มิติลับ สัมผัสสยอง ตอน ชุดดำเยี่ยมไข้
สาลี่เป็นพยาบาลที่รับหน้าที่ดูแลผู้ป่วยรายหนึ่งที่ป่วยด้วยโรคปอด ผู้ป่วยรายนี้ชื่อว่าขวัญ เขาเป็นพนักงานบริษัทเอกชน เพราะเขานอนที่โรงพยาบาลรักษาตัวอยู่นานเลยได้พูดคุยกันสักหน่อย สาลี่จึงพอจะรู้ว่าชายคนนี้ทำงานเกี่ยวกับพ่นสีรถยนต์ในบริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาล ซึ่งเขาทำงานมานานกว่าสิบปีแล้ว ทำให้มีสารสะสมในร่างกายเพราะต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยสารเคมี แต่มันเป็นอาชีพการงานจึงไม่สามารถเลี่ยงได้ หากรักษาตัวหายดีแล้วเขาเองก็จะกลับไปทำงานต่อ ถึงแม้จะรู้ข้อเสียว่าอาชีพของเขาจะนำพาเขามาอยู่ในโรงพยาบาลอีกครั้งหนึ่ง
ขวัญแม้จะอายุเข้าเลขสี่แล้วแต่เขาก็ไม่ได้แต่งงานมีครอบครัว ญาติที่เมืองหลวงก็ไม่มีสักคนเพราะว่าภูมิลำเนาเดิมอยู่ต่างจังหวัด ทำให้เขาอยู่ตัวคนเดียวมาตลอด แม้กระทั่งเจ็บป่วยเข้าโรงบาลก็ยังไม่มีญาติสักคนโผล่มาเยี่ยมไข้ จะมีก็แต่เพื่อนร่วมงานที่คอยแวะเวียนมาหาอย่างไม่ขาดสาย สาลี่เองไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเพื่อนร่วมงานจึงได้พากันมาเยี่ยมไข้แทบจะทุกวัน เพราะขวัญเขาเป็นคนอัธยาศัยดี สุภาพ ชวนพูดคุยเก่ง ต่อให้นั่งคุยกับเขาทั้งวันก็คงไม่เบื่อ คงเพราะเหตุผลนี้เลยทำให้เขามีเพื่อนร่วมงานที่ดี
ในช่วงเวลาพักเบรกของพยาบาล สาลี่ก็ไปกินข้าวกับพี่หน่อย ซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่ทำอาชีพพยาบาลเหมือนกัน ทั้งสองคนสนิทกันแต่เดิมแล้วจึงได้พูดคุยกันระหว่างกินข้าว หน่อยถามสาลี่ว่าทำไมถึงมีคนแห่ใส่ชุดดำมาเยี่ยมผู้ป่วยชื่อขวัญทุกวี่ทุกวัน ไม่มีใครรู้บ้างเลยหรือว่ามันเป็นลางไม่ดี
สาลี่จึงหัวเราะ แล้วตอบกลับว่านี่มันยุคสมัยไหนแล้ว อีกอย่างชุดสีดำนั่นมันก็เป็นเสื้อโปโลของบริษัท คงไม่มีใครเจตนาไม่ดี สังคมปัจจุบันก็อย่างนี้ เน้นเอาสะดวกไว้ก่อน คนมาเยี่ยมไข้เขาคงเพิ่งกลับจากโรงงานก็ตรงดิ่งมาที่โรงพยาบาลเลย เผลอๆ นายขวัญน่าอิจฉากว่าผู้ป่วยรายอื่นเสียอีก คนไข้บางเตียงต้องนอนเหงาอยู่คนเดียว ไม่รู้จะพูดคุยกับใคร ญาติไม่โผล่มาเยี่ยมเยียนสักคน
หลังจากเลิกพักเบรก สาลี่ก็เดินไปเตียงนายขวัญเพื่อตรวจเช็คอาการอย่างเช่นปกติที่ทำทุกวัน จึงได้เห็นขวัญกำลังหยิบยื่นนมกับผลไม้เยี่ยมไข้ให้กับผู้ป่วยเตียงข้างๆ พอดี สาลี่เห็นก็อดยิ้มไม่ได้ที่ขวัญเป็นคนดีมีน้ำใจรู้จักเผื่อแผ่ผู้อื่น
พอเดินเข้าไปตรวจอาการของขวัญสาลี่จึงได้นำข่าวดีมาบอกเขาว่าอีกสองสามวันก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว เพราะอาการของเขาดีขึ้นมาก ขวัญได้ยินอย่างนั้นก็ยกมือไหว้ขอบคุณ แถมยังหยิบแอปเปิลส่งให้สาลี่อีกลูกหนึ่ง แม้จะไม่อยากรับแต่มันเป็นน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ เธอมองขวัญไม่ใช่แค่คนไข้ แต่เหมือนเป็นเพื่อนคนหนึ่งจึงรับน้ำใจนี้ไว้
เย็นวันเดียวกันเพื่อนที่บริษัทก็แห่กันมาเยี่ยมไข้ขวัญอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มากันราวๆ สิบคนได้ มองไปที่เตียงขวัญแทบจะมองไม่เห็นคนป่วย เห็นเพียงสีดำอึมครึมอยู่รอบเตียงอย่างน่าประหลาด
คืนวันเดียวกัน เมื่อหมดเวลาเยี่ยมไข้ ทำให้โรงพยาบาลกลับมาอยู่ในความเงียบสงบ ไฟก็เปิดเพียงดวงที่จำเป็นเท่านั้นเพราะต้องให้ผู้ป่วยได้พักผ่อน สาลี่เดินไปเปลี่ยนชุดเตรียมจะออกเวร แต่พี่หน่อยก็วิ่งหน้าตั้งมาตามเธอไปดูนายขวัญที่อยู่ๆ ก็ช็อก
สาลี่รีบบึ่งไปที่เตียง คุณหมอเจ้าของไข้กำลังช่วยกันต่อสายอ็อกซิเจนให้กับขวัญ ทั้งแขนทั้งขาถูกล็อกไว้กับเตียง แม้ภาพนี้สาลี่จะเห็นจนชินตา แต่ก็อดหดหู่ใจไม่ได้
หลังจากคุมอาการขวัญให้สงบลงได้แล้ว สาลี่จึงได้ถามคุณหมอว่าทำไมเขาถึงช็อกขึ้นได้ หมอจึงได้บอกว่าอยู่ๆ ก็มีภาวะแทรกซ้อนขึ้นมา มาได้อย่างไรก็ยังสงสัย ขวัญจึงถูกนำตัวไปอยู่ในห้องไอซียูเพื่อเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด
เวลาผ่านไปอาการของขวัญก็ค่อยๆ ทรุดตัวลง หลังจากถูกนำตัวไปไว้ที่ห้องไอซียูขวัญก็ไม่ได้สติอีกเลย จนกระทั่งวันนี้ที่ขวัญช็อกอีกครั้งจนหมอไม่อาจยื้อชีวิต
23 นาฬิกา 40 นาที นายขวัญเสียชีวิตด้วยโรคปอดอักเสบ
แม้ว่าขวัญจะมีสาเหตุตายระบุเอาไว้อย่างชัดเจน แต่สำหรับสาลี่เขาคือผู้ป่วยสุขภาพดีที่พร้อมจะออกจากโรงพยาบาล คำพูดของพี่หน่อยฉุกขึ้นมาในหัวว่าการใส่ชุดดำเยี่ยมคนป่วยมันเป็นลางไม่ดี ในวันนี้เธอเริ่มจะเชื่อแล้วว่าการใส่ชุดสีดำเยี่ยมคนป่วย แม้จะมีเจตนาดี แต่มันคือการแช่งให้ขวัญมาถึงจุดจบไวขึ้นกว่าที่ควรจะเป็น
สามารถรับชมได้ที่ aplay.tv https://bit.ly/2DUyUIb