มิติลับ สัมผัสสยอง ตอน เมา
ช่วงเวลาปีใหม่ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวกับเพื่อนๆที่เป็นแก๊งค์ของผมประมาณ 4-5 คน โดยผมกับเพื่อนมีโปรแกรมว่าจะไปเคาดาวน์กันที่ริมทะเลแบบที่เช่าบ้านพักเป็นหลังๆไปเลย
ซึ่งพอไปถึงทะเลผมกับเพื่อนก็ขนของเข้าบ้านพักที่เราเช่าไว้ และในขณะที่เพื่อนเก็บของ ผมก็เดินไปสำรวจบ้านพักโดยรอบๆ และสังเกตได้ว่าหลังบ้านพักมีต้นไทรต้นใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง โดยต้นไทรต้นนี้ถูกพันด้วยผ้าเจ็ดสีจนรอบต้น ผมยืนมองนิ่งๆก่อนจะยกมือไหว้แบบที่คิดว่าเราเป็นคนต่างที่ ต้องเคารพสถานที่ที่ไม่เคยมา
และหลังจากที่ขนของเสร็จพวกผมกับเพื่อนก็ออกไปซื้อของมาไว้ทำสำหรับตั้งวงดื่มฉลองกันในคืนนี้
ซึ่งก็แน่นอนละว่า...พอถึงช่วงตั้งวงก่อนเค้าดาวน์เรากิน ดื่มกันอย่างสนุกสนานอยู่ริมหาด จนกระทั่งมีเพื่อนคนหนึ่งที่คออ่อนที่สุดในกลุ่มของผมชื่อไอ้สองมันปวดฉี่จึงขอตัวออกไปฉี่
และพอขากลับ ผมสังเกตเห็นเพื่อนตัวเองเดินออกมาจากหลังบ้านพักด้วยอาการเซๆ ผมจึงมองหน้ามันแบบคิ้วขมวดแล้วพูดแซวว่า
“ ในบ้านก็มีห้องน้ำ ไปฉี่เรี่ยราดทำไมวะ”
มันก็ยิ้มแบบกวนๆผมพร้อมทำหน้าตาเฉยๆแบบชนิดที่ไม่ได้สนใจคำพูดของผมเลย
และพอมันกลับมาได้แปปเดียว ก็ถึงเวลานับถอยหลังเค้าดาวน์ เราก็นับถอยหลังเค้าดาวท์กันที่ริมทะเลกันแบบสนุกสนาน
หลังจากเค้าดาวเสร็จพวกผมก็นั่งดื่มกันต่อแบบชิลๆ แต่ไอ้สองเพื่อนที่คออ่อนที่สุดมันขอเข้าไปนอนก่อนเพียงเพราะว่ามันบอกมันง่วงมาก
แต่ความจริงผมไม่เชื่อมันหรอก ผมคิดว่ามันเมามากนั่นล่ะ มันถึงได้ขอตัวไปนอน
และหลังจากที่ไอ้สองไปนอนไม่นาน พวกผมก็แยกย้ายกันไปเข้านอนเช่นกัน
ซึ่งพอพวกผมเข้าบ้านไปก็เกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นเมื่อทุกคนเข้ามาในบ้านแล้วไม่เจอไอ้สองอยู่ในห้องนอนเลย
ในตอนนั้นผมที่เหมือนมีสติมากสุดเดินตามหามันไปทั่วแต่ก็ไม่เจอสักห้อง
แต่ ณ ตอนนั้นทุกคนกลับคิดว่าไอ้สองมันคงแกล้งเพื่อนอยู่ เดี่ยวพอพวกเรานอนหมดมันก็จะออกมาเอง
ซึ่งพอทุกคนคิดแบบนี้ทุกคนก็แยกย้ายกันไปนอนแบบที่ไม่อาบน้ำกันเลย และมีแค่ผมเท่านั้นที่ไปอาบน้ำคนเดียวและในขณะอาบน้ำผมก็ได้ยินเสียงเหมือนคนเอามือทุบพื้นบ้านดังตุ้บๆแบบเป็นระยะๆ
ในตอนนั้นผมก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะคิดว่าไอ้สองมันคงออกมาแล้วกวนคนอื่นต่อ
จนกระทั่งอาบน้ำเสร็จผมออกมาจากห้องน้ำก็ยังไม่เจอไอ้สองแต่เจอทุกคนนอนอยู่ครบแบบนอนนิ่งไปเลย
ณ จุดนั้นผมตกใจนิดหน่อยว่าเสียงที่ผมได้ยินคือเสียงอะไร ผมหูฝาดหรอ หรือยังไงและผมก็เริ่มคิดได้ว่า คงไม่ใช่ล่ะ เริ่มจะมีลางไม่ดีแล้วผมจึงรีบปลุกทุกคนให้ตื่นเพื่อตามหาไอ้สอง
และพอทุกคนตื่นมาทุกคนก็ยังคิดว่ามันแกล้งอยู่แน่นอน ...แถมยังบ่นกันอีกว่า ถ้าเจอจะตบกะบาลให้หนักๆ
แล้วหลังจากนั้นทุกคนก็ต่างช่วยกันแยกย้ายตามหาไอ้สองจนทั่วบ้าน ทั่วชายหาดแถวนั้นก็ยังหาไม่เจอ แถมยังไม่มีร่องรอยใดๆตามบ้านตามหาดทรายหน้าบ้านเลย
จนกระทั่งพวกผมเริ่มท้อแล้ว...
ณ ตอนนั้นผมหันไปเจอเพื่อนทุกคนนั่งหายใจแรงจากอาการเหนื่อยที่ตามหาไอ้สอง ใบหน้าของแต่ละคนแสดงออกถึงความเป็นห่วงบวกกับความกลัวผสมกันไป
ผมมองดูเพื่อนพร้อมนึกขึ้นได้ว่าเรายังไม่ได้ไปถามเจ้าของบ้านเลยนิ
พอนึกได้แบบนั้นผมก็รีบวิ่งไปยังบ้านของเจ้าของบ้านที่ผมมาเช่าอยู่ทันทีโดยวิ่งมาแค่คนเดียวปล่อยให้เพื่อนนั่งรออยู่หน้าบ้าน
แต่พอไปถึงผมก็แอบแปลกใจว่าทำไมคุณลุงแกมายืนรอเหมือนรู้ว่าผมจะมา
ผมยกมือไหว้คุณลุงด้วยอาการหอบๆก่อนที่คุณลุงจะยื่นดอกไม้และธูปเทียนให้พร้อมกับพูดสั้นๆว่า
“ ถือไว้ แล้วตามมา”
ผมเดินตามคุณลุงไปเงียบๆ โดยมีคุณลุงที่เดินนำไปยังกลุ่มของเพื่อนผมพร้อมบอกให้พวกผมตามไปลุงมา แล้วลุงก็เดินนำพวกผมมายังหลังบ้านที่พวกผมอยู่ ซึ่งพอมาถึงหลังบ้านผมก็เจอต้นไทรต้นที่ผมยกมือไหว้เมื่อเย็นนั่นเอง
ส่วนคุณลุงเองก็มองหน้าพวกผมแล้วพูดว่า
“ ถ้ามาไม่ไหว้ก็ไม่ควรไปลบหลู่เขา”
ซึ่งพอพูดจบผมก็แอบงงว่าลุงจะสื่ออะไร เพราะพวกผมก็ยังไม่มีใครทำอะไรเลย แต่เพื่อความสบายใจของทุกคน เพื่อนผมรวมทั้งผมก็ต่างยกมือไหว้ และในขณะที่ยกมือไหว้เพื่อนอีกคนก็พูดขึ้นว่า
“ ขอให้เจอไอ้สองด้วยเถิดสาธุ”
และพอสิ้นประโยคคำพูดมัน กิ่งต้นไทรแห้งก็หล่นลงพื้นดังตุ้บจนพวกผมสะดุ้งแล้วอุทานพร้อมกันดัง
“ เฮ้ยยยย”
ทุกคนอุทานพร้อมกับมีอาการขนลุกชัน จากที่เมาๆหน่อยๆก็เริ่มสร่างเมากันไปล่ะ
และในขณะที่ทุกคนตกใจอยู่นั้น คุณลุงเจ้าของบ้านก็มองมาที่ผมและเพื่อนพร้อมพูดว่า
“ รีบกลับเข้าบ้านไปและถ้าเจอเพื่อนแล้วก็บอกให้เขามาขอขมาในสิ่งที่ทำไปซะ”
ลุงพูดสั้นๆแค่นั้นแล้วก็เดินหนีไปเลย
ตอนนั้นผมกับเพื่อนไม่รู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้นกับกลุ่มผม เพื่อนผมทำอะไรลงไป แต่ในความรู้สึกผมคือเหมือนมันมีลางว่าจะได้เจอเพื่อนแน่นอน พวกเราจึงรีบวิ่งกลับไปที่บ้านทันที
และพอก้าวเข้าบ้านไปเท่านั้นล่ะ พวกผมแทบไม่อยากเชื่อสายตา เพราะเจอไอ้สอง มันนอนนิ่งอยู่กลางบ้านสภาพแบบแขนช้ำ มีเลือดออกมุมปากเหมือนโดนซ้อมมาเลย
ซึ่งที่พวกผมสงสัยไปมากกกว่าสภาพที่ยับเยินของมันคือ มันมาอยู่นี่ได้ไง ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้น ทุกคนก็เดินผ่านไปมาในบ้านหลังนี้อยู่เรื่อยๆ
ผมรีบวิ่งไปจับมันลุกขึ้นนั่ง...และพอนั่งได้มันก็กอดผมพร้อมร้องไห้ พร้อมพูดแค่ประโยคที่ว่า
“ กลัวแล้ว กลัวแล้ว ผมกลัวแล้ว ผมขอโทษ “
มันพูดไปร้องไห้ไปจนทุกคนงงไปหมด
และสุดท้ายมันก็ยอมบอกทุกอย่างกับทุกคนว่า... มันกลับมานอน แล้วมันเจอใครไม่รู้นั่งอยู่กลางบ้าน เป็นผู้ชายตัวใหญ่มาก นั่งจ้องมาที่มันแล้วชี้หน้ามันพร้อมด่ามันว่า
“ มึงหลบหลู่กู มึงเยี่ยวรดหัวกู มึงอยากตายหรอ”
และมันยังเล่าต่อว่า พอเขาชี้หน้ามัน มันก็จะวิ่งหนี แต่พอมันจะวิ่งหนีเข้าก็จับมันพร้อมโยนมันไปกลางบ้านเหมือนกับมันเป็นตัวอะไรที่เบามาก และมันก็ยังบอกอีกว่ามันตะโกนให้พวกผมไปช่วย แต่ไม่มีใครมาช่วยมันเลย จนมันถูกลากไปลากมาในบ้าน พร้อมกับโดนเขาเหยียบขาเหยียบหน้า แล้วพูดประโยคเดียวช้ำๆว่า
“ อย่ามาหลบหลู่กูอีก ”
ไอ้สองมันเล่าไปร้องไห้ไปจนพวกผมก็มองมันแล้วจินตนาการตามไปในสิ่งที่มันเล่า ซึ่งพอมันเล่าจบ ผมก็มองดอกไม้กับธูปในมือก่อนจะยื่นให้มันพร้อมบอกมันว่า ถ้ารู้ว่าทำไรผิดมาก็ไปขอโทษชะ ซึ่งพอผมพูดจบมันก็มองหน้าผมแล้วลากพวกผมให้พามันไปหลังบ้านเพื่อจุดธูปขอขมาเจ้าที่
ซึ่งพอมาถึงต้นไทร…ก็มีลมพัดเบาๆมาโดนตัวพวกผมแบบเย็นเยือกมาก และไอ้สองก็นั่งลงแล้วยกมือไหว้ พร้อมขอขมาทั้งน้ำตา
หลังจากขอขมาเสร็จผมก็พามันทำแผลแล้วพักผ่อน และพอรุ่งเช้าผมก็พามันไปไหว้ขอโทษลุงเจ้าของบ้านทันที
และก่อนกลับลุงก็เตือนด้วยความหวังดีว่า
“ การไปในที่ๆเราไม่เคยไปให้พึงสำรวมไว้เสมอ เพราะเราไม่รู้ว่าเขา (ที่มองเห็นหรือมองไม่เห็นก็ตาม) จะชอบทุกการกระทำของเราหรือเปล่า ซึ่งพอผมได้ฟังผมก็ยิ้มและคิดตามแหล่ะว่าครั้งนี้คือประสบการณ์จริงๆและก็คงเก็บไว้เตือนสติกันเพื่อเป็นบทเรียนของทริปหน้าต่อไป
ส่วนไอ้สองคงเข็ดไปอีกนาน…เวลาเมาคงไม่เลือกไปฉี่รี่ราดแล้วแหล่ะงานนี้
สามารถรับชมเพิ่มเติมได้ที่ aplay.tv http://aplay.tv/content_video_detail/%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B2.html