หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

“คุก" ของใคร ครอบทับไว้เหนือ "หอคำ"

โพสท์โดย seeyounexttime

อิดอก ช่วงที่โดนแบน นั่งดู Twitter #ประวัติศาสตร์ปลดแอก เห็นโพสต์หนึ่งพูดเกี่ยวกับ คอก หรือ คุก เมืองเชียงใหม่สร้างทับเวียงแก้ว เลยนั่งทำรูปพวกนี้เก็บไว้ จริง ๆ เมืองอื่น ๆ ก็ตั้งอยู่ในพื้นที่สำคัญของเมืองทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น กลางเวียง หัวเวียง หรือวัดสำคัญ ล้วนแล้วแต่เป็นพื้นที่ทางจิตวิญญาณของคนที่อาศัยในเมืองค่ะ

อ่านความเห็นหลายคนบอกว่า น่าจะสะดวกสำหรับผู้ปกครองเมือง บางคุ้มก็มีคุกอยู่ใต้คุ้มอยู่แล้ว อันนี้จริง แต่ด้วยความที่คอกมีขนาดใหญ่กว่ามากและใช้ขังคนท้องถิ่นที่ทำผิดกฎหมายที่เขียนจากกรุงเทพจำนวนมาก มาตั้งหรากลางพื้นที่สำคัญของเมือง คนท้องถิ่นหลายคนเลยคิดว่านี่คือการ "ข่ม" ด้วยการเอาของต่ำมาไว้ในพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นเสนียดจัญไร เรียกว่า "ขึด"

วันหลังไว้จะหาแผนที่ที่ตั้งของพระตำหนักต่าง ๆ กับที่ตั้งพระธาตุสำคัญของล้านนามาให้ดูค่ะ

#FACT เมืองต่าง ๆ มีคุกอยู่ตามสถานที่เหล่านี้จริง #OPINION ทำไมถึงตั้งอยู่ในที่เหล่านั้นคงต้องอภิปรายกันอีกยาว

สำหรับคนที่สนใจลองอ่านบทความของ อ.เพ็ญสุภา เป็นเพียงความเห็นหนึ่งที่เขียนไว้เมื่อ 9 ปีที่แล้วดูค่ะ

 

**********

“คุก" ของใคร ครอบทับไว้เหนือ "หอคำ"

by เพ็ญ ภัคตะ on Saturday, December 17, 2011 at 10:35pm

กรณีการสร้าง "คุก" หรือที่ภาษาเหนือเรียกว่า "คอก" ครอบทับ "หอคำ" ("คุ้มหลวง") กลางเวียงมหานครเชียงใหม่นั้น เปรียบเสมือน "หนามยอกอก" ที่คอยทิ่มแทงจิตใจชาวเมืองเหนือมาตลอดหนึ่งศตวรรษเศษ โดยเฉพาะในช่วง ๑๐ ปีที่ผ่านมา คนเชียงใหม่เริ่มเคลื่อนไหวรณรงค์ขอย้ายคุก ซึ่งยังคงเหลือเฉพาะในส่วนของ "ทัณฑสถานหญิง" ให้ออกไปนอกเมืองตามอย่างทัณฑสถานชาย ณ พื้นที่ที่เหมาะสม


ไม่ใช่เอาคุกมาตั้งประจานไว้เด่นหราท่ามกลางแหล่งอารยธรรมอยู่เช่นนี้!

ปี พ.ศ. ๒๕๔๔ ยุครัฐบาลอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร เคยวางแผนให้ย้ายคุกดังกล่าวออกไปสร้างใหม่ที่อำเภอแม่แตง พร้อมกับมีโครงการให้รื้ออาคารทั้งหมดภายในคุกเพื่อจัดทำเป็น "ข่วงหลวง" หรือสวนสาธารณะลานคนเมือง
แต่จนแล้วจนรอดเกิดอะไรขึ้นก็ไม่ทราบ ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ จากกรมราชทัณฑ์ ทั้งๆ ที่เคยมีการจัดสรรงบประมาณก้อนแรกให้ดำเนินการย้ายนักโทษชายไปก่อนหน้านั้นแล้ว แต่ไฉนยังคงเก็บนักโทษหญิงไว้ที่เดิม


ปริศนาเรื่อง “คุก” กับ “หอคำ” นี้ โคจรมาพัวพันกันได้อย่างไร ทำไมอยู่ดีๆ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เคยเป็นถึง “หอคำ” หรือปราสาทพระราชวังหลวง จึงถูกปรับเปลี่ยนสภาพจนตาลปัตรจากหน้ามือเป็นหลังเท้า กลายเป็น “คุก” ได้ และนับต่อแต่นี้ คนเชียงใหม่ควรมีท่าทีอย่างไรกับคุกนั่น?

หอคำ คุ้มหลวง เวียงแก้ว

ที่ตั้งของทัณฑสถานหญิงเมื่อครั้งอดีตย้อนกลับไปสู่ปี พ.ศ.๑๘๓๙ พระญามังรายปฐมกษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านนา ได้ใช้พื้นที่นี้เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาเมืองเชียงใหม่ จากแผ่นดินว่างเปล่าได้สถาปนาให้เป็นเขตพระราชฐาน หรือที่เรียกว่า "เวียงแก้ว"

ภายในเวียงแก้วเป็นที่ตั้งของ "คุ้มหลวง" หรือ "หอคำ" ซึ่งกษัตริย์แห่งราชวงศ์มังรายทุกพระองค์ทรงประทับอยู่ที่นี่อย่างต่อเนื่องมาตลอด จนแม้กระทั่งช่วงที่เชียงใหม่ตกอยู่ภายใต้การปกครองของพม่าและสยามสมัยต้นรัตนโกสินทร์แล้วก็ตาม บริเวณนี้ยังคงเป็นที่ตั้งของคุ้มหลวงอยู่

คำว่า "หอคำ" กับ "คุ้มหลวง" ตกลงจะใช้คำไหน เหมือนหรือต่างกันอย่างไรหรือไม่ ผู้รู้หลายท่านอธิบายไว้ชัดเจนว่า สมัยก่อนนั้น ที่อยู่ของเจ้าเมืองในล้านนาเดิมเคยเรียกกันง่ายๆ ว่า "โรง” (อ่าน "โฮง”) อาจทำด้วยเครื่องไม้ หรือโรงดิน ค่อยๆ พัฒนามาเป็นอาคารที่ก่ออิฐถือปูน จึงเปลี่ยนไปเรียกว่า "หอ"

ไม่เพียงแต่ชาวไทในล้านนาเท่านั้นที่เรียกวังว่า "หอ" แม้แต่คนไทอาหมแห่งรัฐอัสสัมของอินเดียตะวันออกซ่ึงติดกับพม่า ก็เรียกที่อยู่ของเจ้าผู้ครองเมืองว่า หอนอน หรือ หอหลวง ด้วยเช่นกัน ต่อมาคำว่า "โรง" ก็ดี หรือ "หอ" ก็ดี ถูกนำไปใช้เรียกอาคารอื่นๆ จนสับสนปนเปไปหมด เช่น โรงพระ หมายถึงกุฏิ หรือหอเจ้าที่ หอผี จึงทำให้มีการเปลี่ยนจาก "หอ" เฉยๆ เพิ่มฐานานุศักดิ์ขึ้นอีกนิดเพื่อแสดงความแตกต่างจากอาคารอื่นเป็น "หอคำ" หมายถึง "ปราสาททอง" ส่วนคำว่า “คุ้มหลวง” ก็ใช้ในความหมายเดียวกันกับ "หอคำ" ทั้งเป็นคำที่ปรากฏในเอกสารตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ด้วย ซึ่งหมายถึง พระบรมมหาราชวัง นั่นเอง


หากใช้ว่า “คุ้ม” คำเดียว หมายถึงที่ประทับของเจ้านายองค์อื่นๆ ด้วยนอกเหนือจากกษัตริย์ คำว่าคุ้ม จึงหมายถึง “วัง” ในภาษาไทย กล่าวคือคุ้มหรือวังมีได้หลายแห่งเพราะมีเจ้านายหลายคน

ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ ระบุว่าพระญามังรายได้สร้างอาคารต่างๆ หลายหลัง กอปรด้วย หอนอน ราชวังคุ้มน้อย โรงคัล (สถานที่เข้าเฝ้า) โรงคำ (ท้องพระโรงที่เสด็จออกราชการ) เหล้ม (พระคลังมหาสมบัติ) ฉางหลวง (ที่เก็บเสบียง) โรงช้าง โรงม้า ฯลฯ แต่ทั้งหมดนี้รวมกันอยู่ในบริเวณหอคำ

ฉะนั้นคำว่าหอคำ จึงมีความหมายสองนัย นัยแรกหมายถึงเฉพาะหอที่ประทับ (คุ้มหลวง) ส่วนอีกนัยหมายถึงบริเวณทั้งหมดที่เป็นเขตพระราชฐานของกษัตริย์ (เวียงแก้ว)


สรุปแล้ว "คุ้มหลวง" กับ "หอคำ" มีความหมายเดียวกัน ชาวเชียงใหม่ ลำปาง (นครขนาดใหญ่) นิยมเรียกว่า "หอคำ" ตามภาษาเดิม ส่วนชาวล้านนาในนครขนาดเล็กลงมา เช่น ลำพูน แพร่ น่าน นิยมเรียกว่า "คุ้มหลวง" หรือ "คุ้มเจ้าหลวง"

คอกทับคุ้ม เท่ากับ "ขึด"!

และแล้วการเข้ามาของระบอบการปกครองหัวเมืองประเทศราชในยุคมณฑลเทศาภิบาล สมัยรัชกาลที่ ๕ ก็ได้จัดการรื้อคุ้มเจ้าหลวงหรือหอคำในล้านนาทิ้งลงหลายแห่ง เมื่อเจ้าหลวงองค์สุดท้ายของแต่ละเมืองถึงแก่พิราลัย รัฐสยามได้ถือโอกาสส่งผู้ตรวจราชการมณฑลเทศาภิบาลเข้ามาดูแลหัวเมืองเหล่านี้แทนที่การแต่งตั้งเจ้าผู้ครองนครองค์ถัดไป


การปิดฉากบทบาททางด้านการบริหารบ้านเมืองของเจ้านายฝ่ายเหนือ ย่อมทำให้เกิดการอวสานของหอคำหรือคุ้มหลวงตามไปด้วย แต่แทนที่จะรื้อหอคำลงแบบธรรมดา หรือปรับเปลี่ยนไปเป็นศาลากลางจังหวัด ดังเช่นที่เมืองน่านและแพร่ แต่ในหลายเมืองกลับพบว่ามีการสร้าง "คุก" หรือ "คอก" ครอบทับพื้นที่หอคำเก่า

ปรากฏการณ์นี้ไม่น่าจะใช่เรื่องบังเอิญ เพราะไม่ได้เกิดขึ้นกับเชียงใหม่เพียงเมืองเดียวเท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นกับนครลำปาง และลำพูนอีกด้วย


โชคดีที่นครลำปาง เทศบาลได้ทำการรื้อคุกที่มาตั้งประจานอยู่กลางเวียงเยื้องกับหอคำนั้นลงเสีย แล้วปรับพื้นที่ใหม่เป็นย่านตลาดร้านค้าทำให้พ้นจากสภาพทัศนอุจาดไปได้แล้ว


ส่วนลำพูนนั้น คุกมิได้สร้างครอบทับ "คุ้มหลวง" หากแต่เลวร้ายยิ่งกว่านั้น คุกยุคมณฑลเทศาภิบาลตั้งเด่นหราอยู่ตรงข้ามกับพระบรมธาตุหริภุญไชย ศูนย์รวมจิตใจชาวเหนือทั้งมวล โดยการรื้อ "วัดแสนข้าวห่อ" ซึ่งรัฐบาลยุคโน้นอ้างว่าบริเวณใจกลางเมืองเก่าลำพูนนั้นมีวัดเบียดแน่นมากเกินไป จึงได้วิสาสะทำการเปลี่ยนวัดให้กลายเป็นคุก


โดยหารู้ไม่ว่า การที่กลางเมืองลำพูนมีวัดชนวัดมากมายขนาดนี้ ก็เพราะคนในอดีตตั้งใจจะให้วัดพระธาตุหริภุญไชยเป็นสัญลักษณ์ของศูนย์กลางศาสนจักรแห่งลุ่มแม่น้ำโขง-สาละวิน จึงได้สร้างวัดบริวารรายรอบองค์พระธาตุซึ่งเปรียบเสมือนเขาพระสุเมรุไว้แปดวัด แทนการเผยแผ่ศาสนาไปยังทิศทั้งแปด ได้แก่


วัดช้างสี-ทิศเหนือ วัดศรีบุญเรือง-ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ วัดแสนข้าวห่อ-ทิศตะวันตก วัดไชยมงคล-ทิศตะวันตกเฉียงใต้ วัดสุพรรณรังษี-ทิศใต้ วัดธงสัจจะ-ทิศตะวันออกเฉียงใต้ วัดเปลือกเต้า-ทิศตะวันออก (ถูกรื้อไปแล้วกลายเป็นบ้านพักของสรรพากรจังหวัด) และวัดช้างรอง-ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ

เหตุที่ไม่มีการศึกษาข้อมูลอย่างถ่องแท้ จึงได้มารื้อวัดแสนข้าวห่อ (รวมทั้งวัดเปลือกเต้า) ลง ทำให้วัดบริวารที่รายล้อมพระธาตุหริภุญไชยควรมีครบ ๘ ทิศต้องเหลืออยู่เพียง ๖ ทิศ!


วัดแสนข้าวห่อตกอยู่ในสภาพคุกอยู่นานหลายสิบปี จนกระทั่ง พ.ศ. ๒๕๑๘ กรมศิลปากรมีดำริจัดสร้างพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติหริภุญไชยขึ้น จึงได้มีการย้ายเรือนจำออกไปสร้างใหม่ที่นอกเมืองแถวตำบลริมปิง

การสร้างคุกครอบทับหอคำเก่าที่เชียงใหม่และลำปาง หรือการเอาคุกมาวางประชิดกับองค์พระบรมธาตุศักดิ์สิทธิ์เช่นกรณีของลำพูนนั้น รัฐบาลสยามอ้างเหตุผลว่า เนื่องจากมีความจำเป็นต้องจัดให้นักโทษอาศัยอยู่ในบริเวณที่ใกล้กับศาลและสถานีตำรวจ ซึ่งหน่วยงานเหล่านี้ล้วนมีที่ทำการอยู่กลางเวียง หากนักโทษจะหนีก็มิอาจรอดพ้นสายตาของทางการไปได้


แต่ทว่าในมุมมองของคนล้านนานั้นกลับเห็นต่าง คนที่มีอายุเกินครึ่งศตวรรษส่วนใหญ่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า คุกที่เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง เหล่านี้ แท้ที่จริงแล้วชาวสยามสร้างขึ้นเพื่อต้องทำลายพระราชวังของกษัตริย์แห่งราชวงศ์มังรายรวมไปถึงราชวงศ์เจ้าเจ็ดตนของพระญากาวิละ

คนเหนือเรียกการกระทำเช่นนี้ว่า "ขึด"! กาลีบ้านกาลีเมือง หรือเสนียดจัญไร!

การเปลี่ยนหอคำให้กลายเป็นคุก ว่าไปแล้วก็คือการสร้างสัญลักษณ์ใหม่ขึ้นข่มขวัญคนพื้นเมือง เป็นการสาปให้เจ้าต้องกลายเป็นนักโทษชั่วนิรันดร์

คุกกลางเวียงจึงเท่ากับคมหอกที่ปักลงกลางอกของคนเมือง คือกรงที่ขังจิตวิญญาณของคนล้านนาไว้มิให้มีอิสรภาพ ในขณะที่ชาวลำปาง ลำพูน ได้แปรสภาพคุกเป็นตลาดและพิพิธภัณฑ์แล้ว แต่ทว่าชาวเชียงใหม่เล่า...


ประวัติศาสตร์กับความทรงจำ โบราณสถานที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์?

เมื่อกลางปี พ.ศ. ๒๕๕๒ ได้มีการจัดเสวนาของกลุ่มนักขับเคลื่อนวัฒนธรรมล้านนา เกี่ยวกับประเด็นที่ว่าหากมีการย้ายทัณฑสถานหญิงออกไปอยู่ที่แม่แตงในอนาคตแล้ว จะปรับพื้นที่ ๑๗ ไร่ที่เคยกุมขังนักโทษหญิงหลายพันชีวิตแห่งนี้ไว้ทำอะไร

ตอนแรกเทศบาลนครเชียงใหม่เคยเสนอว่า หากได้รับการถ่ายโอนให้เป็นผู้ดูแลสถานที่จากกรมราชทัณฑ์แล้ว จะทำการรื้ออาคารออกทั้งหมดแล้วปรับเป็นสวนสาธารณะ เพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความหวาดระแวงเวลาเดินผ่าน
แต่ทว่าความเห็นนี้กลับถูกตีแสกหน้ากลับมา

"สวนสาธารณะในเชียงใหม่มีอยู่เต็มบ้านเต็มเมืองแล้ว ไยจึงยอมจำนนอยู่แต่เพียงโจทย์เดิมๆ ที่พอพ้นจากคุกแล้วก็ต้องกลายมาเป็นสวน เหมือนคุกเก่าที่กลายเป็นสวนรมณีนาถกลางกรุงเทพ "

คำถามนี้ท้าทายให้นักประวัติศาสตร์และนักอนุรักษ์ท้องถิ่นต้องออกมาเสนอแนวคิดใหม่ว่า

"ไหนๆ คุกแห่งนี้ก็เป็นหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ล้านนาไปแล้ว ความทรงจำแม้จะขมขื่นเจ็บปวดเพียงใด แต่มันก็คือประวัติศาสตร์ อาคารที่ขังนักโทษนี้ อย่างน้อยก็สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๕ ถือเป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกที่มีค่าแก่การรักษาไว้"

บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นฉบับหนึ่งเปิดเผยว่าเคยเข้าไปถ่ายทำสารคดี แล้วพบว่าด้านในคุกแห่งนี้มีอุโมงค์ใต้ดิน เป็นห้องขังนักโทษแบบขังเดี่ยวสำหรับนักโทษชาย ๕ ห้อง และยังมีคุกมืดใต้ดินที่อยู่ในสภาพค่อนข้างดี หากอนุรักษ์อาคารนี้ไว้แล้วเปิดให้คนเข้าไปชม คิดว่าเทศบาลน่าจะได้เม็ดเงินมากกว่าการทำเป็นสวนสาธารณะ เหมือนดั่งคุกในอิตาลีและคุกโบราณของยุโรปที่เปิดให้คนได้เยี่ยมชม


ตอกย้ำด้วยการโยนเผือกร้อนไปถามนักโบราณคดีของกรมศิลปากรว่า คุกแห่งนี้มีอายุเกินกว่า ๑๐๐ ปีแล้ว (นับถึง พ.ศ. ๒๕๕๔ ก็ครบ ๑๐๘ ปี) จัดเป็นโบราณสถานได้หรือไม่ มุมมองของนักโบราณคดีบางคนก็เห็นดีเห็นงามว่าสมควรขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานสำคัญของชาติ ให้อนุรักษ์เก็บไว้เป็นพิพิธภัณฑ์เรือนจำชั่วกาลนานให้ลูกหลานไว้ดู เพราะครั้งหนึ่งพื้นที่นี้ก็มีคุณค่าอันซ้อนทับทางประวัติศาสตร์หลายยุคสมัย

แต่ทำไมนักโบราณคดีกลับไม่มองให้ลึกลงไปถึงชั้นใต้ดินบ้างเล่า ว่าที่บริเวณนี้พบซากซุ้มประตูโขงอยู่ข้างคุก ตกแต่งด้วยลวดลายปูนปั้นงดงามสมัยล้านนา สร้างในสมัยพระเจ้าติโลกราช (พ.ศ.๑๙๘๔-๒๐๓๐) ส่วนล่างมีลายปูนปั้นรูปสิงห์สวยงามถูกทอดทิ้งเอาไว้ ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของหอคำ-เวียงแก้ว

คนที่คัดค้านแนวคิดของการอนุรักษ์คุกที่ครอบทับหอคำในทุกเวที ชัดเจนและเปิดเผยมากที่สุดก็คือ ศ. ดร.ธเนศวร์ เจริญเมือง แห่งคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ด้วยเหตุผลที่ว่า

"คุกแห่งนั้นหาใช่อาคารที่มีคุณค่าในฐานะหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ล้านนาไม่ แต่มันคือเครื่องหมายของการทำลายหัวใจคนเชียงใหม่และล้านนาไปอย่างย่อยยับ ในอดีตผู้มีอำนาจขยายอาณาเขตเข้ามาครอบครองพื้นที่ในภาคเหนือ โดยจงใจใช้ที่คุ้มเจ้าหลวงเป็นคุกขังคน เหตุผลก็คือต้องการตัดไม้ข่มนาม มิให้คนชายขอบได้โงหัว"

เสียงขอร้องวิงวอนในเวทีประชาพิจารณ์ของคนเชียงใหม่เริ่มกลับมาดังก้องขึ้นอีกครั้ง กับว่าที่นายกรัฐมนตรีผู้เป็นแม่ญิงล้านนา พร้อมกับคำถามที่ควรได้รับคำตอบว่า

"ชาวเชียงใหม่อยากจะรักษาตึกอายุร้อยปีในเรือนจำต่างๆ เอาไว้เป็นคราบความทรงจำทางประวัติศาสตร์ ว่าครั้งหนึ่งเคยตกอยู่ภายใต้การกดขี่ชี้นำ หรือเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่ควรเปิดซาก "หอคำ" ซึ่งเคยถูก "คุก" ครอบทับ ให้กลับคืนมา คืนจิตวิญญาณของชาวเชียงใหม่ที่ถูกกักขังนั้นด้วยการเปิดพื้นที่ "ข่วงหลวง" ให้เป็นสวนสาธารณะแก่ประชาชนชาวบ้าน"

จาก "ปริศนาโบราณคดีตอนที่ ๓๗" ในมติชนสุดสัปดาห์


ทัณฑสถานหญิงที่สร้างทับหอคำหลวง
หอคำหลวงที่ถูกรื้อทิ้ง

โพสท์โดย: seeyounexttime
อ้างอิงจาก: by เพ็ญ ภัคตะ
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
seeyounexttime's profile


โพสท์โดย: seeyounexttime
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
10 VOTES (5/5 จาก 2 คน)
VOTED: zerotype, มยุริญ ผดผื่นคัน
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ภาพนี้ที่รอคอย !!! ทหารไทยนำตู้คอนเทนเนอร์ไปวางกั้นพรมแดนบ้านหนองจาน ตามเส้นเขตแดน 1:50000 เป็นที่เรียบร้อยเจาะสเปก กริเพน ทําไมกองทัพไทยถึงเลือกใช้โจรบุกห้องนิรภัยปล้นตู้เซฟธนาคารกว่า 3,000 ตู้ ได้เงินไป 1.1 พันล้านบาทในช่วงเทศกาลคริสต์มาส!อดีตนายกหญิงคนแรกของบังกลาเทศ "คาเลดา เซีย" เสียชีวิตแล้วหนุ่ม จ.ตาก หึงหวงแฟนสาว ใช้มีดทำร้ายจนเสียชีวิตในห้องพักย่านดุสิต ก่อนแจ้งความเองเขมรขอถก JBC ด่วน ยันไม่รับเส้นเขตแดน จากการใช้กำลังของไทย"มารินะ ยามาดะ" วง HKT48 เผย "ฉันแต่งงานและมีลูกคนแรกแล้ว"10 เลขฮิต "OK ล็อตเตอรี่" งวดวันที่ 2 มกราคม 69..ส่องก่อน รวยก่อน!!"พงศาวดารโกโก้: จากโอสถศักดิ์สิทธิ์สู่ปีศาจผู้เย้ายวน"100 อันดับของหวานยอดเยี่ยมปี 2025ไทยปล่อยตัวทหารเขมร 18 นาย กลับเขมร ซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ผีเสื้อนกฮูกแห่งบราซิล ผู้มี “ดวงตานกฮูก” บนปีก กลยุทธ์เอาตัวรอดสุดอัศจรรย์ของป่าฝน
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
อดีตนายกหญิงคนแรกของบังกลาเทศ "คาเลดา เซีย" เสียชีวิตแล้ว100 อันดับของหวานยอดเยี่ยมปี 2025หนุ่ม จ.ตาก หึงหวงแฟนสาว ใช้มีดทำร้ายจนเสียชีวิตในห้องพักย่านดุสิต ก่อนแจ้งความเองหยุดยาวปีใหม่ 69 นักท่องเที่ยวทะลัก “สะพานมอญ” สังขละบุรี แน่นขนัด ยอดเข้าพื้นที่ทะลุวันละหมื่นผีเสื้อนกฮูกแห่งบราซิล ผู้มี “ดวงตานกฮูก” บนปีก กลยุทธ์เอาตัวรอดสุดอัศจรรย์ของป่าฝน
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ถามตอบ พูดคุย
ข้าวโพดตอนเด็กๆ1คิดยังไงกับความว่าคนจนไม่ควรมีลูกใครเคยใช้ Minoxidil แล้วเห็นผลเร็วสุดกี่เดือนครับ
ตั้งกระทู้ใหม่