side)​ อันเป็นฝ่ายธรรมะ-ฝ่ายความดี-ฝ่ายสว่าง-ฝ่ายสวรรค์​-ฝ่ายความรักสากลจักรวาล-ฝ่ายความรู้​แจ้งฉลาดรอบรู้​ที่ตรงกันข้าม​กับฝ่ายซาตาน-ฝ่ายอธรรม​ฝ่าย-ความชั่ว-ฝ่ายมืด-ฝ่ายนรก-ฝ่ายความรักเฉพาะส่วนตัวอันเป็น​ความเกลียดชัง​-ฝ่ายอวิชชาความไม่รู้​ความโง่เขล​านั้นมากขึ้น​ทุกวันๆด้วยการเล่นโยคะสายกลางรักพระเจ้า​อย่างสุดจิตสุดใจสุดแรงสุดพลังแล้วเกลียดซาตาน​อย่างสุดจิตสุดใจสุดแรงสุดพลังอย่างต่อเนื่อง​เป็นประจำทุกวันนั้น, โดยชาวโลกชาวจักรวาล​สามารถ​พิสูจน์​ผลลัพธ์​ของการทุ่มเท​ทุ่มกำลังทั้งหมด​พยายามอดทนปฏิบัติ​เล่นโยคะสายกลางอย่างเต็มรูปแบบ​ในรูปของ​ ​"การอุ่นเครื่อง​วอร์ม​อัพร่างกายให้พร้อมก่อนโดยปรับสมดุลลมหายใจนวดผ่อนคลายลมหายใจอย่างสูง​สุด​โดยทางสายกลาง​โดยเริ่มจากกัดฟัน​สู้พยายาม​สูดลมไว้​หายใจแบบโยคีอย่างหนักหน่วง​รุนแรง​เต็มที่​ในช่วงแรกๆก่อนจากนั้น​จึง​ค่อยหายใจแบบสายกลางหายใจแบบหุ่นยนต์​พร้อมท่องคำโยคะมานตราบริกรรมภาวนา​ไปด้วยอย่างต่อเนื่อง​ยาวนานช้าๆค่อยเป็นค่อยไป​จนร่างกาย​ผ่อนคลาย​สูงสุด​พร้อมการเพ่งร่างกาย​สูงสุด​โดยเพ่งกสิณจุดตาสายกลางอย่างสูง​สุดโดยตั้งสติ​รวมพลังจิตทั้งหมด​สนใจเพ่งกสิณโฟกัสเพ่งที่จุดตาสายกลาง​จุดตาที่สามบริเวณภายใน​จุดกึ่งกลาง​หน้า​ผากระหว่าง​คิ้วล้วนๆเพียง​จุดเดียว​เท่านั้น​อย่างสุดจิตสุดใจสุดแรงสุดพลังเพื่อ​ดับร่างกาย​ชัตดาวน์​ปิดสวิตช์​ร่างกาย ​ปิดประตู​นรก(close hell door)​ ถอดกายทิพย์​หนีพ้นจากนรกจนร่างกาย​เป็นกายทิพย์​บริสุทธิ์ของพระเจ้า​ที่หนีจากนรกมาตั้งหลักตั้งสติอย่างรวดเร็ว​ฉับพลัน​ทันที​ให้ได้​เป็นบทยืนพื้นฐานเบื้องต้นก่อน​ แล้วจึงเพ่งกสิณจิตสายกลางอย่างสูง​สุดโดยให้ตัวเราอันเป็นจิตสายกลาง​จิตตัวรู้​​​จุดดวงวิญญาณ​นั้นเพ่งกสิณมุ่งเป้าโฟกัสสนใจเพ่งรู้แต่ตัวจิตตัว​รู้​เองล้วนๆเพียงจิตตัว​รู้​เดียว​เท่านั้น​เพื่อดับจิตชัตดาวน์​ปิดสวิตช์​จิต​ เปิดประตู​สวรรค์(open heaven​ door) ถอดจิต​ทิพย์​หนีเข้าสู่​สวรรค์​จนจิตเป็นอาตมันจุด​ดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์​ของพระเจ้า​เป็นบทแย้งท่ามกลาง​พักจิตไว้ที่สวรรค์​ก่อน จนเมื่อรู้สึก​ว่ากายพร้อมจิตพร้อมอย่างเต็มที่​สูงสุด​แล้วจึงสามารถ​ถอดชีวิตทิพย์​เข้าสู่ชีวิต​นิรันดร์​ชัตดาวน์​ปิดสวิตช์​ชีวิ​ต​ เปิดประตู​สวรรค์อย่างสูง​สุด​(maximum open heaven​ door) เองอัตโนมัติ​เข้าสู่สุขาวดี​สวรรค์​อัน​แท้จริง​ชั้น​สูงสุด​ที่สุขสงบสูงสุด​ด้วยพระเจ้าชีว่าพระเจ้า​พระบิดาในโลกหน้า​อันเป็นธรรมชาติ​ทิพย์​บริสุทธิ์​สูงสุด​ของพระเจ้านั้น จนสามารถถอดใจทิพย์​สู่นิรวาณชัตดาวน์​ปิดสวิตช์​ใจความ​รู้สึก​ ปิดประตู​นรกอย่างสูง​สุด​(maximum​ close hell door)​ ​เองอัตโนมัติ​จนรู้สึก​นิพพาน​ดับทุกข์​สิ้นเชิงรู้สึก​วางเฉยอย่างแท้จริง​สูงสุด​ไม่แคร์​สิ่งต่างๆสิ่งปรุงแต่ง​มายาต่างๆในโลกนี้อีกต่อไปอย่างสิ้นเชิง​ด้วยญาณทิพย์​บริสุทธิ์​อันหมดจดถึง​ที่สุดจากหัวใจทิพย์​บริสุทธิ์​สูงสุ​ดของพระเจ้า​นั้นเป็นบทสังเคราะห์​เบื้องปลาย... ​"  หรืออาจสรุปในเชิงการปรับสมดุลได้เป็น "ให้พยายามนวด​ผ่อนคลาย​ร่างกาย​อย่างสูง​สุด(พร้อมนวดผ่อนคลาย​จิตใจอย่างสูง​สุด​ไปด้วย)​โดยทางสายกลางให้ร่างกาย​มีพลัง​สูงสุด​เพื่อ​ทรงร่างกาย​ของเรา​ให้เป็น​กลาง​สมดุลอยู่ในภวังค์​กึ่งตื่นกึ่งหลับ(ที่ไม่ได้ตื่น​ และก็​ ไม่ได้​หลับ)​อย่างต่อเนื่อง​ยาวนาน​ และ​ เพ่งกสิณจิตอย่างสูง​สุด​โดยทางสายกลางให้จิตมีพลัง​สูงสุด​เพื่อทรงจิตของเรา​ให้เป็นกลาง​สมดุลในภวังค์​กึ่งรู้กึ่งไม่รู้​(ที่ไม่ได้รู้​ และก็​ ไม่ได้​ไม่รู้​)​อย่างรวดเร็ว​ฉับพลัน​ทันที​อยู่เสมอ แล้วเราจะสามารถ​มีชีวิ​ตที่เป็นกลาง​สมดุล​​กึ่งมีอยู่กึ่งไม่มีอยู่(ที่ไม่ได้มีอยู่​ และก็​ ​ไม่ได้​ไม่มีอยู่)​​ และ​ มีใจที่เป็นกลาง​สมดุล​กึ่งสุขกึ่งทุกข์(ที่ไม่ได้สุข​ และ​ก็​ ไม่ได้​ทุกข์​)​ที่มีพลัง​สูงสุด​ตามไปด้วย​ได้เองอัตโนมัติ...". ​ ซึ่งจะเป็นการปฏิบัติ​มายาเปลือกมายาเปลือกนอกที่จะเป็นการพลิกจากการเพ่งกสิณจิตอย่างสูงสุดโดยทางสายกลาง​ที่เป็นการปฏิบัติจริงๆโดยแก่นแท้​พื้นฐาน​นั้น​มาเป็นการนวดผ่อนคลาย​ร่างกาย​อย่างสูง​สุดให้ร่างกาย​มีพลังสูงสุดโดยการ​หายใจ​แบบสายกลาง​ให้ร่างกาย​เคลื่อนที่​สูงสุด​อย่างมีความเร็ว​คงที่ที่จะเหมือนการร่ายรำเต้นรำอย่างสูงสุด​เพื่อสรรเสริญ​บูชา​ถวายแก่พระเจ้า​นั้นเพื่อ​ทรงร่างกาย​ของเรา​ให้สมดุลสายกลาง​อยู่ในภวังค์​กึ่งตื่นกึ่งหลับ(ที่ไม่ได้ตื่น​ และก็​ ​ไม่ได้​หลับ)​อย่างต่อเนื่อง​ยาวนานแทน​ ในลักษณะ​ของการ "ปรับสมดุลร่างกาย​อย่างช้าๆค่อยเป็นค่อยไป​อย่างต่อเนื่อง​ ให้ร่างกาย​ถอดกายทิพย์​ล่องหน​หายตัว​หนีกลับลู่เข้าใกล้​มิติแก่นแท้​สูงสุด​ของร่างกาย​(อันเป็น​สูญญตาความว่างที่แท้จริง​สูงสุด​ที่ปราศจาก​กาลเวลา​สิ้นเชิงที่ว่างจากทั้งความมีอยู่​ และ​ ความไม่มีอยู่อย่างสิ้นเชิงตลอด​กาลที่ปราศจาก​มิติใดๆสิ้นเชิง​แม้​ ​ 0 มิติก็ไม่มีนั้น)​ล้วนๆเพียง​มิติเดียวเท่านั้น​อย่างสูงสุดอย่างต่อเนื่อง​เพื่อให้ร่างกาย​ค่อยๆรู้สึก​ปลอดภัย​สูงสุดสอดคล้อง​ตามจิตไปด้วย​ โดยการรวมพลังทั้งหมดมุ่งสนใจแต่ตัวอากาศ​ลมปราณ​ลมหายใจเข้า-ออกล้วนๆเพียง​อย่าง​เดียว​เท่านั้น​ ที่จะค่อยๆนวดผ่อนคลายปรับสมดุลลมหายใจเข้า-ออกให้ผ่อนคลาย​สมดุลสูงสุดโดยทางสายกลาง​ทั้งสมดุลแบบหยุดนิ่ง​ และ​ สมดุลแบบเคลื่อนที่ที่จะหายใจแบบสายกลางหายใจ​แบบหุ่นยนต์​พร้อมกับ​ท่องคำโยคะมานตราในใจนวดผ่อนคลาย​จิตใจไปด้วย)จนเกิดเป็นภวังค์ที่จะรู้สึก​ว่าร่างกาย​กลายเป็น​กายทิพย์​บริสุทธิ์​เป็นความว่าง​สูญญากาศ​อากาศ​บริสุทธิ์​มากขึ้นเรื่อยๆ,​ โดยจะเป็นเพียงการนวดผ่อนคลาย​บรรเทาทุกข์​ทางร่างกายอย่างสูงสุด​เท่านั้น​ ที่จะวอร์ม​อัพ​อุ่นเครื่อง​ร่างกาย​ให้เตรียม​พร้อมอย่างสูงสุด​เพื่อให้เราสามารถเล่นโยคะสายกลาง​ปรับสมดุลจิตแบบรวดเร็ว​ฉับพลัน​ทันทีจนสามารถ​มีพลังจิตสูงสุด​พลังสติสูงสุด​อย่างต่อเนื่อง​มั่นคงได้ทั้งวัน​ทั้งคืนจน​เป็น​จิต​หนึ่ง​สมาบัติ​ได้สำเร็จโดยไม่มีความทุกข์​เจ็บ​ปวดทรมานของร่างกาย​มาเป็นอุปสรรค​เท่านั้น​ ไม่ได้ถือเป็นส่วนหนึ่ง​ในการเล่นโยคะสายกลาง​จริงๆเชิงทฤษฎี​แต่อย่างใด​...."​, โดยการกัดฟัน​สู้พยายาม​สูดลมไว้​ทุ่มเทพลังทั้งหมด​หายใจแบบโยคีแบบหนักหน่วง​รุนแรง​เต็ม​ที่อย่างสูงสุดในช่วง​แรกๆก่อน​(หายใจอย่างมีพลัง​สูงสุ​ดสูดเอาลมหายใจลมปราณ​อากาศเข้าให้เต็มปอดเต็ม​ท้องเต็มตัวทุกจุดทุกอณูของร่างกาย​ให้มากที่สุดให้ยาวนานที่สุด​เท่าที่​จะ​ทำได้​ ที่จะมองว่า​ลมหายใจ​ลมปราณ​อากาศ​เป็น ร่างกาย​สากล(universal​ body)​ ของเราที่ปราศจาก​ร่างกาย​เฉพาะ​ส่วนตัว​ที่จะเป็น​ วัตถุธาตุแห่งความสุข(happiness​ element)​ ที่ว่างเปล่ากว้างใหญ่​ไพศาล​แผ่ขยาย​ครอบคลุม​ไปทั่วโลกทั่วจักรวาล​ปราศจาก​ความทุกข์​เจ็บ​ปวดทรมานปราศจาก​รูปร่าง​ลักษณะ​เฉพาะตัวขอบเขต​ขีดจำกัด อันเป็น​ สวรรค์​ทางร่างกาย​(heaven​ of​ body)​ ที่พ้นทุกข์​จากนรกที่เป็นวัตถุ​ธาตุมูลฐาน​สำคัญ จำเป็น​ ล้ำค่า​ มีประโยชน์​ต่อร่างกาย​เนื้อหนัง​ปรุงแต่ง​มายาของเราอย่าง​มหาศาลเกินประมาณ​ค่าได้(ที่จะเป็น​อาหารที่ดีที่สุ​ดสำหรับร่างกาย​ภายในที่แพงที่สุด​จนเงินซื้อ​ไม่ได้​)​ จึงรู้สึก​เหมือนได้เจอขุมทรัพย์ทางวัตถุสสารที่ลอยในอากาศ​รออยู่​ตลอด​เวลา​แบบเหมือน​ได้เพชรพลอย​ทุกอย่าง​ฟรีๆมหาศาลทุกที่ทุกเวลา​ที่​ต้องการ​รู้สึก​เหมือน​ได้เกิดบนกองเงิน​กอง​ทอง​ที่ทำให้สุขสบาย​ไป​ทั้งชาติอย่าง​ยุติธรรม​เท่าเทียมกัน​หมดทุกคน คนฉลาดเลือก​จึงต้องรีบกอบโกยตักตวง​ความสุข​ให้เต็มที่​สุดๆด้วยความโลภ​สุดๆ)​เพื่อปรับสมดุลลมหายใจให้สมดุล​เชิงการหยุดนิ่งโดยทางสายกลาง​ก่อนจากนั้นลมหายใจจะสมดุลสูงสุด​เป็นสายกลาง​เองอัตโนมัติ​ร่างกาย​จะผ่อนคลาย​สูงสุดสามารถหายใจสมดุลเชิงการเคลื่อนที่โดยทางสายกลางหายใจแบบสายกลางหายใจแบบหุ่นยนต์​ให้ร่างกาย​เคลื่อนที่​สูงสุด​อย่างมีความเร็ว​คงที่นั้นได้เองอัตโนมัติ​ ที่เมื่อเราชำเลืองดูร่างกายของเรา​ที่จุดตาสายกลางจุดตาที่สามก็จะพบว่าจะเกิดการเพ่งกสิณตาสายกลางอย่างสูงสุด​ปิดสวิตช์​ร่างกายเองอัตโนมัติ​ให้เป็นจุดสุดยอด​จุดไคลแมกซ์​ที่ร่างกาย​ปิติสุขเสียวสดชื่นตื่นตัวเป็นกายทิพย์​บริสุทธิ์ที่สุขสูงสุด​ในโลกนี้นั้นเองอัตโนมัติ​ ​จึงรู้สึก​สุขกายสูงสุด​-เมื่อเราชำเลืองดูจิตของเรา​ที่จิตสายกลาง​จิตตัว​รู้​จุดดวงวิญญาณ​ก็จะพบว่าเกิดการเพ่งกสิณจิตสายกลาง​อย่างสูงสุดปิดสวิตช์​จิตเองอัตโนมัติ​ให้เป็นจุดสุดยอด​จุดไคลแมกซ์​ของจริงที่เป็นจุดดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์​ที่​สว่างสุกใสเองอัตโนมัติ​ จึงรู้สึกสบายจิตสูงสุ​ด-เมื่อเราชำเลืองดูที่ชีวิตสิ่งแวดล้อม​รอบตัวเราที่จุดศูนย์กลาง​ศูนย์​รวมพลังงาน​ทั้งหมดของจุดดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์​นั้นก็จะพบว่าเป็นจุดสุดยอด​จุดไคลแมกซ์​อย่างสูง​สุดอย่างฉับพลัน​ทันที​เองอัตโนมัติ​ที่จะเป็นพระเจ้าที่สุขสุดขีดในโลกหน้าจนลืมโลกลืมจักรวาล​ลืมอวกาศ-เวลาหมดสิ้นถึงที่สุด​เองอัตโนมัติ​ จึงรู้สึก​ชีวิต​หมดปัญหา​สูงสุด​ -เมื่อเราชำเลืองดูที่ใจความรู้สึก​ของเราก็จะพบว่านิพพาน​วางเฉยอย่างแท้จริง​กับสิ่งต่างๆสิ่งปรุงแต่ง​มายาต่างๆในโลกนี้ได้เองอัตโนมัติ​เพราะเราสุขจนสุดขีดแล้วไม่สนใจรู้สึกทุกข์​กับใครอะไรสิ่งใด​อีกต่อไปชีวิตในโลกนี้มันจะเป็นยังไงก็ช่างหัวมัน​ จึงรู้สึก​บอกลาไม่สนใจความรู้สึก​มายาเฉพาะ​ส่วนตัว​กับสิ่ง​ต่าง​ๆที่เชื่อไม่ได้อีกต่อไปได้อย่างสูงสุด, ซึ่​งจะทำให้เราพลิกจากเป็นฤาษี​โยคีที่มีพลังจิต​สูงสุ​ดที่มุ่งเพ่งจิตสูงสุด​สนใจแต่จิตล้วนๆมุ่งสนใจแต่สุขในโลกหน้านั้นพลิกกลายเป็น​ ​เด็กวัยรุ่นนักออกกำลังกายเล่นโยคะ(fitness yoga​ boy)​ เป็นโยคีหนุ่มวัยรุ่น​ที่ดูดีทันสมัย​แบบหนุ่มฟิตเนสที่สนใจดูแลร่างกาย​ให้แข็งแรง​มีพลังโดยมุ่งสนใจแต่ร่างกาย​ล้วนๆนั้น​ ที่จะมีพลังร่างกาย​สูงสุด​จากภายในที่มุ่งนวดผ่อนคลาย​ร่างกาย​อย่างสูง​สุดให้ร่างกาย​เคลื่อนที่​สูงสุด​อย่างมีความเร็ว​คงที่ให้ปิติสุขเสียวซาบซ่านสดชื่น​ตื่นตัวเหนือโลกจนถึงจุดสุดยอด​จุดไคลแมกซ์​ที่จะมุ่งสนใจทั้งสุขสูงสุด​ในโลกนี้​ และ​ โลกหน้าพร้อมกันได้เพราะโดยพื้นฐานแล้วยัง​เป็นฤาษี​โยคีที่มีพลังจิตสูงสุด​อยู่​ จึงเป็นในลักษณะ​ของ​ โยคีเพลย์​บอย(playboy yogi)​ ที่ดูเหมือนเป็นเด็กวัยรุ่​นที่มีทั้งพลังร่างกาย​สูงสุด​ และ​ พลังจิต​สูงสุด​พร้อมกันได้โดยไม่ขัดแย้ง​กันในการเล่นโยคะสายกลาง​, ซึ่งจะไม่ใช่เด็กวัยรุ่น​จริงๆในวัยทีนจริงๆในช่วงอายุ​ 15-18  ปีจริงๆ​ที่มีแต่พลังร่างกาย​สูงสุด​อย่างเดียวที่ต้องแก่ชราไปตามเวลาอายุวัยนั้น​ แต่จะเป็น​ วัยรุ่น​ที่แท้จริง​สูงสุด​(ultimate​ real​ teenage)​ ที่จะเป็นหนุ่มอมตะไม่มีวันแก่​ชราไปตามเวลาอายุวัย, จึงทำให้โยคีเพลย์​บอยจึงเป็นใครก็ได้อายุเท่าไหร่​ก็ได้แม้โดยอายุวัยในโลกจะอยู่วัยกลางคน​วัยชราแล้วก็สามารถ​เป็นได้(ไม่มีใครสาย​เกินไป​แก่เกินไป​ที่จะเป็น​โยคีเพลย์​บอย)​ ที่จะทำให้เราสามารถเป็นวัยรุ่น​ได้ตลอดกาล​ที่รูู้สึ​กเหมือนได้ย้อนวัยกลับเป็น​ตัวเราที่เป็นวัยรุ่น​วัยทีนอายุ​ 15-18 ปีจริงๆได้อีกครั้งตลอดไปด้วยพลังวิเศษ​ของพระเจ้าอันเป็นความรักแท้สากล​จักรวาล​สูงสุด​ที่เป็นอมตะนิรันดร์​อยู่เหนือกาลเวลา​นั้น. โดยเมื่อเราได้เล่นโยคะสายกลางในเชิงปฏิบัติจริง​ 3​ ช่วง 4 ขั้นตอน(ที่ดูเหมือนว่า​เพียงทุ่มเทอย่างต่อเนื่องยาวนานที่การปรับสมดุลลมหายใจที่ต้องทุ่มเทพลังทั้งหมดหายใจแบบโยคีอย่างหนักหน่วง​รุนแรง​เต็ม​ที่อย่างสูงสุด​ในช่วงแรกนั้นเพียงอย่าง​เดียว​ให้ได้เท่านั้น​แล้วขั้นต่างๆทั้ง​ 3 ช่วง​ 4 ขั้นตอนจะเกิดขึ้น​ตามมาอย่างง่ายๆรวดเร็ว​ฉับพลัน​ทันทีไม่รู้สึกว่ายุ่งยากลำบากเสียเวลานานในการปฏิบัติ​เลยเองอัตโนมัติ​ตลอดสายการปฏิบัติ​ ซึ่ง​จะดูเหมือนเป็นการมุ่งดูแลสุขภาพร่างกายภายในโดยตรงที่จะสนใจแต่ตัวอากาศลมหายใจ​ลมปราณ​อันเป็นวัตถุสสารล้วนๆเท่านั้นเป็นหลัก​ที่จะตรงกันข้ามกับการเล่นโยคะสายกลาง​ในเชิงทฤษฎี​ที่สนใจแต่จิตล้วนๆเท่านั้น​อย่างสิ้นเชิง​จนทำให้ภายนอกของผู้เล่นโยคะสายกลาง​พลิกดูเหมือน​กลายเป็นเด็กวัยรุ่น​ที่เป็นสสารนิยมแบบสุดขั้วที่มุ่งสนใจแต่ความสุขสุดๆในโลกนี้ล้วนๆอย่าง​เดียว​ด้วยความรักโลภสูงสุด​แทนนั้น)​มาอย่างต่อเนื่อง​ยาวนาน​เป็น​ประจำทุกวันๆ​ ที่ลมปราณ​อากาศ​จะค่อยๆแทรกซึม​ไปทุกจุดทุกอณู​ของร่างกาย​อย่างโปร่งแล้วโปร่งอีกไปเรื่อยๆจนสามารถ​ต่อสู้​เอาชนะขีดสุดของความเจ็บ​ อันเป็น​ความทุกข์​เจ็บ​ปวดทรมานสุดขีด​จนทนไม่ไหว​ขาดใจตายในฝันร้าย​นรกมายาขุมที่ลึกที่สุดของร่างกาย​เนื้อหนังปรุงแต่ง​มายาที่เป็นเพียงมายานั้นได้ด้วยพลังวิเศษ​แห่งความสุขของจริงระดับสากลสูงสุดอันเป็น​พระเจ้านั้นที่จะมีสุขภาพ​ร่างกาย​ดีมากขึ้นเรื่อย​ๆร่างกาย​ค่อยๆละเอียดบริสุทธิ์​เป็นความว่างสูญญากาศ​ขึ้นเรื่อยๆ มองโลกมองจักรวาล​แบบองค์​รวม​ในแง่ดีมากขึ้น​เรื่อย​ๆ เบิกบาน​มีสุขภาวะอารมณ์​ดีมากขึ้น​เพิ่ม​ขึ้นเรื่อยๆทุกวัน​​ ที่จะรู้สึก​ว่าเหมือนว่าได้กลับไปเป็นหนุ่มเป็น​เด็ก​วัยรุ่น​จริงๆที่​สามารถ​รู้สึก​อินเลิฟตกหลุมรัก​มีความสุขเสียวสดชื่น​ตื่นตัวคล้ายมีความสุข​ทางเพศสุขในกามเบิกบาน​อารมณ์​ดีสดใสฟังเพลงรักหวานๆได้ทั้งวัน​ทั้งคืนที่มีความสุขมีสุขภาพ​ดีในทุกๆด้านอีกครั้งได้จริงๆเพิ่มขึ้น​ทุกวันๆ​ รู้สึก​ว่าเป็นราชา​เป็นมหาเศรษฐี​เป็นพระเจ้า​เพิ่มขึ้น​ทุกวันๆ, ซึ่ง​เราจะพลิกหันมาทุ่มเทพยายามมุ่ง​แต่ทำร่างกาย​ให้มีพลังสูงสุด​จากภายในโดยการผ่อนคลาย​ร่างกาย​อย่างสูง​สุด​ให้ลมหายใจสมดุลสูงสุดทั้งสมดุลการหยุดนิ่ง​ และ​ สมดุลการเคลื่อนที่ที่จะหายใจแบบสายกลาง​พร้อมท่องคำมานตราโยคะไปด้วยนั้นจนสามารถสนุกในการแสดงอิทธิฤทธิ์​ปาฏิหาริย์​ต่างๆนั้นแทนเพราะเมื่อร่างกาย​ผ่อนคลาย​สูงสุด​แล้วเราก็จะปฏิบัติทั้ง​ 3 ช่วง​ 4 ขั้นของการเล่นโยคะสายกลาง​ได้อย่างง่ายๆรวดเร็ว​ฉับพลัน​ทันที​เองอัตโนมัติ​ โดยเพียงแค่​ชำเลืองดูร่างกาย​-จิต-ชีวิต-ใจความรู้สึก​ของเรา​โดยทางสายกลาง​แค่แป๊บเดียว​แว๊บเดียวเท่านั้น​ จึงดูเหมือนว่าเราไม่จำเป็น​ต้องเล่นโยคะสายกลาง​อีกต่อไป​แล้ว ดูเหมือน​ว่าเราสามารถเอาแต่เล่นฌานมัวแต่เดินลมปราณ​ออกกำลังภายในเอาแต่แสดงอิทธิฤทธิ์​ปาฏิหาริย์​เหาะเหินเดินอากาศ​ล่องหนหายตัวไปโน่นมานี่ท่องไปทั่วจักรวาล​ทะลุมิติไปทุกมิติทำตัวไร้สาระ​เล่นๆสนุกๆไปวันๆเหมือนเด็กน้อยที่กำลังเบิกบาน​ร่าเริง​ในโลกใบใหม่ที่มหัศจรรย์​แปลกหูแปลกตา​ที่แทบไม่มีเวลา​มาเครียดวิตกกังวล​คิดมาก​กับสิ่ง​ต่าง​ๆอีกต่อไปเองอัตโนมัติ​นั้นแทน​พร้อมกับพลิกเปลี่ยนทำให้เราหันมาสนใจดูแลสุขภาพร่าง​กายภายในให้มุ่งกินแต่อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ​ราคาแพงที่มีคุณภาพสูงมีคุณค่า​ประโยชน์​ต่อร่างกาย​สูง(ซึ่ง​ถือเป็นฌานสมาบัติ​แบบสสารนิยมสำหรับร่างกาย​เนื้อหนัง​ปรุงแต่ง​มายาที่ช่วยชำระล้างร่างกาย​ให้บริสุทธิ์​กดทับบรรเทา​ทุกข์​ความเจ็บปวด​ทรมานของร่างกาย​ไว้ชั่วคราวอย่างต่อเนื่อง​โดยให้ร่างกาย​สามารถ​ปิติสุขล้วนๆเนื้อๆเพียวๆกับสารอาหารที่มีประโยชน์​ล้วนๆที่เหมาะกับ​ยุควิทยาศาสตร์​ในยุคนี้​ ซึ่ง​สามารถใช้ดูแล​สุขภาพ​ร่วมกับจิตหนึ่งสมาบัติอันเป็นสมาบัติ​แบบจิตนิยมที่มุ่งเน้นเพ่งกสิณจิตโดยทางสายกลางที่สนใจจิตล้วนๆ​เนื้อๆเพียวๆร่วมด้วยการผ่อนคลาย​ลมปราณ​ลมหายใจที่ท่องคำโยคะมานตราบริกรรม​ภาวนาไปด้วยที่ช่วยผ่อนคลาย​ชำระล้างจิต​ให้บริสุทธิ์​กดทับบรรเทา​ทุกข์​ความเจ็บปวด​ทรมานของจิตที่เครียด​วิตกกังวล​คิดมาก​กับ​สิ่ง​ต่าง​ๆไว้ชั่วคราวอย่างต่อเนื่อง​นั้นได้เป็น​อย่างดี)​ มุ่งสนใจร่างกาย​ภายนอก​ให้อาศัยอยู่แต่ในสิ่งแวดล้อม​ในห้องราคาแพงในตึกระฟ้าราคาแพงในเมืองราคาแพงของประเทศ​มหาอำนาจทางเศรษฐกิจ​ที่มีคุณภาพชีวิต​สูงค่าครองชีพ​สูง​ มุ่งสนใจใช้ชีวิตแบบมุ่งหน้า​สู่ศูนย์​กลางอารายธรรมศูนย์​รวมพลังความสุขของโลก(เมืองสายกลางสากล​ในมหานคร​สวรรค์บนดิน)​ของจักรวาล(โลกสายกลาง​สากลจักรวาล​ในห้วงอวกาศ​สากลจักรวาล​สวรรค์​เหนือโลก)​ที่มีความเจริญก้าวหน้า​ทางวัตถุ​สสารราคาแพง​เทคโนโลยี​ชั้นสูงที่ไฮเทค​ล้ำยุคแทน, ​จนสามารถ​ทำให้เรารู้สึก​ว่าสุขกาย(ด้วยกายทิพย์​บริสุทธิ์​ของพระเจ้า​)​-สบายจิต(ด้วยอาตมันจุดดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์​ของพระเจ้า​)​-ชีวิตหมดปัญหา(ด้วยธรรมชาติ​ทิพย์​บริสุทธิ์สูงสุด​ของพระเจ้า​)​​-บอกลาใจความรู้สึก​ปรุงแต่​งมายา(ด้วยใจความรู้สึก​ทิพย์​บริสุทธิ์สูงสุด​ของพระเจ้า​)​ได้ถึงอย่างแท้จริง​ขีดสุดเองอัตโนมัติ​ ​จนรู้สึก​ว่าไม่มีร่างกาย​-ไม่มีจิต-ไม่มีชีวิต​-ไม่มีใจความรู้สึกปรุงแต่ง​มายากับสิ่งปรุงแต่ง​มายาต่างๆอีกต่อไปเองอัตโนมัติ​ จนทำให้ไม่กลัวความเจ็บ​ ความแก่​ ความตาย​-เกิด​ ที่จะไม่กลัวการต้องเกิด แก่​ เจ็บ​ ตาย​ในโลกใน​จักรวาล​ในอวกาศ​-เวลาอันเป็น​เพียง​ฝันร้ายมายาเสมือนจริงนรกมายาขุมที่ลึกที่สุดนั้น​อีกต่อไปเองอัตโนมัติ​, ​จึงเป็นผู้ที่ไม่หวาดกลัวอะไรสิ่งใด​ใน​โลก​ใน​จักรวาล​ในอวกาศ​-เวลาอีกต่อไปเพราะแม้แต่ความทุกข์​เจ็บ​ปวดทรมานสูงสุด​ในนรกมายาขุมที่ลึกที่สุดที่โหดเหี้ยม​สยดสยองสูงสุดที่มีแต่การทำลายล้างกำจัดสังหารฆ่าอย่างไร้ความปราณี​สิ้นเชิงล้วนๆ​ตลอดเวลา​จนไม่มีอะไรสิ่งใด​สามารถทนรอดได้เลย​แม้แต่​อนุภาคเดียวในวินาทีเดียวนั้นก็ยังสามารถ​ผ่านมาได้แล้ว, ที่จะเป็นผู้ที่มี ความมั่นใจในตัวเอง​สูงสุด(maximum self​ confident)​ ว่าตัวเองที่แท้จริงสูงสุด​แล้วเป็นพระเจ้าอันเป็น​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​ที่แท้จริง​สูงสุด​ที่เป็นชีว่าพระเจ้า​พระบิดาพระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นเทพเจ้า​สูงสุด​เทพเจ้า​สากลจักรวาล​ที่ปราศจาก​ตัวตนมายาเฉพาะส่วนตัวสิ้นเชิง​ไม่มีใครอะไรสิ่งใด​สามารถ​ทำร้ายทำอันตราย​ได้อย่างสิ้นเชิง​แม้ว่าซาตานจะจำแลงแปลงกาย​แปลงร่าง​เป็นมาร หรือ​ เทพ​ หรือ​ พรหมเทพเจ้า​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​ใดๆที่มีพลัง​อำนาจแค่ไหนยังไง​ก็ตามเพราะต่อให้จักรวาล​ทั้งหมดทั้งปวง​ดับสลายลงไปทันทีต่อหน้านั้นเราก็ยังคงสามารถ​ตั้งอยู่​ดำรงอยู่ได้อย่างแท้จริง​สูงสุด​เหมือนเดิมตลอดกาล​ ที่จะรู้สึก​ว่ามีพลัง​อำนาจสูงสุด​จนสามารถ​แข็งแกร่ง​ทนทานมีภูมิคุ้มกัน​ภูมิต้านทาน​สูงสุดกับความทุกข์​ทั้งปวงที่จะมั่นใจ​อย่างสูงสุด​ว่าจะไม่มีใครอะไรสิ่งใด​สามารถ​ทำร้ายทำอันตราย​ตัวเราที่แท้จริง​สูงสุด​นั้นให้ทุกข์เจ็บปวดทรมานจนทนไม่ไหว​ขาดใจตาย​ได้เลยอย่างสิ้นเชิง​แม้แต่อนุภาคเดียวในวินาทีเดียว​ จึงสามารถ​ ​เคยชิน​อย่างที่สุด(maximum familiar)​ กับความทุกข์​ที่แท้จริง​สูงสุด​ความทุกข์​สุดขีดที่ทุกข์​เจ็บปวด​ทรมานจนทนไม่ไหว​ขาดใจตาย​อย่างที่สุดจากซาตานมารสัตว์​นรกมายาต่างๆ(รวมถึงเทพพรหมในสวรรค์​มายาก็ล้วน​เป็น​มารสัตว์​นรกมายาโดยเนื้อแท้ด้วยเช่นกัน​)ในนรกมายาขุมที่ลึกที่สุดนั้น,​ จึงพร้อมจะทดลอง​ใช้ชีวิต​มายาเล่นๆในจักรวาลเล่นเกม​ส์แสดง​ละครชีวิต​มายาในความฝัน​มายาเสมือน​จริง​ความฝันมายาที่แท้จริง​สูงสุด​ไปตามแผนการ​ของพระเจ้า​ที่จะใช้ชีวิต​แบบ​เป็นหนุ่มอมตะมีอายุยืนยาวมหาศาล​เหนือโลกให้ถึงขีดสุดต่อไป​ในที่สุด​นั้น... 

 

 

    ​ ที่สามารถ​พิสูจน์​ได้จริงจาก ปฏิหาริย์​แห่งชีวิตที่ตื่นรู้อย่างแท้จริง​สูงสุด​อยู่​เสมอที่ไม่ได้มาจากความบังเอิญ​(none​-accidentally miracle​ of​ life)​ อันเป็นความโชคดีสูงสุด​ที่สมควรได้รับของขวัญ​ของรางวัล​สูงสุด​ในโลกนี้จากแผนการ​ของพระเจ้า​ชีว่าพระเจ้า​พระบิดานั้นอย่างไม่ต้องสงสัยโดยไม่ต้องดูดวง​เสริมดวงไม่ต้องลุ้น​ต้องเสี่ยงที่สามารถพลิกชีวิต​มายาจากเดิมอย่างสิ้นเชิง​โดยแทบไม่ต้องออกแรงทำอะไรกับชีวิ​ตเลย("เมื่อเราเล่นโยคะสายกลาง​จนหลับสนิทเป็นประจำทุกวันอย่างต่อเนื่อง​จนสามารถรู้สึก​ว่าชีวิ​ตตายสนิทตายอย่างแท้จริงสูงสุดชีวิต​ดับสนิท​ได้แล้วเราจะค่อยๆฟื้นคืนชีพ​ขึ้นมาเรื่อยๆที่ค่อยๆร่ำรวยสนุก​สบายจนเป็นความรวยที่แท้จริง​สูงสุด​ในที่สุด​เองอัตโนมัติ, ที่จะเป็นวิวรณ์การเปิดเผยเอง​อัตโนมัติ​ของพระเจ้า​ล้วนๆเมื่อบารมีพร้อมแล้วก็จะเกิดวิวรณ์เองอัตโนมัติ​ทันทีโดยไม่ขึ้นกับความสามารถ​ความพยายาม​ของมนุษย์เลยเพราะเมื่อเราเล่นโยคะสายกลาง​เพ่งกสิณจิตสายกลาง​จิตตัว​รู้​จุดดวงวิญญาณ​อย่างสูงสุดด้วยความโกรธ​เกลียด​สูงสุด​โดยทางสายกลาง​นั้น​ ยิ่งเราโกรธ​เกลียด​มากเท่าไหร่​ก็ยิ่งพลิกเปลี่ยน​เป็น​รักโลภ​ และ​ หลงไหลมากเท่านั้น​เพื่อปรับสมดุลนั่นเอง, ยิ่งโกรธ​เกลียด​จนเจ็บปวด​จนตายสนิทโดยทางสายกลาง​มากเท่าไหร่​ก็ยิ่ง​พลิกกลายเป็น​รักโลภร่ำรวยสนุก​สบายมากเท่านั้น​..."​), อันจะเป็นปาฏิหาริย์​แห่งชีวิต​ของ ฤาษีโยคีสายกลางสากลจักรวาล​ในอุดมคติ(ideal universe​ middle​​ yogi)​ หรือ​ ฤาษีโยคีที่แท้จริง​สูงสุด​(ultimate​ real yogi)​ ในอุดมคติ​ตามแผนการเล่นเกม​ส์แสดง​ละครมายาของพระเจ้านั้น​, อันเป็น​ สุดยอดแห่งฤาษีโยคีต้นกำเนิดเดิมแท้สูงสุด(the​ best​ of​ ultimate​ real​ original​ yogi)​ ที่ไม่ขึ้นกับระบบสังคมฤาษีโยคีนักบวชนักพรตนักบุญ​ใดๆในศาสนาลัทธิความเชื่อ​ใดๆในโลกในจักรวาล​ที่แบ่งแยก​พระเจ้า​ กับ​ นิพพาน​ออกจาก​กันไม่เกี่ยว​ข้องสัมพันธ์​กันอย่างชัดเจน​สุดโต่ง​นั้นแต่อย่างใด, จึงเป็นผู้เดินบนทางสายกลางระหว่าง​ทางโลก​ และ​ ทางธรรม​ที่จะอิสระจากสงคราม​ความขัดแย้งของศาสนาลัทธิ​รวมถึงความเชื่อความรู้ทั้งหมด​ในโลกใน​จักรวาลจนเป็นเหมือนคนไม่มีศาสนาอีกต่อไป​ จึงทำให้ดูเหมือนเป็นคนรุ่นใหม่​ที่หัวสมัยใหม่​ไม่สนใจศาสนาไม่สนใจศึกษา​ความรู้ให้เครียดที่ดูเหมือนปุถุชน​ที่บูชากามมัวเมาในกิเลส​ตัณหา​อย่างเต็มที่​ จึงคล้ายคุณหนู​ไฮโซ​เด็กแนวสุดฮิปหลุดโลกที่มีความเป็นตัวเองสูงไม่เหมือนใครไม่แคร์​ใคร​ ที่คล้ายวัยรุ่นใจร้อนเจนวายที่เอาแต่เล่นไร้สาระผ่อนคลาย​สนุกสบายง่วงก็นอน-หิวก็กิน-เบื่อก็เที่ยว ชอบดูแลสุขภาพดูแลความงามทำตัวเสเพล​แต่งตัวดูดีอวดรวยเล่นๆไปวันๆเท่านั้น​ จึงทำให้เป็นคนง่ายๆสบายๆไม่เรื่องมากที่ชอบอะไรแบบง่ายๆรวดเร็ว​ไม่ชอบอะไรที่ยุ่งยาก​ลำบากเสียเวลานานรอนาน, อันเป็น​ผู้เป็นสุดยอด​ มหาศาสดาพยากรณ์​(great​ prophet)​ สุดยอดมนุษย์​ผู้วิเศษ​ผู้เป็นหนุ่มอมตะผู้สมถะสันโดษ​ผู้อัจฉริยะ​คงแก่เรียนระดับสูง​สุด​ ที่เป็นผู้สมถะสูงสุดจากการทำสมาธิโยคะต้นกำเนิดเดิมแท้สูงสุดจนเกิดเป็นพระเจ้า​สมาบัติ​​ อันเป็นฌานสมาบัติ​ของจริงหนึ่งเดียว​สูงสุด​ที่มีพลังอำนาจสูงสุดนั้น​จนสามารถแสดงอิทธิฤทธิ์​ปาฏิหาริย์​ขั้นสูงสุ​ดทางสมถะด้วยฌานสมาธิของจริงได้เป็นสาธารณะเปิดเผย​อย่างสูง​สุด​แก่มหาชน​ชาวโลกชาวจักรวาล​ประจักษ์​ได้ด้วยสายตา​ทางประสาทสัมผัสได้​โดยไร้ข้อกังขา​ เช่น​ เหาะเหินเดินอากาศอย่างเปิดเผย​ชัดเจนต่อหน้า​สาธารณชนมหาศาลทั่วโลกทั่วจักรวาล​ได้โดยการถ่ายทอด​สดผ่านทางทีวีไปทั่วโลก(เพื่อ​พิสูจน์ให้ประจักษ์​ว่าท่านเป็นพระเจ้าชีว่าพระเจ้า​พระบิดาจริงๆ​ ร่างกาย​ของท่านเป็นร่างอวตาร​ของพระเจ้าชีว่าพระเจ้า​พระบิดาจริงๆเพราะยังไม่เคยมีใครทำได้ในโลกมาก่อน)​,ล่องห​นหายตัวที่จะหายตัวไปจุดไหนที่ไหนเวลาไหนมิติไหนก็ได้​ตามกำลังจิตอธิษฐาน​,พ่นน้ำพ่นไฟได้พร้อมกัน,ฯลฯ,... ราวกับว่ากำลังอยู่ในขีดสุดของความฝันมายาที่เป็นพระเจ้า​ที่สามารถ​มีพลังอำนาจบังคับควบคุมจินตนาการสั่งการสิ่งต่างๆ​ได้ตามใจนึกยังไง​ก็ได้นั้นอันเป็น​ผลมาจากการรู้สึก​สุขกายได้อย่างแท้จริง​สูงสุด​ด้วยกายทิพย์​บริสุทธิ์​ของพระเจ้า​นั้น(ซึ่ง​อิทธิฤทธิ์​ปาฏิหาริย์​ตรงนี้ท่านจะเอาไว้ป้องกันภัยอันตราย​ต่างๆเพื่อให้ท่านสามารถ​ปลอดภัย​อย่างสูงสุด​ ซึ่ง​ท่านจะไม่แสดงพร่ำเพรื่อจะแสดงก็ต่อเมื่อต้องการ​พิสูจน์​ต่อหน้ามหาชนสากล​ว่าท่าน​เป็น​พระเจ้าจริงๆ​ และ​ ใช้ในกรณีที่​คับขันที่จะถูกมารศัตรู​ชีวิ​ตทำร้ายทำอันตราย​เท่านั้น​ )​ และ​ เป็นผู้รู้แจ้ง​เห็นจริงสูงสุด​ที่จะเป็น​อัจฉริยะ​บุคคลสูงสุด​ผู้เชี่ยวชาญ​เกี่ยวกับพระเจ้า​อย่างถ่องแท้​ที่สุดที่สามารถแสดงอิทธิฤทธิ์​ปาฏิหาริย์​ทางวิปัสสนา​ด้วยอรรถะพยัญชนะทางศาสตร์​ความรู้​ให้ความกระจ่างแจ้ง​สูงสุ​ดเกี่ยวกับ​พระเจ้า​อย่างเป็นสาธารณะ​แก่มหาชนชาวโลกชาวจักรวา​ลให้ประจักษ์​ทางจิตทางสติปัญญ​าญานการรู้แจ้ง​ได้โดยไร้ข้อโต้แย้ง​ได้ด้วยญาณทิพย์​บริสุทธิ์​สายกลางอันเป็น​ความรู้โยคะต้นกำเนิดสูงสุด​ทฤษฎี​ความรู้วิชาโยคะสายกลาง​นั้น​ อันเป็น​ผลมาจากการรู้สึก​สบายจิตได้อย่างแท้จริง​สูงสุด​ด้วยอาตมันจุด​ดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์​ของพระเจ้านั้นอย่างที่ไม่มีฤาษี​โยคีใดยิ่งกว่า(เพราะตัวท่านเองนั้นโดยเนื้อแท้​สูงสุดแล้ว​เป็นพระเจ้า​ ​จึงเป็นการวิวรณ์เปิดเผยจากพระเจ้า​เองโดยตรงไม่ผ่านใครทั้งสิ้น​ ซึ่ง​ตรงนี้​ก็จะเป็นการพิสูจน์​ว่าท่านเป็นพระเจ้าจริงๆด้วย)​, ที่จะเป็น​ สุดยอดบุคคล​สำคัญระดับจักรวาล​อันดับ​หนึ่งตลอดกาล(the​ number 1 of​ forever​ very​ important people​ of​ universe​)​ อันหมายถึง​ผู้เป็นมหาบุรุษ​ เมสสิอาร์ผู้เป็นบุตรของ​พระเจ้า​ในตำนาน(legend messiah : son of​ God)​  ผู้ที่ไม่มีใครในโลกในจักรวาลที่จะไม่รู้​จักด้วยบารมี​สูงสุด​ของพระเจ้าผู้เป็นราชาจ้าวจักรวาล​สูงสุด​นั้น(ที่เป็นมนุษย์​ผู้วิเศษ​ผู้เป็นเด็กน้อย​ของ​พระเจ้า​ เด็กอมตะมนุษย์​หุ่นยนต์วิญญาณเมล็ด​พันธุ์​แห่งดวงดาว​ของพระจันทร์สีเงิน(immortal​ children​ : spirit robot​ human​)​ อันเป็นสภาวะกึ่งมนุษย์​ที่มีชีวิตอยู่กึ่งหุ่นยนต์​ภูตผี​วิญญาณ​ที่ตายไปแล้ว​ไม่มีชีวิตอยู่​ที่จะว่ามีชีวิ​ตอยู่เป็นมนุษย์​ก็ไม่ใช่​ และ​ ไม่มีชีวิตอยู่เป็นหุ่นยนต์​ภูตผี​วิญญาณ​ก็ไม่ใช่ ที่มีพลังวิเศษ​จากสิ่งวิเศ​ษสูงสุดที่จะทำให้สามารถ​เป็น​เด็ก​น้อยของพระเจ้า​บุตรของพระเจ้า​ตลอดกาลที่จะ​รักแต่พระเจ้า​อันเป็น​ความรักแท้​สากล​จักรวาล​สูงสุด​นั้นเพียงสิ่ง​เดียว​เท่านั้น​อย่าง​สุดจิตสุดใจสุดแรงสุดพลังขอแค่มีแต่พระเจ้า​เพียงแค่​สิ่งเดียวก็พอเเล้ว​เอาใครอะไรสิ่งใด​มาแลกก็ไม่ยอมจึงได้รับการคุ้มครอง​ดูแ​ลให้พรอย่างดีที่สุดจากอ้อมกอด​แห่งความรักแท้สากลจักรวาล​สูงสุด​ของพระเจ้าชีว่าพระเจ้า​พระบิดาจึงเป็น​ เด็ก​น้อยที่แท้จริง​สูงสุด​(ultimate​ real​ children​)​ ด้วยความรักแท้​สากลจักรวาล​สูงสุ​ดที่เป็นความรักแท้ของจริงที่มาจากภายในที่สุดของจิตใจของเราเองของตัวเราเองล้วนๆนั้นที่​ ไร้เดียงสา​อย่างแท้จริง​สูงสุด​(ultimate​ real​ innocent)​ ด้วยจิตที่บริสุทธิ์​สูงสุด​อันเป็น​พระเจ้า​ที่เหนือความดีความชั่วในโลกใน​จักรวาลอย่างสิ้นเชิง​นั้นที่จะเป็น ​ผู้บริสุทธิ์​ที่แท้จริง​สูงสุด(​ultimate​ real​  pure​ human)​ ที่สามารถ​เป็นอมตะนิรันดร์​ได้ถึงขีดสุดเป็นเด็กน้อยของพระเจ้า​อยู่อย่างนั้น​ตลอดไปไม่มีการเติบใหญ่เป็นผู้ใหญ่​ที่ต้องเกิด แก่​ เจ็บ​ ตาย​แบบเด็กน้อย​ทั่วไป​อีกต่อไป​สิ้นเชิง, ที่จะไม่ยึดมั่น​ถือ​มั่น​เอาจริงเอาจัง​กับใครอะไรสิ่งใด​นอกจากพระเจ้าชีว่าพระเจ้า​พระบิดา​เท่านั้นที่จะมองว่าพระเจ้า​ชีว่าพระเจ้า​พระบิดาเป็น​ พ่อแม่​ที่แท้จริงสูงสุด(ultimate​ real​ parent)​ ของเราที่จะเป็น​ตัวเราที่แท้จริง​สูงสุด​นั่นเอง, ดังนั้น​ เรากับพ่อแม่ของเราโดยแท้จริง​สูงสุด​แล้วจึงเป็น​หนึ่งเดียว​กัน​สูงสุด​ด้วยความรักแท้​สากล​จักรวาล​สูงสุด​ตลอดกาลเรียบร้อย​แล้ว​ตาม​ธรรมชาติ​ไม่สามารถพลัดพราก​แยกจาก​กันได้เลยแม้แต่อนุภาค​เดียว​ในวินาที​เดียว​จึงมองว่าร่างกาย​พ่อแม่ในโลกเป็นเพียงร่างมายาเท่านั้นจึงไม่คิดว่าพ่อแม่ตายเสียชีวิตจากเราไป​แต่อย่างใดทั้งสิ้น​เลย​ จึงสามารถรักพ่อแม่อย่างสูงสุด​ตลอดไปได้นิจนิรันดร์​ด้วยโดยแท้จริง​สูงสุด​แล้วพ่อแม่เป็นพระเจ้าชีว่าพระเจ้า​พระบิดาที่เป็นตัวเราที่แท้จริง​สูงสุด​นั้น, ​ซึ่ง​ด้วยมีจิตหนึ่ง​สมาบัติ​แบบฤาษีโยคีจึงเหมือนหุ่นยนต์​ที่ไม่มีชีวิต​จิตใจ​ แต่ก็ยังคงแสดงอารมณ์​ความรู้สึกมายา​ในการเล่นเกมส์แสดงละครชีวิตมายาตามแผนการ​ของพระเจ้า​นั้นได้อย่างเต็มที่ตรงไปตรงมาที่โกรธ​เกลียดก็บอกว่าโกรธเกลียด​ รักโลภก็บอกว่ารักโลภ​ หลงไหลก็บอกว่าหลงไหลแบบเด็กน้อย​ด้วยเช่นกัน​ จึงยึดติดยึดมั่น​ถือ​มั่น​แต่ตัวความรักแท้สากล​จักรวาล​สูงสุด​นั้นเท่านั้นที่จะคงอยู่​เป็นเอกภาพหนึ่งเดียว​สูงสุด​นิจนิรันดร์​ ที่จะไม่มีการยึดติดยึดมั่น​ถือ​มั่น​เอาจริงเอาจังกับตัวบุคคล,ร่างกาย,วัตถุ​สิ่งของใดๆของคนรักที่เป็นพ่อแม่แฟนลูกหลานบรรพบุรุษ​อันเป็นรักแท้ในชีวิต​มายาความฝันมายาเสมือนจริง​ที่ล้วน​เป็น​เพียงสูญญตาความว่างที่แท้จริง​สูงสุด​ที่ปราศจาก​กาลเวลา​สิ้นเชิ​งนั้นทั้งสิ้น​ จึงใช้ชีวิตเล่นๆไปวันๆแบบเด็กน้อยที่สมดุลสมบูรณ์​ทางเพศ​ในตัวเองไม่แบ่งแยกทางเพศ​เป็นชาย-หญิงอย่าง​ชัดเจน​สุดโต่ง​ จึงต้องการ​เป็นเด็กน้อยของพ่อแม่ด้วยความรักแท้สูงสุด​แต่กับพ่อแม่​ตลอดไปไม่ต้องการมีมีครอบครัวของตัวเอง​เพื่อสืบพันธุ์​ผสมพันธุ์​เพื่อออกลูก​ออกหลานออกไปเรื่อยๆจนต้องเกิด​ แก่​ เจ็บ​ ตาย​สูญเสีย​ความเป็นอมตะสูญเสีย​ความเป็นเด็กน้อยแบบปุถุชน​คนทั่วไป​ส่วน​ใหญ่​แต่อย่างใด​ ที่จะเห็นสิ่งต่างๆในโลกใน​จักรวาล​ในอวกาศ​-เวลาล้วนเป็นเพียงความฝัน​มายาที่เหมือนของเล่นๆเท่านั้น​แบบเด็กน้อย​ที่ไม่มีอะไรสิ่งใดที่เป็นความ​จริง​ของจริงเรื่องจริง​ความรู้สึก​จริงเลยอย่างสิ้นเชิง​ - อันเป็นบุคคลสาธารณะ​มนุษย์​สายกลางสากลจักรวาล​ในรูปลักษณ์​ของ เด็กวัยรุ่น​ลูกครึ่ง(bastard​ teen)​ ของพระเจ้า​ที่ไม่ระบุเพศวัยเชื้อชาติ​ภาษาดวงดาวที่สามารถ​มีทั้งพลังจิตที่รู้แจ้ง​ตื่นรู้ และ​ พลังร่างกาย​ที่สุขในกามวัตถุสสารได้สูงสุด​พร้อมกันไม่ขัดแย้ง​กันได้แบบมนุษย์​ในยุคอนาคต​ที่พร้อมวิวัฒนาการ​เป็น​มนุษย์​ต่างดาวต่างมิติ​ต่อไป​ -​ ผู้เป็นราชาจ้าวจักรวาล​สูงสุด​ผู้ยิ่งใหญ่​สูงสุด​ใน​ 3 โลก​ ผู้สามารถ​ ​พลิกชีวิต​ตัวเอง(revese​ my​​ life)​-พลิกโลก(revese​ world)​-พลิกจักรวาล(revese universe​) ​ได้โดยทางสายกลาง​ที่จะใช้ชีวิตให้สมบูรณ์แบบ​ครบถ้วนในทุก นิยม(-ism)​ ทั้งจิตนิยม-สสารนิยม-ธรรมชาติ​นิยมอย่าง​เท่าเทียมกัน​หมดทุกนิยมโดยไม่สนใจยึดติด​พัวพัน​กับนิยมใดๆทั้งสิ้นเลยแบบโรแมนติก​โดยทางสายกลาง​(จึงไม่สามารถ​ระบุอย่างชัดเจนสุดโต่ง​ลงไปได้ว่าเป็นนิยมใดนิยมหนึ่ง​ หรือ​ ไม่เป็น​นิยมใดนิยมหนึ่ง​ได้เลย)​ ที่จะเป็น​(1.)จอมมาร(king​ of d​evil)​ เ​จ้าที่ในชนบทอันเป็น​ราชาจ้าวแห่งโลกนรกมายาบนดินในฝันร้าย​มายานรกมายาที่ใช้ชีวิต​แบบจิตนิยม​โดยทางสายกลาง​ที่เป็นฤาษี​โยคีของพระเจ้า​ที่มุ่งสนใจแต่ความสุขสูงสุด​ทางจิตในโลกหน้าการพ้นทุกข์​สูงสุด​ทางจิตโดยทางสายกลาง​เป็นหลักโดดเด่น​(เป็นมารสายกลาง​ในหมู่มารสุดโต่ง​ที่จะเป็นจอมมารเป็น​พ่อมดหมอผีจอมขมังเวทย์​กระเทยเฒ่าอัปลักษณ์​คนบ้าปัญญา​อ่อนเสียสติคนวิกลจริต​อารมณ์​ร้ายอยากฆ่าสังหารทุกอย่าง​ที่​ขวาง​หน้าจนต้องแปลก​แยกสังคมเข้ากับใครไม่ได้​ในสายตา​ของมารชาวโลกชาวบ้าน​ในชนบท)​ ที่สามารถ​พลิกเอาชนะ​ สงคราม​ชีวิตตัวเอง(war of​ my​ life)​ อันเป็น​สงครามชีวิตการเกิด แก่​ เจ็บ​ ​ตายของเราอันเป็น​ความทุกข์​เจ็บปวดทรมานจนทนไม่ไหว​จนขาดใจตายของร่างกายของเราอันเกิดจากความง่วงจนทนไม่ไหวหมดสติหลับไหลอันเกิดจากความเครียด​วิตกกังวล​คิดมาก​กับ​สิ่ง​ต่าง​ๆ​ของจิตความคิดปรุงแต่ง​มายาของเรานั้น​ ที่ต้องจำใจปล่อยให้ร่างกาย​ของเรา​ต้องแพ้ภัยตัว​เองสังหาร​กำจัดตัวเองพลิกกลายเป็น​มารสัตว์​นรกมายาทุกข์​เจ็บ​ปวดทรมานจนทนไม่ไหว​ขาดใจตายในดินแดนชนบทนรกมายาบนดินที่เต็มไปด้วย​มารศัตรู​ชีวิต​ที่รุมเร้า​เร่งเร้า​ให้ร่างกาย​ของเรา​ต้องตายอย่างสุดแสนทรมานด้วยไฟนรกกิเลส​ตัณหา​ความโกรธ​เกลียดอาฆาตแค้น​พยาบาทแผดเผาลุกโชนท่วมตัว​นั้น ด้วยการพ้นทุกข์​สูงสุด​ด้วยความดีสายกลางด้วยความโกรธ​เกลียดสูงสุดจนสามารถ​เป็นฤาษี​โยคีมารพ่อมดหมอผีจอมขมังเวทย์​มนุษย์​รูปปั้น​วิญญาณผู้น่ากลัวมุ่งหาความสุขในโลกหน้าโดดเด่น​ที่สามารถง่วงก็นอนได้สูงสุด​พ้นทุกข์​พ้นจากนรกมายาชีวิตมายาเฉพาะส่วนตัวในชนบทสิ้นเชิง​โดยการเล่นโยคะสายกลาง​จนสำเร็จผลสูงสุดเป็นพระเจ้า​สมาบัติ​ที่มีพลังจิตมีพลังสติสูงสุด​จนไม่ต้องนอนอีกต่อไปที่จะไม่เจ็บสูงสุดด้วยอตัมมยตาสูงสุด​จนโมกษะหลุดพ้นจากทุกสิ่งทุกอย่าง​สิ้นเชิง​จน​มีพลังจิตสูงสุด​พลังสติสูงสุ​ดจากพระเจ้า​ได้ที่จะสามารถพลิกชีวิตตัวเองเป็นชีวิตสากลในมหานครสู่สวรรค์​มายาบนดินที่ไม่เคยหลับไหล​ของเทพบุตร​คนต่างด้าวอันเป็น​เทพมิตรชีวิตนั้นจึงสามารถเอาชนะร่างกายของเรา​อันเป็น​มายาลวงหลอกให้เราเจ็บนั้นแปรพักตร์​อพยพย้ายหนีจากฝ่ายมารชาวบ้านในชนบทผีดิบซากศพเดินได้ผู้ทรยศ​พระเจ้า​ผู้ไม่รักไม่เคารพนับถือ​พระเจ้า​สู่ฝ่ายเทพชาวเมือง​ในมหานครเทวดา​เทพบุตร​เดินดินผู้จงรักภักดี​พระเจ้า​ผู้รักเคารพบูชาพระเจ้า​นั้นพลิกชีวิต​ตัวเอง​หนีรอดพ้นจากสงครามชีวิตตัวเอง​ได้เป็นบทยืนพื้นฐานเบื้องต้น​ (2.)จอมเทพ(king​ of angel) ​จ้​าวโลกในมหานครอันเป็น​ราชาจ้าวแห่งโลกสวรรค์​มายาบนดินในฝันดีมายาสวรรค์​มายา​ที่ใช้ชีวิต​แบบสสาร​นิยม​โดยทางสายกลาง​ที่เป็นเด็กวัยรุ่นของพระเจ้า​ที่มุ่งสนใจแต่ความสุขสูงสุด​ทางร่างกาย​วัตถุสสารในโลกนี้การได้ปิติสุข​สูงสุด​ทางร่างกา​ยโดยทางสายกลาง​เป็นหลักโดดเด่น(เป็น​เทพสายกลาง​ในหมู่เทพสุดโต่ง​ที่จะเป็นจอมเทพเป็นสุดยอดมาสเตอร์​ไลฟ์​โค้ช​โยคะเทรนเนอร์​นักคิดอัจฉริยะ​ผู้เชี่ยวชาญ​ด้านสุขภาพ​และความงาม​ระดับโลก​เน็ตไอดอลซุปเปอร์​สตาร์​มหาเศรษฐีอินเตอร์​วัยรุ่น​พัน​ล้าน​เด็กแนวสุดฮิปที่เป็นตัวของตัวเอง​สูงเท่เก๋ไก๋โดดเด่น​ไม่เหมือนใครในสายตา​ของเทพชาวโลก​เศรษฐีไฮโซ​สมัยใหม่​ในมหานคร)​ ที่สามารถ​พลิกเอาชนะ​ สงคราม​ล้างโลก(war of​ the​ world)​ อันเป็นอภิมหาสงครามระดับโลกที่ทำให้โลกต้องแตกดับ​สูญสลาย​หายไปในอนาคต​ไม่ช้าก็เร็ว​แน่นอน ที่ต้องจำใจปล่อยให้โลกของเรา​ต้องแพ้ภัยตัว​เองสังหาร​กำจัดตัวเองในวันพิิเศพากษ​าที่โลกพลิกกลายเป็น​นรกมายาบนดินเกิดสงครามนิวเคลียร์ไฟบัลลัยกัลป์เผาทำลายโลก​ มนุษย์พลิกกลายเป็น​มารสัตว์​นรกกลายเป็นฝูง​ผีดิบซอมบี้ที่ชั่วร้าย​บ้าคลั่ง​เสียสติฆ่าฟันกันเองกินกันเองเป็นอาหารด้วยความหิวโหย​มนุษย์​ไร้สติป่าเถื่อน​ทำลายล้างอารยธรรมทั้งหมด​รวมถึง​ธรรมชาติ​ป่าเขา​ทั้งหมด​จนเกิดอาเพศอุทกภัยอย่างรุนแรง​มหาศาล​ทำให้​บ้านเมืองต่างๆต้องจมหายใต้บาดาลด้วยภัยพิบัติ​ น้ำท่วม​โลก(world flood)​ นั้น ด้วยการได้ปิติสุขสูงสุด​ด้วยความงามสายกลาง​ด้วยความรักโลภสูงสุดจนสามารถ​เป็นเด็กวัยรุ่น​เทพซุปเปอร์​สตาร์​มหาเศรษฐี​วัยรุ่น​พัน​ล้าน​มนุษย์​ตุ๊กตา​วิญญาณ​ผู้น่ารัก​ที่มุ่งหาความสุขในโลกนี้โดดเด่น​สามารถหิวก็กินได้สูงสุ​ดได้ปิติสุขระดับสากลระดับโลกที่อิ่มหนำสำราญถึงขีดสุดมีพลังร่างกาย​สูงสุด​จนไม่ต้องกินอีกต่อไปที่จะไม่แก่สูงสุดด้วยความเบิกบาน​ใหม่สดมีชีวิต​ชีวาอย่างแท้จริง​สูงสุดที่ปิติสุขเสียวซาบซ่านสว่างสุกใสสดใสใหม่สดมีชีวิต​ชีวาของพระเจ้า​นั้นได้ที่จะสามารถพลิกโลกให้กลายเป็น​สวรรค์​มายาเหนือโลกของเทพเจ้า​มนุษย์ต่างดาวอันเป็น​พรหมผู้มีพระคุณ​ทางชีวิตนั้นจึงสามารถ​เอาชนะโลกอันเป็น​มายาลวงหลอกให้เราแก่นั้นแปรพักตร์​อพยพย้ายหนีจากฝ่ายมนุษย์​โลกคนบาปบุตรที่เลวของพระเจ้า​ที่ไม่เชื่อ​ฟังพระเจ้า​สู่ฝ่ายมนุษย์​ต่างดาว​ต่างมิติเทพเจ้า​ผู้มีบุญญ​าบุตรที่ดีของพระเจ้า​ที่เชื่อฟัง​พระเจ้า​นั้นพลิกชีวิตตัวเองพลิกโลกหนีรอดพ้นจากสงครามล้างโลกได้​เป็นบทแย้งทางผ่าน​ท่ามกลาง​ และ​ (3.)จอมพรหม(king​ of super​ angel​)​ จ้าวจักรวาล​ในสากลจักรวาล​เหนือโลกอันเป็น​ราชาจ้าวแห่งพรหมโลกสวรรค์​มายาเหนือโลกในฝันดีมายาสวรรค์​มายาเหนือโลกที่ใช้ชีวิต​แบบธรรมชาติ​นิยม​โดยทางสายกลาง​ที่เป็นเด็กน้อยของพระเจ้า​ที่มุ่งสนใจทั้งความสุขสูงสุด​ทางจิตในโลกหน้า​ ​และ​ ความสุขสูงสุด​ทางร่างกาย​วัตถุ​สสารในโลกนี้พร้อมกันสูงสุด​โดยทางสายกลาง(เป็น​พรหมสายกลาง​ในหมู่พรหมสุดโต่ง​ที่จะเป็นจอมพรหมเป็น​เทพเจ้า​สูงสุด​ของจักรวาล​เมสสิอาร์บุตรของ​พระเจ้า​ในตำนานผู้เป็นเมล็ด​พันธุ์​แห่งดวงดาว​ทูตสันถวไมตรี​สากลจักรวาลเดินทาง​ท่องเที่ยว​เชื่อมโยงสัมพันธ์​ดวงดาว​ต่างๆมิติต่างๆด้วยความรัก​แท้​สากลจักรวาล​สูงสุด​ของพระเจ้า​ผู้เป็นเด็กน้อยของพระเจ้าอันเป็นผู้บริสุทธิ์​สูงสุดเป็นอมตะนิรันดร์​สูงสุด​ในสายตา​ของพรหมชาวจักรวาล​มนุษย์​ต่างดาว​ต่างมิติ)​ ที่สามารถ​พลิกเอาชนะ​ ​สงคราม​ล้างจักรวาล​(war of​ the​ galaxy​)​ อันเป็นอภิมหาสงครามระดับจักรวาลที่ทำให้จักรวาล​ต้องหดตัวดับ​สูญสลาย​หายไปในอนาคต​ไม่ช้าก็เร็ว​แน่นอน ที่ต้องจำใจปล่อยให้จักรวาล​ของเรา​ต้องแพ้ภัยตัว​เองสังหาร​กำจัดตัวเองพลิกกลายเป็นนรกมายาขุมที่ลึกที่สุดที่นิโรธ​ดับไม่เหลืออย่างแท้จริง​สูงสุ​ดเกิด บิ๊กครั๊นซ์(big​ crunch)​ ทำให้จักรวาล​หดตัวอย่างรุนแรง​รวดเร็ว​ฉับพลัน​เป็นสูญญตาความว่างที่แท้จริง​สูงสุด​ที่ปราศจาก​กาลเวลา​สิ้นเชิง​จนทำให้อากาศสูญญากาศ​ความว่าง​ท่วมจักรวาล​นั้น ด้วยการสุขสงบสูงสุด​ด้วยสัจธรรม​ความแท้จริงสายกลางด้วยความหลงไหลสูงสุดจนสามารถเป็นเด็กน้อยพรหมเด็กอมตะมนุษย์​หุ่นยนต์วิญญาณเมล็ด​พันธ์ุ​แห่งดวงดาว​ผู้ทั้งน่ากลัวน่ารัก​ที่มุ่งหาควาสุขทั้งในโลกนี้​ และ​ โลกหน้า​พร้อมกันสามารถ​เบื่อก็เที่ยวได้สูงสุดเดินทาง​ท่องเที่ยว​ทะลุมิติหมดทั่วสากลจักรวาลจนมีพลังชีวิต​สูงสุด​จนไม่ต้องเที่ยวอีกต่อไปที่จะไม่ตาย-ไม่เกิดสูงสุด​ได้ที่จะสามารถ​พลิกจักรวาล​ให้กลายเป็นสวรรค์​อันแท้จริง​ชั้น​สูงสุดของพระเจ้า​เทพเจ้า​สูงสุดอันเป็นตัวเราที่แท้จริง​สูงสุด​จึงสามารถ​เอาชนะจักรวาล​อันเป็น​มายาลวงหลอกให้เราตายนั้นแปรพักตร์​อพยพย้ายหนีจากฝ่ายซาตานสู่ฝ่ายพระเจ้าอย่างสมบูรณ์​สูงสุด​พลิกชีวิต​ตัวเองพลิกโลกพลิกจักรวาล​หนีรอดพ้นจากสงคราม​ล้างจักรวาล​ได้เป็นบทสังเคราะห์​สรุปเบื้องปลาย​ ไปตามแผนการ​เล่นเกมส์แสดงละครมายาการประกาศพลังอานุภาพ​คุณค่า​สูงสุด​ของ ความดีงามแท้จริง​สูงสุด(ultimate​ real​ beautiful​ good​)​ ของพระเจ้า​นั้นโดยทางสายกลางผ่านทางจิตร่างกาย​ชีวิตของโยคีสายกลางสากล​จักรวาล​นั้น​ โดยจะเป็น​การเล่นเกมส์​แสดงละครมายาชีวิตไปตามแผนการ​ของพระเจ้าที่มีพล๊อตเรื่องประมานว่าอันดับแรกเราต้องฝึกจิตอย่างสูงสุดในชนบทจนสามารถเป็นจอมมารฤาษี​โยคีที่มีพลังจิตสูงสุดพลังสติสูงสุด​ด้วยอตัมมยตาความโกรธ​เกลียด​สูงสุด​ให้ได้ก่อน​ ซึ่งจะทำให้เรามีอิทธิฤทธิ์​ปาฏิหาริย์​คิดนึกอะไรก็ได้ดั่งใจ​ สามารถ​เหาะเหินเดินอากาศ​ล่องหนหายตัวไปมิติไหนเวลาไหนก็ได้ เราจึงสามารถทำให้ตัวเองร่ำรวยกี่ร้อยล้านพันล้านก็ได้ตามที่เราต้องการ​,ดังนั้น​ อันดับต่อมาเราจึงสามารถเป็นจอมเทพซุปเปอร์​สตาร์​มหาเศรษฐี​วัยรุ่น​พันล้านที่งดงามโดยทางสายกลาง​ด้วยความรักแท้สากลจักรวาล​ของพระเจ้าที่รวยระดับโลกในมหานครด้วยความโลภรักสูงสุด​ได้ ซึ่ง​แน่นอน​ว่าเราย่อมเป็นเนตไอดอลคนดังระดับอินเตอร์​ เราย่อมสามารถกลายเป็นคนดังระดับโลกเป็นบุคคลสำคัญระดับโลกได้​ และ​ อันดับสุดท้ายเราย่อมสามารถ​เป็นจอมพรหมเด็กอมตะมนุษย์​หุ่นยนต์​วิญญาณเมล็ด​พันธุ์​แห่ง​ดวงดาว​ที่เป็นเมสสิอาร์บุตรของพระเจ้า​ในตำนานที่เป็นบุคคล​สำคัญระดับจักรวาลที่บริสุทธิ์​โดยทางสายกลาง​ด้วยความรักแท้สากลจักรวาล​ของพระเจ้า​ในห้วงอวกาศ​สากกลจักรวาลด้วยความหลงไหลสูงสุด​ได้ในที่สุด​เองเพียงแค่เราสามารถเป็นจอมมารฤาษีโยคีที่มีพลังจิตสูงสุดในชนบทให้ได้เท่านั้น​​ -​ (1.)โดยเบื้องต้น​จะเป็น​ผู้เป็นจอมมารที่มีพลังอำนาจกิเลส​ตัณหา​ความโกรธ​เกลียดสูงสุด​ในการสามารถสาปแช่ง​ล้างแค้น​กำจัดมารศัตรู​ชีวิต​ได้สิ้นซากอย่างแท้จริง​สูงสุด​โดยไม่รู้สึกว่ามีมารศัตรู​ชีวิต​ให้ต้องสาปแช่ง​ล้างแค้นกำจัดเลยแม้แต่อนุภาคเดียว​ในวินาทีเดียวด้วยฌานสมาบัติ​สูงสุด​ และ​ ญาณ​ทิพย์​สูงสุด​อันหมดจดถึงที่สุด​, ที่จะเป็นฤาษีโยคีมารนอกศาสนา​พ่อมดหมอผีจอมขมังเวทย์​ตัวจริงที่มีการเพ่งกสิณที่มีพลังอำนาจเวทมนตร์​คาถาลึกลับสูงสุ​ดไม่มีใครมีเวทมนตร์​เทียบเท่า​ อันเป็น​ คนดีที่แท้จริง​สูงสุด​(ultimate​ real​ good​ human)​ ของพระเจ้าที่มีพลังจิตสูงสุดอันเป็น​ผู้รู้สูงสุด​(ฤาษีโยคีที่แท้จริง​สูงสุด​ผู้​รู้แจ้ง​เห็นจริงด้วยสติปัญญา​ญาณ​อันหมดจดถึงที่สุด​)​ หรือ​ คนดีสายกลาง​(middle​ good human)​ ที่เป็นสภาวะกึ่งคนดีกึ่งคนชั่วที่จะว่าคนดีก็ไม่ใช่​ และ​ คนชั่ว​ก็ไม่ใช่ที่เหนือคนดี และ​ คนชั่ว​ที่แบ่งแยก​แตกต่าง​ตรงกันข้าม​กัน​อย่าง​ชัดเจน​สุดโต่งนั้น,​อันเป็น​ผู้สามารถ​พ้นทุกข์ไม่เจ็บได้อย่างแท้จริง​สูงสุดโดยทางสายกลาง​เหนือหมู่มารชาวบ้านทั่วไป​ส่ว​นใหญ่ในดินแดน​เฉพาะชนบทนรกมายาบนดิน​ ที่สามารถเล่นเกม​ส์แสดง​ละครชีวิต​มายาในความฝัน​มายาเสมือน​จริง​ไปตามแผนการ​ของพระเจ้าด้วยบทบาท​เจ้าที่จ้าวดินแดนตัวจริง​ที่ทำสงครามต่อสู้​สาปแช่ง​ล้างแค้น​กำจัดสังหารฆ่าล้างโครตหมู่มารศัตรู​ชีวิต​ที่เป็นมารที่สกปรก​ทุกข์​เจ็บ​ปวดทรมานชั่วร้ายสมควรตายที่เป็นฝ่ายอธรรมอยู่ฝ่ายศัตรู​ของพระเจ้าที่ไม่ได้รักไม่สนใจพระเจ้าแต่​อย่างใดเลย​ที่ไม่เชื่อพระเจ้า​แล้วแถมยังลบหลู่​ดูหมิ่นศักดิ์​ศรีสูงสุด​แห่งความเป็นคนดีที่แท้จริง​สูงสุด​ของพระเจ้า​นั้นด้วยความโกรธ​เกลียดอาฆาตแค้น​พยาบาทจองเวรอย่างสูงสุด​ให้ตายอย่างสยดสยองให้สิ้นซากได้ด้วยพลังจิตสายกลางที่ลึกลับ​เหนือประสาทสัมผัสของความดีสายกลางของพระเจ้า​ที่ไม่มีความชั่วร้ายใดๆต่อสู้เอาชนะ​ได้นั้น -​ (2.)โดยท่ามกลาง​จะเป็น​ผู้​เป็นจอมเทพที่มีพลังอำนาจกิเลส​ตัณหา​ความโลภรักสูงสุด​ในการสามารถอวยพรช่วยเหลือตอบแทน​รักเทพมิตร​ชีวิต​ได้หมดสิ้นอย่างแท้จริง​สูงสุด​โดยไม่รู้สึกว่ามีเทพมิตรชีวิต​ให้ต้องอวยพร​ช่วยเหลือตอบแทน​รักเลยแม้แต่อนุภาคเดียว​ในวินาทีเดียวด้วยฌานสมาบัติ​สูงสุด​ และ​ ญาณ​ทิพย์​สูงสุด​อันหมดจดถึงที่สุด, ที่จะเป็น สุดยอด​ซูเปอร์​สตาร์​(the​ best​ of​ super​star​)​ สุดยอด​เมล็ด​พัน​ธุ์แห่ง​ดวงดาว​อันดับ​หนึ่ง​ของโลกตัวจริงตลอด​กาลที่อายุเป็นเพียง​ตัวเลข​เท่านั้น​ที่อยู่​เหนือดาราไม่จำเป็นต้องเป็นดารานักร้องก็สามารถ​ดังทะลุโลกทะลุจักรวาล​ยิ่งกว่า​ดารานักร้อง​ระดับซูเปอร์​สตาร์​คนไหนในโลก​ จึงไม่มีดารานักร้อง​คนไหนในโลกเทียบเทียมได้​ อันเป็น​ คนงามที่แท้จริง​สูงสุด(ultimate​ real​ beautiful​ human)​ ​ของพระเจ้าที่มีพลังร่างกาย​สูงสุดอันเป็น​ผู้ตื่นสูงสุด​(เด็ก​วัยรุ่น​ที่แท้จริง​สูงสุด​ผู้ตื่นตัว​สดชื่น​สดใสแข็งแรง​เป็นหนุ่มอมตะมีพลังด้วยความรักแท้สากลอย่างถึงที่สุด​)​ หรือ​ คนงามสายกลาง​(middle​ beautiful human)​ ที่เป็นสภาวะกึ่งคนหล่อกึ่งคนสวยที่จะว่าคนหล่อก็ไม่ใช่​ และ​ คนสวย​ก็ไม่ใช่ที่เหนือคนหล่อ และ​ คนสวยที่แบ่งแยก​แตกต่าง​ตรงกันข้าม​กัน​อย่าง​ชัดเจน​สุดโต่งจึงเป็น​ความงามสายกลางของพระเจ้าที่สามารถ​ทั้งหล่อทั้งสวยได้สูงสุด​พร้อมกันในคนเดียว​กันที่ไม่ได้ทำให้เกิดความรู้สึก​แบ่งแยกแตกต่าง​ทางเพศวัยเชื้อชาติ​ภาษาดวงดาวแบบความหล่อของผู้ชาย​ และ​ความสวยของผู้หญิงในโลกนั้น, ในรูปลักษณ์​ของเด็กวัยรุ่น​ลูกครึ่งนิวเจนที่ไม่ระบุเพศวัยเชื้อชาติ​ภาษาดวงดาวที่งดงามสายกลาง​ด้วยความรักแท้สากลจักรวาล​สูงสุ​ดของพระเจ้าที่เป็นความรักแท้ของจริงที่มาจากภายในที่สุดของจิตใจของเราเองของตัวเราเองล้วนๆ​นั้นที่สามารถ​ปิติสุขเสียวสดชื่นตื่นตัวซาบซ่านสว่างสุกใสสดใสใหม่สดมีชีวิตชีวาได้ถึงขีดสุด​อันเป็น​ผู้สามารถ​ได้ปิติสุขเป็นหนุ่มงดงามอมตะเหนืออายุวัยกาลเวลา​ในโลกที่จะไม่แก่ได้อย่างแท้จริ​งสูงสุดโดยทางสายกลางด้วยความงามสายกลาง​ด้วยความรักแท้สากลจักรวาลสูงสุด​ของพระเจ้า​เหนือหมู่เทพคนต่างด้าวชาวโลกทั่วไป​ส่วนใหญ่​ในดินแดนสากล​มหานครสวรรค์​บนดินที่สามารถ​เป็น​หนุ่มอมตะมีอายุยืนยาว​มหาศาลเหนือโลก​ ที่เล่นเกม​ส์แสดง​ละครชีวิต​มายาในความฝัน​มายาเสมือน​จริง​ไปตามแผนการ​ของพระเจ้าด้วยบทบาทเป็นจ้าวโลกบุคคล​สำคัญระดับโลก​อันดับหนึ่งของโลกที่สามารถ​ส่องแสง​ความงามสายกลางของพระเจ้า​อย่างเปิดเผยสากลด้วยพลังร่างกาย​สายกลางสากลที่เปิดเผยเป็นสากลสาธารณะ​เพื่ออวยพรช่วยเหลือ​ตอบแทน​รักมหาชนเทพมิตรชีวิตที่ปิติสุขด้วยความรักโลภห่วงใยเมตตากรุณา​ด้วยน้ำใสใจจริงอย่างสูงสุด​โดยไม่หวังผล​ตอบแทน​ใดๆเลยนั้นให้หายเศร้าหมอง​ได้ด้วยความเป็นคนงามสายกลางของพระเจ้า​ที่งามอมตะเหนือกาลเวลา​ที่ไม่มีคนงามใดจะดูแล้วถูกใจใช่เลยลงตัวพอเหมาะ​พอดีไม่ขาดไม่เกินไปกว่านี้ได้นั้น -​ (3.)โดยเบื้องปลาย​จะเป็น​จอมพรหมที่มีพลังอำนาจกิเลส​ตัณหา​ความหลงไหลสูงสุด​ในการสามารถประกาศ​สัจธรรม​ช่วยเหลือ​ตอบแทน​บุญคุณ​พรหมผู้มีพระคุณ​ทางชีวิต​ได้หมดสิ้นอย่างแท้จริง​สูงสุด​โดยไม่รู้สึกว่ามีพรหมผู้มีพระคุณ​ทางชีวิตให้ต้องประกาศ​สัจธรรม​ช่วยเหลือ​ตอบแทนบุญคุณ​เลยแม้แต่อนุภาคเดียว​ในวินาทีเดียวด้วยฌานสมาบัติ​สูงสุด​ และ​ ญาณ​ทิพย์​สูงสุด​อันหมดจดถึงที่สุด, อันเป็นเมสสิอาร์บุตรของพระเจ้า​ในตำนานตัวจริงเพียงคนเดียว​ที่จะเป็น​สุดยอด​มหาศาสดาแห่งจักรวาล​อันดับหนึ่งของจักรวาล​ ผู้มีผลงานสำคัญที่สุดระดับจักรวาล​ คือ​ การค้นพบวิชาโยคะสายกลาง​สุดยอดแห่งศาสตร์​ความรู้สากลจักรวาล​ที่ไม่มีศาสตร์​ความรู้ใดยิ่งกว่า​นั้นเป็นคนแรก​ และ​ คนเดียว​ในโลกในจักรวาลด้วยอัจฉริยะ​ภาพที่มาจากวิวรณ์การเปิดเผยของพระเจ้า​ที่ไม่มีใครเทียบเท่าได้​ อันเป็น​ คนอมตะที่แท้จริง​สูงสุด(ultimate​ real​ immortal​ human)​ ​ของพระเจ้าที่มีพลัง​ชีวิตสูงสุดอันเป็น​ผู้เบิกบานสูงสุด​(เด็กน้อย​ของ​พระเจ้าเด็กน้อยที่แท้จริง​สูงสุด​ผู้เบิกบานมีความสุขบริสุทธิ์มีชีวิต​อมตะด้วยความรักแท้​สากล​จักรวาล​อย่างถึงที่สุด​)​ หรือ​ คนอมตะสายกลาง​(middle​ immortal human)​ ที่เป็นเด็กน้อย​ของ​พระเจ้าอันเป็น​สภาวะกึ่งคนจริงกึ่งคนมายาที่จะว่าคนจริงๆที่มีสาระน่าเชื่อถือ​ก็ไม่ใช่​ และ​ คนมายาคนเล่นๆที่ไร้สาระไม่น่าเชื่อ​ถือก็ไม่ใช่ที่เหนือคนจริง และ​ คนมายาที่แบ่งแยก​แตกต่าง​ตรงกันข้าม​กัน​อย่าง​ชัดเจน​สุดโต่งนั้น, อันเป็นเด็กน้อย​ของ​พระเจ้าเด็กอมตะมนุษย์​หุ่นยนต์วิญญาณเมล็ด​พันธุ์​แห่งดวงดาว​ของพระจันทร์​สี​เงิน​ผู้สามารถสุขสงบ​เป็น​อมตะไม่ตาย-ไม่เกิดได้อย่างแท้จริง​สูงสุดโดยทางสายกลาง​เหนือหมู่พรหมมนุษย์​ต่างดาว​ชาวจักรวาล​ทั่วไป​ส่วนใหญ่ในดินแดน​สากลจักรวาลพรหมโลก​สวรรค์​มายาเหนือโลก​ ที่เล่นเกม​ส์แสดง​ละครชีวิต​มายาในความฝัน​มายาเสมือน​จริง​ไปตามแผนการ​ของพระเจ้าด้วยบทบาทเป็นจ้าวจักรวาลบุคคล​สำคัญระดับจักรวาล​อันดับหนึ่ง​ของจักรวาลที่เป็นเด็กอมตะมนุษย์​หุ่นยนต์วิญญาณเมล็ด​พันธุ์​แห่งดวงดาวที่สามารถ​ประกาศ​ข่าวสารสัจธรรม​ความแท้จริ​งสูงสุด​สายกลางของพระเจ้าอันเป็น​ความรักแท้​สากล​จักรวาล​สูงสุดด้วยพลังชีวิตอันเป็นสายกลางสากลจักรวาล​นั้นเพื่อประกาศ​สัจธรรม​ช่วยเหลือ​ตอบแทนบุญคุณ​มหาชนชาวจักรวาล​ผู้มีพระคุณ​ทางชีวิตที่สุขสงบด้วยความหลงไหลต้องการเป็นอมตะนิรันดร์​ในจักรวาล​อย่างสูงสุดนั้นให้รอดพ้น​จากความแปรปรวน​เกิด​ แก่​ ​เจ็บ​ ตาย​ได้ด้วยสัจธรรม​ความแท้จริง​สูงสุด​สายกลางของพระเจ้า​ที่ไม่อาจมีความจริงใดเป็นอมตะนิรันดร์​ยิ่งกว่าได้นั้น -​ อันเป็น​ สุดยอดราชาแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่​เกรียงไกร​(the​ ​best​ of great gene​​​​​ral king)​ ของนักรบแห่งแสงสว่างเมล็ด​พันธุ์​แห่ง​ดวงดาวของพระจันทร์​สี​เงิน​ ผู้กล้าหาญ​ไม่กลัวความตายอย่างสิ้นเชิง​สามารถ​เอาชนะได้ทุกอย่างไม่มีทางแพ้ใครอะไรสิ่งใด​ด้วยสามารถเอาชนะจิตความคิด​ปรุงแต่ง​อันเป็น​ศัตรู​คู่ต่อสู้​ที่แท้จริง​สูงสุด​ได้อย่างสูงสุด​มาแล้วนั้น อันเป็น​ผู้เชี่ยวชาญ​ในการรบทำสงครามต่อสู้​ที่สามารถกำจัดสังหารฆ่ากองทัพ​ข้าศึก​ศัตรู​มหาศาลทั่วจักรวาล​ได้อย่างสิ้นซากอย่างที่สุดได้อย่างชาญฉลาด​ที่สุดด้วยฌานสมาบัติ​ และ​ ญานทิพย์​ระดับสูงสุดอันจะเป็นศราสตราวุธ​อาวุธที่มีพลังอำนาจสูงสุด​นั้นจนสามารถพลิกเปลี่ยน​สนามรบให้เป็นสนามรัก อันจะกลายเป็น​เจ้าชายแห่งสันติบุตรของพระเจ้า​ทูตสวรรค์​สากลจักรวาลในสายตาชาวโลก​ชาวจักรวาล​ ที่จะเป็น​ผู้พร้อมรับบัลลังก์​วิวัฒนาการ​กลายเป็น​ราชาจ้าวจักรวาล​สูงสุด​ หรือ​ พระเจ้า​ที่คู่ควรกับความรวยระดับร้อยล้านพัน​ล้านขึ้นไป​ความโด่งดัง​ระดับโลกระดับจักรวาล​ในระดับมหาเศรษฐี​อินเตอร์มหาราช​จักรวาล​ ​​- อันเป็น​ สุดยอด​ซุปเปอร์​ฮีโร่​(the​ best​ ​of​ super​ hero)​ ซุปเปอร์​แมน​ตัวจริง​ตลอดกาลในรูปของ​ ผู้นำศรัทธา​ใหม่(new fai​th leader)​ ​ของมนุษยชาติ​ผู้สามารถช่วยชีวิต​ช่วยเหลือ​ปลดปล่อย​มหาชนชาวโลกชาวจักรวาลมหาศาล​ให้รอดพ้นจากบาปกำเนิดการเกิด แก่​ เจ็บ​ ​ตายที่เป็นบุตรไม่ดีของพระเจ้าไม่รักพระเจ้ามัวแต่ไปรักสิ่งอื่นมากกว่า​พระเจ้า​ที่เหมือนถูกขับไล่​จากสวนสวรรค์​ของพระเจ้า​นั้นให้พลิกกลายเป็นเทพบุตร​มนุษย์​ผู้มีบุญบุตรที่ดีของพระเจ้าที่รักแต่พระเจ้า​สุดจิตสุดใจที่มีสุขภาพ​ดี​สูงสุด​ที่จะเป็นหนุ่มอมตะมีอายุ​ยืนยาว​มหาศาลเหนือโลกอย่างแท้จริ​งที่เหมือนสามารถกลับคืนสู่สวรรค์​ของพระเจ้า​ได้แทนจึงคู่ควรกับการเป็นบุคคลสำคัญที่โด่งดัง​มีชื่อเสีย​งระดับโลก​ระดับจักรวาล​ -​ อันเป็น​ราชาเทพเจ้า​ผู้ดีงามแท้จริง​สูงสุด​โดยทางสายกลาง​ที่ไม่มีใครอะไรสิ่งใด​ยิ่งกว่า​ อันจะเป็นเทพเจ้า​สากลจักรวาล​ต้นกำเนิดสูงสุด​ที่จะเป็นมนุษย์​ต่างดา​วต่างมิติต้นกำเ​นิด​ หรือ​ พรหมต้นกำเนิดที่มีวิวัฒนาการ​ระดับสูงสุ​ดในจักรวาล​ที่อยู่อาศัย​ในสวรรค์​อันแท้จริง​ชั้น​สูงสุด​นั้น ที่เป็นพระเจ้า​ชีว่าพระเจ้า​พระบิดาอันเป็น​พรหมมันพรหมระดับสูงสุดที่ทรงมีเมตตาอย่างสูงสุด​ต้องการ​โปรดสัตว์โลกให้หลุดพ้นทุกข์จากสังสารวัฏ​จน​นิพพาน​เข้าสู่​พระเจ้าเพื่อมีชีวิต​นิรันดร์​นั้น​ ​โดยกล้ายอมลดตัวลงมา​จำแลงแปลงกายอวตาร​มาเกิดในร่างมนุษย์​ในโลกมนุษย์​เพื่อบำเพ็ญบารมีตามแผนการ​ของพระเจ้า​โดยบำเพ็ญ​เพียร​สร้างบารมี​มาหลายภพหลายชาติ​แล้วชาตินี้เป็นชาติสุดท้า​ยของท่านที่ท่านจะเป็นพระเยซู​ที่ฟื้นคืนชีพ​กลับมาเป็นพระศรีอริยเมตไตรย​พระพุทธเจ้า​องค์​สุดท้ายของกัปป์นี้ ​ที่เมื่อบารมีพร้อมก็สามารถโปรดสัตว์​โลกทั่วจักรวาล​พร้อมเดินทางกลับสู่ห้วงอวกาศสากลจักรวาล​สวรรค์​เหนือโลกตามเดิมได้นั้น)​ที่สามารถ​มีชีวิต​​พลิกไปจากเดิมตลอดกาล​ที่พลิกจากจอมมารฤาษีโยคีมารพ่อมดหมอผีชาวบ้านแก่ๆจนๆที่มีแต่คนเกลียด​ชังรังเกียจ​ดูถูกด่า​สาปแช่งขับไล่ด้วยถูกมองว่าเป็นพ่อมดหมอผีเล่นคุณไสยมนต์​ดำที่เป็นกระเทย​เฒ่าคนบ้าคนเสียสติวิกลจริตปัญญา​อ่อนที่สังคมครอบครัว​ชนบทตราหน้าว่าเป็นคนชั่วคบไม่ได้​ ที่ร่างกาย​สุขภาพ​แย่แก่ชราอายุมากโรคร้ายรุมเร้า​เจ็บ​ป่วยเจ็บปวดทรมานไร้เรี่ยวแรง​จนแทบลุกเดินไปไหนไม่ได้​ ปัญหา​ชีวิต​รุมเร้ามีครอบเฉพาะส่วนตัวในดินแดนเฉพาะส่วนตัวที่ต้องเก็บตัวคนเดียวห้องส่วนตัวในบ้านในชนบทที่พ่อแก่แม่เฒ่าแถมยังเป็นกระเทยเฒ่าแก่ๆจนๆที่​ไม่มีแฟนไม่มีทายาทไม่มีญาติสนิทมิตรสหาย​ที่รักใคร่ให้พึ่งพาได้ที่หากพ่อแม่ตายไปก็ไม่รู้​ว่าจะมีชีวิต​อยู่​ต่อไปได้ยังไง มีคุณภาพชีวิต​แย่ป่วยทำงานหนักไม่ได้ไม่มีเงินไม่มีรายได้​ สิ่งแวดล้อม​รอบตัว​แย่เก่าแก่โบราณ​ไม่เจริญ​ทางวัตถุเทคโนโลยี​ไม่น่าอยู่มีแต่มารร้ายสัตว์นรกศัตรู​ชีวิตโดยทางสายกลาง​ที่ทำให้ทุกข์​เจ็บ​ปวดทรมานตลอดเวลา​ ​จึงแทบไม่อยากทำอะไรอยากตายหายไปจากโลกนี้ จึงง่วงก็นอนได้ทั้งวัน​ทั้ง​คืนจนเบื่อไม่อยากนอีกต่อไป​ ที่จะมีชีวิต​อยู่กับพ่อแม่เพื่อรอวันตายไปวันๆ​เท่านั้น​ จึงมองโลกในแง่ร้าย​มุ่งพ้นทุกข์​เล่นเกม​ส์แสดงละครมายาชีวิตในฝันร้าย​มายาเป็นจอมมารในหมู่มารตามแผนการ​ของพระเจ้า​ที่จะมุ่งสาปแช่ง​กำจัดมารศัตรู​ชีวิต​ด้วยความโกรธเกลียด​ในชนบทดินแดนนรกมายาบนดินที่ต้องโกรธ​เกลียดสูงสุด​จนอยากฆ่าทุกอย่าง​ที่ขวาง​หน้าจนใช้ชีวิต​ในสังคมไม่ได้อีกต่อไป​ต้องขังตัวเอง​เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง​ลำพังตลอด​เวลา, แต่ด้วยวิสัยทัศน์​การเข้าใจมองเห็น​ภาพรวมทั้งหมด​ตลอดสายอดีต​-ปัจจุบัน​-อนาคตของแผนการของพระเจ้าจึงฉลาดเลือกที่จะพลิกวิกฤต​ให้เป็น​โอกาส​พลิกความโกรธเกลียด​ให้เป็นพลัง​ "ยอมทุ่มเทมุ่ง​มั่นตั้งใจทำจิตของเรา​ให้มีพลังจิตสูงสุด​พลังสติสูงสุด​ให้ได้ก่อนก็พอ ส่วนร่างกาย​-ชีวิต​-ใจความ​รู้สึกของเรา​มันจะแย่แค่​ไหนยังไง​ก็ช่างหัวมันไปก่อน​ฝากไว้ก่อ​น เดี๋ยว​พอมีพลังจิตสูงสุด​ก็สามารถเอาคืนสามารถ​เนรมิต​ร่างกาย-ชีวิต​-ใจความ​รู้สึก​ใหม่ให้ดีให้สุขแค่​ไหน​ยังไงก็​ได้เอง, อย่าดูถูก​ตัวเอง​ว่าเราเป็นแค่ปุถุชน​คนธรรมดา​ที่มัวเมา​ในกิเลส​ตัณหา​คงไม่สามารถ​มีพลังจิตพลังสติสูงสุดแบบผู้วิเศษ​ฤาษีโยคีนักบวชที่บำเพ็ญ​ตบะปลีกวิเวกในป่าเขาเพราะทุกคนล้วนมีธรรมชาติ​แห่งพระเจ้า​ในตัวเองที่สามารถ​ที่จะกลายเป็น​พระเจ้า​ได้อย่างยุติธรรม​เท่าเทียมกัน​หมดมันขึ้นอยู่กับ​ว่าเราจะทำ​ หรือ​ ไม่ทำเท่านั้น​เอง, ใครๆก็สามารถ​เป็นพระเจ้า​ได้ทุกคนถ้าเขาอยากจะเป็น​ ยิ่งถ้าเราอยู่ในร่างปุถุชนที่มัวเมา​ในกิเลส​ตัณหา​แต่ยังสามารถมีพลัง​จิตสูงสุด​พลังสติสูงสุด​ได้โดยทางสายกลาง​นั้นเราก็สมควรจะเป็นสุดยอดฤาษีโยคีที่อยู่เหนือฤาษีโยคีไม่จำเป็น​ต้องเป็นฤาษี​โยคีที่แค่กดกิเลสตัณหา​เอาไว้ชั่วคราวในทางธรรมแต่พอมาอยู่ทางโลกก็จะมีกิเลส​ตัณหา​เหมือน​เดิม​อันเป็นการสร้างความแบ่งแยก​สุดโต่งระหว่างทางโลก​ และ​ ทางธรรม​นั้นอีกต่อไป​, เพียงแค่​เราเดินบนทางสายกลาง​จนสามารถ​เอาชนะสงครามชีวิตการเกิด แก่​ เจ็บ​ ตายของเราอันเป็น​ความทุกข์​เจ็บปวดทรมานจนทนไม่ไหว​จนขาดใจตายของร่างกายของเราอันเกิดจากความง่วงจนทนไม่ไหวหมดสติหลับไหลอันเกิดจากความเครียด​วิตกกังวล​คิดมาก​กับ​สิ่ง​ต่าง​ๆ​ของจิตความคิดปรุงแต่งมายา​ของเราให้ได้ด้วยพลังจิตสูงสุด​พลังสติสูงสุด​ของพระเจ้า​แล้วเราจะสามารถ​เอาชนะได้ทุกอย่าง​ ไม่ต้องกลัวสงครามล้างโลก, สงครามล้างจักรวาล, สงครามไหนๆอีกต่อไป​..."  จึงฉลาดเลือกที่จะทำครามต่อสู้​กำจัดมารโดยทางสายกลาง​ โดยกล้ายอมเป็นหนึ่งเดียวกับศัตรู​ซาตาน​มารสัตว์​นรกอย่างสูงสุดโดยทางสายกลาง​เพื่อให้กลายเป็น​ซาตานราชาจ้าวแห่งนรกจนสามารถมีพลังอำนาจกำจัดศัตรู​มารสัตว์​นรกสิ้นซากได้โดยทางสายกลาง​จนสามารถ​พลิกเป็นจอมเทพจ้าวแห่งสวรรค์ในมหานครพลิกเปลี่ยน​จากความโกรธ​เกลียด​เป็น​ความโลภรักพลิกเปลี่ยน​สนามรบให้เป็น​สนามรักพลิกเป็น​จอมพรหมจ้าวแห่งพรหมโลกในสากลจักรวาล​ได้ในที่สุด​ จึงฉลาด​เลือก​ที่จะแกล้งยอมแพ้​ถอยไปตั้งหลักแค่ในช่วงแรกๆ​ก่อน​ ​กล้ายอมย้อนกลับ​ไปใช้ชีวิต​ร่วมกับมารโดยทางสายกลาง​โดยการใช้ชีวิต​แบบครอบครัว​สายกลาง​ในบ้านสายกลางห้องสายกลาง​(ของบ้านสุดโต่ง)​อันจะเป็นถ้ำฤาษีที่เป็นถ้ำที่ลึกลับ​มืดมิดเป็นกลาง​คืนตลอด​เวลา(ด้วยเป็นห้องมืดที่ปิดทึบปิดหน้าต่างตลอดเวลา​ไม่มีแสงจากภายนอกห้องเข้ามาได้เลย)​ ที่จะเป็นสปายสายลับซ่อนตัว​แฝงตัวลึกลับในหมู่มารชาวบ้านในชนบทในดินแดนของจอมมารที่ไม่มีการเคารพนับถือ​พระเจ้า​เพื่อสืบล้วงความลับ​สูงสุดของ​การพ้นทุกข์​สูงสุ​ดทางจิตของจอมมารผู้ต่อต้านพระเจ้า​ที่เป็นศัตรู​คนสำคัญที่สุดของพระเจ้า​นั้น จึงกล้ายอมมุ่งใช้ชีวิตเป็นฤาษี​โยคีมารพ่อมดหมอผีจอมขมัง​เวทย์​จอมมารที่โหดเหี้ยม​สูงสุด​สามารถพ้นทุกข์​สูงสุ​ดเป็น ฤาษี​ตาไฟ(fire eye hermit)​ ในตำนาน(ซึ่ง​เป็น​ร่างจำแลงของพระศิวะ​นั้น)​ที่ใช้ตาสายกลางตาที่สามปิดประตู​นรกจึงเหมือน​กับว่าตาสายกลาง​ตาที่สามนั้นได้แสดงอิทธิฤทธิ์​ปาฏิหาริย์​พ่นไฟบัลลัยกัลป์​ออกมาเผาผลาญทำลายล้างกำจัดฆ่าสังหารมารสัตว์​นรกให้ใหม้เป็น​จุลสูญสลาย​หายไปทันทีด้วยความโกรธ​เกลียด​สูงสุด​ พร้อมกับใช้อาถรรพ์​คุณไสยเวทสูงสุดด้วยพลังจิตสูงสุด​สาปแช่ง​มารสาปมันให้มันกลายเป็น​สัตว์​นรกที่ตายอย่างทุกข์​เจ็บ​ปวด​ทรมาน​ที่สุดในนรกขุมที่ลึกที่สุด​จนสูญสลาย​หายไปกลายเป็น​ความว่างสูงสุด​ที่​สูญสลาย​หายไปอย่างไร้ค่าไร้ความหมายอย่าง​สิ้นเชิง​ไม่น่าสนใจอย่างสิ้นเชิง​ตลอด​กาลที่จะกำจัดสังหารฆ่ามารสัตว์​นรกอย่างโหดเหี้ยม​สูงสุด​ได้สิ้นซากได้สูงสุดอย่างไร้ความปราณีสิ้นเชิง​ด้วยความโกรธ​เกลียด​สูงสุด​นั้น​ ที่มุ่งใช้ชีวิต​ลึกลับปลีกวิเวก​เก็บตัว​พักผ่อน​ทำความดีสายกลางเล่นโยคะสายกลาง​เพ่งกสิณจิตสายกลาง​จิตตัว​รู้​จุดดวงวิญญาณ​อย่างสูงสุด​ชุบตัวชาร์จ​พลังจากพระเจ้า​เสวยสุขวิเศษ​สุขทิพย์​บริสุทธิ์​วิมุติสุข​บรมสุข​จนสามารถ​พ้นทุกข์​สูงสุด​ไม่เจ็บอย่างแท้จริง​สูงสุด​โดยทางสายกลาง​ได้ในที่สุด​นั้นได้พลิกเปลี่ยนจาก​ความโกรธ​เกลียด​เป็น​ความโลภรักพลิกเปลี่ยน​สนามรบให้เป็น​สนามรักพลิกชีวิต​กลายเป็นจอมเทพ​มหาเศรษฐี​ชาวเมืองคนหนุ่ม​ที่ร่ำรวยมีแต่คนรุมรักคนสนใจคลั่งไคล้​ชื่นชม​เคารพบูชา​สรรเสริญยกย่องที่แวดวงสังคมไฮโซอินเตอร์​มหานครระดับโลก​มองว่าเป็นอัจฉริยะบุคคล​เป็นผู้วิเศษ​เป็นคนหล่อคนรวยคนดังระดับอินเตอร์ที่งดงามสายกลาง​ด้วยความรักแท้สากลจักรวาล​ของพระเจ้า​อันเป็นสุดยอด​ไฮโซ​ตัวจริงไฮโซของจริงผู้สมควร​ถูกยก​ย่องให้เป็นคนชั้นสูง​มนุษย์​ชั้นสูงที่ให้คนเคารพนับถือ​ได้อย่างสนิทใจที่สุด ที่จะเป็น​มหาเศรษฐี​อินเตอร์ซุปตาร์​วัยรุ่น​พัน​ล้าน​จอมวัยรุ่น​เทพที่รวยระดับสากลที่ร่างกาย​มีสุขภาพ​ดีปิติสุขสวยงามสดใสแข็งแรง​เป็นหนุ่มอมตะมีอายุยืนยาวมหาศาลเหนือโลก​มีพลังพร้อมเดินทางได้กว้าง​ไกล​ เป็นบุคคลสาธารณะ​ในดินแดนสากลสาธารณะเมืองสายกลาง​สากลมิกส์​ยูส​คอมเพล็กซ์​อันเป็น​โรงแรม​สากลที่เชื่อมต่อกับห้างสรรพสินค้าพลาซ่าสากลเชื่อมต่อกับระบบรถไฟฟ้าสากลในมหานครที่ใช้ชีวิต​อิสระแบบเด็กวัยรุ่นสากลเนตไอดอลที่สามารถ​มีทั้งแฟนทั้งเพื่อนมากมาย​มหาศาล​ทั่วโลก​ในโลกออนไลน์​ด้วยความรักแท้สากลที่จะไม่มีครอบครัวเฉพาะ​ส่วนตัวไม่ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านเรือน​ดินแดนเฉพาะ​ส่วนตัว​อีกต่อไ​ป มีคุณภาพ​ชีวิต​ที่ดีร่ำรวยมีเงินใช้มหาศาลสิ่งแวดล้อม​ดีสวยงามทันสมัยไฮเทคน่าอยู่รอบกายมีแต่เทพบุตรคนดีงาม​ชาวสวรรค์​มิตรชีวิตโดยทางสายกลาง​ที่ทำให้รู้สึกปิติสุขตลอดเวลา​ จึง​พร้อมมีพลัง​อยากทำอะไรมากมายเล่นๆสนุกสบายไปวันๆที่จะมีชีวิต​อยู่เพื่อรอวันฟื้นคืนชีพ​เป็น​อมตะนิรันดร์​เป็นพระเจ้า​ จึงมองโลก​ในแง่​ดี​มุ่งได้ปิติสุขเล่นเกม​ส์แสดงละครมายาชีวิตในฝันดีมายาเป็นจอมเทพในหมู่เทพตามแผนการ​ของพระเจ้าที่จะเป็นเด็กวัยรุ่น​เทพที่ใช้ชีวิตเปิดเผยสากลสาธารณะ​มุ่งอวยพร​ช่วยเหลือ​ปลดปล่อย​เทพมิตร​ชีวิตด้วยความรักโลภในมหานครดินแดน​สวรรค์มายา​บนดินที่มุ่งใช้ชีวิต​เปิดเผย​สากลในโลกออนไลน์​ทำงานเล่นอินเทอร์เน็ตทำสุดยอด​ธุรกิจ​ที่ใช้สินค้า​เป็นตัวเองโดยโปรโมทตัวเองฟรีๆในสื่อสังคมออนไลน์​ให้เป็นซุปเปอร์​สตาร์​เนตไอดอล​ที่ส่องแสง​ความงามสายกลาง​ของเด็กวัยรุ่น​ลูกครึ่ง​นิวเจนที่ไม่ระบุเพศวัยเชื้อชาติ​ภาษาดวงดาวที่งดงามสายกลาง​ด้วยความรักแท้สากลจักรวาล​สูงสุด​ของพระเจ้า​ที่เป็นความรักแท้ของจริงที่มาจากภายในที่สุดของจิตใจของเราเองของตัวเราเองล้วนๆนั้นที่สามารถ​ปิติสุขเสียวสดชื่นตื่นตัวซาบซ่านสว่างสุกใสสดใสใหม่สดมีชีวิตชีวาได้ถึงขีดสุด​ อันเป็นผลจากการเล่นโยคะสายกลาง​อย่างเต็มที่​สูงสุด​ในชนบทมาแล้วนั้นจนสามารถ​ได้ปิติสุขสูงสุ​ดไม่แก่อย่างแท้จริ​งสูงสุดโดยทางสายกลาง​ได้ในที่สุด, ที่จะพลิกจากเดิมอย่างสิ้นเชิง​ไปตลอดกาล​โดยการเล่นโยคะสายกลาง​จนสามารถ​พ้นทุกข์​ไม่เจ็บอย่างแท้จริง​สูงสุดที่​สามาร​ถนิพพาน​หลุดพ้นจากฝันร้าย​มายานรกมายาขุมที่ลึก​ที่สุดพลิกเข้าสู่​พระเจ้า​สวรรค์​อัน​แท้จริง​ชั้น​สูงสุดหนึ่งเดียว​โดยทางสายกลาง​นั้นได้อย่างมั่นคงที่สุดอย่างเชี่ยวชาญ​ชำนาญที่สุด​จนมั่นใจ​สูงสุด​ว่าไม่มีทางตกสวรรค์​ตกสู่นรกมายาขุมที่ลึกที่สุดแล้วหาทางรอดพ้นไม่ได้แบบเดิมๆได้อีกแน่นอนไม่ว่ากรณี​ใด​ๆก็ตาม(ซึ่งอาจรับประกัน​การันตี​ได้จากการยอมเจ็บแต่จบยอมเก็บตัวกักตัวล้างพิษ​เล่นโยคะสายกลาง​เพ่งกสิณจิตสายกลาง​จิตตัว​รู้​จุดดวงวิญญาณ​อย่างสูงสุด​ในห้องสายกลาง​คนเดียว​ลำพังที่จะสามารถ​เข้าฌานพระเจ้า​สมาบัติโลกส่วนตัว​อย่าง​สูงสุด​ของเรา​น้้นให้ได้อย่างน้อยวันละ​ 12 ชั่วโมงขึ้นไป​เป็นอย่างต่ำจนสามารถรู้สึก​สุขกาย-สบายจิต-ชีวิตหมดปัญหา​-บอกลาความ​รู้สึก​ปรุุงแต่​งมายาได้ถึงขีดสุดอย่างง่ายๆรวดเร็ว​นั้นได้อย่างต่อเนื่อ​งอย่างน้อย​ 7​ วัน หรือ​ หนึ่ง​สัปดาห์​ขึ้นไปเป็นอย่างต่ำ​ โดยที่ยังสามารถ​ใช้ชีวิตโดยทางสายกลาง​ได้ตามปกติ​ที่นอนหลับ-กิน​อาหาร-ท่องเที่ยวโดยทางสายกลาง​ที่จะบูชากามโดยทางสายกลาง​ได้เหมือนเดิมไม่จำเป็นต้องทนหลับตา​นั่งสมาธิ​นิ่งๆทั้งวันทั้งคืนแบบการเข้าฌานทั่วไปก็ได้.​ โดยในช่วง​ 1-3 วันแรก​ร่างกาย​จะยังค่อยๆสะสมพลังวิเศษ​ทำให้ร่างกายปิติสุขโยกเยก​โคลงเคลง​สั่นไหวไปมาเหมือนพยายามจะดีดตัวให้ลอยขึ้น​ -​ ในช่วง​ 4-6 วันต่อมาร่างกาย​จะเริ่มสะสมพลังวิเศษมากพอ​จนสุขสงบมั่นคง​สามารถ​เริ่มเหาะลอยตัวเหนือพื้นโลกได้​ และ​ ในช่วง​ 7 วันขึ้นไปจากนั้น​ร่างกาย​จะเริ่มหายตัวได้ที่จะหายตัวเหาะไปที่จุดไหนที่ไหนเวลาไหนมิติไหนก็ได้ที่จะเริ่มแสดงอิทธิฤทธิ์​ปาฏิหาริย์​จากฌานพระเจ้า​สมาบัติ​ที่มีพลังอำนาจสูงสุด​นั้นอย่างมั่นคงอยู่​ตัวได้แล้ว, ซึ่งด้วยพลังอำนาจสูงสุด​ของ​พระเจ้า​สมาบัติ​อันเป็นการทำงานสูงสุด​เพื่อ​การพักผ่อนที่ดีที่สุด​ที่สะสมในตัวเราอย่างน้อยวันละ​ 12 ชั่วโมงขึ้นไป​อย่างต่อเนื่อง​เป็นเวลาอย่างน้อย​ 7 วันขึ้นไปนั้นย่อม​จะทำให้เรา​รู้สึก​เหมือนได้นอนหลับ​พักผ่อน​มาอย่างเต็มที่​สูงสุ​ดในอ้อมกอดแห่งความรักแท้​สากล​จักรวาล​สูงสุด​ของพระเจ้า​ในตถาคต​ครรภ์​ของพระเจ้า​ไม่รู้สึกอยากนอนหลับพักผ่อน​อีกต่อไป​ ที่จะรู้สึก​ว่าร่างกาย​-จิต-ชีวิต​-ใจความรู้สึกของเรา​มีพลังแบบสุดๆจากภายใน​ที่ลึกที่สุด​แล้วจึงมีพลังเต็มที่​พร้อมแล้วที่จะคลอดออกมา​ที่จะเกิดใหม่มีชีวิ​ตใหม่ในดินแดนมหานครที่ไม่มีการหลับไหลอันเป็น​สวรรค์​มายาบนดินนั้นต่อไป, ซึ่ง​เหตุที่ชาวโลกปุถุชน​คนทั่วไปส่วนใหญ่​เหาะเหินเดินอากาศ​ล่องหนหายตัวให้เปิดเผย​เป็นสาธารณะ​ไม่ได้นั้นเพราะปฏิบัติ​ผิดวิธี​เพ่งกสิณไม่ตรงจุดทำให้พลังจิตไม่ถึงขีดสุดได้ที่ต่อให้ทำไปสิบปีก็ยังเหาะไม่ได้​ แต่เพียงแค่ปฏิบัติ​ให้ถูกวิธี​เดินบนทางสายกลาง​​เพ่งกสิณจิตอย่างสูง​สุด​โดยสายกลางทำให้พลังจิตถึงขีดสุด​ได้ง่ายๆทันทีที่เพียง​แค่อดทน​ปฏิบัติ​ไม่กี่วันก็สามารถ​เหาะได้แน่นอน​ "แนวคิดนี้จึงการันตี​ว่าหากคุณเล่นโยคะสายกลางอย่างเต​็มที่อย่างต่อเนื่อง​เป็น​ประจำทุกวันนั้นอย่างเร็ว​ 7 วัน-อย่างกลางๆ​ 7 เดือน​-อย่างช้า​ 7​ ปีคุณจะกลายเป็น​คนใหม่ที่พลิกไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง​ที่จะเปลี่ยนจากคนธรรมดา​ๆทั่วไป​เป็นมนุษย์​ผู้วิเศษ​ที่สามารถ​มีพลัง​วิเศษ​เหาะได้ล่องหนหายตัวได้เหนือคนทั่วไปขึ้นกับว่าคุณเลือกที่จะเป็นคนใจร้อนต้องการสำเร็จผลเร็วๆ​ หรือ​ คนใจเย็นค่อยเป็นค่อยไป​ช้าๆมั่นใจ​กว่าเท่านั้น​เอง..." )​, จึงมั่นใจ​สูงสุด​ว่าจะไม่มีทางอัปยศ​ตกอับกลับมาเป็นชาวบ้านแก่ๆ​จนๆพ่อมดหมอผีฤาษีโยคีมารที่มีแต่คนรังเกียจ​ที่ต้องทนปลีกวิเวกเก็บ​ตัวอยู่แต่ในห้องคนเดียว​ในชนบทอีกแน่นอน​นั้นให้ประจักษ์แก่ชาวโลกชาวจักรวาล​ได้จริง.​ ซึ่ง​จะเป็นการค่อยๆวิวัฒนาการ​พลิกชีวิตจากนรกมายา​ยกระดับ​ชีวิตเข้า​สู่สวรรค์มายาระดับ​ต่างๆในโลกใน​จักรวาล​ในอวกาศ​-เวลาด้วยความหลงไหลในการเล่นเกมส์​แสดงละครชีวิต​มายาในความฝันมายาเสมือน​จริงไปตามแผนการของพระเจ้า​ที่จะทำให้มีชีวิ​ตที่บริสุทธิ์​ละเอียด​เป็นทิพย์​มากขึ้นเพิ่มขึ้น​เรื่อย​ๆทุกวัน​จนสามารถ​กลายเป็น​พระเจ้า​ดวงวิญญาณ​สูงสุด​ หรือ​ ความรักแท้สากล​จักรวาล​สูงสุดความเป็นเอกภาพ​หนึ่งเดียว​ที่แท้จริง​สูงสุดของสรรพสิ่งที่ปราศจาก​มายาแห่งความเกลียดที่หลับไหล​หมดสติในฝันมายาเสมือน​จริง​ด้วยอวิชชา​ความไม่รู้​นั้นสิ้นเชิง​ ​อันเป็นจักรวาล​อันแท้จริง​สูงสุด​​สวรรค์​อันแท้จริง​ชั้น​สูงสุดหนึ่งเดียว​ในรูปของ​แสงอันสว่างจ้า​อย่างแท้จริง​สูงสุด​ของการตื่นรู้ที่แท้จริง​สูงสุด​ที่เป็นปรมาตมันสัจธรรม​ความแท้จริ​งสูงสุด​อมตะธรรมที่สามารถสุขสงบเป็นอมตะนิรันดร์​ไม่ตาย-ไม่เกิดอีกต่อไป​ได้อย่างแท้จริง​สูงสุดโดยทางสายกลาง​ อันเป็น​การมีชีวิตที่ดี​ที่สุด​เท่าที่​จะ​เป็นไปได้​ที่จะมีคุณภาพชีวิต​ที่ดีที่สุดที่มีแต่ความสุข​ที่ดีที่สุด​ล้วนๆอย่างมั่นคง​ที่สุดตลอดกาลโดย​ปราศจาก​ความทุกข์​สิ้นเชิงไม่มีใจความรู้สึ​กมายาสัมพัทธใดๆอีกต่อไปอย่างสิ้นเชิง​, ซึ่งฤาษี​โยคีสายกลาง​สากลจักรวาลเมื่อสามารถเข้าถึงพระเจ้าชาร์จ​พลังวิเศษ​จากพระเจ้า​ได้อย่างเต็มที่​สูงสุด​ได้สำเร็จจากการเล่นโยคะสายกลาง​จนนิพพาน​ได้แล้วนั้นก็จะดำรงทรงขันธ์คงอยู่เหนือโลกเหนือจักรวาลเหนืออวกาศ​-เวลาด้วยพระเจ้า​สมาบัติ​ที่จะเป็น​สภาวะของพระนิพพานอันเป็นหัว​ใจทิพย์​บริสุทธิ์​สูงสุดของพระเจ้า​(ในรูปของอาตมันจุด​ดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์ที่ดับทุกข์กิเลส​ตัณหา​สิ้นเชิงแล้วไม่มีตัวตนปรุงแต่ง​มายาเฉพาะ​ส่วนตัว​สิ้นเชิงแล้ว​ อันเป็น​จิตประภัสสร​ที่รู้แจ้ง​เห็นจริง​สูงสุดที่จะเป็นจุดธาตุรู้สภาพรู้ที่รู้แจ้งสูงสุด​อยู่เฉยๆอยู่​อย่างนั้น​เองเช่นนั้นเองที่ปราศจาก​อารมณ์​ความรู้สึกปรุงแต่ง​มายา​เฉพาะส่วนตัว​ใดๆสิ้นเชิง​ที่​มีพลังอำนาจสูงสุด​สะอาดสูงสุด​ สว่าง​สูงสุด​ สงบสูงสุด​นั้น)​ที่จะเป็นตัวกลาง​ที่สามารถพร้อมเชื่อมโยง​ไปยังพระเจ้า​ได้ฉับพลัน​ทันทีให้กลายเป็น​ความพอใจ​สูงสุด​ด้วยความสุขที่ดีที่สุด​อภิมหาสุขสากลจักรวาลที่แท้จริง​สูงสุด​นั้นไปเรื่อยๆจนกว่าจะ​ บารมีเต็มรอบ(full prestige)​ โดยทางสายกลาง​ตามแผนการของพระเจ้า​ชีว่าพระเจ้า​พระบิดานั้น ที่เราจะทรงสูญญตาวิหารค่อยๆสร้างสมบารมีค่อยๆปรับสมดุลร่างกายอย่างช้าๆค่อยเป็นค่อยไป​อย่างต่อเนื่อง​ให้ร่างกายค่อยๆถอดกายทิพย์​ล่องหนหายตัวไปลู่เข้าใกล้สูญญตาความว่างที่แท้จริง​สูงสุด​ที่ปราศจาก​กาลเวลา​สิ้นเชิง​ที่ปราศจาก​มิติใดๆสิ้นเชิ​งแม้​ 0 มิติก็ไม่มีนั้น​ ซึ่งจะทำให้ร่างกายของเรา​จะค่อยๆถูกชำระให้บริสุทธิ์​อย่างต่อเนื่อง​ยาวนานจนเป็นกายทิพย์​บริสุทธิ์​ที่ละเอียดบริสุทธิ์มากๆเกือบสมบูรณ์​สูงสุด​ในฌานพระเจ้า​สมาบัติ​ที่ได้บริบูรณ์​อย่างสูงสุด​แล้วจนทำให้ชีวิต​มายาในจักรวาล​สามารถมีบุญญา​บารมีวิวัฒนาการ​สูงสุด​จนลู่เข้าใกล้ขีดสุดที่สวรรค์​มายาอรูปพรหมชั้นละเอียด​ชั้นสูงสุดด้วยอรูปฌานสูงสุด​เนวสัญญานาสัญญา​ยตนะนั้น(ที่ว่างเปล่า​คล้ายกับสูญญตามากที่สุดแล้ว)ลู่​เข้าใกล้ขีดสุดใกล้สุดขอบจักรวาลที่จุดสุดท้ายปลายการเดินทางชีวิตมายาในห้วงอวกาศ​อันว่างเปล่า​เวิ้งว้าง​กว้างใหญ่กว้างไกลด้วยการเป็นเด็กน้อย​ของ​พระเจ้าเด็กอมตะมนุษย์​หุ่นยนต์วิญญาณเมล็ด​พันธุ์​แห่งดวงดาวของพระจันทร์​สี​เงิน​ที่ใช้ชีวิต​ในโลกสายกลางสากลจักรวาล​อันเป็น​ยานอวกาศ​ยูเอฟโอของหมู่พรหมมนุษย์​ต่างดาว​ต่างมิตินั้นในจักรวาล​เปลือกมายานั้น​ ที่จะรู้สึกว่าได้เดินทางท่องเที่ยว​อย่างเต็มอิ่มคุ้มค่า​ที่สุด​มาทั่วจักรวาลในทุกมิติ​จนเกือบสุดขอบจักรวาล​ที่ไปไหนอีกต่อไป​ไม่ได้​แล้ว​นั้นจึงพอใจอย่างสูงสุด​แล้วเที่ยวจนเบื่อแล้วไม่ต้องการเดินทางท่องเที่ยว​ในจักรวาลเปลือกมายา​อีกต่อไป​แล้ว​ จึงพร้อมที่กลับสู่ต้นกำเนิดสูงสุด​พักผ่อนอย่างสุขสงบแท้จริง​สูงสุด​​ที่มีแต่ความสุขสูงสุด​ล้วนๆหนึ่งเดียว​ที่ปราศจาก​ความทุกข์​สิ้นเชิงตลอดกาล ที่จะออกจากฌานจิตหนึ่งสมบัติที่บริบูรณ์​สูงสุดแล้ว​ทำอะไรไม่ได้​อีกต่อไป​แล้วในอรูปพรหม​สูงสุด​นั้นก่อน​แล้วให้ย้อนกลับจากสูงสุด​สู่สามัญ​ย้อนกลับมาชำเลืองดูที่ร่างกาย​ของเรา​ในระดับสามัญ​สำนึกธรรมดาๆทั่วไปที่เราเคยชินในระดับสามัญ​สำนึกธรรมดา​ๆที่มีจิตความคิดปรุงแต่ง​มายา(​เพื่อย้อนกลับ​มาใช้จิตความคิดปรุงแต่ง​มายาให้กำจัดตัวมันเองสิ้นซากสูงสุด​ในครั้งสุดท้าย​เพราะกำจัดมันในภวังค์​ในฌานพระเจ้า​สมาบัติ​ไม่ได้นั้น)​ในยานอวกาศในสวรรค์​มายาระดับรูปพรหมของเหล่าพรหมมนุษย์​ต่างดาวต่างมิติ​ที่มีรูปมีร่างกายด้วยรูปฌาน​อยู่​นั้นโดยทางสายกลาง​เพื่อดับขันธ์​โดยทางสายกลาง(เมื่อฌาน​พระเจ้า​สมาบัติบริบูรณ์​อย่างสูง​สุด​แล้วแสดงว่า​บารมีเต็มรอบแล้วการดับขันธ์กองทุกข์​ทั้งหมด​จะเกิดขึ้น​เองอัตโนมัติโดยทางสายกลางอย่างง่ายๆรวดเร็ว​ฉับพลั​นทันที​โดยไม่ต้อง​มีการทำอะไรยุ่งยาก​ลำบากเลย)​ที่จะทำการปิดประตู​นรกครั้งสุดท้า​ยดับร่างกาย​ชัตดาวน์​ปิดสวิตช์​ร่างกายที่ปุ่มจุดตาสายกลางจุดตาที่สามอย่างสูง​สุด​อย่างรวดเร็ว​ฉับพลัน​ทันที​เตรียม​พร้อมรวมพลังจิต​ทั้งหมด​ตั้งสติสูงสุ​ดรอไว้ก่อนที่จุดตาสายกลางจุดตาที่สามบริเวณ​ภายในจุดกึ่งกลางหน้าผาก​ระหว่าง​คิ้ว​นี้จนร่างกาย​กลายเป็น​สูญญตาอย่างสมบูรณ์​สูงสุด​พร้อมแล้วจึงเกิดการเหนี่ยวนำน้อมนำให้จิตเดินจิตบนทางสายกลาง​ครั้งสุดท้ายตามไปด้วยเองอัตโนมัติ​ ที่จิตจะให้จิตสนใจชำเลืองดูจิตภายใน​ที่ลึกที่สุดแก่นแท้​สูงสุด​ของจิตเอง(อันเป็น​พระเจ้า​นั้น)​ด้วยผัสสะ​บริสุทธิ์​สูงสุดนั้นตามไปด้วย​เองอัตโนมัติ​ที่จะทำให้จิตตัว​รู้​เพ่งกสิณมุ่งเป้าโฟกัสสนใจ​เพ่งรู้แต่ตัวจิตตัว​รู้​เองล้วนๆเพียงจิตตัว​รู้​เดียว​เท่านั้นอย่างรุนแรง​รวดเร็ว​ฉับพลันทันทีเองอัตโนมัติ​ ที่จะเปิดประตู​สวรรค์อย่างแท้จริง​สูงสุดดับจิตชัตดาวน์​ปิดสวิตช์​จิตอย่างสมบูรณ์​สูงสุดครั้งสุดท้าย​ที่ปุ่มจิตสายกลางจิตตัวรู้เพื่อชำระจิตให้บริสุทธิ์​สูงสุด​ในครั้งสุดท้าย​ของชีวิตมายาในฝันมายาเสมือนจริง​เพื่อที่จะ​ ฟื้นคืนชีพมีชีวิต​นิรันดร์​โดยการดับขันธ์ปริ​นิพพาน(forever life​resurrect by​ total extinction)​ ที่จะปรินิพพาน​ดับขันธ์​ดับทุกข์​สิ้นเชิง​ดับสนิทโดยรอบทั้งองค์​รวมเพื่อการน้อมจิตเปลื้องจิตถอดจิตทิพย์​พลิกจิตกระโดด​แผล็บ​เดียวโดยไม่กินเวลาใดๆทั้งสิ้นแม้แต่วินาที​เดียว​นั้นเพื่อล่องหนหายตัวแทรกตัวเข้าสู่​พระเจ้า​เพราะบารมีเต็มรอบแล้วกายพร้อม-จิตพร้อม​-ชีวิตพร้อม-ใจความรู้​สึกพร้อมอย่างเต็มที่​สูงสุด​แล้วจึงสามารถปิดสวิตช์​ชีวิต​ และ​ ปิดสวิตช์​ใจความรู้สึก​ได้อย่างฉับพลัน​ทันที​ตามไปด้วย​เองอัตโนมัติ​ ที่จะ​ฟื้นคืนชีพ​มีชีวิ​ตนิรันดร์ตื่นรู้อย่างแท้จริง​สูงสุดในจุด-ปัจจุบัน​ที่แท้จริง​สูงสุด​อันเป็นจุดหนึ่งอันไร้ขอบเขต​ขีดจำกัดใดๆสิ้นเชิง​อันเป็น​จุดศูนย์กลาง​สูงสุด​ศูนย์​รวมพลังงานทั้งหมด​ของจักรวาลอัน​สูงสุด​อันเป็น​จุดสมดุลหยุดนิ่งมั่นคงปกติ​อย่างแท้จริง​สูงสุดตลอดกาลที่เป็นจะองค์​รวมเอกภาพความเป็นหนึ่งเดียวที่แท้จริง​สูงสุดของสรรพสิ่ง​ ​ที่จะกลาย​เป็นพระเจ้าชีว่าพระเจ้า​พระบิดา​อย่างสมบูรณ์แบบ​สูงสุด​ตลอดไปที่จะไม่มีโลกนี้โลกหน้าโลกไหนๆอีกต่อไปรอดพ้นจากนรกมายาขุมที่ลึกที่สุดที่มีแต่ความทุกข์​ที่แท้จริง​สูงสุด​นั้นอย่าง​สิ้นเชิงที่จะรู้สึก​ว่าเวลาทั้งหมด​หยุดเดิน-โลกทุกโลกหยุดหมุน-จักรวาลทั้งปวง​หยุดเคลื่อนไหว​สิ่งมายาต่างๆสูญสลายหายไปสิ้นเชิง​อย่างฉับพลัน​ทันทีตลอดกาล​ ที่จะรู้สึก​ว่า​สามารถรู้สึก​สุขกาย-สบายจิต-ชีวิ​ตหมดปัญหา​-บอกลาใจความรู้สึกปรุงแต่ง​​มายา​ได้ถึงขีดสุดโดยจะรู้สึกว่าไม่มีร่างกาย​(ไม่มีอะไรสิ่งใด​ให้ต้องดู)​-ไม่มีจิต(ไม่มีอะไรสิ่งใดให้ต้องคิด)-ไม่มีชีวิต(ไม่มีอะไรสิ่งใด​ให้ต้องทำ)-ไม่มีใจความรู้สึก​(ไม่มีอะไรสิ่งใด​ให้ต้องรู้สึก​)อีกต่อไปอย่างสิ้นเชิง​อย่างแท้จริงสูงสุด​​ตลอดกาล ที่จะเป็​น​การแปรพักตร์​อพยพย้ายหนีสู่ฝ่ายพระเจ้า​ได้สำเร็จอย่างสมบู​รณ์สูงสุด​กลับคืนสู่ความเป็นตัวเราที่แท้จริง​สูงสุด​ หรือ​ มิติที่แท้จริง​สูงสุด​ของ​ตัวเร​านั้นเหมือน​เดิมตามปกติ​อีกครั้ง(สุดท้าย​แล้วก็ไม่มี​ใครอะไรสิ่งใดที่สามารถ​ดำรงคงอยู่​ร่วมกับเราไปตลอดกาล​ได้นอกจาก​ตัวเราที่แท้จริง​สูงสุด​อันเป็นพระเจ้า​นั้นนั่นเอง)​ที่จะเป็นพระเจ้าดวงวิญญาณสูงสุด​ซุปเปอร์​จิตพระจันทร์​สี​เงิน​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​ที่แท้จริง​สูงสุด​อันเป็น​ชีว่าพระเจ้า​พระบิดาพระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นเทพเจ้า​สูงสุด​เทพเจ้า​สากลจักรวาลสูงสุด​อันเป็นสิ่งสูงสุด​ความเป็นที่หนึ่งสูงสุด​ตลอดกาลที่ปราศจาก​ตัวตนมายาเฉพาะส่วนตัวสิ้นเชิง​​นั้นในที่สุดได้ด้วยการเล่นโยคะสายกลาง​นี้เพียงอย่าง​เดียว​เท่านั้น​... 

 

 

 

 

 

 

 

"เราต้องพยายาม​รู้สึก​อยู่​เสมอ​ให้ได้ว่าตัวเราอันเป็น​จิตสายกลาง​จิตตัว​รู้​จุดดวงวิญญาณ​นั้นกำลังอยู่แต่ในโลกหน้า​มิติแก่นแท้​สูงสุด​ของจิตล้วนๆอันเป็น​พระเจ้า​ล้วนๆนั้นตลอดเวลาตลอด​กาลเรียบร้อย​แล้ว​ตาม​ธรรมชาติ​ ไม่เคย​ และ​ ไม่อาจที่จะสามารถ​ออกไปอยู่นอกรัศมี​ขอบเขตแสงอันสว่างจ้า​สูงสุด​อันไร้ขอบเขต​ขีดจำกัดสิ้นเชิง​ของพระจันทร์​สี​เงิน​อันเป็น​พระเจ้าอันเป็น​อ้อมกอดของพระเจ้า​ด้วยความรักแท้สากลจักรวาล​สูงสุด​นั้น​ไปได้เลยไม่ว่ากรณีใดๆก็ตาม​ ที่จะทำให้เราสามารถ​รู้สึก​ปลอดภัยได้​สูงสุด​ จนสามารถ​รู้สึก​รุ่งเรือง​ได้สูงสุด​ และ​ รู้สึก​มั่นคงได้สูงสุด​ได้เองอัตโนมัติ​ในที่สุด, เอาตัวเราให้รอด​อย่างสูง​สุด​ให้ได้ก่อนก็พอ​ ให้รู้สึก​ว่า​มีแต่ตัวเราล้วนๆเพียง​ตัวเราเดียว​เท่านั้น​มีแต่จิตล้วน​ๆ​เพียง​จิต​เดียว​เท่านั้นสภาพรู้ล้วนๆเพียง​สภาพรู้เดียว​เท่านั้นการมีอยู่ดำรงอยู่ล้วนๆเพียงการมีอยู่ดำรงอยู่เดียว​เท่านั้น​​ความสุขล้วนๆเพียง​ความสุขเดียวเท่านั้น​ตลอด​กาล​จนเรารู้สึก​ว่าสะอาดปลอดภัย​สูงสุด​กำจัดมารศัตรูชีวิต​อย่างสูงสุด​ ​แล้วเราก็จะสามารถช่วยเหลือผู้อื่นเทพมิตรชีวิต​ และ​ พรหมผู้มีพระคุณ​ทางชีวิต​ให้รอดตามอย่างสูง​สุด​ตามเราได้เองอัตโนมัติ​ ที่จะพลิกเปลี่ยน​สนามรบ​ให้เป็น​สนามรักพลิกเปลี่ยน​ให้เรารู้สึกสว่างรุ่งเรือง​สูงสุด​ และ​ สงบมั่นคง​สูงสุดต่อไปในอนาคตแน่นอน​..."

 

 

 

 

 

 

 

4.)บทสรุป​รวมของ​โยคะสายกลาง​ 

    วิชาโยคะสายกลาง​นั้นสามารถ​สรุปรวมย่อสั้นๆได้ในรูปของสติปัญญาญาณทิพย์​สายกลาง​อันหมดจดถึงที่สุดที่จะเป็น​ประโยคภาษามาสเตอร์คีย์ที่ใช้โปรแกรมจิตด้วยจิตวิทยาสื่อประสาทขั้นสูงสุด หรือ สุดยอด​คาถาเวทมนตร์​ที่สำคัญ 3 อย่าง​(ที่จะช่วยปรับสมดุลจิตให้สามารถ​สมดุลหยุดนิ่งสงบนิ่งสูงสุดจน​จิตหยุดเสียสมดุลจิตหยุดดิ้นรน​เคลื่อนไหว​เครียดฟุ้งซ่าน​ขาดสติ​วิตกกังวล​คิดมาก​กับ​สิ่ง​ต่าง​ๆได้อย่างฉับพลัน​ทันที​เองอัตโนมัติ​)​ คือ

(1.)คาถาของจอมมาร : สุดยอด​คาถาสมถะสูงสุดด้วยความโกรธ​เกลียด(ผลักออกอยากพ้นทุกข์​)​สูงสุดโดยทางสายกลางที่มองโลกนี้ในแง่ร้าย​สูงสุด​(อันเป็น​การเล่นโยคะสายกลางการเพ่งกสิณจิตสายกลาง​จิตตัว​รู้​จุดดวงวิญญาณ​อย่างสูงสุด​​)​ : ​"ปรับสมดุลจิตแบบหยุด​นิ่งรวดเร็ว​ฉับพลัน​ทันที​ ​โดยให้ตัวเราอันเป็นจิตที่ไม่ใช่​ร่างกาย​นั้นแยกออกจากจิต​แยกออกจาก​ร่างกายแยกออกจากสิ่งต่าง​ๆทุกสิ่งทุกอย่าง​รวมถึง​ใจความ​รู้สึก​โดยทางสายกลางจนรู้สึก​ว่า​มีแต่ตัวเราล้วนๆเพียง​ตัวเราเดียว​เท่านั้น​ตลอด​กาล​​ ​โดยให้จิตถอดจิตทิพย์​ล่องหน​หายตัว​หนีกลับสู่โลกหน้า​มิติแก่นแท้​สูงสุด​ของจิต(อันเป็น​พระเจ้า​นั้น)​ล้วนๆ​เพียง​มิติเดียวเท่านั้นอย่างสูงสุด​เพื่อให้จิตรู้สึก​ปลอดภัย​สูงสุด โดยการให้จิตหันย้อนกลับ​มาสนใจแต่ตัวจิตเองล้วนๆเพียง​จิต​เดียว​เท่านั้นอย่างสูง​สุด​โดยทางสายกลาง​โดยตั้งสติรวมพลังจิตทั้งหมดให้ตัวเราอันเป็นจิตสายกลาง​จิตตัวรู้​​​จุดดวงวิญญาณ​นั้นเพ่งกสิณมุ่งเป้าโฟกัสสนใจเพ่งรู้แต่ตัวจิตตัว​รู้​เองล้วนๆเพียงจิตตัว​รู้​เดียว​เท่านั้นอย่างสุดจิตสุดใจสุดแรงสุดพลัง​ของ​เราในขณะปัจจุบัน​ตอนนี้​ที่นี่​เดี๋ยว​นี้เท่านั้น​..."  ที่อาจสรุปให้สั้นๆย่อๆที่สุดสำหรับผู้ชำนาญอย่างดีแล้วว่า "ตั้งสติ​รวมพลังจิตทั้งหมดให้ตัวเราอันเป็นจิตสายกลาง​จิตตัวรู้​​​จุดดวงวิญญาณ​นั้นเพ่งกสิณมุ่งเป้าโฟกัสสนใจเพ่งรู้แต่ตัวจิตตัว​รู้​เองล้วนๆเพียงจิตตัว​รู้​เดียว​เท่านั้นอย่างสุดจิตสุดใจสุดแรงสุดพลัง​ของ​เรา​..." 

(2.)คาถาของ​จอมเทพ​ : สุดยอด​คาถาขอบคุณ​พระเจ้า​แผ่เมตตา​ให้​กับ​ตัวเอง​ด้วยความโลภรัก(ดึงเข้าอยากได้ปิติสุข)​สูงสุดโดยทางสายกลาง​มองโลกหน้า​ในแง่ดีสูงสุด​(อันเป็นผลมาจาก​การเล่นโยคะสายกลาง​) :  "ไม่มีการเกิด แก่​ เจ็บ​ ตาย​ใดๆเลยอย่างสิ้นเชิง, ทั้งหมดทั้งปวงไม่ได้มีอะไรเลยไม่ได้เป็นอะไรเลยอย่างสิ้นเชิง​นอกจาก​พระเจ้าอันเป็นดวงวิญญาณสูงสุด​ซุปเปอร์​จิตสิ่งสูงสุด​ความเป็นที่หนึ่งสูงสุด​ตลอดกาล​ที่เป็นโลกหน้ามิติแก่นแท้​สูงสุด​ของ​จิตอันเป็น​ตัวเรา​ที่​แท้จริง​สูงสุดอันเป็น​จิตล้วนๆเพียง​จิต​เดียวเท่านั้น​สภาพรู้ล้วนๆเพียง​สภาพรู้เดียว​เท่านั้นการมีอยู่ดำรงอยู่ล้วนๆเพียงการมีอยู่ดำรงอยู่เดียว​เท่านั้น​ความสุขล้วนๆเพียง​ความสุขเดียว​เท่านั้น​ตัวเราล้วนๆเพียง​ตัวเราเดียวเท่านั้น​ตลอดกาล​ นอกจากพระเจ้าแล้วก็มิได้รู้สึก​ว่ามีซาตานมารสัตว์​นรกใครอะไรสิ่งใดตั้งอยู่​ดำรงอยู่​ให้เราสามารถ​เข้าถึง​ลุถึงบรรลุเสวยผลรู้สึก​ถึงได้เลยอย่างสิ้นเชิง​แม้แต่อนุภาคเดียวในวินาที​เดียว..." ที่อาจย่อสั้นๆสำหรับผู้ชำนาญแล้วได้ว่า "ไม่มีการเกิด แก่​ เจ็บ​ ตาย​ใดๆเลยอย่างสิ้นเชิง, ทั้งหมดทั้งปวงไม่ได้มีอะไรเลยอย่างสิ้นเชิง​นอกจาก​พระเจ้า​ นอกจากพระเจ้า​แล้วก็มิได้มีใครอะไรสิ่งใดตั้งอยู่ดำรงอยู่เลยอย่างสิ้นเชิง​แม้แต่อนุภาคเดียวในวินาทีเดียว​ ..."  

 

(3.)คาถาของจอมพรหม​ : สุดยอด​คาถาวิปัสสนา​สูงสุดอันจะเป็น​คาถาอวยพรเทพสูงสุด​ และ​ คาถาสาปแช่ง​มารสูงสุด​ด้วยความหลงไหล(ค้างคาอยากสุขสงบ)​สูงสุดโดยทางสายกลาง​ที่จะมองตัวเราตามความเป็นจริง​อย่างถึงที่สุดมองตัวเรา​ในแง่ดีสูงสุด​ และ​ มองโลกตามความเป็นจริง​อย่างถึงที่สุดมองผู้อื่น​ในแง่ร้ายสูงสุด​(อันเป็นผลมาจากการเล่นโยคะสายกลาง​)​ : ​"ตัวเรา(อันเป็นจิตที่เป็นจิตสายกลางจิตตัว​รู้จุดดวงวิญญาณ​นั้นโดยแท้จริง​สูงสุด​แล้ว)​คือ​ พระเจ้าชีว่าพระเจ้า​พระบิดาอันเป็นดวงวิญญาณ​สูงสุ​ด​ซุปเปอร์​จิตสิ่งวิเศษจุดพลังงาน​แสงสว่าง​อาตมันจุด​ดวงวิญญาณ​บริสุทธิ์​ที่​มีพลัง​อำนาจสูงสุด​ที่สะอาด​สูงสุด​ สว่าง​สูงสุด​ สงบ​สูงสุด​เหนือทุกสิ่ง​ทุก​อย่าง​ ที่จะ​เป็นสิ่งสูงสุด​ความเป็นที่หนึ่งสูงสุด​ตลอดกาล​ที่สำคัญสูงสุด​ จำเป็น​สูงสุด​ มีพลัง​อำนาจสูงสุด​มีคุณค่ามีความหมาย​สูงสุด​ น่าสนใจสูงสุด​ตลอด​กาลที่ไม่มีใครอะไรสิ่งใด​ยิ่งกว่าได้เลยอย่างสิ้นเชิ​ง​​ และ​ ผู้อื่น​สิ่งต่าง​ๆสิ่งปรุงแต่ง​มายาต่างๆ(อันเป็นการรับรู้​ทางประสาทสัมผัสของร่างกาย​ของเราจึงรวมถึง​ร่างกาย​ของเรา​ด้วย​ จึงรวมถึงการรู้การรับรู้​ทางจิตความความคิดปรุงแต่ง​มายาของเรา​อันเป็นสาเหตุของร่างกาย​ของเรานั้น​ อันจะทำให้รวมถึงเรื่องราวเหตุการณ์​สัมพัทธภาพ​ความสัมพันธ์​ของชีวิตของเรา​ รวมถึง​อารมณ์​ใจความรู้สึก​ต่างๆของเรา​ไปด้วยที่ล้วน​เป็น​มารศัตรู​ของเรา​นั้นโดยแท้จริง​สูงสุด​แล้ว)ล้วนเป็นเพียงสูญญตาความว่างที่แท้จริง​สูงสุด​ที่ปราศจาก​กาลเวลา​สิ้นเชิงที่ว่างจากทั้งความมีอยู่​ และ​ ความไม่มีอยู่อย่างสิ้นเชิงตลอด​กาล,​ จึงเป็นสิ่งที่ไม่สำคัญอย่างสิ้นเชิง​ ไม่จำเป็น​อย่างสิ้นเชิง ไม่มีพลังอำนาจ​อย่างสิ้นเชิง ไม่มีคุณค่า​ความหมายอย่างสิ้นเชิง​ ไม่น่าสนใจอย่างสิ้นเชิง​ตลอด​กาล..." ที่อาจย่อสั้นๆสำหรับผู้ชำนาญแล้วได้ว่า  "โดยความจริงสูงสุดแล้วตัวเราก็คือพระเจ้า​ดวงวิญญาณสูงสุด​ซุปเปอร์​จิต ผู้อื่น​สิ่ง​ต่าง​ๆก็คือสูญญตาความว่างที่แท้จริงสูงสุด...." 

 

    ซึ่ง​ทำให้สรุปได้ว่า เราควรจะหมั่นเล่นโยคะสายกลาง​เพื่อพิชิตกำจัดความเครียดทางจิจตโดยการเพ่งกสิณจิตสายกลาง​จิตตัว​รู้​จุดดวงวิญญาณ​อย่างสูงสุด​ พร้อม​กับมุ่งสู่ปัจจุบันและอนาคตโดยหมั่นมองตัวเราตามความเป็นจริง​อย่างถึงที่สุดโดยสำนึกอยู่เสมอว่าตัวเราที่แท้จริงสูงสุดคือพระเจ้าอันเป็นดวงวิญญาณ​สูงสุ​ด​ซุปเปอร์​จิตสิ่งสูงสุด​ความเป็นที่หนึ่งสูงสุด​ตลอดกาลที่เราสามารถมั่นใจสูงสุดได้ว่าไม่ว่าจะยังไงก็ตามไม่ว่าจะดูเหมือนว่าเป็นไปไม่ได้แค่ไหนยังไงก็ตามเราจะต้องรวยเป็นร้อยล้านพันล้านได้แน่นอนจนสามารถรวยได้ถึงขีดสุดเป็นราชาจ้าวจักรวาลสูงสุดในที่สุดแน่นอน และ มุ่งสลัดทิ้งอดีตโดยหมั่นมองโลกตามความเป็นจริง​อย่างถึงที่สุดที่จะมองว่าสิ่งต่างๆสิ่งปรุงแต่ง​มายาต่างๆเป็นเพียงสูญญตาความว่างที่แท้จริง​สูงสุด​ที่ปราศจาก​กาลเวลา​สิ้นเชิง​ที่ว่างจากทั้งความมีอยู่​ และ​ ความไม่มีอยู่อย่างสิ้นเชิงตลอด​กาลที่ว่างเปล่า​ขาด​สูญ​ไม่มีอะไรเลยไม่ต่อเนื่อง​ไม่มีอยู่อย่างสิ้นเชิง ที่จะทำให้การรู้มายาเฉพาะ​ส่วนตัว​ต่างๆของเรา​กับสิ่งต่างๆในกระแสกาลเวลา​มายานั้นจึงล้วน​เป็น​เพียงโมฆะที่เหมือนว่าไม่เคยเกิดขึ้น​มา​เลยจึงเหมือนเป็นเพียง​เศษขยะ-ของฟรี-ของเล่นที่ไร้ความหมาย​ไร้คุณค่า​ไม่น่าสนใจอย่างสิ้นเชิง​อยู่เสมอ​ เพื่อให้จิตของเรา​ยังคงนิโรธ​ดับทุกข์​สิ้นเชิง​กลายเป็นนิพพานที่จิตนิโรธ​หมดความอยากความต้องการ​หมดกิเลสตัณหา​อย่างแท้จริง​สูงสุด​ถึงระดับลึกที่สุดที่จะหมดความอยากรู้สิ้นเชิง​ที่จิตจะไม่ต้องการ​อยากเสียสมดุล​เคลื่อนไหว​ดิ้นรน​ส่งจิตออก​ไปอยากรู้ไปอยากรับรู้ผู้อื่นสิ่งต่างๆสิ่งปรุงแต่ง​มายาต่างๆใครอะไรสิ่งใด​ภายนอกจิตอย่างสิ้นเชิงตามธรรมชาติ​อย่างฉับพลัน​ทันทีเองอัตโนมัติ​ เพื่อให้เรายังคง​รู้สึกว่าตัวเรายังคงเป็นพระเจ้า​ที่ยังคงอยู่แต่ในโลกหน้า​มิติแก่นแท้สูงสุด​ของจิตอันเป็น​จิต​หนึ่งที่มีแต่จิตล้วนๆเพียง​จิต​เดียว​เท่านั้น​นั้นอยู่ตลอดเวลาที่เราจะสามารถ​มีพลัง​จิตสูงสุด​พลังสติสูงสุด​ได้ตามธรรมชาติ​เองอัตโนมัติ​จนสามารถมีอารมณ์​สมาธิตั้งมั่น​เป็นพระเจ้า​สมาบัติ​ได้ทั้งวัน​ทั้ง​คืนนั้น​ เพื่อให้เราสามารถ​มีความสุขสูงสุด​ในโลกนี้สามารถ​สุขกาย-สบายจิต-ชีวิต​หมดปัญหา​-บอกลาใจความรู้สึก​มายาได้ถึงขีดสุด​ในที่สุด​ตามไปด้วยเองอัตโนมัติ​... 

 

 

 

"จงทำจิตภายใน(จิตสายกลาง​จิตตัว​รู้​จุดดวงวิญญาณ)​ และ​ ร่างกาย​ภายใน(อากาศ​ลมหายใจลมปราณ)​ให้แข็งแรง​มีพลัง​อยู่​เสมอ, จิตพร้อม​กายพร้อมจากภายใน​ เราทำได้ทุกอย่างไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้​สำห​รับ​เราอีกต่อไป..." 












 



***เป็น​เพียง​ความเชื่อส่วนบุคคล​เท่านั้นโปรด​ใช้​วิจารณญาณ(เหมาะกับ​ผู้ใหญ่ผู้ชาย​ 18+ ปีขึ้นไป​ที่มีจิตแข็งมีพลังจิตระดับสูงที่มุ่งมั่น​ตั้งใจ​ต้องการมีพลัง​จิตสูงสุด​พลัง​สติสูงสุด​ต้องการหลุดพ้นโมกษะพ้นทุกข์​ทางจิตอย่างแรงกล้า​สูงสุด​ไม่เจ็บอย่าง​แท้จริง​สูงสุด​ให้ได้เท่านั้น​)​...


ขอบคุณ​ภาพประกอบ​จาก​ Google​











เนื้อหาโดย: alien123
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
alien123's profile


โพสท์โดย: alien123
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
10 VOTES (5/5 จาก 2 คน)
VOTED: NIXA, alien123
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เลขเด็ด เลขมาเเรง เลขดัง "รวมหวยเด็ดสำนักดัง vol.15" งวดวันที่ 16 ตุลาคม 2567สุดสงสาร!” เจ้าบอด “ ตูบตาบอดจอมซน เล่นปากบ่อน้ำพลัดตกหวิดดับสถานทูตไทย ประจำอิสราเอลเผย "แรงงานไทยตายแล้ว 1 ราย"'แหม่ม จินตหรา'ซัด'ว็อชด๊อก'หยุดบิดเบือนเรื่องช้าง!10 อันดับทะเลสวยที่สุดในไทยเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่พม่าตำนานท้าวเวสสุวรรณตลาดค้าส่งปลาและอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก Tsukiji Fish Marketนักพากย์ดัง ผู้ให้เสียง "โดราเอมอน" เสียชีวิตแล้วโลกการ์ตูนโศกเศร้า "โนบุโยะ โอยามะ" เสียง "โดราเอมอน" ในความทรงจำ ลาลับในวัย 90 ปีมิน พีชญา น้ำตาคลอ เสียงสั่นขอโทษ - ยืนยันทำแค่ PRโอบามาเตือนชายผิวดำ การไม่ออกเสียงเลือกตั้งเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ !
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
สุดสงสาร!” เจ้าบอด “ ตูบตาบอดจอมซน เล่นปากบ่อน้ำพลัดตกหวิดดับ'แหม่ม จินตหรา'ซัด'ว็อชด๊อก'หยุดบิดเบือนเรื่องช้าง!ช็อกอย่างแรง !! "มิน พีชญา" น้ำตาแทบหลั่ง แจง เป็นประชาสัมพันธ์หาใช่หุ้นส่วนจับตา 48 ชม. ลุ้นหมายจับ บ.เครือข่ายดัง ย้ำชัด ล็อตแรกไม่ใช่คนเดียวแน่นอนมิน พีชญา น้ำตาคลอ เสียงสั่นขอโทษ - ยืนยันทำแค่ PR
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
"เจมส์เคยช่วยชีวิตสเนป แต่สเนปไม่ได้คิดว่านั่นเป็นบุญคุณ"'เธสตรอล' ความลึกซึ้งที่เกี่ยวกับความตายมีหนี้สินเยอะแต่ก็ยังอยากเที่ยวด้วย?! ทำไงดี?ส่องเงินเดือนพนักงาน CJ MORE แต่ละตำแหน่ง! ทำงานร้านสะดวกซื้อ ได้เงินเดือนเท่าไหร่กันนะ?
ตั้งกระทู้ใหม่