มิติลับ สัมผัสสยอง ตอน หลอนวันเข้ากะ
ณ โรงงานผลิตเสื้อผ้าแห่งหนึ่งกำลังมีการประชุมกันเรื่องออเดอร์ที่เริ่มเข้ามาเยอะ จนพนักงานที่มีอยู่ในตอนนี้ทำงานไม่ทัน ทางฝ่ายบริหารจึงมีนโยบายให้รับชั่วคราวเข้ามาทำงานในช่วงที่งานเยอะ และก็เปิดให้พนักงานชั่วคราวเหล่านั้นเข้ากะกลางคืนด้วย
ซึ่งตามปกติแล้ว ที่นี้เขาไม่มีการเข้ากะกลางคืนแต่อย่างใด แต่เนื่องจากว่ามีออเดอร์เข้ามาเยอะ เขาจึงจำเป็นต้องเปิดกะกลางคืนกัน
และพอเปิดรับสมัครก็มีคนมาสมัครล้นหลามสุดท้ายก็ได้มา 10 คน
โดยคืนแรกของการเข้ากะของเด็กชั่วคราวก็ดูจะผ่านไปด้วยดี...โดยมีการงีบหลับกันบ้างในช่วงตีสามตีสี่ตามประสาของคนทำงานกลางคืน
นุช...หนึ่งในเด็กชั่วคราวก็เช่นกัน..ช่วงทำงานก็ทำงาน แต่พอช่วงตีสามตีสี่เพื่อนพากันหลับตัวนุชก็เลยหลับไปด้วย
และพอถึงวันคืนที่สองเด็กชั่วคราวแต่ละคนก็มาทำงานตามปกติโดยไม่มีใครขาดสักคนซึ่งเหตุผลที่ไม่มีใครขาดงานเพราะพวกเขาต่างคิดว่างานมันไม่ได้หนักหนาอะไร เหมือนแอบหลับได้เมื่อทำงานได้ถึงเป้า..มันจึงทำให้พวกเขาอยากมาทำงานและรีบทำงานให้ได้เป้าเร็วๆเพื่อที่จะได้นอนกันในช่วงตีสาม
และพอเวลาผ่านมาถึงตีสามกว่าๆบางคนก็ทำงานจนได้เป้าล่ะ บางคนยังไม่ได้ เพื่อนก็เลยไปช่วยๆกันทำเพราะมาทำด้วยกันมันก็ต้องเสร็จด้วยกัน
จนกระทั่งทุกคนทำงานเสร็จก็หามุมนอนกันล่ะ ซึ่งห้องที่ทำงานมันก็ดีไปอีกอย่างคือมันไม่มีกล้องวงจรปิดเลย
พอแต่ละคนได้ที่ๆเป็นของตัวเองแล้วก็ปิดไฟนอนทันที ส่วนตัวนุชเลือกไปนอนที่มุมห้องเลยเพราะเขาชอบนอนติดกำแพง
โดยมุมห้องที่นุชนอนก็จะอยู่ใกล้ๆกับประตู ซึ่งพอใครเปิดประตูเข้าออกนุชก็จะรู้สึกได้ในทันที
และหลังจากที่ทุกคนเข้านอนได้พักหนึ่ง ก็มีเสียงเหมือนคนเดินไปเดินมาอยู่ห้อง แต่ด้วยความที่ประตูมันปิดไม่มิดชิดอยู่แล้ว มันจึงทำให้นุชได้ยินเสียงชัดมาก
พอนุชได้ยินเสียงคนเดินนุชก็รีบลุกไปเปิดไฟทำให้ทุกคนตื่นมาแล้วมองหน้านุชแบบเซ็งๆ
ส่วนตัวนุชเองก็มองไปรอบๆแล้วบอกเพื่อนว่านึกว่ามีคนมาเดินตรวจเลยรีบเปิดไฟ
ซึ่งหลังจากที่เช็คแล้วว่ามันไม่มีอะไร ทุกคนก็ปิดไฟนอนต่อ
พอนอนต่อได้สักพักนุชก็รู้สึกว่ามีคนเปิดประตูแล้วเดินออกไป นุชจึงลุกพรวดแล้วมองตามไป ก็เห็นว่ามีผู้หญิงใส่เสื้อขาวเดินออกจากห้องไป
ณ ตอนนั้นนุชคิดว่าเป็นเพื่อนร่วมงาน สงสัยจะไปเข้าห้องน้ำ บวกกับที่นุชเองเริ่มจะปวดฉี่ล่ะ นุชจึงรีบลุกแล้วเดินตามเขาไป
ในระหว่างเดินตามนุชก็ตะโกนตามไปว่า
“ รอด้วย “
แต่ก็เหมือนเขาจะไม่ได้ยินแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปก่อนนุชอีก
นุชเองก็ทำหน้าแบบงงๆพร้อมคิดว่าว่า ตะโกนดังขนาดนี้ทำไมไม่ได้ยินอีก
ส่วนนุชก็รีบเดินสุดขีดจนมาถึงห้องน้ำด้วยอาการเหนื่อยๆก่อนจะมองไปที่ห้องๆหนึ่งที่ประตูปิดอยู่
ตอนนั้นนุชปวดฉี่มากจึงเดินเข้าไปในห้องข้างๆห้องที่ปิดพร้อมฉี่แล้วตะโกนออกไปว่า
“ ถ้าเสร็จแล้วให้รอด้วยนะ “
สิ้นเสียงของนุชก็มีเสียงตอบกลับมาสั้นๆว่า อื้อ แต่นั้น
ตอนนั้นนุชเริ่มสงสัยล่ะว่าตัวเองมากับใคร..เพราะเสียงที่ตอบอื้อมา มันดูเย็นชามาก และที่สำคัญนุชแทบจะไม่เคยเห็นเพื่อนคนไหนชอบตอบ อื้อ เลย ส่วนมากก็จะชอบใช่ หรือไม่ก็ เครๆ แค่นั้น
และนุชก็พยายามนึกอยู่ว่า วันนี้ใครใส่เสื้อขาวมาทำงาน นึกไปนึกมา นุชก็นึกได้ว่า มีคนเดียวที่ใส่เสื้อขาวมานั้นก็คือดาวนั้นเอง
และพอนึกได้นุชก็ตะโกนถามข้ามห้องไปว่า
“ เสร็จยังดาว? “
แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมาแต่อย่างไร
นุชในตอนนั้นเริ่มแปลกใจล่ะ ว่าทำไมดาวถึงได้เงียบจัง นุชจึงออกจากห้องน้ำแล้วมายืนรอที่หน้าห้องที่คิดว่าดาวเข้า
พอยืนได้สักพักนุชก็ได้ยินเสียงกดชักโครก นุชจึงคิดไปว่าดาวน่าจะเสร็จล่ะ
แต่มันก็ไม่ได้เป็นไปตามแบบที่นุชคิด เพราะสิ้นเสียงกดชักโครกผ่านไปประมาณ 5 นาทีดาวก็ยังไม่ออกมา นุชจึงตัดสินใจจะเคาะประตู
และพอเงื้อมือจะเคาะ...เสียงไลน์ก็ดัง
“ตึ่ง.ๆๆ”
เข้ามาในโทรศัพท์ของนุช นุชจึงหยิบขึ้นมาดู พอดูได้เท่านั้นล่ะ นุชถึงกับช็อค เพราะคนที่ไลน์เข้ามาเป็นดาว โดยดาวไลน์มาถามว่าหายไปไหน? ทำไมไม่เห็นนอนอยู่ที่มุมเดิม
ณ ตอนนั้นนุชยืนอ่านไลน์ด้วยใจที่เต้นแรงมากและได้แต่คิดไปว่า ดาวไลน์มา แล้วใครกันอยู่ในห้องน้ำ นุชคิดไปตัวสั่นไป ก่อนจะตัดความสงสัยออก แล้วรีบเดินหันหลังจะออกจากห้องน้ำไปทันที
แต่พอก้าวไปได้สามก้าว นุชก็ต้องชะงักและหยุดเดินเพราะได้ยินเสียงคนพูดแบบชัดมากว่า
“ ช่วยด้วย ฉันหายใจไม่ค่อยออก”
ซึ่งเสียงมันชัดจนนุชค่อยๆหันกลับดู..
และพอหันกลับไปดูแค่นั้นล่ะ นุชก็กรี๊ดดดด ดังมาก เพราะสิ่งที่นุชเห็นคือ ผู้หญิงเสื้อขาว พยายามตะเกียกตะกายออกจากห้องน้ำโดยเอาหน้าโผล่ออกมาจากช่องข้างล่างของประตูห้องน้ำ แต่โผล่ออกมาได้นิดเดียวเพราะช่องระหว่างประตูกับพื้นค่อนข้างแคบ และถึงส่วนหัวจะโผล่ออกมาไม่ได้ แต่ส่วนมือของเขาก็ตะเกียกตะกายพยายามที่จะออกจากห้องน้ำให้ได้
ซึ่งสภาพเขาในตอนนั้นชักเกร็งไปหมด บวกกับน้ำลายเริ่มไหลออกมาเป็นทาง พร้อมกับเสียงแผ่วๆว่า “ ยะ ยา ขอ ยา ”
นุชในตอนนั้นแทบสติ ยืนมองพร้อมเอามือปิดปาก ก่อนจะกรี๊ดเสียงดังจนเสียสติแถมขาก็ก้าวไม่ออก ซึ่งเสียงกรี๊ดนี้ก็ดังไปทั่วจนยามต้องวิ่งมาดู
พอยามมาถึงที่เกิดเหตุก็พบนุชนอนหมดสติอยู่บนพื้นห้องน้ำ ยามจึงรีบไปตามเพื่อนที่เข้ากะมาช่วย
และทุกคนก็ปฐมพยาบาลนุชจนฟื้น พอฟื้นมาปุ๊บนุชก็ยังอยู่ในอาการที่ตกใจอยู่ โดยพอลืมตาได้ก็ดึงคนข้างๆมากอดแล้วร้องไห้ทันที
และหลังจากวันนั้นนุชก็ตัดสินใจลาออกไปเลย...แต่ก่อนลาออกนุชก็เล่าให้เพื่อนฟังว่าเธอไปเจออะไรมาบ้าง
พอเพื่อนได้ยินแบบนั้นเพื่อนก็เริ่มสืบสาวหาประวัติของห้องน้ำโดยพบว่า
“ เมื่อก่อนมีพนักงานผู้หญิงที่อยู่แผนกที่นุชมาทำชั่วคราวมีเรื่องราวบาดหมางกับแม่บ้าน ซึ่งพอเธอเห็นแม่บ้านทำความสะอาดห้องน้ำอยู่ เธอจึงขังแม่บ้านไว้ในนั้นทันที และในขณะที่เธอเดินออกมาเธอก็เหลือบไปเห็นยากันชัก (Anti-epileptic drug) ที่ใช้ในผู้ป่วยที่เป็นโรคลมชัก ซึ่งพอเธอมองเห็นยา เธอก็เอายาของแม่บ้านโยนทิ้งถังขยะไป
แล้วหลังจากนั้นเธอก็ออกจากห้องไปพร้อมกับล็อคประตูข้างนอกไปอีกชั้นหนึ่ง เพราะคิดว่าเดี๋ยวคนอื่นมาก็คงเปิดให้เอง
ซึ่ง ณ ตอนนั้นเธอคิดเพียงทำไปเพื่อแค่สนุก แต่มันไม่ใช่แบบที่เธอคิดเลย เพราะตอนนั้นแม่บ้านล้างห้องน้ำด้วยน้ำยาล้างห้องน้ำ และพอถูกปิดประตูแบบนั้นก็เริ่มทนกลิ่นไม่ค่อยไหวบวกกับอากาศที่ร้อนมาก กลิ่นน้ำยาล้างห้องน้ำก็แรงทำให้เธอทำให้เธอเริ่มหายใจไม่ออก และที่สำคัญโรคลมชักที่เป็นอยู่ก็กำเริบขึ้นทำให้แม่บ้านต้องตายอย่างทรมานอยู่ในห้องน้ำ ซึ่งเขาก็วิเคราะห์กันไปต่างๆนานาแหล่ะว่า ก่อนตายแม่บ้านคงดิ้นทุรนทุรายมาก เพราะสภาพศพคือมือโผล่ออกมาจากช่องว่างเล็กๆของพื้นข้างล่างประตูบวกกับหน้าก็พยายามโผล่ออกมาเหมือนหาอากาศหายใจ มือเท้าเกร็งไปหมด บวกกับตาเหลือกขึ้นท้องฟ้าและที่สำคัญน้ำลายไหลเต็มพื้นห้องน้ำ ซึ่งสภาพศพก็คล้ายๆกับที่นุชเล่าตอนเจอดีนั่นเอง “
และหลังจากที่ทุกคนรู้ประวัติของห้องน้ำ ก็ไม่ค่อยมีใครกล้ามาห้องน้ำคนเดียว แม้กระทั่งช่วงเช้าก็ต้องหาคนไปด้วยอยู่ดี
สามารถรับชมได้ที่ aplay.tv https://bit.ly/2BeSFtb