สายช้อปแบบไหนที่ใช่คุณ!
มาเช็คตัวตนจากการใช้จ่ายเงินซื้อของ ของตัวคุณเองกันสักหน่อยดีกว่าค่ะ
เขาว่าช้อปปิ้งกับผู้หญิงนั้นเป็นของคู่กันเลยจริงๆ แล้วคุณล่ะมีการใช้จ่ายในแต่ละครั้งอย่างไรบ้าง การจับจ่ายใช้สอยนั้นขึ้นอยู่กับนิสัยของแต่ละบุคคล และสถานะทางการเงินจริงๆ ค่ะ มีมากใช้มากมีน้อยใช้น้อย แต่บางคนไม่ว่าจะมีมากสักเท่าไหร่ก็ค่อนข้างจะประหยัดมัธยัสถ์อยู่เสมอ หรือบางคนมีน้อยแต่เผลอใช้มากเกินตัวก็จะลำบากยุ่งยากกันไป ดังนั้นเรามาเรียนรู้นิสัยของเหล่านักช้อปปิ้งกันดูสักหน่อยดีกว่าค่ะ
1. นักช้อปออนไลน์
นักช้อปสายนี้เธอคุ้นเคยดีกับเหล่าบรรดา Application ที่มีไว้สำหรับการซื้อของ รวมถึงการซื้อของจาก IG และ facebook ด้วย ร้านไหนขายดีร้านไหนขายถูก ช่วงไหนมีโปรโมชั่นเธอก็จะติดตามอย่างใกล้ชิดโดยที่ไม่พลาดเลย คูปองส่วนส่วนลดต่างๆ นี่ตามเก็บเรียบไม่มีตกหล่น แต่เนื่องจากเป็นช่องทางการซื้อของที่แสนสะดวกและง่ายดาย ใช้เพียงแค่ปลายนิ้ว ดังนั้นนักชอบสายนี้จึงค่อนข้างเสียเงินง่าย จ่ายเร็วโอนไว กว่าจะรู้ตัวอีกทีบัตรเครดิตก็เต็มวงเงินเสียแล้ว เพลาๆ บ้างก็ดีนะเธอ
2. นักช้อปของ Sale
ถ้าพูดถึงนักช็อปที่ใช้เงินอย่างคุ้มค่าแล้ว นักช้อปสายนี้น่าจะได้คะแนนดีที่สุดเลยล่ะ เพราะพวกเธอจะมีความอดทนรอจนพบเจอกับของเซลล์แล้วถึงจะทำการซื้อ นี่แหละนักช้อปที่ดีเลยล่ะ แต่สำหรับบางคนก็ไม่ได้วางแผนการซื้อ แต่เห็นป้ายเซลล์ทีไรก็พุ่งเข้าใส่ทันที แบบนี้ไม่ไหวนะ แทนที่จะประหยัดก็อาจจะใช้จ่ายสิ้นเปลืองกว่าปกติก็ได้นะ ซื้อของลดราคาน่ะดี...แต่ต้องซื้อแบบมีสติกันด้วยจ้า
3. เจ้าหญิงนักผ่อน
ถ้าหากว่าเราต้องการซื้อของราคาแพงเกินกว่าที่จะจ่ายเงินสดได้ไหว หนทางเดียวที่จะสามารถทำการใช้จ่ายอย่างสะดวกสบายได้มากที่สุด ก็คงจะหนีไม่พ้นการผ่อนซื้อนั่นเอง ยิ่งถ้าเป็น 0% 10 เดือนได้ยิ่งดี ได้ของมาใช้ก่อนแถมยังค่อยๆ จ่ายในราคาเบาๆ แบบเนี้ย ดีและคุ้มค่าสุดๆ เลย แต่ถ้ามีของที่ผ่อนซื้อมากจนเกินไปก็อาจจะทำให้เดือดร้อนเอาได้เพราะหาเงินหมุนไม่ทัน ลำบากจนต้องเป็นหนี้สินเอาได้เหมือนกันนะ ซื้อของผ่อนนั้นก็ดีแต่ก็ต้องวางแผนให้เป็นเหมือนกันนะ จะได้ไม่ลำบากในภายหลังเอาค่ะ
4. แอบแฟนมาช้อป
สาวๆ บางคนเวลาช้อปปิ้งทีไรก็มักจะต้องมีปากเสียงกับแฟนอยู่ด้วยทุกทีเลย ทั้งๆ ที่บางทีก็เป็นเงินของเราเองแท้ๆ แต่ว่าทำไมจะต้องรู้สึกผิดทุกทีไปเวลาที่ใช้เงินซื้อของปรนเปรอความสุขให้กับตัวเองบ้าง ทำไมต้องมายุ่งมาก้าวก่ายกันนักก็ไม่รู้ ดังนั้นเพื่อตัดปัญหาก็เลยต้องแอบๆ แฟนมาช้อปปิ้งเอานี่แหละ อย่างน้อยถ้าทะเลาะกันหลังซื้อก็ยังได้ของมาครอบครองแล้ว ดีกว่าทะเลาะกันก่อนซื้อเพราะจะถูกห้ามไม่ให้ซื้อเอาได้น่ะสิ
5. เปย์เป็นแสนแขนก็ไม่ได้จับ
การช้อปปิ้งสไตล์นี้บรรดาติ่งเกาหลีนั้นรู้จักกันเป็นอย่างดีเลยล่ะ เพราะเรามักจะต้องขวนขวายหาซื้อของต่างๆ จากดารา ศิลปินคนโปรดมาเก็บสะสมไว้ ซึ่งก็เป็นค่าใช้จ่ายที่มากมายแล้ว นี่ยังไม่รวมกับบัตร คอนเสิร์ต บัตรงานแฟนมีตติ้ง รวมถึงการเปย์จัดหนักตามกิจกรรมต่างๆ ให้เป็น Top Spender หรือ Lucky Fan เพื่อได้สิทธิพิเศษต่างๆ ด้วย แต่พอถึงเวลาจริงๆ ถ้าโชคดีสุดๆ อย่างมากก็ได้แค่ไฮทัช และถ่ายรูปคู่เท่านั้น แต่โชคดีนั้นไม่ค่อยจะเป็นของเราเลยน่ะสิ พูดแล้วเศร้า มีเงินแล้วก็ต้องมีดวงด้วยเท่านั้นจริงๆ
6. นักช้อปไร้เงิน
ที่น่าสงสารกว่านักช้อปปิ้งแบบอื่นๆ ก็คงจะหนีไม่พ้น เหล่านักช้อปที่ไม่มีแม้แต่เงินที่จะซื้อของที่ตัวเองต้องการนั่นเอง เพราะบางทีค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนนั้นก็สูงมากพอแล้ว หรือมีหนี้เก่าๆ ที่ต้องเคลียร์เสียก่อน ทำให้เหลือเงินเก็บไม่มากพอที่จะซื้อของมาบำรุงบำเรอความสุขให้กับตัวเอง จำเป็นต้องใช้เงินเอาตัวให้รอดไปวันๆ ก่อนเท่านั้นจริงๆ ก็ได้แต่หวังว่าสักวันหนึ่งถึงจะมีโอกาสใช้จ่ายตามใจชอบเหมือนใครเขาบ้างล่ะนะ
แล้วคุณล่ะคะเป็นนักช้อปสายไหนเอ่ย? ไม่ว่าจะเป็นนักช้อปปิ้งแบบไหนก็ตาม แต่ขอให้มีสติทุกครั้งเวลาที่ใช้จ่าย วางแผนการใช้เงินให้ดี เพราะไม่อย่างนั้นชีวิตอาจจะต้องเดือดร้อนจากนิสัยการช้อปปิ้งที่ฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือยของตัวเองเอาได้นะ ยิ่งช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดีการใช้จ่ายควรต้องระมัดระวังเป็นเท่าตัวเลยล่ะ รัดเข็มขัดแล้วใช้สอยอย่างประหยัดกันเถอะค่ะ
คิดว่าตัวเองเป็นนักช้อปปิ้งสายไหนคะ?
บทความ โดย : Akine_noxx
ฝากติดตาม กดให้ดาว กดแชร์ คอมเม้นท์เป็นกำลังใจกันด้วยนะคะ