พฤติกรรมที่จะกลายเป็น ‘New Normal’ ของผู้คนหลังจบ COVID-19
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้คนทั่วโลกต่างต้องปรับตัว พฤติกรรมของผู้คนที่จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห้นได้ชัดคือ การที่เป็นห่วงสุขภาพของตัวเองมากขึ้น รวมถึงนิสัยส่วนตัวต่างๆจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง
อาทิเช่น จากแต่เดิมที่อาจไม่ค่อยซื้ออุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อ หรือไม่เคยสวมใส่เลย ก็ต้องสำรองเงินในส่วนนี้เพิ่มเติม ให้เหมาะสมของรูปแบบการใช้ชีวิต เพราะตอนนี้แม้ว่าประเทศไทยจะไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศครบ 100 วันมาแล้วก็ตาม แต่ผู้คนก็ยังคงต้องระมัดระวังในการดูแลสุขอนามัยตัวเองอย่างเคร่งครัด จะเห็นได้ว่า ในพื้นที่สาธารณะบางแห่งยังคงบังคับให้ผู้ใช้บริการยังคงต้องสวมหน้ากากอนามัยก่อนเข้าใช้บริการ การทำงานที่ต้องพบปะกับผู้คนก็ต้องสวมอุปกรณ์ป้องกันที่แน่นหนา และหมั่นล้างมือบ่อยๆ เจลล้างมือ และหน้ากากอนามัย กลายเป็นนิวนอร์มอลที่ต้องใช้ติดตัวกันทุกวัน
หรือการทำธุรกรรมบนแอปพลิเคชันบนมือถือหรือบนเว็บไซต์ระบบ Internet Banking เริ่มทำได้หลายอย่างมากขึ้น และการจ่ายผ่าน QR Code เพื่อลดการสัมผัสเงินทอนก็กำลังเป็นที่นิยม โดยเฉพาะปี 2020 นี้เราจะได้เห็นการเปิดบัญชีข้ามธนาคารด้วยเทคโนโลยีตรวจสอบตัวตนด้วย NDID แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน เพื่อให้ผู้ใช้งานเข้าถึงธุรกรรมได้สะดวก รวดเร็วขึ้น ทั้งการฝาก ถอน โอน ขอสินเชื่อ และซื้อกองทุน เพื่อลดขั้นตอนการติดต่อกับธนาคารที่สาขา ลดข้อจำกัดด้านการเดินทาง ไม่ต้องง้อเงินสด หลีกเลี่ยงการสัมผัส จับต้องเงินสด อีกทั้งมีข้อมูลจากองค์กรอนามัยโลกระบุว่าเชื้อไวรัส COVID-19 อาจจะติดอยู่บนหน้าธนบัตรหลายวัน ดังนั้น การชำระเงินผ่านแอปทางการเงิน แทนการสัมผัสเงินสด ช่วยลดความเสี่ยงได้ เพียงเท่านี้ ก็จะช่วยป้องกันการติดเชื้อได้ และยังมีระบบการแจ้งเตือนที่สามารถเช็คได้ทันทีว่าใช้ไปเท่าไหร่ และเหลือยอดเท่าไหร่ และยังช่วยในการควบคุมค่าใช้จ่ายได้อีกทางนึง
ผู้บริโภคมีพฤติกรรมนิวนอร์มอลช่วงโควิดที่เลือกใช้วิธีการจัดส่งสินค้าแบบพัสดุส่งถึงบ้านกันมากขึ้น ทำให้ธุรกิจ Delivery เติบโต ขนส่งเอกชนหลายแห่งปรับวันหยุดพนักงานตอบโจทย์ยอดจัดส่งพัสดุ เพื่อให้บริการขนส่งได้ทุกวัน และปรับรูปแบบการส่งสินค้าสด สร้างมาตรฐานการจัดส่งสินค้าแบบใหม่อย่างไม่เคยมีมาก่อนอย่างสินค้าเกษตร เป็นต้น
เราลองมาสำรวจพฤติกรรมของผู้คนว่าจริตในยุค New Normal หลังวิกฤติโควิด จะเปลี่ยนไปแค่ไหน