เรื่องเล่าจากบนดาดฟ้า
มันก็เป็นค่ำคืนหนึ่ง หลังเลิกงานที่แสนจะเหน็ดเหนื่อย ฉันอ่อนล้าจนหมดอารมณ์แม้แต่จะหาร้านอาหารกินข้าวเลยด้วยซ้ำ เลยตัดสินใจซื้อแค่มาม่ากระป๋อง กับน้ำอัดลม แล้วมุ่งขึ้นไปสู่ชั้นดาดฟ้าของอพาร์ตเมนต์ที่ตัวเองพักอยู่ มันเป็นสถานที่ที่ปลดปล่อยอารมณ์ของฉันได้เป็นอย่างดี
cr. https://pngtree.com/freebackground/city-night-view-lookout-girl_4113871.html
ฉันเคี้ยวเส้นมาม่าคำใหญ่แล้วซดน้ำซุปตาม ก่อนจะทอดสายตามองไปยังตึกรามบ้านช่อง และถนนหนทางข้างหน้า ให้ตายเหอะ...ถ้าหากมีโอกาสจริงๆ ฉันก็อยากจะมีโอกาสไปยืนดูยืนชมที่ที่มีวิวสวยกว่านี้นะ ไม่ว่าจะเป็นทะเลหรือภูเขาก็ตาม ฉันเกลียดและเบื่อบรรยากาศในเมืองเต็มที แม้ว่ามันจะดูศิวิไลซ์แค่ไหนแต่มันก็ซุกซ่อนความเสื่อมโทรมที่น่ารังเกียจไว้ ไม่ว่าจะเป็นถนนพังๆ แคบๆ ไม่มีแม้แต่ที่ที่จะให้คนเดิน เหล่ากองขยะที่ถูกทิ้งอย่างไม่เป็นระเบียบ บ้านเก่าๆ ตึกโทรมๆ ที่ดูแล้วไม่เจริญหูเจริญตา คนจรจัดที่นอนอยู่ใต้สะพานและซอกหลืบต่างๆ แถมเกือบ 3 ทุ่มแล้ว แต่รถก็ยังติดไม่เลิกรา
by Juriko Kosaka
เพราะงั้นแทนที่จะดูวิวแล้วจะหายเหนื่อย ฉันกลับรู้สึกเหนื่อยและท้อแท้มากยิ่งกว่าเดิมเพราะช่วงนี้อะไรๆ ก็ไม่เป็นดั่งใจต้องการเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน ความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ เวลางานที่กินเวลาชีวิตไปอย่างมาก ทำให้อ่อนล้าโรยแรง ใช้ชีวิตแบบซังกะตายไปวันๆ ทำงานเหมือนเครื่องจักรที่ได้ค่าตอบแทนเพียงน้อยนิด เวลาพักและรื่นรมย์กับความบันเทิงใดๆ ก็ไม่มี เหนื่อยกับทุกๆ วันที่ลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วได้แต่คิดว่า
ตัวเองทำอะไรอยู่ อยู่เพื่ออะไรกันแน่?
ฉันมองลงไปข้างล่างตึกอีกครั้ง แล้วก็อดที่จะคิดขึ้นมาชั่ววูบหนึ่งไม่ได้ว่า ถ้าเราจบชีวิตและตอนนี้เลย ก็คงไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยกับความเป็นอยู่ที่แสนจะหดหู่และทรมานอย่างนี้แล้วล่ะ เพราะฉันก็ตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่าจะต้องทนอยู่ในสภาพนี้ไปอีกกี่ปีกว่าจะลาโลกนี้ไป แต่ว่าฉันเหนื่อยมากแล้วขอหยุดมันตอนนี้เลยจะได้ไหมนะ แค่รีบพักให้เร็วขึ้นกว่าเวลาที่ถูกกำหนดไว้เท่านั้นเอง
แต่แล้วก็ปรากฏเห็นร่างของผู้ชายคนหนึ่งที่ปลายหางตาซ้ายเข้า เขามานั่งอยู่ที่ขอบกั้นตั้งตอนไหนฉันก็ไม่ทันสังเกต แต่ยังไม่ทันจะคิดว่าทำไมเขาถึงได้มานั่งอยู่ตรงนั้น ทันใดนั้นร่างของเขาก็ร่วงลงไปข้างล่าง!! ทำให้ฉันตกใจเป็นอย่างยิ่งถึงกับไม่มีเสียงแม้แต่จะร้องออกมาเลยด้วยซ้ำ ฉันเข่าอ่อนล้มตัวลงนั่งทรุดกับพื้น เนื้อตัวสั่นไปหมด แม้ว่าไม่กี่วินาทีก่อนฉันยังที่จะตายอยู่เลย แต่พอมาเห็นคนจบชีวิตอยู่ต่อหน้าแบบนี้แล้ว กลับช็อคจนทำอะไรไม่ถูกไปแทน
cr. http://www.flickr.com/photos/jriphoto/9439015783/
แต่ไม่ได้สิ...ฉันจะปล่อยเอาไว้แบบนี้ไม่ได้ ทุกนาทีมีค่า ถ้าหากฉันรีบให้การช่วยเหลือเขา เขาอาจจะยังมีชีวิตรอดก็ได้นะ ฉันจึงต้องฝืนกำลัง ก้มลงไปมองดูที่พื้นข้างล่างตึกซึ่งคาดเดาว่าร่างของเขาอาจจะร่วงลงไป แต่ก็ต้องแปลกใจ...ที่ไม่พบเห็นทั้งร่างของเขา หรือแม้แต่คนที่อยู่บริเวณนั้นเลยแม้แต่น้อย
เขาตกลงไปแน่นอน...
แต่ว่าเขาหายไปไหนกัน?
มีคนให้ความช่วยเหลือเขาเร็วขนาดนั้นเชียวหรือ?
ฉันมีแต่สิ่งที่สงสัยเต็มไปหมด แต่แล้วฉันก็รู้สึกเย็นวูบอยู่ทางด้านหลังของตัวเอง เมื่อได้ลองหันไปฉันก็ได้เห็นเขา ที่ควรจะอยู่ข้างล่างมายืนอยู่ด้านหลังของฉันแทน เขาอยู่ในชุดที่เหมือนพนักงานออฟฟิศ ผิวขาวซีดเหมือนกระดาษ เสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดสีแดงสด ฉันยิ่งนิ่งอึ้งทำอะไรไม่ถูกเลย ทันทีที่คิดได้ว่าเขาคงไม่ใช่คนแน่ๆ
เขายื่นมือมาหา ทำให้ฉันกลัวมาก กลัวจนไม่อาจจะทนมองได้อีกต่อไป จนต้องหลับตาเบือนหน้าหนี และส่งเสียงกรีดร้องออกมา เป็นครั้งแรกจริงๆ ฉันสัมผัสกับสิ่งเคยเป็นมนุษย์มาก่อนเช่นนี้!!!
ฉันส่งเสียงกรีดร้องจนหมดลม จนอดสงสัยไม่ได้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นต่อจริงๆ ฉันไม่อยากลืมตารับรู้อะไรอีก แต่มันก็ค้างคาใจเกินกว่าที่จะเลิกรับรู้เช่นเดียวกัน ฉันค่อยๆ แอบลืมตามอง แล้วได้เห็นว่าผีตนนั้นชี้ไปที่ถ้วยมาม่าของฉันที่กินค้างเอาไว้อยู่ แล้วทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นมาว่า
"โครก....กกกกก"
.
.
.
อีกไม่กี่นาทีต่อมา ฉันได้แต่นั่งงงๆ กับเจ้าผีหนุ่มที่โซ้ยมาม่าอย่างเอาเป็นเอาตาย เพราะหิวโหยแบบสุดๆ ฉันก็ดูไปเรื่อยๆ ยังไม่ทันจะพูดหรือถามอะไร เพราะว่าเขายังไม่สนใจอะไรรอบข้างทั้งนั้น
ในที่สุดเขาก็กินจนหมด วางกระป๋องลง เช็ดน้ำตา แล้วก็กล่าวว่า
"ขอบคุณนะ" เหมือนจะอิ่มอร่อยเอามากๆ แม้จะเป็นแค่บะหมี่ถ้วยที่ฉันจุดธูปส่งให้เขากินก็ตาม
ฉันจึงเริ่มถามออกมา
"คุณเป็นใคร ตายที่นี่เหรอ? ตายตอนไหน? ฉันก็ขึ้นมาที่นี่ตั้งหลายครั้งแล้วทำไมเพิ่งเห็น"
"ผมเพิ่งกระโดดตึกฆ่าตัวตายเมื่อสามสัปดาห์ก่อนน่ะ" เมื่อเขาสารภาพมาก็ชวนให้คุยต่อจริงๆ ตอนนี้ฉันไม่กลัวเขาซะแล้ว
"เหรอ? ตายแล้วเป็นยังไงบ้าง เพราะฉันก็เหนื่อยจนไม่อยากอยู่แล้วเหมือนกัน" เค้ารีบหันมาพูดสวนใส่
"อย่านะ! อย่าฆ่าตัวตายนะ!! ฉันมันบ้าเองที่คิดว่าตายแล้วทุกอย่างจะจบ สัปดาห์แรกมันก็โล่งสบายดีหรอกที่หนีปัญหาไป ไม่ต้องเจอกับชีวิตเฮงซวยอีก..."
"แต่พอรู้ตัวอีกที... ชีวิตก็โครตเคว้งคว้างเลย ได้แต่วนเวียนฆ่าตัวตายซ้ำๆ อยู่ตรงนี้ หิวก็หาอะไรกินไม่ได้ ไม่มีอะไรทำ โครตน่าเบื่อ เล่นเกม เล่นเน็ตก็ไม่ได้ บ้าบอชิบหาย"
"อย่างน้อยถ้ายังไม่ตาย...ก็ยังทำอะไรตามใจชอบได้อยู่แท้ๆ ฉันนี่มันโง่จริงๆ" เขาหันมองฉันแล้วค่อยพูดต่อ
"ผมเห็นคุณมาสักพักแล้วล่ะ แต่คิดว่าคุณอาจจะกลัว เลยไม่ออกมาให้เห็น แต่วันนี้มันหิวจนทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ก็เลย..."
"อืมๆ เข้าใจแล้วล่ะ แย่เลยนะ" ฉันตอบรับเขาอย่างเสียไม่ได้
"เพราะงั้น...ถึงชีวิตมันจะแย่และบัดซบแค่ไหนก็อดทนไปเถอะ อย่ามารีบตายแบบผมเลย การอยู่แบบล่องลอย ไม่มีอะไรให้ทำ ไม่รู้จะทำอะไรมันทรมานกว่ากันเยอะนะ" เขาลุกขึ้นยืนแล้วพูดต่อ
"ผมต้องไปแล้ว ถ้ามีโอกาสก็ฝากบอกต่อด้วยนะ ว่าการฆ่าตัวตายมันไม่ดียังไง อย่าได้พลาด ทำตามแบบผมเลย" แล้ววิญญาณของเขาก็ค่อยๆ จาง และเลือนลางหายไป
cr. https://www.tumblr.com/likes/page/16/1556250516
ฉันนิ่งอึ้งไปสักพักใหญ่ๆ ก่อนที่จะคิดได้ว่า
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า... อย่าฆ่าตัวตายกลายเป็นวิญญาณเลย เพราะเป็นวิญญาณนี่ แม้แต่มาม่าก็ยังก็หากินเองไม่ได้เลย แถมยังอดเล่นเกม ตามอ่านข่าวต่างๆ ในมือถือก็ไม่ได้ ทำอะไรที่อยากทำเหมือนตอนเป็นคนไม่ได้ ได้แต่ล่องลอยตรงที่เดิมๆ ฆ่าตัวตายซ้ำๆ จนกว่าจะหมดอายุไขที่แท้จริง
ถ้าเหนื่อยใจก็แค่พัก อย่าหนีปัญหาด้วยการตายเลย มันไม่สบายแถมยังไปเจอชีวิตที่ห่วยแตกกว่าตอนก่อนตายซะอีก ถึงชีวิตจะไม่รื่นเริงนักแต่ถ้ายังหากินเองได้ ทำอะไรแก้เบื่อได้ ก็ใช้ชีวิตต่อไปล่ะกันนะ
ขอบคุณที่มาบอกนะ คุณวิญญาณ ไม่งั้นฉันก็กลายไปเป็นวิญญาณอีกตนที่ต้องทรมานเพราะยังไม่ถึงที่ตายแน่ๆ
- จบ -
แต่งโดย Akine_Noxx
Talk : เป็นเรื่องสั้นที่เขียนออกมาเล่นๆ ขำๆ เพียงเพราะอยากเตือนใจว่า ถ้าฆ่าตัวตายแล้วต้องมาเจออะไรแบบนี้ก็ไม่กล้าที่จะฆ่าตัวตายแล้วล่ะ ตอนนี้อยากกินก็อะไรไปซื้อหรือสั่งมากินได้ ไปเที่ยวไหนก็ยังพอมีโอกาสได้ไป ถ้าขี้เกียจจะนอนเล่นเน็ตโง่ๆ ก็ทำได้ แต่ถ้าตายไป ทำสิ่งพวกนี้ไม่ได้แค่คิดก็ทรมานจะแย่แล้วจริงๆ มันอาจจะมีสักช่วงนะ ที่เหนื่อยจนไม่อยากอยู่ต่อไปแล้ว แต่ขอแค่ผ่านจุดนั้นมาให้ได้ การใช้ชีวิตอยู่ต่อไปมันก็ไม่เลวร้ายมากมายขนาดนั้นเลยนะ
ไม่ได้แต่งเรื่องสั้น เรื่องยาวอะไรมานานแล้ว สารภาพว่า ไร้ไอเดียที่จะแต่งไปได้ตลอดฝั่งจริงๆ เพราไม่ค่อยถนัด แต่ว่านานๆ ลองทำดูสักทีก็สนุกดีเหมือนกันนะ