แชร์ประสบการณ์เลี้ยงหนูแฮมสเตอร์ให้อ้วนพี

สวัสดีชาวโลก เราอยากมาแชร์ประสบการณ์การเลี้ยงหนูแฮมส์เตอร์ให้อ้วยท้วนสมบูรณ์ มาดูกันว่าทำไงได้บ้าง

แม้เจ้าหนูแฮมสเตอร์ (hamster) ของเราจะช่างดูตัวเล็ก น่ารัก คล้ายจะดูแลง่าย แต่ความจริงพวกเขากลับมีความต้องการและเงื่อนไขในการดำรงชีวิตที่ต้องอาศัยความเข้าใจ, ความใส่ใจ, และการทุ่มเทเวลาของผู้ดูแลอย่างมหาศาลเลยค่ะ ขนาดร่างกายที่เล็กทำให้พวกเขาสามารถหลบหลีกผู้ล่าได้อย่างคล่องแคล่ว แต่ก็แลกมาด้วยระบบภูมิคุ้นกันที่ต่ำลง และเมื่อโรคใดมาเยือน จึงมีโอกาสสูงที่จะเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว แน่นอนว่าเมื่อถูกนำมาดูแลภายในบ้าน อัตราการเสียชีวิตจากบรรดาผู้ล่าและโอกาสในการติดโรคจากสัตว์อื่นหรือสภาพแวดล้อมภายนอกต่ำลง แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้ดูแลหลายท่านมักหลงลืมก็คือสิ่งที่เจ้าแฮมสเตอร์ของเรากินเป็นประจำทุกวันที่อาจกลายเป็นบ่อเกิดของโรคมากมายหากอาหารดังกล่าวไม่ถูกต้องตามโภชนการของพวกเขา เพื่อส่งเสริมสุขภาพและความสุขของบรรดาเจ้าแฮมสเตอร์ที่กำลังนั่งรอคอยอาหารอยู่ในบ้านของพวกท่าน วันนี้ PCG จึงได้รวบรวมข้อมูลทุกอย่างที่สำคัญสำหรับการให้อาหารแฮมสเตอร์อย่างถูกโภชนาการมาฝากทุกท่านค่ะ ข้อมูลทุกประการได้รับการยืนยันจากสัตว์แพทย์และผู้เชี่ยวชาญ หากพร้อมแล้ว ก็มาเริ่มกันเลย

แฮมสเตอร์เป็นสัตว์ประเภทกินพืชเป็นอาหาร โดยมักจะวิ่งเข้าหาอาหารรสเค็มและไขมันสูงเป็นหลัก (จึงมักชอบบรรดาเมล็ดทานตะวันหรือเมล็ดฝักทอง) หากพวกเขาดำรงชีวิตอยู่ในป่าหรือภายนอก ก็จะวิ่งเข้าหาบรรดาอาหารจำพวกที่ตนเองชอบเสมอ (ดูจะคล้ายผู้ดูแลชอบกล) ลักษณะนิสัยการกินดังกล่าว แม้จะถูกอกถูกใจแฮมสเตอร์ แต่ท้ายที่สุดจะนำมาซึ่งปัญหาสุขภาพมากมาย และการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรในท้ายที่สุด แต่เมื่อเรานำเขามาเลี้ยงดูแล้ว แน่นอนว่าเราก็อยากจะให้เขามีอายุที่ยืนยาว, สุขภาพดี, และมีความสุข และอาหารที่เราควรให้แฮมสเตอร์ ประการแรก คือ ควรมีลักษณะผสมผสานค่ะ เราไม่ควรให้เพียงแค่เมล็ดทานตะวันกับเขา หรือเมล็ดฝักทอง หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง แต่เราควรจัดอาหารผสมผสานอย่างหลากหลาย หรือที่ในต่างประเทศมักเรียกกันว่า “Loose Mix” ผสมผสานระหว่าง

ที่มีประโยชน์ เช่น บรรดาผลไม้แอบแห้ง

แต่ปัญหาของ “Loose Mix” ก็คือเจ้าแฮมสเตอร์ของเราก็ยังคงเลือกเฉพาะที่พวกเขาอยากกินอยู่ดีค่ะ เช่น ถ้าเราใส่เมล็ดทานตะวันผสมกับผลไม้อบแห้งให้เขาในชาม เขาก็จะเลือกกินเฉพาะแต่เมล็ดทานตะวันก่อนจนอิ่มและมักจะเมินบรรดาผลไม้อบแห้งหรืออาหารอื่นที่เขาไม่ชอบ ด้วยเหตุนี้การให้ในลักษณะ “Loose Mix” อย่างเดียวจึงไม่เพียงพอ

วิธีการให้อาหารอย่างถูกโภชนาการที่สุดจึงเป็นการให้ “Loose Mix” ผสมกับ “อาหารเม็ดสำเร็จรูป” (Pellets) ค่ะ เนื่องจากในอาหารเม็ดจะผสมรวมเอาทุกสารอาหารและความอร่อยให้กับแฮมสเตอร์ของเรา ควรให้ผสมผสานกัน หรือถ้าแฮมเตอร์ของคุณชอบอาหารเม็ดมากกว่าก็สามารถจะเลือกให้เฉพาะอาหารเม็ดได้เช่นกันค่ะ แต่แฮมสเตอร์บางตัวก็อาจจะเบื่อการกินเฉพาะอาหารเม็ด ดังนั้นวิธีการที่มีประสิทธิภาพที่สุดจึงคือการผสมระหว่าง “Loose Mix” และ “อาหารสำเร็จรูป”

Pippa Elliott สัตว์แพทย์ชื่อดังและนักเขียนประจำเว็บไซต์ WikiHow ยังกล่าวว่า “อาหารเม็ดสำเร็จรูปดีกว่าอาหารผสมค่ะ เนื่องจากประเภทแรกจะช่วยไม่ให้แฮมสเตอร์เลือกเฉพาะที่อยากกิน ในขณะที่ประเภทหลังจะชวนให้แฮมสเตอร์เลือกเฉพาะที่มีรสชาติอร่อยสำหรับเขาและเมินอาหารอื่น”

โดยอย่างที่กล่าวว่าเราก็ไม่ควรจะเลือกให้เฉพาะอย่างใดอย่างหนึ่งแต่ควรให้อย่างผสมผสานกันค่ะ

2. สัดส่วนที่ควรให้

จากตารางเราจะเห็นว่าโภชนาการโดยรวมคือการสร้างความหลากหลายของเมนูอาหาร แฮมสเตอร์เป็นสัตว์เลี้ยงที่ขี้เบื่อ หน้าที่ของผู้ดูแลก็คือการผสมผสานอาหารให้เขาอย่างหลากหลาย การให้ขนมในบางวันยังเป็นการสร้างความคุ้นเคยและความผูกพัน โดยคุณสามารถเลือกเป็นขนมทั่วไปหรือขนมสำเร็จรูป เช่น สมาร์ทฮาร์ท ขนมหนูแฮมสเตอร์ ซึ่งมักจะผสมผสานสารอาหารที่มีประโยชน์มากมายในขนมดังกล่าวค่ะ

ตารางอาหารแฮมสเตอร์/อาทิตย์

จากตารางเราจะเห็นว่าโภชนาการโดยรวมคือการสร้างความหลากหลายของเมนูอาหาร แฮมสเตอร์เป็นสัตว์เลี้ยงที่ขี้เบื่อ หน้าที่ของผู้ดูแลก็คือการผสมผสานอาหารให้เขาอย่างหลากหลาย การให้ขนมในบางวันยังเป็นการสร้างความคุ้นเคยและความผูกพัน โดยคุณสามารถเลือกเป็นขนมทั่วไปหรือขนมสำเร็จรูป เช่น สมาร์ทฮาร์ท ขนมหนูแฮมสเตอร์ ซึ่งมักจะผสมผสานสารอาหารที่มีประโยชน์มากมายในขนมดังกล่าวค่ะ

3. ควรให้อาหารในช่วงเวลาใดที่ดีที่สุด

การเลือกช่วงเวลาให้อาหารหนูแฮมสเตอร์ถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่หลายคนคิดไม่ตกว่าควรจะให้ช่วงเช้า หรือช่วงดึก เนื่องจากแฮมสเตอร์จะนอนในช่วงกลางวันและตื่นในช่วงดึกเป็นหลัก คำตอบในเรี่องของช่วงเวลาการให้อาหารไม่มีกฏตายตัวค่ะ โดยอาจจะขึ้นอยู่กับลักษณะพฤติกรรมของแฮมสเตอร์เราเป็นหลัก หรือช่วงเวลาที่เหมาะสมกับชีวิตประจำวันของเราเอง เช่น หากคุณไม่มีเวลาในช่วงเช้า ก็อาจจะเลือกให้ในช่วงดึก ความแตกต่างก็คือ หากให้ในช่วงดึก ก็จะเป็นช่วงที่แฮมสเตอร์เพิ่งตื่นและจะมีพลังในการกินอย่างล้นเหลือ ในขณะที่หากให้ไว้ในช่วงเช้า เขาก็อาจจะตื่นมากินเป็นช่วงเวลา คำแนะนำก็คือให้ลองสังเกตพฤติกรรมและความพึงพอใจของแฮมสเตอร์เราเป็นหลัก

4. เทคนิคการให้อาหารและข้อห้าม

นิสัยโดยธรรมชาติของแฮมสเตอร์คือเป็นสัตว์ที่มักซุกซนและเคลื่อนไหว เราจึงสามารถเลือกที่จะโรยอาหารไว้ภายในกรง หรือซ่อนไว้ส่วนใดให้เขาวิ่งหาเพื่อเสริมสร้างทั้งความสนุก, ความสุข, และสุขภาพได้ค่ะ โดยข้อห้ามอย่างเดียวก็คือไม่ควรให้อาหารคน เพราะอาจนำมาสู่โรคท้องร่วงฉับพลันและไม่ดีต่อสุขภาพของพวกเขาค่ะ

เป็นไงบ้างคะ แนบทางการเลี้ยงหนูของเรา เพื่อนๆสามารถนำไปทดลองใช้งานกันได้เลยนะคะ ได้ผลยังไงมาแชร์กันด้วยล่ะ