มิติลับ สัมผัสสยอง ตอน เป็นห่วง
กิ๊ฟเป็นเด็กบ้านนอกคนหนึ่ง อาศัยอยู่กับยาย ส่วนแม่เราก็อยู่อีกบ้านที่อยู่ถัดจากบ้านยายไม่ไกลนัก
แต่เหตุที่เราไม่ได้อยู่กับแม่ เพราะแม่อยากให้เราได้มาดูแลยายเพราะยายก็แก่แล้ว
ซึ่งยายเองก็จะมีพี่น้องที่อยู่บ้านข้างๆกันอีกสองคน คนหนึ่งเป็นพี่ คนหนึ่งเป็นน้อง และทั้งสองก็อายุใกล้ๆกัน สรุปง่ายๆก็แก่พอๆกัน
ยายของเรานั้น ถึงจะแก่ แต่แกก็แข็งแรงมาก สามารถเดินจากบ้านไปนาระยะทางไปกลับเป็น 10 กว่าโลได้
ยายเป็นคนไม่ชอบอยู่นิ่ง จะชอบทำโน่นทำนี้นั่นอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นปลูกผักบ้าง ทำขนมขายบ้าง โดยส่วนตัวเรากับแม่ก็ไม่ได้อยากให้ทำเพราะยายก็แก่แล้ว
แต่ยายก็ยังอยากทำเพราะแกบอกว่า เวลาอยู่เฉยๆแล้วเหงา
อยู่มาวันหนึ่งแกไม่สบาย มีไข้หน่อยๆ แกก็ยังทำงาน ซึ่งเราก็ห้ามแกแล้ว แต่แกก็ไม่ฟัง ก็ยังทำงานอยู่เรื่อยๆจนอาการไข้ไม่ดีขึ้นเลย
จนกระทั่งเวลาผ่านมาสามสี่วันเราบอกให้ไปหาหมอได้แล้ว ยายก็ไม่ไป บอกกินยาเดี๋ยวก็หายแล้ว เราจึงเริ่มเหนื่อยที่จะบอกแกในเรื่องแบบนี้แล้ว
และพอตกกลางคืนของวันนั้น ก็มีเรื่องราวแปลกๆเกิดขึ้นเมื่อ…ในขณะที่เรานอนอยู่ในมุ้งข้างๆยาย เรารู้สึกได้ว่า มีคนเปิดมุงขึ้นจากทางยาย เราจึงลุกนั่งและมองดูแต่ก็ไม่เจออะไร เราจึงทิ้งตัวลงนอนต่อ
แต่พอนอนไปได้พักหนึ่งก็เกิดเรื่องที่ทำเอาเราตกใจมาก เมื่ออยู่ดีๆเราก็ได้ยินเสียงยายนอนร้องไห้
“ ฮื่อๆๆๆๆๆๆ”
ตอนนั้นเราลืมตาพรึ่บขึ้นทันที แล้วจับแขนยายพร้อมถามว่าเป็นอะไร เพราะในตอนนั้นเราคิดว่า ยายปวดหัวมากหรือเปล่า
แต่ไม่ใช่เลย พอเราถามปุ้บยายก็ไม่ตอบ แถมยังนอนร้องไห้ต่อ
ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเราจะทำยังไงละตอนนั้น เราจึงรีบลุกไปเปิดไฟในในทันที
พอเปิดไปได้เราก็เข้ามานั่งในมุงข้างยาย พร้อมเขย่าตัวยายถามว่ายายเป็นไร แต่เขย่ายังไงยายก็ไม่ตอบ แถมยังนอนร้องไห้ ฮื่อๆๆๆ หลับตาปี๋ พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ แต่เราก็พอจับใจความของคำพูดได้ว่า
“กูไม่ใช่ยาย”
ซึ่งพอได้ยินแบบนั้น เราก็เริ่มกลัวล่ะ จึงรีบโทรบอกแม่ให้มาหาทันที
และพอแม่มาถึงแม่ก็มองดูเห็นท่าไม่ดี จึงให้เราไปตามพี่ชายและน้องชายยายมา
ซึ่งพอพวกเขามาถึง เขาก็นั่งมองยายที่นอนร้องไห้อยู่ตลอดเวลาและถามว่า
“ เป็นใคร มาจากไหน ทำไมต้องมาเข้าสิงยาย”
พอสิ้นคำถามจากปากพี่ชายยาย….เราแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเรื่องแบบนี้ก็มีจริงๆ เพราะอยู่ดีๆยายก็ตอบออกมาโดยน้ำเสียงไม่ใช่เสียงยายเลย แต่เป็นเสียงทุ้มๆเหมือนเสียงผู้ชาย โดยพูดขึ้นว่ามา
“ พวกมึงไม่ดูแลน้อง พวกมึงก็รู้ว่าน้องไม่สบาย ยังปล่อยให้มันไปนา ยังไปปล่อยให้มันทำงานอีก”
สิ้นคำพูดของยายทุกคนก็เริ่มรับรู้ละว่าใครที่มาสิงร่างยาย
และหลังจากนั้นพี่ชายของยายก็เริ่มเจรจาต่างๆนาๆโดยเรียกยายว่าพ่อละตอนนี้
จนกระทั่งเจรจากันจบในแบบที่ว่า…
“ ต่อไปนี้จะดูแลยายให้ดี ไม่ให้พ่อต้องเป็นห่วงแบบนี้อีกแล้ว”
ซึ่งพอจบแบบนี้ จากที่ยายหลับตาปี๋ สะอึกสะอื้นอยู่ ก็ร่างกายกระตุกไปสามครั้งก่อนจะฟุบลงไปนอนอีกที
พอยายฟุปลงไปทุกคนก็จะพายายไปส่งโรงบาลเพราะไข้ยายขึ้นสูงมาก เราจึงต้องไปค้นหาบัตรยายในกระเป๋า
และในขณะที่เราไปหาบัตรในกระเป๋า เราสังเกตได้ว่า เหมือนมีคนเดินออกไปทางประตูหลังบ้าน เพราะตอนช่วงเย็นเราทำแป้งขนมหกที่หลังบ้าน เราว่าเราจะกวาดแต่ยายไม่ให้กวาดเพราะยายบอกว่า กวาดบ้านกลางคืนไม่ดี เราจึงไม่ได้กวาด มันจึงทำให้เราเห็นว่า เหมือนมีเท้าคนเดินผ่านมาทางนี้ เป็นเท้าที่ใหญ่มากเทียบเท่ากับเท่าผู้ชายได้
เรายืนมองไป ขนลุกไปก่อนจะรีบเอาบัตรแล้วเอาไปให้แม่
และพอพายายไปถึงโรงบาล ยายก็ตื่นมาพอดี แม่จึงถามว่า ก่อนหน้านั้นเกิดไรขึ้นยายจำได้ไหม?
ยายจึงบอกมาว่า
“ ตอนยายเข้านอน เหมือนยายฝันเห็นตาเดินมาหาที่มุ้ง เขายืนมองแบบไม่พูดอะไร และเอามือลูบหัวยายเบาๆ จากนั้นยายไม่รู้อะไรเลย รู้อีกทีก็คืออยู่โรงบาลนี้แหล่ะ”
พอเราได้ยินยายพูดเราก็ยิ้มแห้งๆเพราะเรากลัวหน่อยๆ และเริ่มคิดว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก เราจะทำยังไงหว่ะ ยังไม่อยากช็อคตายเพราะเรื่องแบบนี้นะ และจะให้ชินก็คงเป็นไปไม่ได้ เราจึงจะดูแลยายให้ดี เพื่อที่จะไม่ให้ยายไม่สบาย หรือป่วยจนผู้ที่ล่วงลับไปแล้วเขาเป็นห่วงจนต้องมาทักท้วงเรื่องการดูแลยายอีก
สามารถรับชมได้ที่ aplay.tv https://bit.ly/30xFITX