มิติลับ สัมผัสสยอง ตอน โชคไม่ดี
ในช่วงเวลาหกโมงเช้าของวันธรรมดาแบบนี้ จะเห็นผู้คนมากมายมายืนรอขึ้นรถ ไม่ว่าจะเป็นรถเมล์ วินมอเตอร์ไซค์ แท็กซี่ หรือแม้กระทั่งรถไฟฟ้า ก็แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคน สำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างภัทร เขาเลือกที่จะโดยสารรถเมล์ไปทำงานเป็นประจำ ก็เช่นเดียวกันกับวันนี้
ภัทรยืนรอรถเมล์ที่ป้ายรถเมล์ ในระหว่างที่เขาก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์ฆ่าเวลา อยู่ๆ ตาซ้ายของเขาก็กระตุกไม่หยุด เขาเชื่อว่าวันนี้ต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่จะร้ายหรือจะดีก็ไม่อาจรู้
ภัทรง่วนอยู่กับการเล่นโทรศัพท์อยู่สักพัก พอเขาเงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นรถเมล์สายที่เขาจะขึ้นมันเพิ่งขับผ่านไป ภัทรรีบวิ่งตามพร้อมตะโกนเรียกให้ตายยังไงรถก็ไม่ยอมจอด เขาจึงมองหาวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แต่รออยู่เกือบชั่วโมงก็ไม่มีผ่านมาสักคัน และตอนนี้เวลาก็ปาไปเกือบจะ เจ็ดโมงแล้ว ภัทรจึงต้องยอมนั่งรถแท็กซี่ราคาค่าโดยสารหลักร้อยไปที่บริษัท
แท็กซี่จอดอยู่ที่หน้าปากซอยของบริษัทเพราะซอยมันแคบเขาเลยต้องเดินเข้าไปเองเป็นประจำ แต่วันนี้เวลาที่เผื่อเอาไว้มันหมดแล้ว ภัทรรีบวิ่งมุ่งหน้าไปที่บริษัท ซึ่งบริเวณโดยรอบเป็นอพาร์ตเมนต์ปล่อยให้คนงานเช่า ซึ่งเป็นทางผ่านที่เขาต้องผ่าน ภัทรวิ่งไม่ทันได้มอง ว่ามีกระถางต้นไม้ตั้งขวางทางเดินอยู่บนพื้น ภัทรเลยวิ่งเตะเข้าอย่างจัง ภัทรร้องอูยในใจ ก่อนจะวิ่งกะเผลกๆ ต่อไปที่บริษัท
เมื่อมาจนถึงบริษัท เขาสแกนบัตรเข้าทำงานในเวลาที่สายเกือบชั่วโมง ทำให้วันนี้ต้องโดนหักเงินตามเวลาที่สายไปอีกหนึ่งชั่วโมง ถ้านำไปบวกกับค่าแท็กซี่ที่พึ่งจ่ายไปแล้ว มันก็จำนวนไม่น้อยเลยสำหรับเขา
หลังจากพักเบรกภัทรก็กลับเข้ามาที่ทำงานก่อนเวลางานครึ่งชั่วโมง เขาจึงชงกาแฟมานั่งจิบที่โต๊ะของตัวเองฆ่าเวลา จิบไปดูหนังไปอย่างสบายอารมณ์ กาแฟเหลือค่อนแก้ว จึงเอาวางไว้ที่โต๊ะ พอถึงเวลาทำงานเขาก็จะจัดการกับเอกสารต่อ จนเผลอดึงกระดาษมา 1 แผ่น ซึ่งกระดาษนั้นมันถูกแก้วกาแฟทับอยู่ เลยทำให้กาแฟหกเลอะเอกสารไปหมด ซวยยิ่งไปกว่านั้นเอกสารที่เลอะดันเป็นสัญญาจ้างงานกับลูกค้าที่ต้องนำไปส่งให้ผู้จัดการในตอนบ่าย
เมื่อถึงเวลาบ่ายโมงผู้จัดการก็เรียกเขาเข้าพบ พอทราบเรื่องเอกสารภัทรก็ถูกดุด่าว่าไร้ความรับผิดชอบ ทำให้ผู้จัดการต้องเสียเวลานัดเซ็นเอกสารกับลูกค้าใหม่อีกครั้ง ซึ่งความผิดครั้งนี้ถือว่าเป็นการเตือน หากว่าภัทรทำผิดซ้ำสอง เขาคงต้องยื่นซองขาวออกจากบริษัทไป
วันนี้ทั้งวันภัทรเศร้าใจมากที่เกิดเรื่องมากมายกับเขา ต่อไปเขาคงทำงานลำบากขึ้นอีกเท่าตัว
หกโมงเย็นมาถึงภัทรโดยสารรถเมล์กลับบ้าน พอถึงหน้าปากซอยของหมู่บ้านเขาก็เดินเตะขาไปตามทางด้วยความเบื่อหน่าย เรื่องวุ่นวายในวันนี้ก็ถือว่าหนักหนาสาหัสพอแล้ว แต่เหมือนโชคชะตายังไม่สะใจ
อยู่ๆ ก็มีตัวอะไรกัดเข้าที่ขา ภัทรรีบสะบัดออกแล้วหันไปดู พบว่าเป็นหมาพันธุ์บางแก้วตัวหนึ่งของคนในหมู่บ้าน ร้อยวันพันปีมันไม่เคยคิดจะเห่าเขาเลย แต่วันนี้กลับโดนกัดซะได้ ภัทรเดินกะเผลกหนีออกห่าง เจ้าหมากลับยืนประจันหน้าเหมือนจะกัดเขาอีกสักแผล เจ้าของของมันเดินเข้ามาเห็นพอดี จึงใช้สายจูงลากมันออกไป พร้อมกับจ่ายเงินเยียวยาให้ภัทรหลายพันบาท แต่จากที่ภัทรจะถึงบ้านอีกไม่กี่ก้าว แล้วได้นอนพักผ่อนสบายๆ แต่เขาต้องเดินออกไปเพื่อที่จะเรียกรถไปฉีดยาที่โรงพยาบาลอีกหลายเข็ม
ราวกับหมดเคราะห์จึงทำให้ภัทรกลับมาถึงบ้านได้อย่างปลอดภัย ก่อนเข้านอนภัทรทบทวนเรื่องราววันนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง ปกติชีวิตเขาก็ดำเนินไปอย่างเรียบง่าย แต่วันนี้เขากลับต้องเจอเรื่องเลวร้ายมากมาย หรือทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะตาข้างซ้ายกระตุกเมื่อเช้า ภัทรเองก็เริ่มสงสัย
หากตาซ้ายกระตุกในเวลากลางวันจะถือว่ามีเคราะห์ อย่างเช่นภัทรได้รับเคราะห์ตลอดทั้งวันเพราะตาซ้ายกระตุก แต่ตาขวากระตุกตอนกลางวันนั้นจะโชคดี ถ้าหากเป็นตอนกลางคืนจะสลับเป็น ‘ขวาร้ายซ้ายดี’
สามารถรับชมเพิ่มเติมได้ที่ aplay.tv https://bit.ly/2Wi0Gof