ด่วน ฝากขังเสี่ยโป้ โดน 4 ข้อหาหนัก
ตามที่ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล พา นายอภิรักษ์ ชัชอานนท์ หรือ เสี่ยโป้ อายุ 28 ปี และ นายเขมทัต ชัชอานนท์ หรือเสียบุ๊ค อายุ 25 ปี น้องชาย เข้าพบ ร.ต.อ.สมเกียรติ กิจประภานันท์ รอง สว.(สอบสวน) สน.ภาษีเจริญ เพื่อลงบันทึกประจำวัน แสดงความบริสุทธิ์ใจกรณีถูกสังคมกล่าวหาเป็นมือปืนยิงคู่กรณีหน้าร้านนวดแผนโบราณสรี ซาวน่าแอนด์สปา ถนนราชฤกษ์ แขวงบางหว้า เขตภาษีจริญ จากเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทกัน เมื่อช่วงมืดวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา ต่อมาตำรวจได้นำหมายศาลและได้ควบคุมตัวไว้นั้น
ทนายความ (ไม่เปิดเผยชื่อ) กล่าวว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนสั่งค้านประกันตัวเสี่ยโป้ เนื่องจากเป็นข้อหาหนัก แต่มองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมพราะตำรวจไม่ได้แสดงหลักฐานใดๆ ให้ทราบว่าเสี่ยโป้ เป็นผู้กระทำผิด ขณะที่ตัวเสี่ยโป้เอง ก็ยังยืนยันในความบริสุทธิ์ของตัวเอง ไม่ได้เป็นคนยิง จากนี้ก็ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามพยานหลักฐาน
พยานเหตุกรณ์กล่าวว่า ตนนั่งรถผ่านมาเห็นกลุ่มวัยร่นมุงดูกันอยู่ที่เกิดเหตุเยอะจึงลงไปดู โดยรอบที่เกิดเหตุมีรถจักรยานยนต์หลายสิบคันและรถเก๋งจอดรอข้างนอก พอเข้าไปดูก็ทราบว่ามีคนนัดชกต่อยกัน และเห็นเสียบุ๊ก ถอดเสื้อมีคนตัวผอมฝั่งคนเจ็บก็ถอดเสื้อ ก่อนจะมีคนเสื้อดำหัวเกรียนไม่ปิดบังใบหน้า โวยวายขึ้นว่า “มากันคู่เดียวเหรอ ใครจะเอากับผมมั้ย” แล้วก็วิ่งมาหาฝั่งเสี่ยโป้ โดยมีคนฝั่งคู่กรณีถือปืนวิ่งเข้ามา
ก่อนเสียงปืนดังขึ้นทำให้พวกตนวิ่งหนี แต่ไม่ทราบว่ายิงมาจากฝ่ายใด ก่อนจะเกิดการยิงปืนสวนกันจากทั้งสองฝั่งมากกว่า 1 นัด แต่ยืนยันได้ว่าคนฝั่งเสี่ยโป้ไม่ได้จ่อยิงตามที่คู่กรณีให้สัภาษณ์ตามสื่อต่างๆ ก่อนหน้านี้ ยืนยันด้วยว่าไม่ได้ออกมาปกป้องเสี่ยโป้
อีกราย กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุเห็นเสี่ยโป้อยู่ในร้านนวดโดยไม่มีปืนในมือเลย และเป็นฝ่ายที่ถูกยิงด้วย ยอมรับว่าตนเองก็ไม่ได้ชอบเสี่ยโป้ แต่สิ่งที่ฝ่ายคนเจ็บออกมาพูดแล้วไม่ตรงกับเรื่องที่ตนเห็นจึงมาให้ปากคำกับตำรวจ เพราะตนเห็นจังหวะที่เสี่ยโป้วิ่งหนีตายออกไปด้วย ทั้งนี้ตนไม่ทราบว่าเสียงนั้นมาจากฝ่ายไหน เพราะพอเสียงดังขึ้นครั้งแรกตนก็ปีนกำแพงหนีเลย
ต่อมาเวลา 13.00 น. ที่ สน.ภาษีจริญ พนักงานสอบสวน สน.ภาษีเจริญ คุมตัว เสี่ยโป้ ไปฝากขังศาลอาญาธนบุรี ในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น และความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน รวม 4 ข้อหา โดยสั่งค้านประกันตัวในชั้นสอบสวน เนื่องจากเป็นคดีอาญาร้ายแรง
ขณะที่ นายอภิรักษ์ กล่าวสั้นๆ ก่อนขึ้นรถกระบะตำรวจไปว่า ไม่มีความยุติธรรมเพราะตำรวจออกหมายจับตนด้วยคำพูดของคนเท่านั้น ยืนยันว่าไม่ได้พกปืนไปเลย คิดว่าสาเหตุถูกกระทำแบบนี้เพราะคู่กรณีคิดว่าตนมีเงิน จึงต้องการเงินและคู่กรณีป็นลูกผู้มีอิทธิผลย่านลอยฟ้า ทำให้ตัวเองสู้คดีไม่ได้ ยืนยันจะสู้คดีให้ถึงที่สุด
อ้างอิงจาก: you.khao.info