4 เรื่องเด็ดของโครงการรถไฟฟ้าสายสีทอง
ใกล้ได้นั่ง! รถไฟฟ้าสายสีทอง พร้อมเปิดให้บริการ 16 ธ.ค.นี้ ส่วนรถไฟฟ้าสายสีเขียวในสถานีที่เหลืออยู่ก็จะเปิดให้บริการในวันที่ 16 ธ.ค.ด้วยเช่นกัน โดยรถไฟฟ้าสายสีทองเป็นโครงการที่กทม.ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี โดยเริ่มก่อสร้างในปี 2561 จะเปิดให้บริการวันที่ 16 ธ.ค. 2563 เวลาประมาณเวลา 11 โมง วันเดียวกับการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (เหนือ) ส่วนต่อขยายช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ที่จะเปิดในเวลา 9:00 น. โดยมีระยะทางรวม 2.75 กม. จำนวน 4 สถานี วิ่งตามแนวถนนกรุงธนบุรี ถนนเจริญนคร และถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน การดำเนินงานแบ่งออกเป็น 2 ระยะ โดยในปัจจุบันเป็นการดำเนินการระยะที่ 1 ระยะทาง 1.80 กม.ประกอบด้วย สถานีกรุงธนบุรี (G1) สถานีเจริญนคร (G2) และสถานีคลองสาน (G3) อัตราค่าโดยสาร 3 สถานี 15 บาท
ระบบรถไฟฟ้าเป็นระบบ Automated Guideway Transit (AGT) หรือระบบขนส่งมวลชนแบบนำทางอัตโนมัติ หรือระบบ Automated People Mover (APM) เป็นระบบล้อยาง โดยรถที่นำมาใช้เป็นรถไฟฟ้ารุ่น Bombardier Innovia APM 300 ความเร็วสูงสุดที่ 80 กม./ชม จำนวน 3 ขบวน ขบวนละ 2 ตู้ ความจุผู้โดยสาร 138 คน/ตู้ ตู้รถไฟฟ้ามีความกว้าง 2.8 มตร ความยาว 12.75 เมตร ความสูง 3.5 เมตร ประตูมีความกว้าง 19 เมตร ความสูงของพื้นรถ 1.1 มตร คาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารเมื่อเปิดให้บริการ อยู่ที่ประมาณ 42,000 เที่ยว คน/วัน.
“รถไฟฟ้าสายสีทอง ยังเชื่อมต่อการเดินทางระบบ ล้อ ราง เรือ
รองรับผู้โดยสารจากรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่สถานีกรุงธนบุรี
และเชื่อมต่อโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีแดงในอนาคต
รวมทั้งยังเชื่อมการเดินทางของประชาชนที่ใช้บริการเรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย”
โครงการนี้ กทม.ได้มอบให้บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งไม่ได้ใช้งบประมาณของภาครัฐ เป็นรูปแบบความร่วมมือกับภาคเอกชนในการพัฒนากรุงเทพฯ ไปด้วยกัน จึงทำให้โครงการเกิดขึ้นได้เร็ว ไม่ต้องรอกระบวนการวิธีงบประมาณจากทางภาครัฐ และทรัพย์สินในโครงการนี้ยังเป็นกรรมสิทธิ์ของกรุงเทพมหานครทั้งหมด ซึ่งโครงการนี้ เป็นความตั้งใจดีที่ กทม. มอบแก่ให้ประชาชน