แง่คิดดีๆ ฝึกให้อภัยเข้าไว้เพื่อจิตใจที่เป็นสุขของคุณเอง

อย่ามัวแบกความทุกข์เอาไว้ ด้วยใจที่โกรธกริ้วนั้นอยู่เลย

เพราะคนบนโลกเดี๋ยวนี้มักจะคิดถึงแต่เรื่องของตัวเอง ทำให้ในหลายๆ ครั้ง อาจจะไม่ใส่ใจไม่เข้าใจในตัวคนอื่นกันสักเท่าไหร่ ทำให้เกิดความไม่เข้าใจ เกิดการถกเถียง และทะเลาะเบาะแว้งกันได้ง่ายๆ และอารมณ์เสียๆ เหล่านี้มันก็ทำใจขุ่นมัว และเป็นทุกข์เหลือเกิน แต่เรามีหนทางที่จะดับทุกข์นั้นได้ด้วยจิตใจที่สงบ และรู้จักการให้อภัย แต่ก็เข้าใจนะว่าในบางครั้งมันก็ไม่ง่ายเลยที่จะทำแบบนั้นจริงๆ แต่ว่าเราก็พอมีหนทางที่จะทำให้คุณคิดถึงเรื่องการให้อภัยได้ง่ายขึ้นมาฝากกันค่ะ

1. ใครๆ ก็มีข้อเสีย

     ไม่มีใครหรอกที่ไม่มีข้อเสีย ขนาดคนที่เก่ง คนที่เรานับถือเป็นไอดอลเอง เขาก็มีข้อเสียของเขาด้วยกันทั้งนั้น หรือแม้แต่ตัวของเราเองก็มักจะมองไม่เห็นข้อเสียของตัวเราเองเช่นเดียวกัน ไม่มีใครสมบูรณ์แบบไปทุกด้านหมด อาจจะมีอย่างมากสุดเลยก็มีเพียงข้อเสียยิบย่อยเล็กๆ น้อยๆ จนทำให้เรามองข้ามไปได้ แต่คนที่มีข้อเสียใหญ่หน่อย มากหน่อยนี่แหละที่มักจะก่อให้เกิดปัญหากับคนอื่นๆ ได้ ลองคิดในแง่ว่าอาจจะเพราะเขามีปมในวัยเด็ก มีปัญหาบางอย่างที่ส่งผลให้เขาเป็นคนแบบนี้ก็ได้นะ

2. ถ้าเป็นตัวคุณเองจะรู้สึกอย่างไร

     บางครั้งก็ไม่ได้อยากทำให้คนอื่นไม่พอใจเลย แต่บางทีสถานการณ์ก็บีบบังคับ ทำให้เราเลือกทางที่ไม่ดีเท่าไหร่ ซึ่งอาจส่งผลกระทบที่แย่กับคนอื่นๆได้ เลยอยากให้ลองดูในมุมที่หากมันเกิดขึ้นกับคุณบ้าง คุณจะทำยังไง รู้สึกอย่างไร บางคนเขาก็อาจจะหลงผิด หรืออับจนหนทางจริงๆ ถึงได้ทำเรื่องที่เลวร้ายลงไป บางครั้งความเห็นอกเห็นใจก็ทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น และทำให้คนที่กำลังลำบากผ่านพ้นช่วงเวลาที่เลวร้ายนั้นไปได้เช่นเดียวกันนะ

3. อย่ายึดติดกับอดีตอยู่เลย

     แน่นอนว่าสิ่งที่ผ่านมานั้นเลวร้าย ทำให้เรารู้สึกแย่ได้สุดๆ เลย แต่ยิ่งคิดถึงแต่ด้านแย่ๆ ใจเราก็ยิ่งมีแต่จะจมดิ่งสู่ด้านดำมืดลงไปเรื่อยๆ ระหว่างการเดินแบกสัมภาระที่ไม่มีประโยชน์เดินหน้าไปเรื่อยๆ กับยอมทิ้งสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ไป แล้วพร้อมสิ่งใหม่ๆ ที่ดีกว่าแทน แบบไหนจะดีกว่ากันล่ะ? มันเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะทำให้คุณ Move on ได้ด้วยใจที่เป็นสุขนะ

4. ความโกรธแค้นเป็นเหมือนไฟที่เผาไหม้ใจ

     เวลามีใครมาทำให้เราโกรธ เกิดความแค้นจนอยากจะเอาคืนให้สาสมกับที่เขาทำให้เราเจ็บ ทำให้เราผิดหวัง ทำให้เราเสียใจเหลือเกิน แต่ลองมาคิดให้ดีๆ ความโกรธแค้นที่มันอัดแน่นอยู่ในอกนี้ มันทรมานใครมากกว่ากัน ไม่รู้ว่ามันจะส่งไปถึงเขาแค่ไหน แต่ที่แน่ๆ มันเผาไหม้ ทำลายสุขภาพจิตคุณไปเท่าไหร่แล้วกับการคิดจะเอาคืน คิดจะแก้แค้นเขา มันไม่คุ้มกันเลยนะ บางครั้งการคิดว่ามันเป็นแค่โชคร้ายชั่วคราว ที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปก็อาจจะดีกว่าปล่อยให้มันทำร้ายคุณซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่แบบนี้นะ ยิ่งถ้าเอาคืนสำเร็จก็ไม่ใช่ว่าเรื่องจะจบอีก เพราะคุณอาจได้รับผลกรรมจากการกระทำของตัวเองไปด้วยนะ

5. ขอคำปรึกษาดูบ้างก็ได้

     การเก็บความแค้น ความอัดอั้นตันใจไว้อยู่ในอก มันเป็นเรื่องที่ทรมานมากนะ บางครั้งคุณอาจจะรู้สึกว่าไม่อยากเอาเรื่องที่เป็นทุกข์ไปทำให้ใครรู้สึกไม่สบายใจ เลยเลือกที่จะเก็บเอาไว้คนเดียว แต่การที่ไม่ได้ระบายความรู้สึกที่หนักอึ้งนั้นออกไปบ้าง คุณอาจจะรู้สึกคิดสั้นอยากจะไปจบชีวิตของฝ่ายที่แค้นอยู่ขึ้นมาในชั่ววูบก็ได้ ดังนั้นแล้วโปรดไว้ใจพวกเขาให้โอกาสคนใกล้ตัวที่คุณรักได้รับฟังปัญหาและความทุกข์ใจของคุณบ้างเสียเถอะ บางที่เขาอาจจะช่วยแนะนำวิธีที่สงบจิตสงบใจที่เหมาะสมให้กับคุณได้ ถ้าไม่กล้าบอกกับคนใกล้ตัวจะลองปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญแทนก็ได้เช่นกัน

     อย่างที่เขาบอกจริงๆ ว่าการให้อภัยนั้นเป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเลย ไม่มีครั้งไหนที่จะเข้าใจได้ดีไปกว่าตอนที่รู้สึกโกรธแค้นมาก แต่ว่าจะต้องปล่อยวางแล้วให้อภัยเขา แต่โปรดจงรู้ไว้เถอะว่า การให้อภัยนี้ไม่ได้ทำเพื่ออีกฝ่ายเพียงอย่างเดียว แต่โดยหลักๆ แล้วทำเพื่อช่วยเหลือตัวคุณเองมากกว่า ที่จะได้ไม่จมอยู่กับความทุกข์ ความเศร้า ความเคียดแค้นอาฆาต แล้วพยายามใช้ชีวิตอย่างมีความสุขต่อไปให้ได้ การที่ตัวเองปล่อยวาง และก้าวพ้นกลับมาใช้ชีวิตต่อไปให้ดีนี่แหละ น่าจะเป็นหนทางแห่งการดับทุกข์ที่ดีที่สุดเท่าที่คุณสามารถทำได้แล้ว

คุณสามารถให้อภัยกับคนที่ทำให้คุณเจ็บแค้นได้ดีแค่ไหนคะ?

บทความ โดย : Akine_noxx

ฝากติดตาม กดให้ดาว กดแชร์ คอมเม้นท์เป็นกำลังใจกันด้วยนะคะ