ก่อนจะลาออกจากงานที่ทำอยู่ ควรตอบคำถามเหล่านี้กับตัวเองให้ได้เสียก่อนนะ

 

     คุณเคยลาออกจากงานครั้งล่าสุดเมื่อไหร่คะ? บางคนอาจจะไม่เคยลาออกเลย เพราะว่ากลัวปัญหาต่างๆ ที่จะตามมา และยังไม่ได้มีแผนสำรองอะไรเอาไว้มากกว่านี้ แต่สำหรับบางคนแล้วเคยผ่านการลาออก และเปลี่ยนงานมาแล้วหลายครั้งหลายหน คนเรามีความคิด ทัศนคติการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน งานสำหรับคนหนึ่งอาจจะไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิตสำหรับอีกคนหนึ่งก็ได้ ดังนั้นแล้วบางครั้งเราจึงมีความรู้สึกว่าอยากจะเปลี่ยนงาน หรือย้ายที่ทำงาน เพราะอาจจะตอบโจทย์ชีวิตได้มากกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ แต่ว่าก็คงไม่ดีแน่ ถ้าจู่ๆ คุณก็ยื่นใบลาออกเลยในทันที มีหลายสิ่งที่คุณควรจะฉุกคิดเอาไว้ก่อนที่จะลาออกนะ

 

 

ดังนั้นก่อนจะจากไป มีคำตอบให้กับถามเหล่านี้เอาไว้แล้วหรือยัง?

 

1. เพราะเหตุใดถึงต้องลาออกจากงาน?

เพราะคำถามนี้คนที่จะตอบได้ดีที่สุดก็คือตัวของคุณนั่นเอง เพราะคำถามแรกเลยที่คุณจะลาออก ซึ่งใครๆ ต่างก็ต้องอยากรู้ก็คือคุณเจอปัญหาอะไรจากการทำงานมาใช่ไหมล่ะ? หลักๆ ที่คนเราต้องการลาออกจากงานคือ มีปัญหากับหัวหน้า กับเพื่อนร่วมงาน เงินตอบแทนไม่คุ้มค่า ปริมาณงานที่มากหรือหนักจนเกินกำลัง หรือสายงานที่ทำอยู่ยังไม่ตรงใจ การเดินทางมาทำงานยากลำบากมาก ซึ่งปัญหาที่คุณเจอก็ควรเป็นปัญหาที่คุณรู้สึกว่ามันยุ่งยาก และเป็นปัญหาของคุณจริงๆ ไม่ใช่มีไว้เพื่ออ้างในตอบให้ตัวเองดูดีเฉยๆ

 

อย่างน้อยที่สุดแล้ว คุณก็ควรที่จะซื่อสัตย์กับตัวเองโดยการรู้ และยอมรับปัญหาที่แท้จริงให้ได้เสียก่อนนั้นสำคัญที่สุดนะ เพราะเหตุผลที่แท้จริงนี่แหละสำคัญมากๆ เลยนะ ว่าคุณจะอยู่ต่อหรือจะต้องไปจริงๆ

 

2. ปัญหาที่เจออยู่ยังมีหนทางแก้ได้อยู่ไหม?

หลายๆ ปัญหาเพียงแค่ลาออกก็ไม่สามารถแก้ไขได้อยู่ดี ถ้าต้นตอปัญหาจริงๆ มันอยู่ที่ตัวคุณเอง และบางปัญหาในตอนนี้ที่เจอคุณอาจจะรู้สึกว่ามันเป็นปัญหาใหญ่เอามากๆ แต่จริงๆ แล้วถ้าหากแก้ไขจนผ่านพ้นวิกฤติไปได้มันก็จบแล้วนะ การลาออกก็ไม่ได้จำเป็นขนาดนั้นใช่ไหมล่ะ ดังนั้นต้องเช็คดูให้ดีด้วยว่าคุณได้ทำการแก้ปัญหาจนสุดความสามารถจริงๆ แล้วหรือยัง? ได้ขอความช่วยเหลือจากใครแล้วไหม? ได้ทำการต่อรองแล้วหรือเปล่า? หรือว่าต้องการจะลาออกเพื่อหนีปัญหาที่เจออยู่เฉยๆ เท่านั้นกันแน่

 

3. โดนประเมินคุณค่าต่ำเกินไปจริงๆ หรือ?

     หลายๆ คนรู้สึกท้อแท้ ท้อถอย หมดหวัง เพราะว่าถูกประเมินผลงานเอาไว้ต่ำกว่าที่ตัวเองคาดหวังมาก ทั้งๆ ที่บางทีก็ทุ่มเททั้งชีวิต เวลา และพลังงานไปกับมันมากแล้วแท้ๆ แต่ก็ยังโดนตำหนิ ถูกต่อว่ากลับมา ทำให้รู้สึกเสียใจ และผิดหวังมาก ส่วนกำลังใจไม่เคยได้ แถมพยายามสักเท่าไหร่ดูเหมือนหัวหน้า หรือผู้บังคับบัญชาก็ไม่เคยพอใจในผลงานของคุณสักที อันนี้คุณต้องประเมินตัวเองด้วยใจที่เป็นกลางจริงๆ ก่อนด้วย จะให้คนอื่นช่วยดูและตัดสินอีกแรงก็ได้ เพราะบางครั้งเราเอาจะเข้าข้างตัวเอง และเอาแต่ใจมากเกินไปจนไม่เห็นความจริงก็ได้

 

ลองฮึดสู้พิสูจน์ตัวเองให้ดีกว่านี้อีกสักนิดก่อนดีไหม อย่าเพิ่งรีบถอดใจตอนนี้ เพราะถ้าคุณทำผลงานถึงเกณฑ์ที่เขาพึงพอใจแล้ว โอกาสดีๆ ที่คุณหวังไว้อาจจะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมก็ได้นะ ซึ่งมันก็ดีกว่าการที่จะต้องไปเริ่มใหม่กับงานใหม่ตอนลาออกอย่างแน่นอน

 

cr. http://www.intjvision.com/intj-female/

 

4. มีความพร้อมที่จะลาออกแล้วจริงๆ ไหม?

     ก่อนที่จะลาออกนั้นคุณควรมีการเตรียมตัวเอาไว้ก่อนเสมอ ไม่ว่าจะเรื่องของรายได้ที่จะหายไปในช่วงที่คุณไม่ได้ทำงาน จำไว้ว่าถึงหยุดทำงานแต่รายจ่ายก็จะยังคงอยู่เสมอ คุณมีเงินเหลือเก็บไว้ใช้อยู่แค่ไหน จะพอให้ชีวิตอยู่รอดไปได้นานสักเท่าไหร่ หากว่ามีภาระหนี้สินใดๆ ที่ยังต้องจ่ายอยู่คุณสามารถเคลียร์ให้จบก่อนออกจากงานดีกว่าหรือเปล่า รวมถึงควรมีแผนสำรองฉุกเฉินเอาไว้หากเกิดเหตุไม่คาดฝันด้วย และที่สำคัญคือต้องเผื่อใจไว้ด้วย ถ้าหากว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะทำให้ชีวิตของคุณแย่ลงกว่าที่เป็นอยู่ปัจจุบัน เพราะว่าคุณได้ตัดสินใจเลือกไปแล้วนั่นเอง

 

5. ลาออกแล้วจะทำอะไรต่อ?

     เป็นอีกหนึ่งคำถามที่คุณจะต้องเจอแน่ๆ หลังจากที่ใครๆ ก็รู้ว่าคุณจะลาออกว่าคุณจะไปไหนจะทำอะไรต่อ ซึ่งมันก็ไม่ควรจะเป็นคำตอบที่เหมือนไว้แค่ปลอบใจตัวเองเท่านั้น แต่ว่าคุณจะต้องรู้จริงๆ เพื่อที่จะได้วางแผนดำเนินชีวิตต่อไปหลังจากนี้ได้อย่างเป็นรูปธรรม ถ้ามีงานใหม่รองรับแล้วก็ดูให้ดีว่าชีวิตจะไม่แย่กว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้ เพราะไม่อย่างนั้นการลาออกก็ของคุณก็พาให้คุณไปพบกับปัญหาเดิมๆ จนอยากลาออกต่อไปอีกครั้งเอาได้ คุณควรใช้ประสบการณ์ที่พบเจอจากการทำงานครั้งที่ผ่านๆ มา ในการพิจารณาเรื่องเงินเดือนสวัสดิการ ไลฟ์สไตล์ที่จะทำให้ชีวิตของคุณลงตัวมากกว่าเดิม สำหรับการเริ่มงานครั้งใหม่เอาไว้ด้วย

 

6. มีอะไรที่ควรทำเพิ่มเติมหลังลาออกบ้าง?

     ไหนๆ จะต้องลาออกละเปลี่ยนชีวิตทั้งทีแล้ว ก็ลองมองหาสิ่งใหม่ๆ ให้กับตัวเองไปด้วยเลยน่าจะดี เผื่อว่าจะค้นพบตัวเองมากขึ้นก็ได้ อย่างเช่น ฝึกทักษะด้านภาษา หรือด้านคอมพิวเตอร์ เพื่ออัพเกรดตัวเองไปสายงานที่สูงขึ้น คุณก็อาจจะได้เงินเดือนเพิ่มขึ้น ตำแหน่งงานที่สูงกว่าเก่า หรือว่ามีอะไรที่คุณอยากเรียนรู้ก็ลองศึกษา ค้นคว้าเพิ่มดู เผื่อว่าจะเป็นหนทางที่เปลี่ยนคุณไปอาชีพอื่นเลยก็ได้ ขอแค่อย่าหยุดที่จะเรียนรู้และพัฒนาตัวเองก็พอ

 

cr. http://money.usnews.com/money/blogs/outside-voices-careers/2015/12/14/5-signs-your-boss-or-co-worker-is-an-office-bully

 

     ชีวิตของคนเรายังต้องเดินทางไปอีกไกล ดังนั้นแล้วบางครั้งการทำงานอยู่ที่เดียวก็ไม่ใช่เป้าหมายที่สุดของชีวิตคนๆ หนึ่งก็ได้ การลาออกจากงานๆ หนึ่งที่ทำมานานก็ไม่ได้หมายความว่าชีวิตคุณจะจบสิ้นเพียงแค่นั้น อาจจะเป็นการออกไปเผชิญโลกใบใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม มีโอกาสก้าวหน้าและสำเร็จมากกว่าเดิมด้วย แต่ก่อนที่คุณจะลาออกนั้นก็ต้องมั่นใจด้วยเช่นกัน ว่าการลาออกครั้งนี้อย่างน้อยสุดก็ควรจะไม่ทำให้ชีวิตของคุณแย่ลงนะ เหมือนกับนักเดินทางที่จะต้องเตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกเดินทางครั้งใหม่ เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายที่ตัวเองตั้งใจเอาไว้โดยไม่หลงทาง เพื่ออนาคตที่สดใสใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขด้วยนั่นเอง

 

คุณเคยลาออกจากงานไหม?

 

cr.https://www.flexjobs.com/blog/post/biggest-challenge-remote-workers-face/?utm_content=buffer0bfa1&utm_medium=social&utm_source=pinterest.com&utm_campaign=buffer 

 

บทความ โดย : Akine_noxx

ฝากติดตาม กดไลค์ กดแชร์ คอมเม้นท์เป็นกำลังใจกันด้วยนะคะ