๑๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓ เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต สมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ ๒๘ แห่งกรุงศรีอยุธยา
๑๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓ เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต สมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ ๒๘ แห่งกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระนารายณ์มหาราช เสด็จพระราชสมภพ เมื่อวันจันทร์ที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๑๗๕ เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง พระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ ๒๕ แห่งกรุงศรีอยุธยา หลังจากสมเด็จพระศรีสุธรรมราชา รัชกาลที่ ๒๗ แห่งกรุงศรีอยุธยา ครองราชสมบัติได้ ๒ เดือนเศษ สมเด็จพระนารายณ์ได้ทำการยึดอำนาจ การต่อสู้ยึดอำนาจเกิดขึ้นค่อนข้างรุนแรงในตอนเย็นวันหนึ่งในปี ๒๑๙๙ จนถึงเช้าของวันรุ่งขึ้น ไพร่พลของทั้งสองฝ่ายล้มตายลงเป็นจำนวนมาก ทั้งสมเด็จพระศรีสุธรรมราชาและพระนารายณ์ต่างได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืน สมเด็จพระศรีสุธรรมราชาสู้ไม่ได้จึงถอยหนีไปวังหลังแต่ถูกพระนารายณ์จับกุมตัวและนำไปสำเร็จโทษที่วัดโคกพระยา จากนั้นสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเสด็จขึ้นครองราชสมบัติ วันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๑๙๙ ขณะมีพระชนมายุ ๒๕ พรรษา ในเดือนพฤษภาคม ๒๒๓๑ เมื่อสมเด็จพระนารายณ์ ประทับ ณ พระที่นั่งสุทธาสวรรค์ พระอาการประชวรก็ทรุดลงอย่างหนักด้วยโรคไอหืด (asthmatic cough) และใกล้สวรรคตนั่นย่อมเป็นโอกาสส่งให้ออกพระเพทราชาชิงกระทำการรัฐประหารในวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๒๓๑ โดยมีหลวงสรศักดิ์เป็นกำลังสำคัญ เสริมด้วยม็อบชาวบ้านและชาววัดในเขตเมืองและปริมณฑลเป็นตัวช่วย ตอนนั้นสมเด็จพระนารายณ์ ทรงเห็นว่าพระเพทราชาเป็นผู้ใหญ่ จึงมอบหมายให้ว่าราชการแทน ระหว่างนั้นพระเพทราชาลวงพระอนุชาทั้งสองพระองค์ของสมเด็จพระนารายณ์ คือเจ้าฟ้าน้อยและเจ้าฟ้าอภัยทศว่ามีรับสั่งให้เข้าเฝ้า เมื่อทั้งสองพระองค์เสด็จถึงเมืองลพบุรีก็ถูกหลวงสรศักดิ์จับไปสำเร็จโทษที่วัดทราก ส่วนพระปีย์พระราชโอรสบุญธรรมถูกผลักตกจากชาลาพระที่นั่งสุทธาสวรรค์แล้วกุมตัวไปสำเร็จโทษ เมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๒๓๑ และได้สั่งให้เจ้าพระยาวิชเยนทร์ (คอนสแตนติน ฟอลคอน) เข้ามาพบ เมื่อเจ้าพระยาวิชเยนทร์มาถึงศาลาลูกขุนก็ถูกกุมตัวไปประหารชีวิต เมื่อวันที่ ๕ มิถุนายน ๒๒๓๑ สมเด็จพระนารายณ์เสด็จสวรรคตเมื่อ ๑๑ กรกฎาคม ๒๒๓๑ ณ พระที่นั่งสุทธาสวรรย์ พระนารายณ์ราชนิเวศน์ จังหวัดลพบุรี รวมครองราชสมบัติเป็นเวลา ๓๒ ปี มีพระชนมายุ ๕๖ พรรษา เมื่อจัดการบ้านเมืองสงบแล้วจึงเชิญพระบรมศพสมเด็จพระนารายณ์มาประดิษฐานที่พระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์ แล้วทำพระราชพิธีปราบดาภิเษก ณ พระที่นั่งสรรเพชญปราสาท เมื่อพระองค์ขึ้นครองราชย์แล้ว ก็ได้ขับไล่กำลังทหารฝรั่งเศสออกไปจากกรุงศรีอยุธยา แต่ยังทรงอนุญาตให้บาทหลวง และพ่อค้าชาวฝรั่งเศสอาศัยอยู่ในกรุงศรีอยุธยาต่อไปได้ ได้มีการทำสนธิสัญญากับฝรั่งเศส เรื่องการขนย้ายทหาร และทรัพย์สินของฝรั่งเศสออกจากป้อมที่บางกอก โดยฝ่ายอาณาจักรอยุธยาเป็นผู้จัดเรือ กับต้องส่งคืนทรัพย์สิน ที่เป็นของกรุงศรีอยุธยาคืนทั้งหมด สำหรับข้าราชการและราษฎรไทย ที่ยังอยู่ในประเทศฝรั่งเศส ทางฝรั่งเศสจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับกรุงศรีอยุธยา ผลการปฏิบัติดังกล่าวทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างกรุงศรีอยุธยากับฝรั่งเศส สิ้นสุดลงตั้งแต่นั้นมา การกระทำของออกพระเพทราชา นั้นมีคนไทยในตอนนั้นสนับสนุนจำนวนมากไม่ว่าจะขุนนาง สถาบันสงฆ์ ซึ่งได้รับความเสียหายจากนโยบายบริหารของสมเด็จพระนารายณ์จากเรื่องสึกพระมาทำงานหลวง หรือการให้ฆราวาสอย่างออกหลวงสุรศักดิ์มาควบคุมการสอบ รวมไปกระทั่งไพร่และเชื้อพระวงศ์ เพราะล้วนแต่กลัวว่าฝรั่งเศสจะมายึดบ้านยึดเมือง เจ้านายองค์หลักที่หนุนการรัฐประหารครั้งนี้ก็คือกรมหลวงโยธาเทพ พระธิดาของสมเด็จพระนารายณ์