ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก หรือ ผ่าตัดเสริมหน้าผาก เลือกแบบไหนดีกว่ากัน ปลอดภัยและดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด?
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก คือ อีกหนึ่งหัตถการที่ช่วยในด้านปรับรูปหน้า ส่วนของหน้าผากด้วยการเติมสารเติมเต็มจำพวกไฮยาลูรอนิก หรือ HA (Hyaluronic Acid) อีกทั้งหน้าผากและบริเวณขมับ คือส่วนที่เชื่อมต่อถึงกัน หน้าผากที่สวยควรจะมีขมับที่เต็มประกอบด้วย ถึงจะเรียกว่าเป็นคนที่มีใบหน้าสวยได้รูป
ในศาสตร์ด้านโหงวเฮ้งกล่าวไว้ว่า หากเป็นผู้หญิงที่มีลักษณะเด่นคือหน้าผากโหนกนูนสวย เป็นตัวบ่งบอกว่า จะไม่ต้องตรากตรำทำงานหนัก จะได้สามีรวย และยังมีความเชื่ออีกว่า จะมีคนคอยช่วยอุปถัมภ์อยู่ตลอด ทำให้รับทรัพย์มากขึ้น ผู้ที่อยากจะเสริมโหงวเฮ้งในด้านการค้าขายและธุรกิจจึงนิยมฉีด filler หน้าผากกันมากขึ้นเรื่อย ๆ
รีวิว เสริมโหงวเฮ้งได้ด้วย การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

รีวิว การแก้ไขแอ่งที่ยุบตรงกลางหน้าผาก แก้ไขโหงวเฮ้งหน้าผาก ด้วยวิธีเติมฟิลเลอร์หน้าผาก

ตัวอย่างรีวิว ฉีดฟิลเลอร์ขมับ 1 cc ลดโหนกแก้ม เสริมโหงวเฮง

ตัวอย่างรีวิวผลการแก้ไขโหงวเฮ้ง เติมขมับที่เป็นแอ่งลึกด้วยฟิลเลอร์ขมับ

( โหงวเฮ้งริ้วรอยหางตา สามารถแก้ไขได้ด้วยโบท็อกครับ ส่วนขมับที่ลึกเป็นแอ่ง สามารถเติมด้วยฟิลเลอร์ได้ครับ )
อันตรายหรือไม่ ถ้าจะฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก หรือ ฉีดฟิลเลอร์ขมับ?
ถ้าต้องการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก หรือฟิลเลอร์ขมับ ให้ปลอดภัยสูงสุด 100% ควรหลีกเลี่ยงการฉีดกับหมอกระเป๋า หรือคนที่ไม่ใช่แพทย์ เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นจุดที่ต้องใช้ฟิลเลอร์ในปริมาณมากในการฉีด รวมถึงยังเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดที่เชื่อมไปยังดวงตาโดยตรง จึงจำเป็นต้องอาศัยควมชำนาญของแพทย์ที่ฉีด เทคนิคการฉีดที่แม่นยำ และต้องฉีดด้วยฟิลเลอร์ของแท้เท่านั้น
หากเกิดเหตุสุดวิสัย อาทิเช่น เส้นเลือดเกิดการอุดตันจากการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากหรือขมับ จากที่ในทุกวันนี้แพทย์มีเทคนิคสำหรับการแก้ไขด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ โดยจะแก้ไขให้กลับคืนมาสู่สภาพเดิมได้ใน 1-2 อาทิตย์ และจะไม่ทำให้ตาบอดหรือเนื้อตาย ฉะนั้น หากเราเลือกฉีดฟิลเลอร์ของแท้ และฉีดฟิลเลอร์หน้าผากและขมับ กับคุณหมอที่มีประสบการณ์มากเพียงพอเท่านั้น ย่อมมั่นใจได้ว่าจะปลอดภัยอย่างแน่นอน
รีวิวฟิลเลอร์หน้าผาก คุณพีช Eat Laek
การเลือกระหว่าง ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก VS ผ่าตัดเสริมหน้าผาก วิธีไหนดีกว่า?
แม้ว่าการผ่าตัดเสริมหน้าผากด้วยซิลิโคน จะสามารถอยู่ได้อย่างถาวร แต่คนจำนวนมากไม่นิยมเสริมหน้าผากด้วยการผ่าตัด เนื่องจากหากต้องการปรับเพิ่มหรือลดหน้าผากให้โหนกนูนมากขึ้นหรือน้อยลงหลังจากผ่าตัดเสร็จไปแล้ว จะไม่มีวิธีการอื่นใดนอกจากการผ่าตัดแก้ไขอีกครั้ง ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายและเจ็บตัวหลายรอบ
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของการพักฟื้นนานเป็นเดือน, เกิดแผลยาวตามขนาดของซิลิโคนที่เสริมเข้าไป, ต้องดูแลแผลผ่าตัดอย่างระมัดระวังเป็นพิเศษ และมีการบวมช้ำเกิดขึ้นค่อนข้างมากจากการผ่าตัดอีกด้วย

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ภาพตัวอย่างทรงหน้าผาก
ข้อได้เปรียบของการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก คือ
- ถ้าฉีดด้วยฟิลเลอร์แท้จะสามารถอยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี
- คนไข้สามารถเริ่มต้นด้วยการฉีดในปริมาณไม่มาก คือ 1-2 ccในครั้งแรกก่อน หลังจากนั้นสามารถกลับมาที่คลินิกเพื่อทยอยฉีดเพิ่มเติมได้อีกเป็นระยะ ๆ
- หากคนไข้ไม่พอใจกับผลลัพธ์ที่ได้หลังฉีด แพทย์สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ออกได้บางส่วน หรือสลายออกทั้งหมดก็ได้ รวมถึงยังสามารถปรับแต่งได้สะดวกกว่าหากเทียบกับการผ่าตัดเสริมซิลิโคน
- หลังจากทำเสร็จแล้วหากรู้สึกว่าหน้าผากนูนน้อยไปหรือมากไป ก็สามารถแจ้งให้แพทย์ช่วยปรับเพิ่มหรือลดความโหนกนูนได้ตามความต้องการ

ความเสี่ยงของการผ่าตัดเสริมหน้าผาก : ต้องเปิดแผลกว้างเพราะต้องใช้แผ่นซิลิโคนที่มีขนาดใหญ่ ต้องพักฟื้นนานเพราะอาจบวมช้ำมาก

รูปภาพแสดงให้เห็นถึง ตัวอย่างชั้นผิวหน้าบริเวณหน้าผากของคนเรา
เลือกยี่ห้อไหนดี การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก และฉีดฟิลเลอร์ขมับ?
- การฉีดฟิลเลอร์ขมับ ควรเลือกใช้ฟิลเลอร์ตัวที่อยู่ได้นานที่สุด เนื่องจากขมับเป็นบริเวณที่สามารถเลือกใช้ฟิลเลอร์ได้ทุกยี่ห้อและทุกรุ่น ควรฉีดด้วยเทคนิคเข็มแหลมชนกระดูก (เพื่อไม่ให้เห็นเป็นก้อน) ซึ่งในคนไข้ส่วนใหญ่มักจะใช้ประมาณข้างละ 1-2cc ขึ้นอยู่กับว่าคนไข้รายนั้นมีขมับตอบลึกมากแค่ไหน
- คุณหมอมักแนะนำให้ใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm รุ่น ultraplus โดยสามารถคงอยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
- นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกใช้ยี่ห้อ Juvederm รุ่น voluma สามารถคงอยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน
- ฟิลเลอร์รุ่นที่เหมาะสำหรับฉีดฟิลเลอร์บริเวณขมับชั้นลึก คือ Juvederm รุ่น ultraplus xc ทนต่อแรงขยับได้ดีมาก มีเนื้อฟู และมียาชาผสมในเนื้อฟิลเลอร์ด้วย
- ในเคสที่คนไข้มีผิวบางมาก คุณหมอจะแนะนำให้ใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane รุ่น volyme ซึ่งสามารถคงอยู่ได้นานมากถึง 18 เดือน
- ฟิลเลอร์หน้าผากที่เหมาะสมที่สุดสำหรับฉีดเติมหน้าผาก คือ ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm รุ่น volbella ราคา 13,000 บาท ต่อ 1 cc เนื่องจากมีคุณสมบัติคือ
- มีเนื้อเนียนละเอียด
- ฉีดแล้วไม่เป็นก้อน
- มียาชาผสมอยู่ด้วยในเนื้อ filler
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก – ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ควรใช้กี่ cc? เลือกฉีดยี่ห้อไหนดี?

( ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก รีวิว เพื่อแก้ร่องตรงเหนือคิ้ว ด้วย filler 1 cc )
สำหรับผู้ที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก โดยไม่ได้ต้องการให้หน้าผากโหนกนูนมากไปกว่าเดิม แต่อยากแก้ไขเรื่องการยุบตัวลงของกระดูกตรงเหนือคิ้วที่เป็นร่องบริเวณหน้าผาก ซึ่งเกิดขึ้นตามอายุที่เยอะขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้หน้าผากดูเรียบ ร่องลึกดูตื้นขึ้นมา แพทย์จะเติมฟิลเลอร์ในปริมาณไม่มาก คือ 1-2cc ก็นับว่าเพียงพอและดูเป็นธรรมชาติที่สุด
ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ทั้งหมด สำหรับคนที่ต้องการฉีดให้หน้าผากโหนกนูนเพื่อช่วยเสริมโหงวเฮ้งให้ดียิ่งขึ้น จะอยู่ในช่วงระหว่าง 3-10 cc โดยคุณหมอจะค่อย ๆ ทยอยฉีดให้ทีละ 3-5 cc โดยคนไข้มักจะนำรูปของดารานางแบบที่มีหน้าผากสวย ๆ ได้รูปมาให้คุณหมอดูเพื่อเป็นตัวอย่าง

( รีวิวฟิลเลอร์หน้าผาก 5cc )
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการป้องกันการกดทับเนื้อเยื่อ บวมลงมาถึงรอบดวงตาได้ เราจึงไม่ควรฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเกินกว่าครั้งละ 5 cc แต่หากเคสไหนที่เกิดบวมขึ้นก็จะเป็นการบวมเพียงชั่วคราวเท่านั้น และจะหายเองได้เป็นปรกติภายในไม่เกิน 2 สัปดาห์
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
ภาษาที่ควรเรียนที่สุด ในอีก5ปีข้างหน้า
"ประธานสหภาพฯ" บริษัทไดกิ้น เปิดใจหลังสั่งปิดงาน! ชี้ ยังต้องได้โบนัส
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
ตรงนี้มีคำตอบคนละครึ่งพลัสเฟส 1 ใช้ไม่หมดสามารถนำไปใช้เฟส 2 ได้หรือไม่
บุกจับเซียนพระลูกผู้ใหญ่บ้าน ยิงกลางร้านอาหารนครปฐม เสียชีวิต 2 เจ็บ 3
จัดอันดับเรื่องลึกลับของภูเขา
สัตว์กินพืชที่อันตรายที่สุด
คน 5 กลุ่มที่ไม่ควรแช่เท้าในน้ำอุ่น เพราะอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพมากขึ้น
หม้อต้มแรงดันสูงระเบิด เจ้าของโรงงานขนมจีนเสียชีวิต บาดเจ็บอีก 2 ราย
บาร์เบียร์ต้อนรับแขกไม่ได้รับเชิญ! เมื่อลูกแมวน้ำสุดป่วนบุก 'แฮงค์เอาท์' ที่นิวซีแลนด์
หม้อต้มแรงดันสูงระเบิด เจ้าของโรงงานขนมจีนเสียชีวิต บาดเจ็บอีก 2 ราย
จัดอันดับเรื่องลึกลับของภูเขา
หนุ่มอเมริกันทุบสถิติโลก วิ่งฮาล์ฟมาราธอนพร้อมเสื้อยืด 137 ตัว น้ำหนักกว่า 21 กิโลกรัม!



