มิติลับ สัมผัสสยอง ตอน ห้องปิดตาย
เวลาย้ายห้องพัก ใครมีวิธีเลือกห้องพักแบบไหนบ้าง
ส่วนตัวผมเองแทบจะไม่มีวิธีในการเลือกเลย แต่จะเน้นใกล้เป้าหมายเช่นถ้าเรียนก็จะเลือกหอพักใกล้ที่เรียน และถ้าทำงานก็จะเลือกหอพักใกล้ที่ทำงานนั่นเอง
ต้องบอกก่อนว่าผมพึ่งจะเรียนจบ และได้งานที่บริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นผมก็ยังไม่มีที่พักจนกระทั่ง HR ที่รับผมเข้าทำงานแนะนำหอพักที่หนึ่งให้โดยเขาให้เหตุผลว่า หอนี้มันใกล้ดี เดินมาทำงานก็ได้ ไม่ต้องตื่นเช้าแล้วฝ่ารถติดมาทำงาน
ผมก็เชื่อตามที่พี่เขาบอก บวกกับผมเป็นคนที่ไม่ชอบตื่นเช้าสักเท่าไหร่นัก
หลังจากที่ผมคุยกับพี่ HR เสร็จ..ผมก็ไปติดต่อเรื่องห้องและพบว่าเหลือห้องว่างอยู่หนึ่งห้องพอดีซึ่งเจ้าของหอก็พูดคุยดีเหมือนอยากให้เช่ามาก ก่อนจะเดินนำผมไปดูห้อง
แต่ก่อนเข้าไปดูห้องผมก็แอบแปลกใจทำไมห้องที่ผมมาอยู่มันถูกจัง ทั้งๆที่มีเฟอร์นิเจอร์ครบทุกอย่าง...แต่ลักษณะห้องเหมือนไม่มีคนอยู่มานานคล้ายกับห้องที่ถูกปิดตายยังไงงั้น
และก้าวแรกที่เข้ามาในห้อง หยากไย่ ฝุ่นเฝิ่นอะไรก็เกาะเต็มไปหมด คือฝุ่นมันเยอะมากจนขนาดผมถึงกับจามเลยทีเดียว
พอเจ้าของหอเห็นผมจามก็บอกว่า..
“ โทษทีฝุ่นเยอะไป พอไม่มีคนมาอยู่นานๆแม่บ้านก็ไม่ค่อยมาทำ เดี่ยวยังไงพี่ให้แม่บ้านมาทำความสะอาดให้ก่อนวันย้ายเข้ามาละกัน”
และหลังจากนั้นผมก็เดินๆสำรวจไปทั่วๆห้องจนกระทั่งมาสะดุดตาอีกทีตอนก่อนจะกลับ โดยตอนกำลังจะเดินออกจากห้องผมเหลือบไปเห็นผ้ายันต์ติดอยู่บนหัวประตู..
ตอนนั้นผมยืนมองนิ่งๆจนเจ้าของหอพูดว่า
“ ผ้ายันต์ติดนานแล้ว น่าจะเป็นของคนมาพักช่วงแรกๆและพอย้ายออกเขาไม่เอาด้วย”
ณ ตอนนั้นผมก็ไม่ได้ติดใจอะไรจนกระทั่งถึงวันย้ายเข้ามาอยู่ ห้องก็ดูสะอาดกว่าวันมาดูมาก
โดยพอผมย้ายเข้ามาผมก็ทำการเก็บข้าวเก็บของเข้าที่...และพอเก็บจะเสร็จผมก็เหลือบไปเห็นผ้ายันต์ผืนที่ติดอยู่บนหัวประตู
ตอนนั้นผมมองดูแล้วมันดูเกะกะ ไม่สบายตายังไงไม่รู้ ผมจึงไปลากเก้าอี้มาแล้วขึ้นไปดึงผ้ายันต์ออกทันที
และในจังหวะที่ผมกะชากผ้ายันต์ออก ลมมาจากไหนไม่รู้ตีเข้าเบ้าหน้าผม
“ ฟิ่วววว “
จนผมของผมถึงกับปลิวเลยทีเดียว
หลังจากนั้นผมก็มองซ้ายมองขวาว่าลมมาทางไหน ผ้าม่านผมก็ปิดมิด ประตูผมก็ไม่ได้เปิด แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร และก็ใช้ชีวิตในห้องตามปกติแบบนอนเล่นโชเชี่ยลเรื่อยเปื่อย
จนกระทั่งผ่านมาถึงช่วงดึกๆ..สิ่งแปลกๆก็เริ่มเกิดขึ้นมาทีละน้อยทีละน้อยล่ะ
โดยในขณะที่ผมเข้านอนแล้ว..ผมก็ได้ยินเสียงคนเคาะประตูห้องผม
“ ก็อกๆ “
จนผมสะดุ้งตื่นแล้วเดินไปส่องตรงตาแมว...ก็ไม่เจออะไร แล้วผมก็กลับมานอนอีกที
แต่พอนอนไปได้สักพัก ก็มีเสียงเคาะขึ้นมาอีก
“ ก็อกๆ “
เคาะจนผมสะดุ้ง ผมก็เลยลุกไปส่องที่ตาแมวอีกครั้ง ก็ไม่เจออะไรอีก และครั้งนี้ผมก็ยังคงนิ่งอยู่ที่หน้าประตูเพื่อจะจับให้ได้ว่าใครมาก่อกวนผม
ซึ่งผมยืนนานจนเวลาผ่านมาเป็น10นาที ทุกอย่างก็ดูเงียบ ผมเลยเดินกลับมาที่เตียงและพอมาที่เตียงผมก็แอบแปลกใจว่าทำไมผ้าห่มผมถึงลงไปกองอยู่ข้างล่างแบบส่วนหนึ่งอยู่ใต้เตียงอีกส่วนหนึ่งอยู่นอกเตียงเหมือนมีอะไรลากเข้าไปใต้เตียงทั้งๆที่ตอนผมลุก มันก็อยู่บนเตียงอยู่เลย
ผมยืนมองและเกาหัวแบบงงๆก่อนจะก้มเก็บ..แต่ในจังหวะที่มือผมไปถึงผ้าห่มก็เหมือนมีมือๆหนึ่งออกมาจากใต้เตียงแล้วดึงผ้าห่มไว้
ตอนนั้นผมร้อง “ เฮ้ย” แล้วโดดหนีทันทีพร้อมกับขยี้ตา แล้วมองผ้าห่มซึ่งทุกอย่างก็ดูปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น...
ผมกลืนน้ำลายไปเฮือกหนึ่งก่อนจะปลอบใจว่าตัวเองคงตาฝาดไป แล้วค่อยๆดึงผ้าห่มออกมาพร้อมกับขึ้นไปนอน
และในคืนนั้นทั้งคืน ผมนอนไม่หลับเลย ไม่ใช่ว่าผมคิดมากเรื่องที่ผมตาฝาดนะ..แต่เพราะเสียงเคาะประตูห้องมันดังบ่อยมาก พอจะหลับ เสียงเคาะก็ดังขึ้น คือมันบ่อยจนผมขี้เกียจไปดู..
จนกระทั่งรุ่งเช้า.. ก่อนไปทำงานผมก็บอกเจ้าของหอว่า เมื่อคืนผมไม่ได้นอนเลย.. มีคนแกล้งมาเคาะประตูทั้งคืน
เขาก็รับคำร้องของผมแล้วบอกจะดูให้ว่าเด็กที่ไหนมากวน
และวันนั้นทั้งวันผมก็เริ่มงานแบบง่วงๆ โดยผมคิดไว้แล้วว่าเลิกงานจะรีบไปกลับนอน
จนกระทั่งเลิกงานผมก็รีบกลับห้อง..เพื่อที่จะพักผ่อนแต่พอเปิดประตูห้องเข้ามา ห้องผมก็มีกลิ่นแปลกๆแบบกลิ่นธูปบวกกับความอับ อับแบบอารมณ์เหมือนคนไม่ได้อยู่ที่นี้นาน
ตอนนั้นผมเริ่มไม่ไหวกับกลิ่นห้องละ รีบไปหาน้ำหอมมาฉีดๆพร้อมเปิดแอร์ทันที
และพอเวลาผ่านไปสักพักกลิ่นห้องก็เริ่มกลับมาปกติ ผมจึงรีบอาบน้ำและกินข้าวพร้อมเข้านอนทันทีเพราะเพลียสะสมมาก
ผมเข้านอนได้สักพักสิ่งที่ผมไม่คิดว่ามันจะเกิดอีกก็เกิดขึ้นกับผม เพราะอยู่ดีๆก็มีคนมาเคาะประตูอีก เคาะอยู่เรื่อยๆจนผมต้องหยิบหูฟังมาเสียบเพื่อไม่ให้ได้ยินเสียงอะไร
ซึ่งพอเสียบหูฟังไปมันก็ดีขึ้นหน่อยหนึ่ง..แต่มันก็แค่หน่อยหนึ่งแค่นั้น..เพราะในขณะที่ผมนอนอยู่ ผ้าที่ห่มก็ค่อยๆหลุดออกจากตัวผมและหลุดลงข้างล่างเตียงดัง ฟุบ
ตอนนั้นผมสะดุ้งเฮือกแล้วลุกนั่งพร้อมใจที่เต้นแรง ก่อนจะค่อยๆก้มหยิบผ้าห่มขึ้นมา
แล้วหลังจากนั้นผมก็นอนต่อ โดยนอนไปได้แค่แปปเดียวผมก็รู้สึกๆหนักๆที่ขาเหมือนมีอะไรมาทับ ผมจึงค่อยๆลืมตาขึ้นมา แต่พอลืมตาได้ผมก็ถึงกับร้อง
“ เฮ้ยยยยย”
แบบดังมาก เพระผมเห็นผู้หญิงใส่ชุดขาวเปื้อนเลือด ผมยาวนั่งทับขาผมอยู่ แต่พอผมร้องเฮ้ย สิ่งที่ผมเห็นก็หายไป ในตอนนั้นผมเริ่มคิดละว่า..เป็นแบบนี้ผมคงนอนไม่ได้อีกแน่นอน ผมจึงตัดสินใจเดินเปิดไฟนอนดีกว่า
แต่เหมือนสิ่งที่ตัดสินใจก็ไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดเพราะอยู่ดีๆไฟที่เปิดก็ดับๆติดๆ ผมยืนนิ่งมองไฟที่ดับๆติดๆพร้อมภาวนาละว่า
“ ขอให้ผมได้นอนหลับแบบสบายๆจะได้ไหม ผมเหนื่อย “
ผมภาวนาพร้อมมือไหว้ แล้วผมก็ตัดสินใจจะเดินไปนอนแบบไม่สนใจอะไรล่ะ..
แต่พอทิ้งตัวลงนอนมันเกิดเหตุการณ์แย่ๆขึ้นแบบรัวๆ เพราะอยู่ๆตู้เสื้อผ้าผมก็ถูกเปิดออก น้ำในห้องน้ำก็ถูกเปิดให้ไหล แอร์อยู่ดีๆก็ดับไป แล้วกลิ่นอับๆก็เริ่มกลับมา
ตอนนั้นผมยอมรับว่าผมกลัวมาก ทั้งเสียงน้ำไหล เสียงประตูตู้ที่เปิดๆปิดบวกกับกลิ่นอับๆทำผมหลอนไปหมด ผมจึงตัดสินใจจะวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าของหอ...
และพอกำลังจะเปิดประตูออกกก็มีเสียง
“ ฮ่าๆ”
เป็นเสียงหัวเราะของผู้หญิงดังขึ้นมาจากข้างหลัง ผมจึงหยุดนิ่งแล้วค่อยๆหันไปมองก็เจอผู้หญิงใส่เสื้อสีขาวเปื้อนเลือดนอนอยู่บนเตียงแล้วหัวเราะสลับร้องไห้ไปมา...
ณ จุดๆนั้นผมช็อคมาก สติแทบหลุดพร้อมร้อง
“ อร๊าคคคคคคค “
อย่างดัง แล้วเปิดประตูวิ่งหนีทีนที
ผมวิ่งออกจากห้องมาแบบเสียสติก่อนจะมาเจอป้าแม่บ้านที่แกยังคงเดินเช็คดูความเรียบร้อยอยู่
พอแกเห็นผมวิ่งมาด้วยสีหน้ากลัวๆแกจึงดึงและเขย่าผมพร้อมปลอบผมให้มีสติ..
พอตั้งสติได้ผมจึงเล่าทุกอย่างที่ผมเจอให้แกฟัง
จากนั้นแกก็พาผมไปอยู่ที่ห้องแกแล้วบอกให้ผมพักที่นี้ก่อน..พร้อมกับเล่าทุกอย่าให้ผมฟังว่า
“ ห้องนั้นปิดตายมาหลายปีแล้ว เพราะเกิดเหตุการณ์ฆ่ากันตายในห้อง โดยผู้ชายใช้มีดแทงผู้หญิงเป็นสิบๆแผลจมกองเลือดตายบนเตียงเหตุเพราะหึงหวง...และที่สำคัญหลังจากที่เขาตายไปวิญญานก็เฮี้ยนมาก เฮี้ยนจนไม่มีใครอยู่ได้ คนไม่รู้ก็มาเช่าก็อยู่ได้ไม่ถึงคืน ยอมเสียค่ามัดจำแล้วย้ายหนีทันที หลังจากนั้นเจ้าของหอก็เลยเอายันต์มาแปะในห้อง..แต่ถึงเเปะไปก็มักจะมีคนเจอดีอยู่ดี แต่จะเจอแบบนานๆเจอที เช่นทุกวันพระ..ถึงนานๆจะเจอทีคนก็คงไม่กล้าเสี่ยงมาอยู่ให้ประสาทแดกหรอก...มีแต่เรานี้แหล่ะ โผล่มาได้ไง ไม่ศึกษาในเพจของหอหรอ มีแต่คนพูดถึงห้องนี้แบบไม่ดีทั้งนั้น “
พอผมได้ยินผมก็กลืนน้ำลายเฮือกหนึ่งและใจเต้นแรงมาก ซึ่งคืนนั้นผมก็ขอนอนพักที่ห้องแม่บ้านหนึ่งคืน
พอรุ่งเช้าผมตัดสินใจไปขอย้ายออก เจ้าของหอก็ให้ย้ายนะ แต่ไม่ให้มัดจำคืน
ณ ตอนนั้นผมแอบโมโหให้กับความเอาเปรียบของเขาที่เห็นแก่ตัวของเจ้าของหอมาก อยากได้ตังค์มากไปจนไม่แคร์คนอื่นผมเลยเปลี่ยนใจเช่าต่อโดยขนของออกไปหมดเพื่อไปหาหออื่นอยู่แต่หอนี้ก็จ่ายปกติเพื่อต้องการเอาค่ามัดจำคืน(เพราะค่ามัดจำก็สูงพอสมควร)
และสุดท้ายผมก็ยังไปรีวิวในเพจหอเพื่อเตือนคนให้คนอื่นๆทราบว่าหอนี้ ห้องนี้มันมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้างเพื่อป้องกันไม่ให้คนอื่นมาประสาทแดกแบบผม
สามารถรับชมได้ที aplay.tv https://bit.ly/3h06ydP