อยากไดเอตให้ได้ผล คนที่เขาเคยลดแล้วได้ผล เขาใช้วิธีลดน้ำหนักแบบไหนกันนะ?
สิ่งที่อยู่คู่กับหญิงสาวมาทุกยุคทุกสมัยนั้นเลยก็คือการไดเอตนั้นเอง เพราะผู้หญิงเราอยากที่จะไม่มีน้ำหนักแล้วส่วนเกิน อยากมีรูปร่างที่ดีและงดงาม ใส่เสื้อผ้าต่างๆ ได้สวย เราจึงต่างพยายามค้นหาวิธีการต่างๆ เพื่อที่จะทำให้ลดความอ้วนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเห็นผลกันมากที่สุด จึงทำให้เกิดการลดความอ้วนด้วยวิธีการต่างๆ ขึ้นมา ซึ่งหลายๆ คนอาจจะเคยรู้จักและได้ทดลองทำกันมาแล้ว แต่เรามาทำความรู้จักกับประเภทของการไดเอตให้ละเอียดยิ่งขึ้นกันค่ะ
1. Clean Eating Diet
การกินคลีน คือการไดเอตที่ได้รับความนิยมมาเป็นระยะเวลานานพอสมควรแล้ววิธีหนึ่งเลย การกินคลีนจุดประสงค์หลักในก็คือ การรับประทานอาหารแบบลดการปรุงแต่ง หรือว่ามีการปรุงแต่งที่น้อยที่สุด เพราะอาหารในปัจจุบันทำให้เราได้รับพลังงานมากจนเกินควร อันเนื่องมาจากอาหารที่มีการปรุงรสชาติ และผ่านการทอดที่ใช้น้ำมันเยอะๆ มีการใส่สารปรุงแต่งสารกันเสียมากมาย ซึ่งนอกจากว่าจะทำให้ได้รับแคลอรี่มากจนเกินความจำเป็นแล้ว ก็ยังจะทำให้ร่างกายอ่อนแอลงมีโอกาสที่จะเจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น ทั้งโรคที่เกี่ยวกับไขมัน และสารที่ก่อให้เกิดมะเร็งด้วย
อาหารคลีนที่ดีคือ อาหารที่ผ่านกระบวนการปรุงแต่งน้อยที่สุด มักเป็นอาหารที่มาจากธรรมชาติโดยเฉพาะข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี ขนมปังจากธัญพืชต่างๆ โดยเฉพาะแบบโฮลวีต น้ำมันที่ใช้ก็เน้นเป็นน้ำมันจากพืช เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว น้ำมันคาโนล่า ส่วนเนื้อสัตว์ก็เน้นจำพวกเนื้อสัตว์ที่มีไขมันต่ำ ไม่เน้นเนื้อแดง อย่างเช่น เนื้อไก่ เนื้อปลา สันในหมู และเน้นโปรตีนที่มาจากพืชด้วย เมื่อได้รับไขมันน้อย โซเดียมน้อย ก็ทำให้น้ำหนักลดลงได้
https://www.pexels.com/photo/close-up-of-salad-in-plate-257816/
- ข้อควรระวังในการรับประทานอาหารคลีน -
อาหารคลีน ไม่ใช่อาหารที่กินแล้วผอมเสมอไป ถ้าหากว่าคุณไม่ได้คำนึงถึงแคลอรี่ของอาหารที่กินเข้าไปด้วย หากต้องการลดน้ำหนัก แต่กินมากจนได้รับแคลอรี่เกิน จะทำให้ไม่สามารถลดน้ำหนักได้ตามที่ต้องการอยู่ดี อีกทั้งผลจากการวิจัยก็พบว่า การรับประทานอาหารที่คลีนมากเกินไปเป็นระยะเวลานาน อาจจะทำให้ร่างกายขาดสมดุลของอาหารบางชนิดไปได้ อย่างเช่น การขาดธาตุเหล็กหรือวิตามินต่างๆ ซึ่งส่งผลทำให้ร่างกายเจ็บป่วยได้เช่นเดียวกัน
2. Low-Carb Diet
คือการลดน้ำหนักโดยการตัดแป้งออกไปจากมื้ออาหารให้ได้มากที่สุด เนื่องจากว่าอาหารประเภทแป้งนั้นมีคาร์โบไฮเดรตสูง เมื่อย่อยไปแล้วจะกลายเป็นน้ำตาล อีกทั้งยังถูกเก็บเอาไว้เป็นไขมันในร่างกายได้มากด้วย ดังนั้นถ้าหากว่าคาร์โบไฮเดรตที่รับประทานไปร่างกายเผาผลาญไม่หมด จะทำให้มีไขมันสะสมและทำให้เราอ้วนขึ้น ดังนั้นการลดรับประทานแป้งจะทำให้ร่างกายได้ดึงไขมันสะสมที่มีอยู่ออกมาใช้ ทำให้ลดความอ้วนได้
- ข้อควรระวังในการไดเอตแบบ Low-Carb -
การลดการบริโภคคาร์โบไฮเดรตเป็นระยะเวลานานเกินไป จะทำให้ร่างกายขาดเกลือแร่ได้ อีกทั้งสำหรับคนที่ต้องใช้พลังงานเป็นอย่างมาก การรับประทานแป้งน้อยจนเกินไปก็ทำให้ร่างกายรู้สึกอ่อนแรงได้เช่นเดียวกัน ทางที่ดีควรต้องรับประทานคาร์โบไฮเดรตในปริมาณที่เหมาะสม แล้วควรระมัดระวังอาหารประเภทอื่น ที่อาจจะส่งผลทำให้ได้รับแคลอรี่หรือไขมันเกินได้ด้วย ไม่เช่นนั้นการไดเอตก็จะไม่ได้ผลอยู่ดี
3. Ketogenic Diet
ถือเป็นเทรนด์การที่มาแรงมากในวิธีหนึ่ง เป็นการรับประทานอาหารที่ตัดการบริโภคข้าว แป้ง และน้ำตาล เมื่อร่างกายไม่มีน้ำตาลก็จะเกิดการย่อยสลายไขมันออกมาใช้เป็นพลังงานแทน ทำให้สามารถลดความอ้วนได้ สำหรับคนที่กินเก่งไม่สามารถควบคุมปริมาณอาหารที่รับประทานได้จะชื่นชอบวิธีนี้เพราะสามารถกินอาหารในปริมาณที่มากได้ เพียงแค่ต้องตัดอาหารประเภทแป้ง น้ำตาล น้ำหวาน รวมถึงแป้งและน้ำตาลที่แฝงอยู่ในผักและผลไม้อีกด้วยทุกชนิดอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการทำคีโตซิสที่ได้ผลนั่นเอง
https://www.pexels.com/photo/bowl-of-sliced-vegetables-and-meat-2059153/
- ข้อควรระวังในการไดเอตแบบ Ketogenic -
จะทำให้ร่างกายขาดเกลือแร่ได้ อีกทั้งไตก็ยังทำงานหนักมากด้วย ผู้มีปัญหาด้านตับและไตไม่ควรไดเอตวิธีนี้ รวมถึงการรับประทานไขมันที่มากจนเกินไปอาจส่งผลทำให้เกิดไขมันในเลือดสูง ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ รวมถึงผู้ที่มีปัญหาเรื่องเบาหวานอาจจะน๊อกหมดสติจากการขาดน้ำตาลได้ เป็นวิธีการลดน้ำหนักที่ควรทำระยะสั้นๆ และอยู่ในความดูแลของผู้เชี่ยวชาญจะดีที่สุดค่ะ
4. Carnivore Diet (CD)
เรียกว่าเป็นอีกขั้นของการไดเอตที่ฮาร์ดคอร์กว่าคีโต ที่ยังพอรับประทานอาหารอื่นๆ ร่วมด้วยได้ แต่ CD คือการตัดขาดจากอาหารประเภทแป้ง และน้ำตาล รวมถึงไม่รับประทานผักและผลไม้ด้วย ใช้เพียงแค่เกลือ และน้ำปลาและเครื่องเทศที่ไม่มีแคลอรี่ได้นิดหน่อยในการปรุงอาหารได้เท่านั้น เน้นการรับอาหารจากเนื้อสัตว์เพียงเท่านั้น การกินอาหารไม่จำกัดว่าเราจะต้องกินวันละ 3 มื้อ แต่สามารถเลือกกินได้ในเฉพาะเวลาที่ตัวเองหิว ดังนั้นถ้าหากว่าไม่ได้หิวก็ไม่จำเป็นต้องกินอาหารก็ได้ บางคนอาจจะกินหลายๆ มื้อหรือบางคนอาจจะกินแค่วันละมื้อเท่านั้น
อีกทั้งอาหารที่รับประทานส่วนใหญ่ก็เป็นอาหารที่มีไขมันสูงด้วย ทำให้ไขมันใหม่ที่รับประทานเข้าไปจะไปดึงไขมันเก่าออกมาใช้เป็นพลังงานได้ ทำให้มีประสิทธิภาพในการย่อยสลายไขมันได้ดียิ่งขึ้น เป็นการเลียนภาวะของผู้ที่เป็นหวาน เป็นหลักการที่ทำให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะคีโตซิสดึงไขมันสะสมในร่างกายออกมาใช้ ทำให้น้ำหนักลดลงได้อย่างรวดเร็ว
- ข้อควรระวังในการไดเอตแบบ Carnivore -
การไม่รับประทานอาหารอื่นๆ ด้วย จะทำให้ร่างกายของเราขาดสารอาหารได้ อีกทั้งยังส่งผลเสียต่อพฤติกรรมการรับประทานอาหารของเราในระยะยาวด้วย เพราะว่าคนเราคงไม่สามารถรับประทานแต่เนื้อสัตว์เพียงอย่างเดียวไปได้ตลอดชีวิต และการที่ไม่ได้รับประทานอาหารอื่นๆ ในระหว่างการไดเอตนั้น จะทำให้เกิดความเครียดสูง จนอาจจะทำให้หลุดรับประทานอาหารแบบผิดๆ ในปริมาณเยอะจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ มีโอกาสเกิดโยโย่เอฟเฟ็ค ทำให้น้ำหนักตัวพุ่งกลับมาหนักมากยิ่งกว่าเดิมด้วย
5. The Paleo Diet
คือการรับประทานอาหารเลียนแบบมนุษย์ยุคหิน เพราะเชื่อว่าจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพและดีกับร่างกายของคนเรา มากกว่าอาหารส่วนใหญ่ที่รับประทานในปัจจุบัน ที่ยิ่งผ่านการแปรรูปผ่านการปรุงแต่งก็ยิ่งเป็นผลเสียกับสุขภาพ เชื่อว่าเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดการเป็นโรคต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็นโรคความดันโลหิตสูง ไขมันสูง หรือเบาหวาน สิ่งที่เลือกรับประทานจะเป็นพวกเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน ผัก ผลไม้ ถั่ว ธัญพืชต่างๆ ที่สามารถหาได้ในธรรมชาติ งดอาหารที่มาจากการปรุงแต่งอาหารในยุคสมัยใหม่ เน้นอาหารประเภทอบ ต้มและนึ่งเพียงอย่างเดียว
อาหารใน The Paleo Diet ประเภทนี้ค่อนข้างดีกับสุขภาพเป็นอย่างยิ่ง ของที่กินล้วนแล้วแต่มาจากธรรมชาติ ปลอดสารเคมี ไม่ผ่านการปรุงแต่ง ไม่มีการขัดสี มักเป็นอาหารที่มีโปรตีนสูงและมีคาร์โบไฮเดรตต่ำ ข้อดีของการไดเอ็ทประเภทนี้คือ เราจะไม่ขาดสารอาหารใดๆ เท่าการไดเอตแบบประเภทอื่นๆ เสริมให้ร่างกายสร้างกล้ามเนื้อขึ้นมาเผาผลาญไขมันได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้การลดความอ้วนนั้นเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่เสียสุขภาพและร่างกายยังแข็งแรงขึ้นด้วย
https://www.pexels.com/photo/person-pouring-dip-on-vegetable-salad-1332313/
- ข้อควรระวังจากการไดเอตแบบ Paleo -
คือหารับประทานค่อนข้างจะลำบาก สำหรับการใช้ชีวิตแบบเร่งรีบในยุคปัจจุบัน ด้วยความที่เราต้องเร่งรีบและเน้นความสะดวก การหาอาหารประเภทนี้รับประทานจึงไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป เพราะมีข้อห้ามต่างๆ เยอะ ต้องมีเวลาเตรียมอาหารเองมาก รวมถึงวัตุดิบที่นำมาทำอาหารราคาก็จัดว่าสูงด้วย หากจะประหยัดโดยการซื้อรับประทานก็ยิ่งมีค่าใช้จ่ายสูง ทำให้บางคนก็อดรู้สึกว่ามันค่อนข้างสิ้นเปลืองไม่ได้อยู่เหมือนกัน และการกินอาหารรสชาติจืดชืดนานๆ มันก็ชวนให้รู้สึกเบื่อได้สุดๆ เลยอีกด้วย
Noxx เลยนำวิธีการไดเอตของแต่ละประเภทมาแนะนำกัน ว่าการไดเอตแต่ละแบบมีทั้งข้อดีและข้อเสีย บางแบบลดน้ำหนักได้ไวมาก แต่ก็อาจส่งผลกระทบกับร่างกายได้ หรือไดเอตบางแบบก็สร้างเงื่อนไขทำให้เราใช้ชีวิตได้ยาก ก็แล้วแต่วิจารณญาณของคุณสาวๆ แล้วล่ะค่ะ ว่าจะเลือกกันทำไดเอทแบบไหนกัน แต่อย่าลืมว่ายังไงร่างกายคนเราก็ยังต้องการสารที่ครบถ้วนอยู่ดี และการออกกำลังกายยังไงก็สำคัญกับการไดเอตเสมอค่ะ
แล้วคุณล่ะ...สนใจที่จะไดเอตด้วยวิธีไหนกันดี?
เครดิตภาพประกอบจาก
บทความ โดย : Akine_noxx
เผยแพร่ครั้งแรกในเว็บ Spice/Pepper
ฝากติดตาม กดโหวต กดแชร์ หากชื่นชอบกันด้วยนะคะ
ส่วนลด Agoda , โปรโมชั่น SuperSports , โปรโมชั่น Ais , คูปอง Cute Press