หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ร้อนๆ กินอะไรดี เเนะนำ 7 ของหวานดับร้อนกินทีไรก็สดชื่น

เนื้อหาโดย Noxx

ร้อนจนพลังหมด จะหาอะไรเย็นๆ ชื่นใจเพิ่มพลังกินดีกันนะ?

 

     ในประเทศไทยนั้นไม่ว่าจะอยู่ในฤดูไหนก็ตาม แต่ว่าพวกเราก็มักจะประสบพบเจอกับอากาศที่ร้อนอบอ้าวหรือต้องผจญกับแดดกันได้อยู่เสมอ ทำให้เวลาออกไปไหนมาไหนตอนกลางวันก็จะรู้สึกเสียเหงื่อมากและอ่อนเพลียง่าย จึงต้องมีของหวานเอาไว้เพิ่มพลังให้คลายร้อนและหายเหนื่อยกัน มีอะไรอยากให้ลองกินดับร้อนกันบ้าง Noxx จะมาแนะนำกันค่ะ

 

 

7. ไอศกรีม

ถือว่าเป็นหวานเย็นที่นึกออกเป็นอันดับแรกๆ เลยทีเดียว เพราะว่าเดี๋ยวนี้ก็หาทานง่ายๆไม่ต้องวิ่งตามรถไอติมแบบเมื่อตอนเด็กๆ อีกแล้ว แค่เข้าร้านสะดวกซื้อก็ให้มีให้เลือกกินมากมายเลย หรือว่าจะไปตามห้างสรรพสินค้าก็มีร้านไอศกรีมยี่ห้อต่างๆ ให้เลือกตามใจชอบได้อีก ราคามีตั้งแต่โคนสุดถูก 9 บาทไปจนถึงหลักร้อย ตามแต่งบในกระเป๋าและความต้องการที่อยากจะกินล่ะเนาะ ถ้าอยากนักก็จัดไปเลยจ้า

 

6. บิงซู

หวานเย็นสไตล์เกาหลีที่เพิ่งเข้ามาได้ไม่กี่ปีแต่ว่าก็ครองใจคนมากมายได้ทีเดียว ด้วยเอกลักษณ์ของน้ำแข็งไสที่ทำจากนม ซึ่งถูกไสด้วยเครื่องเสียจนเกล็ดน้ำแข็งนั้นบางเบาฟูเหมือนกับปุยหิมะ อีกทั้งการตกแต่งก็งดงามยั่วยวนใจให้อยากลองกินเสียเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นแนวผลไม้หรือว่าพวกขนมและช็อกโกแลตก็ตาม ยังไงก็ดูน่ากินไปเสียหมดจริงๆเลยล่ะ ยิ่งแย่งกันกินหลายๆ คนก็ยิ่งอร่อย ชามเดียวดูท่าทางจะไม่พอเสียแล้วล่ะ

5. ลอดช่องสิงคโปร์

     สิ่งนี้เป็นได้ทั้งเครื่องดื่มและหวานเย็นไปในตัว ในยุคนี้ที่ชานมไข่มุกอาจจะครองเมือง แต่ถ้าเป็นเมื่อก่อนแล้วก็น่าจะเป็นลอดช่องสิงคโปร์นี่แหละที่เป็นที่ชื่นชอบของบรรดาวัยรุ่นยุควังหลังใครๆ ก็ต้องมาลองหากินกัน รสชาติจะต่างกับลอดช่องแบบไทยๆ เพราะทำจากแป้งมันที่จะมีความเหนียวหนึบและเส้นเล็กกว่า ความหวานไม่หนักหน่วงเท่า กินแล้วรู้สึกชื่นใจดี แม้ว่าเดี๋ยวนี้อาจจะหากินได้ไม่ง่ายนัก แต่ว่าถ้ามีโอกาสเจอขายเมื่อไหร่แล้วล่ะก็จะต้องรีบซื้อมาดูดสักแก้วเลยจริงๆ

 

4. บ๊วยเกี้ย

     หรือโบ๊กเกี้ยตามแต่จะออกเสียง เป็นขนมหวานสไตล์จีนที่มีมากับบรรพบุรุษจีนยุคเสื่อผืนหมอนใบที่มาตั้งรกรากปักฐานอยู่ในประเทศไทยกันเลยทีเดียว ตามที่เคยเห็นสูตรที่นิยมก็มักจะเป็นสูตรไหหลำฮกเกี้ยน เป็นหวานเย็นที่จะประกอบด้วยธัญพืชอย่าง เม็ดบัวถั่วแดง พุทราจีนเชื่อม มันเชื่อม วุ้นมะพร้าว เฉาก๊วย และทีเด็ดอยู่ที่บ๊วยเกี้ยซึ่งจะทำจากแป้งข้าวเจ้าผสมกับแป้งมันนวดให้เป็นเส้นหรือบางที่อาจจะเป็นก้อนกลมๆ ก็จะได้ ออกมาเป็นก้อนแป้งเคี้ยวหนุบหนับ ใส่กับน้ำเชื่อมน้ำลำใยหวานเบาๆ หรือน้ำเชื่อมน้ำตาลทรายแดงที่มีความหวานยิ่งกว่า ถ้าวันไหนแดดเปรี้ยงๆ อากาศร้อนๆ แล้วมาได้กินละก็ บอกได้คำเดียวล่ะว่าชื่นใจหายเหนื่อยแบบสุดๆ เลยล่ะ ถ้าอยากรับประทานก็แนะนำให้ไปเดินตามตลาดหรือชุมชนจีนเก่าๆ ก็จะมีร้านขายขนมหวานเหล่านี้ให้ได้กินกันค่ะ

 

 

3. สมูทตี้

     มาแนวหวานเย็นแบบรักสุขภาพกันสักหน่อยดีกว่า ด้วยการปั่นผักหรือผลไม้กับน้ำแข็ง เพียงเท่านี้ก็จะได้น้ำผักหรือผลไม้ที่มีความหวานเย็นสดชื่นแบบได้สุขภาพกันด้วย ถ้ากังวลว่ากินของหวานเย็นอื่นๆ แล้วจะอ้วน สมูทตี้ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งช่วยให้คุณดับร้อนได้นะ แถมยังจะเลือกจับคู่ผลไม้ที่คุณชอบได้ตามความต้องการอีกด้วย ก็จะได้ความอร่อยที่ลงตัวกว่าเป็นผลไม้แค่ชนิดเดียว แต่ถ้าไม่กลัวอ้วนก็จัดไปหวานๆ เลยจ้า ยิ่งหวานๆ เย็นๆ ก็เรียกความสดชื่นกลับคืนได้อีกแถมมีวิตามินที่มีประโยชน์กับร่างกายด้วยนะ

 

2. ทับทิมกรอบ

     ถ้าพูดถึงขนมหวานเย็นแบบไทยๆ สีสวยแล้วก็คงต้องนึกถึงทับทิมกรอบนี่เลย สีสวยแวววาวเหมือนอัญมณีเชียวล่ะ จะทำมาจากแห้วเป็นส่วนใหญ่ หรือว่าจะดัดแปลงมาจากพืชชนิดอื่นก็ได้ เพียงแค่หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วปั้นกับแป้งก่อนนำไปต้ม จากนั้นก็ราดด้วยน้ำกะทิขาวๆ และเสิร์ฟพร้อมกับเนื้อขนุนฉีกซีกเล็กๆ ให้ยิ่งมีความหอมมากขึ้นไปอีก เวลาเคี้ยวด้านในจะกรอบส่วนด้านนอกมีแป้งหนุบหนับ ชื่นใจไปกับน้ำกะทิที่หอมอบอวนไปด้วยความหวานจากขนุนด้วยอีกนะ

 

1. ข้าวแช่

     เคยสงสัยกันบ้างไหมว่าในยุคสมัยโบราณที่ยังไม่มีน้ำแข็งหรือเครื่องทำความเย็นใดๆ คนไทยในยุคก่อนเขากินอะไรแก้ร้อนกันบ้างนะ ก็ต้องพูดถึงเมนูนี้กันเลย เป็นข้าวแช่นั่นเองที่จะมีไว้รับประทานแก้ร้อน ต้นตำรับจะมาจากชาวมอญค่ะ ส่วนหน้าตาก็จะเหมือนกับข้าวต้มแต่น้ำข้าวต้มนั้นจะลอยด้วยดอกไม้ และอบควันเทียน ทำให้กินเข้าไปแล้วรู้สึกหอมเย็นชื่นใจ รับประทานพร้อมกับเครื่องเคียงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นลูกกะปิ หอมแดงสอดไส้ พริกหยวกสอดไส้ ไชโป๊วหวาน และหมูฝอย ไม่ต้องแช่ตู้เย็นหรือใส่น้ำแข็งก็หวานชื่นใจได้แล้ว (แต่หากจะใส่น้ำแข็งสักหน่อยไม่ผิดกติกานะ) ถ้าไม่เชื่อก็ต้องลองหามารับประทานกันดูสักครั้งแล้วจะติดใจกันเลยล่ะ

     ขนมหวานเหล่านี้ยังคงหารับประทานได้กันอยู่นะคะ แต่สำหรับบางอย่างก็จะมีเฉพาะบางพื้นที่เท่านั้น ถ้าอยากลองกินก็ต้องไปให้ถึงแหล่งค่ะ หรือว่าจะลองหัดทำเองก็ได้นะเปิดสูตรแล้วลองทำตามดูได้เลย และอาจจะขอคำแนะนำจากคุณแม่ คุณป้า และคุณยายก็ได้ชวนพวกท่านมาเข้าครัวทำด้วยกันก็สนุกไปอีกแบบดีค่ะ

 

อยากจะลองรับประทานอะไรกันดีคะ?

 

บทความ โดย : Akine_noxx

เผยแพร่ครั้งแรกในเว็บ Spice/Pepper

ฝากติดตาม กดไลค์ กดแชร์ คอมเม้นท์เป็นกำลังใจกันด้วยนะคะ

เนื้อหาโดย: Noxx
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Noxx's profile


โพสท์โดย: Noxx
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: cyberboyofusa
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
สำนักงานพุทธฯ สั่งตรวจสอบ พ่อแม่ "น้องไนซ์" เชื่อมจิตเมื่อสาวเจอความทรงจำที่หายไป..มาอยู่ที่ใต้สะพานลอยเมื่อ iPhone " โดนแบน " ในกองทัพเกาหลีใต้สรุปดราม่า "กุสุมา สันป่าเหียง"
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เอาอีกแล้ว! เขมรก็อปปี้หนังไทย เรื่องเด็กหญิงวัลลี ยอดกตัญญู?คดีฆ่ๅชำแหละยัดถุงดำ เป็นฝีมือชาวญี่ปุ่นสำนักงานพุทธฯ สั่งตรวจสอบ พ่อแม่ "น้องไนซ์" เชื่อมจิต
กระทู้อื่นๆในบอร์ด อาหาร
10 อาหารที่ "กินแล้วฉลาด" ยิ่งกิน ยิ่งฉลาดแนะนำร้านลับ สายเนื้อ ย่านสามเสนห้ามพลาด 3 ร้านอาหาร คาเฟ่ หัวหิน5วิธีลดความอ้วน ภายใน 1 เดือน
ตั้งกระทู้ใหม่