[รีวิว]เสริมคางแผลนอก VS เสริมคางแผลใน ตัดสินใจเลือกแบบไหนดี ที่นี่มีคำตอบ
การเสริมคางแผลนอก แผลใน
การดูรีวิวเสริมคางแต่ละแบบ ทั้งก่อนและหลังทำจากแต่ละคลินิก เป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ว่าควรจะเลือกรับบริการที่ใด ปัจจุบันมีหลายคลินิกเปิดให้บริการ แต่ใช่ว่าจะทำที่ไหน กับใครก็ได้ จำเป็นต้องศึกษาข้อมูลให้ดี ดูรีวิวหลายๆเคส ปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อทำการวิเคราะห์ปัญหาโครงสร้างใบหน้า ว่าคุณมีปัญหาในเรื่องใดบ้าง
แพทย์จะได้ออกแบบทรงคางที่เข้ากับใบหน้าได้ รวมถึงตรวจสอบคลินิกที่จะเข้าใช้บริการว่ามีความสะอาด ปลอดภัย ห้องผ่าตัดได้มาตรฐานหรือไม่ เพื่อให้ได้ทรงคางที่สวยเป็นธรรมชาติและมีความปลอดภัยมากที่สุด
(ตัวอย่าง รีวิวเสริมคางใส่ซิลิโคน ทรงวีมน เหมาะสำหรับคนมีแก้ม ดูเป็นธรรมชาติ ไม่โอเวอร์เกินไป )
เรียกได้ว่า “การเสริมคาง” เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยแก้ไขปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนสวยงาม รูปหน้าดูเรียวยาว มีมิติโดดเด่นมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่ปัญหาเรื่องคางสั้น คางตัด คางถอย คางบุ๋ม คางเล็ก คางเหลี่ยม ที่ทำให้ใบหน้าดูสั้นกลม ซึ่งวิธีการการเสริมคางในปัจจุบันมีหลายแบบ เช่น การเสริมคางแผลนอก แผลใน มีข้อดี ข้อเสียต่างกัน ดังนั้นเพื่อให้ตัดสินใจเลือกวิธีเสริมคางที่เหมาะกับตัวเองได้ง่ายขึ้น เรามีตัวอย่างรีวิว และวีธีการเสริมคางแต่ละแบบมาฝาก
เสริมคางมีกี่แบบ
เสริมคางมี 2 แบบด้วยกันคือ
- แบบฉีดเสริมคาง
- แบบผ่าตัดเสริมคาง
ซึ่งทั้ง 2 แบบมีข้อดีข้อเสียต่างกัน
เสริมคางแบบฉีด
ในกรณีเสริมแบบฉีดจะเป็นการใช้ฟิลเลอร์ หรือไขมันตนเองเป็นการเสริมคางแบบเร่งด่วน เห็นผลเร็ว แต่ไม่ถาวรเพราะทั้งฟิลเลอร์และไขมันตนเองสามารถสลายไปได้โดยส่วนใหญ่อยู่ได้ ประมาณ 1ปี
เสริมคางแบบผ่าตัด
เป็นการศัลยกรรมผ่าตัด โดยการใช้ซิลิโคน เพื่อปรับเปลี่ยนรูปหน้า ทำให้ใบหน้าดูเรียวเล็กลงวิธีการนี้ค่อนข้างได้รับความนิยมเพราะได้รูปคางที่สวยเป็นธรรมชาติในแบบที่ต้องการ อยู่ได้ถาวร และยังเป็นการผ่าตัดเล็ก ไม่เจ็บตัวมากนัก และใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นน้อย แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ
- การเสริมคางแผลนอก
- การเสริมคางแผลใน
เสริมคางแผลนอก คืออะไร
วิธีการผ่าตัดเสริมคางแบบนอกช่องปาก แพทย์จะทำการเปิดแผลบริเวณใต้คาง
ยาวประมาณ 1-1.5 เซนติเมตร
เพื่อวางซิลิโคน
ข้อดีการเสริมคางแผลนอก
- แพทย์สามารถปรับรูปคางได้หลายองศา แม่นยำ ชัดเจน รวมถึงยังสามารถตกแต่งผิวหนังส่วนเกินใต้คางได้ ลดการบิดเบี้ยวเอียงได้ดีขึ้น
- ดูแลง่าย แผลมีขนาดเล็ก จึงหายเร็วใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน (กรณีทำด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง ใช้เลเซอร์ร่วมกับการผ่าตัดช่วยให้เสียเลือดน้อย ลดอาการบวมช้ำ)
- ลดความเสี่ยงการติดเชื้อ จากเศษอาหารและน้ำลายในช่องปาก
ข้อเสียการเสริมคางแผลใน
- อาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นได้ในบางราย
- อาจไม่เหมาะกับคนที่มีเกิดรอยแผลเป็นได้ง่าย แต่ด้วยที่แผลมีขนาดเล็ก หากคนไข้ดูแลตัวเองอย่างดี ทาครีมลดรอยแผลเป็นอย่างสม่ำเสมอ ก็ช่วยให้ลดโอกาสเกิดแผลเป็นลงได้เช่นกัน
รีวิว เสริมคางแผลนอก ด้วยเทคนิคซิลิโคนขายาว
(ก่อนทำ คางสั้น-ตัด-บุ๋ม) (หลังทำคาง 3 วัน)(หลังเสริมคาง 2สัปดาห์)
เสริมคางแผลใน คืออะไร
วิธีเสริมคางแบบแผลใน คือ การผ่าตัดเปิดแผลด้านในช่องปาก โดยแพทย์จะทำการผ่าตัดตรงบริเวณเหงือกด้านในกับริมฝีปากล่างให้มีความยาวประมาณ 2 เซนติเมตร หรือแล้วแต่ขนาดซิลิโคนที่เหมาะสมกับคนไข้ ก่อนที่วางแท่งซิลิโคนเข้าไปให้พอดีกับตำแหน่งที่ต้องการ ด้วยผ่าแยกเยื่อหุ้มบริเวณขอบล่างของคางออกก่อน เมื่อวางตำแหน่งได้พอเหมาะ จึงทำการเย็บปิดปิดแผลด้วยไหมละลาย
ข้อดีการเสริมคางแผลใน
- หลังทำไม่เห็นแผลภายนอก
- เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเกิดแผลคีลอยด์ได้ง่าย
ข้อเสียการเสริมคางแผลใน
- ต้องระวังแผลติดเชื้อจากน้ำลายหรือเศษอาหารเป็นพิเศษ
- ระมัดระวังการขยับหน้า เพื่อไม่ให้คางกระแทกจนซิลิโคนเคลื่อนผิดตำแหน่ง
รีวิว เสริมคางแผลใน ด้วยเทคนิคซิลิโคนขายาว
(เปรียบเทียบ ก่อน – หลัง ผ่าตัดทำคางทันที)
(ก่อนทำคาง มีปัญหาคางสั้น บุ๋ม) ( หลังทำคาง 1 เดือน) (หลังทำคางไป 3 เดือน )
ทำความรู้จัก ซิลิโคนที่ใช้ในการเสริมคาง
ปัจจุบันการเสริมคางด้วยซิลิโคนแท่ง เป็นวิธีที่ได้รับความนิยม เนื่องจากเป็นวิธีที่ปลอดภัย
ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับเนื่องจากเป็นซิลิโคนทางการแพทย์ (Medical Grade Silicone) ซึ่งมีอยู่หลักๆ 2 ลักษณะ คือ ซิลิโคนขาสั้น และ ซิลิโคนขายาว ทั้งสองแบบมีข้อแตกต่างกันดังนี้
- ซิลิโคนขาสั้น : เป็นซิลิโคนนิ่ม ที่เหมาะกับผู้ที่มีต้นทุนคางดีอยู่แล้ว ใบหน้าเล็กแต่ต้องการปรับสัดส่วนบนใบหน้าให้ปลายคางยาวขึ้น เพื่อรับกับรูปหน้ามากขึ้น ใบหน้าจึงดูเรียวยาวสมบูรณ์ แต่ก็มีข้อเสียเช่นกัน คือ ซิลิโคนมีความนิ่ม จึงยืดหยุ่นเกินไป ทำให้อนาคตคางสามารถผิดรูปได้ และไม่เหมาะกับคนที่มีแก้ม กรามเยอะ โครงหน้าใหญ่
- ซิลิโคนขายาว : เป็นซิลิโคนที่ได้รับความนิยมที่สุด เพราะสามารถเข้าได้กับทุกโครงหน้า ผิวเรียบเนียน และด้วยรูปทรงซิลิโคนขายาวที่โค้งครอบไปบนกระดูกปลายคางจึงล็อคฐานกระดูกได้ ไม่เบี้ยวเอียงในอนาคต ที่สำคัญรับกับกรอบหน้า หลังทำช่วยให้กรอบหน้าชัดขึ้น ไม่เป็นก้อน ไม่ห้อยย้อย เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาคางตัด คางบุ๋ม คางถอย คางเหลี่ยมมากๆ อีกทั้งแพทย์ยังสามารถเหลาปรับตามรูปหน้าของแต่ละคนได้
(รีวิวเสริมคางด้วยซิลิโคนขายาว)
นอกจากลักษณะของซิลิโคนที่ควรรู้แล้ว ยังมีประเภทของซิลิโคนที่คนไข้ควรศึกษาไว้ด้วย เพื่อให้สามารถตัดสินใจเลือกชนิดซิลิโคนได้อย่างเหมาะสม ซึ่งซิลิโคนเสริมคาง มี 2 ประเภท คือ
- ซิลิโคนเกาหลี (Korean Silicone)
- ซิลิโคน USA
ทั้งสองชนิดมีความแตกต่างกันชัดเจนคือ ลักษระเนื้อซิลิโคน โดยซิลิโคนเกาหลี จะนุ่มทำให้เวลาเสริม ดูเป็นธรรมชาติ คางพุง งอน ส่วน ซิลิโคน USA เป็นซิลิโคนที่มีมาตรฐานพิเศษเนื้อไม่นิ่มมาก แต่มีมีค่าความบริสุทธิ์ของซิลิโคนสูงมาก จึงมีความปลอดภัยต่อร่างกายมาก
อย่างไรก็ตามหากสงสัยว่าตนเองเหมาะกับการเสริมคางวิธีใด หรือเลือกชนิดและประเภทซิลิโคนอย่างไรดีที่สุด เบื้องต้นแนะนำให้ปรึกษาหมอมีความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์สูง โดยอาจดูจากรีวิวเสริมคางจากผู้ที่เคยใช้บริการกับแพทย์ท่านนั้นหลายๆเคส สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และช่วยประเมินความต้องการของคุณ เพื่อให้ได้รูปทรงค้างที่เหมาะสม สวยเป็นธรรมชาติและปลอดภัยมากที่สุด