ไขความหมายเพลง Pumped Up Kicks เพลงแห่งการกราดยิงในโรงเรียน
ไขความหมายเพลง Pumped Up Kicks เพลงแห่งการกราดยิงในโรงเรียน
ในมนุษย์ทุกคน ความอดทนมีขีดจำกัด
โดยเฉพาะวัยรุ่นฮอร์โมนพลุ่งพล่าน ผู้พยายามอย่างยิ่งยวดเพื่อการยอมรับ แต่กลับถูกข่มเหงรังแกทั้งทางร่างกายและจิตใจ บีบบังคับให้เขาเลือกทางออกสุดท้าย
ถ้าหากไม่จบลงด้วยการฆ่าตัวตาย ใครสักคนก็ต้องรับผิดชอบด้วยชีวิต
ย่อยประวัติพาท่านผู้อ่านย้อนไปฟังเพลงฮิตเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ว่ากันว่าเพลงนี้เปรียบเสมือนบทสวดของเด็กวัยรุ่นที่ถูกบูลลี่ในโรงเรียน มันกล่อมเกลา กัดกร่อน จนครั้งหนึ่งเคยถูกแบนจากวงการวิทยุอเมริกา
เพลงนี้มีชื่อว่า
Pumped Up Kicks
โดยวง Foster The People ครับ
.
ประเทศสหรัฐอเมริกามีประชากร 321 ล้านคน
มีผู้ครอบครองปืนอย่างถูกกฎหมายทั้งสิ้น 288 ล้านคน
คิดเป็น ร้อยละ 88.8 ของประชากรทั้งหมด
ตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมามีเหตุกราดยิงในโรงเรียนทั้งสิ้น 426 ครั้ง
ปัญหาการครอบครองอาวุธปืนถือเป็นไม้เบื่อไม้เมากับอเมริกันชนมานาน หากเราจะลงลึกถึงราก อาจต้องพูดกันยาวถึงชีวิตความเป็นอยู่ของคนเมืองใหญ่กับคนที่อาศัยอยู่นอกเมือง
คนนอกเมืองของอเมริกันยังคงมีความเชื่อว่าปืนคืออำนาจและความปลอดภัยอยู่ เวลาโจรบุกมา ถ้าเรามีของเราก็ยังพอสู้ได้ ส่วนคนเมืองหัวสมัยใหม่มีความคิดว่าโลกนี้เค้าสู้กันด้วยเทคโนโลยีแล้ว ปืนคือต้นเหตุแห่งความรุนแรง
และด้วยความที่เขตการเลือกตั้งนอกเมืองนั้นมีจำนวนมากกว่าในเมืองเยอะ ทำให้เป็นการยากสำหรับฝ่ายการเมืองที่จะออกกฎหมายควบคุมอาวุธปืนให้น้อยลง เพราะต้องคำนึงถึงคะแนนนิยมของคนส่วนมากเป็นหลัก ก็เลยกลืนไม่เข้าคายไม่ออกกันอยู่อย่างนี้
.
ปี 2002
Mark Foster หนุ่มน้อยอายุ 18 เพิ่งจบชั้นมัธยมปลาย และได้รับคำแนะนำจากคุณพ่อให้ย้ายมาอยู่ ฮอลลีวู้ด, ลอส แอนเจลิส เพื่อตามฝันและเป็นนักร้องดังให้ได้
แต่ฮอลลีวู้ดโหดร้ายเสมอ ทุกอย่างไม่สุขสบายอย่างที่เขาคิด Mark ต้องทำงานสารพัดเพื่อเอาชีวิตรอดในเมืองใหญ่ ไล่ตั้งแต่ส่งพิซซ่า, ล้างรถ, ทาสีบ้าน, ขายของทางโทรศัพท์ พอถึงเวลาหลับก็ต้องซุกหัวบนรถ ไม่ก็นอนบนโซฟาบ้านเพื่อนในคืนที่หนาวเหน็บ
อะไรก็ตามที่ได้เงิน Mark ทำหมดเพื่อหาทุนไปทำเพลง จนเวลาผ่านไป 4 ปีเขาจึงได้รับโอกาสทางดนตรีครั้งแรก โดยร่วมงานกับ Dr.Dre โปรดิวเซอร์ดัง ปล่อยอัลบั้มเดี่ยวออกมาชุดหนึ่ง ทว่า ฟี้ดแบคของมันแย่มาก จนเส้นทางศิลปินเดี่ยวของเขาจบลงอย่างรวดเร็ว
เขากลับไปเร่ร่อนรับจ้อบฟรีแลนซ์อีกครั้ง ดีขึ้นมาหน่อยคือไม่ต้องทำงานทั่วไปแล้ว เพราะเขาได้จ้อบเล็กๆ ในวงการดนตรีมากขึ้น เช่น การทำเพลงประกอบโฆษณา, เพลงประกอบภาพยนตร์ เขาค่อยๆสั่งสมประสบการณ์ด้านโปรดิวเซอร์เรื่อยมา แต่ก็ยังแจ้งเกิดด้วยเพลงของตัวเองไม่ได้สักที
จนในปี 2009 Mark ก็มองเห็นว่าสิ่งที่เขาขาดอยู่คือไอเดียทางดนตรีสดใหม่ของคนอื่น เขาจึงตัดสินใจตั้งวงดนตรีชื่อ Foster The People ที่มีสมาชิก 3 คน ขึ้นมา
Mark Foster - นักร้องนำ
Mark Pontius - มือกลอง, เพื่อนร่วมชั้นม.ปลาย
Sean Cimino - มือกีตาร์
ทั้งสามเริ่มเข้าห้องซ้อมเพื่อทำเพลง เรียนรู้ซึ่งกันและกัน แต่ก็ยังทำงานประจำของแต่ละคนควบคู่ไปด้วย
.
บ่ายวันหนึ่ง Mark นั่งชิลอยู่ในสตูดิโอ กำลังผ่อนคลายอิริยาบทหลังจากเพิ่งตัดต่อเสียงประกอบโฆษณาเสร็จ
เขาคิดกับตัวเองว่า "ว่างๆ แบบนี้แต่งเพลงดีไหมนะ" แต่วันนั้นเป็นวันที่อากาศดี กอปรกับสตูดิโอห่างจากทะเลแสนสวยของ LA ไปเพียงแค่บล็อคเดียว ความขี้เกียจจึงเริ่มถามหา "หรือไปนอนอาบแดดที่ริมทะเลดี?" เขาเริ่มลังเล
สุดท้าย Mark ก็บังคับตัวเองให้เขียนเพลงได้สำเร็จ ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้มีแรงบันดาลใจในการเขียนเลย เป็นเพียงการเลือกทำสิ่งที่เกิดประโยชน์เท่านั้น ซึ่งตรงนี้ถือว่าแตกต่างจากศิลปินทั่วไปที่ใช้แรงบันดาลใจเป็นหลัก
.
Mark ชอบเขียนเพลงจากเหตุการณ์ในชีวิตจริง เมื่อเขาหลับตาลง บทความที่เขาได้อ่านเมื่อหลายสัปดาห์ก่อนเกี่ยวกับสุขภาพจิตที่เสื่อมโทรมของวัยรุ่นอเมริกาก็ลอยเข้ามาในหัว เกิดเป็นท่อนฮุคท่อนนี้ขึ้นมาก่อน
All the other kids with the pumped up kicks
You'd better run, better run, out run my gun
All the other kids with the pumped up kicks
You'd better run, better run, faster than my bullet
• Mark พาตัวเองไปอยู่กลางใจของเด็กที่มีปัญหาเหล่านั้น โดนรังแกทุกวันจนทนไม่ไหว สุดท้ายมันก็ระเบิด คว้าปืนของพ่อมาจากบ้าน ก่อนตะโกนลั่นอาคารเรียนว่า
"วิ่งเข้าสิ นายควรจะวิ่งนะ อยากเห็นเหมือนกันว่านายจะวิ่งได้เร็วกว่าปืนเราหรือเปล่า"
"วิ่งเข้าสิ วิ่งให้เร็วกว่านี้ พวกนายที่ใส่รองเท้าสุดแพง ขอดูหน่อยว่ามันจะแรงกว่ากระสุนปืนของเราไหม"
(Pumped Up Kicks คือชื่อเรียกรองเท้าผ้าใบหุ้มข้อที่ฮิตกันมากในอเมริกา ถ้านึกไม่ออกมันคือทรง Air Jordan นั่นแหละครับ มักจะใส่กันในหมู่เด็กเจ๋งๆ ของโรงเรียน พวก Cool kids หรือนักกีฬาโรงเรียน)
.
Mark ตกใจ และยังสับสนกับท่อนฮุคที่ตัวเองแต่งขึ้นมา เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพูดถึงอะไร แต่มันคือสิ่งที่ออกมาจากจิตใต้สำนึก มันเป็นความทรงจำส่วนลึกที่แม้แต่ตัวเองก็ไม่รู้ว่ามีอยู่
ด้วยความอยากรู้ว่ามันคืออะไรกันแน่ Mark จึงเขียนท่อน Verse แรก ที่เป็นเนื้อร้องส่วนเริ่มของเพลง
Robert's got a quick hand
He'll look around the room, he won't tell you his plan
He's got a rolled cigarette, hanging out his mouth he's a cowboy kid
• เขาเปิดมาด้วยชื่อ Robert ซึ่งอาจจะหมายถึง Robert Hawkins คนร้ายในเหตุการณ์กราดยิงที่ห้าง Westroads Mall เมื่อปี 2007 ส่วนคำว่า got a quick hand แปลโดยนัยได้ว่า เสือปืนไว
บรรทัดต่อมาสื่อให้เห็นถึงความไร้ตัวตนของเด็กซึ่งไม่เคยได้รับความสนใจ แม้จะถือปืนในมือคนก็ยังไม่รู้สึกว่าสำคัญ
Mark เล่าได้ชัดเจนจากคำว่า Cowboy Kid ภาพจำของคาวบอยคือเป็นคนเก่ง เท่ และมีอำนาจ แต่ทั้งสามอย่างคือสิ่งที่เด็กๆ เหล่านี้ไม่เคยมี พวกเขาไม่เคยดูคูลในสายตาคนในโรงเรียน ไม่เคยมีสิทธิมีเสียง เป็นได้แค่เพียงฝุ่นที่ไร้ความหมาย
และอีกอย่างหนึ่งจากภาพยนตร์ คาวบอยมักจะเป็นคนโดดเดี่ยว
.
Yeah found a six-shooter gun
In his dad's closet hidden oh in a box of fun things, I don't even know what
But he's coming for you, yeah he's coming for you.
• ตรงไปตรงมา เจ้าหนูเจอปืนลูกโม่ 6 นัด ในตู้เสื้อผ้าของพ่อ และเขากำลังจะมาเล่นงานแก
.
มาถึงตรงนี้ Mark เริ่มกลัวกับเพลงที่ตัวเองแต่งขึ้นมา มันชัดเจนแล้วว่าเป็นเพลงเกี่ยวกับการฆ่าและปัญหาทางจิต แต่เขาจะเขียนต่อให้จบ
ไม่ใช่เพื่อสนับสนุนความรุนแรง แต่เปรียบเสมือนการยื่นคำร้องต่อสังคมให้หันหน้ามาคุยกัน เพื่อแก้ปัญหาปมมรณะนี้เสียที
Daddy works a long day
He be coming home late, he's coming home late
And he's bringing me a surprise
'Cause dinner's in the kitchen and it's packed in ice
• ถ้าเราคิดว่า Verse แรกมันหนักแล้ว ท่อนนี้คือขั้นกว่า คำว่า Daddy เมื่อมาอยู่ในเพลงนี้มันไม่น่าจะออกมาดีแน่ๆ
อาจทำให้เราเห็นภาพของพ่อซึ่งดื่มเหล้าที่บาร์จนดึก และกลับมาบ้านพร้อมกับเซอไพรส์คือหมัดลุ่นๆ หรือการทุบตีลูกในขณะที่ตัวเองมึนเมา
'Cause dinner's in the kitchen and it's packed in ice
หากแปลตรงตัวจะแปลว่าอาหารเย็นแช่แข็ง แต่มันอาจหมายถึงถุงประคบเย็นแช่แข็งไว้บรรเทาความเจ็บปวดหลังจากถูกทุบตี
.
I've waited for a long time
Yeah the slight of my hand is now a quick pull trigger
I reason with my cigarette
And say your hair's on fire, you must have lost your wits, yeah
• ท่อนนี้ Mark วางการเปรียบเปรยไว้ลึกสุดใจ
เริ่มจากท่อนแรก เจ้าหนูวางแผนมาเป็นเวลานาน จนในที่สุดเขาก็พร้อมที่จะลั่นไกทุกเมื่อ
I reason with my cigarette
เขาโต้เถียงกับบุหรี่ตัวเอง ส่วนนี้อาจแปลว่าเขามึนเมาจากการใช้สารเสพติดจนพูดกับบุหรี่ว่า Your hair's on fire และคำว่าผมของบุหรี่ก็คือด้านที่ใช้จุดไฟนั่นเอง
และในที่สุด เด็กน้อยก็เสียสติ...
.
บทเพลงจบลงด้วยการพร่ำร้องซ้ำๆ ของท่อนฮุค วนไปวนมา ราวกับกำลังฟังเวทย์มนต์วูดู
ไม่แปลกใจเลย ที่มันพา Foster The People แจ้งเกิดอย่างรวดเร็วพร้อมกับกระแสดราม่าอย่างรุนแรง พวกเขาถูกแบนในรายการวิทยุหลายครั้ง เมื่อเกิดเหตุการณ์กราดยิงในโรงเรียน
แต่นั่นไม่อาจปฏิเสธความสำเร็จทางดนตรีของ Pumped Up Kicks ได้เลย ด้วยบีทสนุกๆ แนวฮิปสเตอร์ชวนเต้น ซึ่งขัดแย้งอย่างยิ่งยวดกับเนื้อเพลงที่เป็นความจริงอันน่าหดหู่ ทำให้เพลงถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่ ในปี 2011
และเป็นสปริงบอร์ดให้ Foster The People โด่งดังไปทั่วโลก
.
ปัญหาสุขภาพจิตในวัยรุ่นคือปัญหาใหญ่ที่นับวันจะขยายตัวมากขึ้น และมาจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นความโดดเดี่ยว การถูกบูลลี่ทั้งต่อหน้า หรือในโลกอินเตอร์เนต
สิ่งหนึ่งที่จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้คือความดูแลเอาใจใส่ของคนรอบตัว เราอาจช่วยอะไรไม่ได้มาก แต่ขอเพียงเราแสดงให้รับรู้ ว่าเขาไม่ได้สู้อยู่โดยลำพัง
ในความคิดผู้เขียน เพลง Pumped Up Kicks ประสบความสำเร็จ บรรลุเป้าหมายทุกประการ
เพลงก่อให้เกิดการตั้งคำถามจากสังคม ว่าตอนนี้เรากำลังทำอะไรกันอยู่ ทั้งเรื่องการควบคุมปืน และการเอาใจใส่คนข้างกาย
มันจะอยู่ในลิสเพลงโปรดของผู้เขียนไปอีกนาน
ขอบคุณนะ
Pumped Up Kicks.
เกร็ดเล็ก: ตอนที่ปล่อยเพลง Pumped Up Kicks วันแรก Mark กินไม่ได้นอนไม่หลับ เขาไม่เคยคิดเลยว่าเพลงเปิดตัวของวงจะเป็นเพลงที่ดราม่าขนาดนี้ เขารู้ล่วงหน้าเลยว่าต้องไปให้สัมภาษณ์เป็นร้อยแห่งแน่ๆ ถ้าเพลงเกิดดังขึ้นมา
เกร็ดน้อย: Foster The People เคยมาเปิดการแสดงที่กรุงเทพเมื่อปี 2018
บัตรขายหมดด้วยความรวดเร็ว และทางวงก็ตอบแทนด้วยการแสดงแบบเต็มโชว์ 2 ชั่วโมงกว่า โดยไม่ลืมที่จะเล่นเพลง Pumped Up Kicks ด้วย ก่อนที่วงจะไปฉลอง afterparty กันต่อที่ผับหนึ่งย่านทองหล่อ