8 ข้อคิดที่ไม่ควรให้ค่ากับนักเลงคีย์บอร์ด
โมโห หัวร้อนเสียทุกที เวลาที่เจอนักเลงคีย์บอร์ดเล่นงานเอา จะรับมือกับคนพวกนี้ได้อย่างไรนะ
คนที่ใช้โซเชียลในด้านแย่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ถ้อยคำหยาบคายด่าทอคนอื่น กลั่นแกล้ง ปั่นป่วน โจมตีคนอื่นในโลกโซเชียล ทั้งด้วยจริงและเรื่องเป็นเท็จ เราเรียกคนพวกนี้ว่า "นักเลงคีย์บอร์ด" เป็นการใช้โซเชี่ยลเป็นเครื่องมือด้านแย่ๆ ที่ทำให้เกิดการแตกแยก เกลียดชังกัน เขาสนุกกับการทำร้าย บดขยี้จิตใจของคนอื่น ซึ่งทำให้หลายๆ คนรู้สึกแย่ เก็บเอามาคิดมาก ถึงขั้นกลายเป็นโรคซึมเศร้าไปเลยก็มี ดังนั้นแล้วคุณควรจะตั้งรับจิตใจให้รับมือกับคนพวกนี้เอาไว้บ้าง เราเป็นคนนึงที่ก้เจอบ่อยและเจอมาหลายรูปแบบมาก มีข้อคิดดีๆ มาแนะนำกันค่ะ
8. ไม่คุ้มกับการเอาสภาพจิตไปเสีย
บางทีอารมณ์ดีมาทั้งวันแล้วแท้ๆ แต่กลับมาเจอพวกนักเลงคีย์บอร์ดที่บั่นทอนทำให้รู้สึกห่อเหี่ยวไม่เป็นสุขเอาเสียเลย หรือว่าบางวันที่เจอเรื่องร้ายๆ มามากพออยู่แล้ว ยังต้องมาเจอกับคอมเม้นท์งี่เง่าๆ ในโลกโซเชียลให้หัวร้อนไปอีก ดังนั้นควรพึงระลึกไว้ว่าสภาพจิตใจของคุณสำคัญที่สุด ดังนั้นแล้วอย่าเอาเรื่องแย่ๆในโซเชียลมาแลกกับสภาพจิตใจของตัวเองเลยพยายามเสพและหาอะไรที่ผ่อนคลาย จรรโลงจิตใจในโซเชียลดีกว่า
7. ไม่ควรเสียเวลาไปกับคนพวกนี้
โดยเฉพาะการโต้ตอบกับคนพวกนี้ไม่ได้เป็นประโยชน์เสมอไป เพราะต่อให้ลึกๆ แล้ว เขาจะรู้ว่าเขาเป็นฝ่ายผิด หรือมีความคิดตรรกะที่บิดเบี้ยวก็ตาม แต่เขาก็มีเวลาทั้งวันที่จะโต้ตอบกลับให้คุณประสาทเสียได้อยู่ดี อย่าไปหลงกลเข้าล่ะ แม้แต่วินาทีเดียวของคุณก็มีค่ามากเกินกว่าจะเอามาเสียเวลากับคนแบบนี้จริงๆ นะ
6. นิ่งเฉยไม่โต้ตอบคือการเอาคืนที่เจ็บกว่า
นิสัยของมนุษย์เรามักจะชอบเอาชนะ ดังนั้นแล้วจึงอดไม่ได้ที่จะโต้ตอบให้อีกฝ่ายรู้สึกเจ็บ รู้สึกพ่ายแพ้ แต่ในโลกโซเชียลแล้วการเป็นฝ่ายถอยออกมาไม่ใช่การยอมรับความพ่ายแพ้เสมอไป แต่กลับกันถ้าหากว่าเราไปหวั่นไหว มีปฏิกิริยาตอบกลับกับคนพวกนี้ เขาจะยิ่งรู้สึกยินดีและชอบมากต่างหาก ที่จะได้กระตุ้นความโกรธความโมโหของคุณมากขึ้นไปอีก และคนแบบที่พวกเขารู้สึกไม่ชอบและเบื่อหน่ายก็คือพวกที่นิ่งเงียบเฉย ไม่โต้ตอบกลับมากกว่า เพราะจะทำให้เขาหมดสนุกเอาได้ และบางทีก็เป็นฝ่ายประสาทเสียไปซะเองเพราะเราไม่เล่นด้วย
5. อย่าทำตัวเป็นที่รองรับอารมณ์แล้วจะไม่ต้องเจ็บเอง
ลองคิดดูดีๆ ว่าเราไม่ใช่ถังขยะหรือว่าห้องน้ำที่ให้คนอื่นมาใช้เป็นที่ระบาย ประโยชน์ก็ไม่ได้ เงินก็ไม่ได้จะทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร แถมสุขภาพจิตก็มีแต่จะย่ำแย่ลงไปอีก แค่จำไว้ก็พอว่ามันไม่ใช่หน้าที่ และคุณก็ไม่จำเป็นต้องยอมทนรับสภาพแบบนี้ด้วย มีอะไรที่ควรทำกว่านี้อีกเยอะ บางทีปิดมือถือแล้วดูหนัง อ่านหนังสือให้อารมณ์เย็นลงดีกว่านะ
4. เป็นการปลดปล่อยตัวตนของคนที่มีปมปัญหาในชีวิต
หลายๆ คนที่เป็นนักเลงในโลกโซเชียลก็คือคนที่มีปัญหาต่างๆ ในชีวิตตัวเอง ไม่ว่าจะมีปัญหากับครอบครัว ปัญหากับเพื่อนฝูง หรือมีปัญหาด้านความสัมพันธ์กับคนในชีวิตจริง แล้วเอามาระบายที่หลังคีย์บอร์ดแทน เพราะชีวิตจริงของเขาได้แต่เก็บกด ไม่กล้าที่จะโต้เถียงกลับกับใครในต่อหน้า จึงใช้โลกของโซเชียลนี้เป็นที่เล่นสนุก ระบายอารมณ์ด้านแย่ๆ ของตัวเอง โดยที่ไม่แคร์ความรู้สึกของคนอื่นและไม่เคยคิดจะรับผิดชอบการกระทำของตัวเองเลยด้วย ในเมื่ออีกฝ่ายทำไปโดยไม่ได้คิดอะไรมาก คุณก็ไม่ควรรับมาคิดมาแทนเช่นกัน
cr. https://www.pexels.com/photo/person-using-smartphone-1458283/
3. คนที่จมอยู่กับความเกลียดชังมีแต่ความทุกข์
คุณอาจจะเคยเจอกันมาบ้าง บางทีก็เป็นแค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น แต่อีกฝ่ายกลับเอามาโต้ตอบโจมตีเรากลับเป็นเรื่องใหญ่โต จนทำให้เรางงไปเลยว่ามันร้ายแรงขนาดไม่สามารถที่จะให้อภัยได้ขนาดนั้นเชียวหรือ และก็อดสงสัยไม่ได้เลยจริงๆ ว่าเขาถูกเลี้ยงดูมาอย่างไร ทำไมถึงคิดร้ายคิดลบได้มากมายเสียขนาดนี้ บางคนก็ขยันโพสต์แต่เรื่องแย่ๆ ลงโซเชียลจนชีวิตนี้เหมือนไม่เคยพบเจอแต่สิ่งดีๆ มีความสุขบ้างเลยหรือไร ลองตั้งสติดูให้ดีๆ แล้วลองคิดสักหน่อยว่า คุณอยากจะใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้ด้วยความสุขหรือความทุกข์กันแน่ล่ะ ชีวิตมันสั้นนะจะทำตัวอมทุกข์ไปทำไมกัน
2. การโต้ตอบด้วยความเกลียดและหยาบคาย คุณก็จะได้สิ่งนั้นกลับคืน
"ถ้าหากคุณปาก้อนหินใส่คนอื่น อย่าหวังเลยว่าเขาจะปาดอกไม้คืนมา" คุณคงจะเคยได้ยินประโยคประมาณนี้กันมาบ้าง การที่คุณทำร้ายคนอื่นก่อน ก็มีโอกาสที่จะโดนสวนกลับได้รุนแรงคืนมากยิ่งกว่านะ Hate Speech ไม่ใช่สิ่งที่สร้างสรรค์และไม่ควรกระทำกับใคร แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ ก็ตาม แต่การเปลี่ยนแปลงคนอื่นมันยาก แต่ก็เริ่มที่เล็กๆ จากตัวเองก่อนดีที่สุด ส่วนคนที่ชอบแบบนั้นเขาจะโดนเอาคืนไม่ทางใดก็ทางนึงสักวันเองนั่นแหละ
1. อย่าพาระดับจิตใจลงไปตกต่ำกับคนพวกนี้
การใช้ถ้อยคำรุนแรงเสียดสีบ่อยๆ ในโลกโซเชียล จะทำให้คุณเสพติดการใช้ความรุนแรง ความหยาบคายทางด้านอารมณ์และจิตใจ มองโลกในแง่ร้าย ใจแคบ ไม่ยอมรับความเห็นต่างใดๆ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ซึ่งเจริญทางด้านจิตใจและการศึกษาพึงกระทำเลย แม้แต่เจ้าของแฟนเพจ หรือแอคเค้าท์ชื่อดังต่างๆ เองก็ไม่ได้คิดถูกไปเสียทุกอย่าง คนเรามีทั้งด้านและข้อเสีย แต่คุณสามารถเลือกที่จะยกระดับจิตใจของตัวเองได้ โดยที่ไม่ต้องลดตัวลงไปกระทำตามในสิ่งที่คุณคิดว่ามันไม่ดี ที่คุณไม่ชอบให้ใครมากระทำกับคุณได้ เพียงเท่านี้คุณก็เป็นชาวโซเชี่ยลที่มีคุณภาพได้แล้วล่ะ
cr. https://us-fbcloud.net/wb/data/1232/1232437-img.ueao2m.2p.jpg
เพียงแค่เรารู้ทันจุดประสงค์ และการกระทำของคนพวกนี้ให้ได้ ก็จะไม่ตกเป็นเหยื่อของพวกเขาได้เล่นสนุกกับจิตใจของเราค่ะ คนพวกนี้ไม่ใช่คนที่สำคัญในชีวิตจริงของเรา ไม่มีประโยชน์กับการดำเนินชีวิตของเราเลย ดังนั้นไม่ควรเอาเรื่องต่างๆ พวกนี้มาแบกไว้ให้หนักอกหนักใจไปเลย ก็แค่เรื่องไร้สาระเรื่องหนึ่งที่เดี๋ยวมันก็ผ่านไปแล้ว ใช้โซเชี่ยลให้เป็นประโยชน์กับตัวเองเข้าไว้ดีที่สุดค่ะ
คุณรับมือกับพวกนักเลงคีย์บอร์ดอย่างไร?
✪ บทความ โดย : Akine_noxx
✿ เผยแพร่ครั้งแรกในเว็บ Spice/Pepper
❀ ฝากติดตาม กดโหวต กดแชร์ คอมเม้นท์เป็นกำลังใจกันด้วยนะคะ