เรื่องน่ารู้ของมะกรูดกับคุณประโยชน์ที่หลากหลาย

        “มะกรูด” เป็นสมุนไพรไทยที่มีมาตั้งแต่โบราณ ผู้คนมักจะนิยมปลูกไว้ตามบ้านเรือนเพราะด้วยสรรพคุณและประโยชน์ในการรักษา แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปกลับพบว่า มะกรูดนั้นค่อนข้างที่จะหายากขึ้น ไปเดินตลาดบางครั้งก็แทบจะไม่เจอ แต่ถึงแม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไป แต่คุณประโยชน์ของมะกรูดก็ยังคงเดิม เพิ่มเติมคือเราเริ่มทำความรู้จักมะกรูดกันดีกว่า

       มะกรูด หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์เรียกว่า Citrus hystrix DC. เป็นไม้ต้นขนาดเล็ก มีทั้งใบย่อยและใบเดี่ยว มีหนามตามกิ่งใบ ให้ผลค่อนข้างกลม ให้น้ำมัน เมื่อสุกจะให้สีเหลือง ผิวขรุขระ มีเมล็ดและให้รสชาติที่เปรี้ยวอมขม ซึ่งมักจะนำไปทำยาหรือผลิตภัณฑ์ที่มาจากสมุนไพร

สรรพคุณของมะกรูด

1. มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและต้านโรค
2. ช่วยยับยั้งและชะลอการขยายตัวของเซลล์มะเร็ง เนื่องจากมะกรูดมีสารเบต้าแคโรทีนที่มีส่วนเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
3. ไล่ยุงหรือแมลง เนื่องจากมะกรูดมีน้ำมันหอมระเหยอยู่มากและให้กลิ่นฉุน จึงสามารถไล่ยุงและแมลงบางชนิดได้ เพียงแค่ฉีกใบมะกรูดออกเป็นชิ้น แล้วนำไปวางในบริเวณที่พบเจอแมลงต่างๆ บ่อย
4. ช่วยดูดซับกลิ่นเท้าดี ทั้งกลิ่นรองเท้าหรือตู้รองเท้าเพียงแค่นำใบมะกรูดที่ผ่านการฉีกเป็นชิ้นนำมาใส่ภุงและแขวนไว้ภายในตู้หรือรองเท้าก็จะช่วยดูดซับกลิ่นได้ สำหรับท่านที่มีปัญหาเรื่องกลิ่นเท้าสามารถนำไปมะกรูด ขิง ข่า เกลือมาต้มรวมกันแล้วนำเท้าไปแช่น้ำทิ้งไว้ซักประมาณ 15 นาที ก็สามารถลดกลิ่นเท้าและอาการปวดเมื่อยได้อีกด้วย
5. ใช้รักษารังแคและบำรุงเส้นผม จะเห็นได้ตามโฆษณาต่างๆ ในทีวี ที่นำมามะกรูดมาสกัดและกลายมาเป็นส่วยผสมในแชมพูเพื่อช่วยในการขจัดรังแค และยังสามารถนำน้ำมันที่สกัดจาดมะกรูดมาบำรุงเส้นผมให้ดูดกดำและเงางาม
6. ช่วยในการขับลม เพียงแค่นำมะกรูดไปดองเปรั้ยวแล้วนำมารับประทาน
7. ช่วยกระทุ้งพิษและรักษาฝีราก
8. ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์
9. นำไปทารักษาแผลเมื่อโดนปลิกหรือทากกัด
10. นำไปประกอบอาหารบางชนิด เช่น พล่ามะกรูดหวาน มะกรูดเชื่อม หรือมะกรูดลอยแก้ว นอกจากนี้อาจจะนำไปแต่งกลิ่นอาหารให้ดูน่าทานมากยิ่งขึ้น

        ทราบถึงสรรพคุณและประโยชน์ในด้านต่างๆกันไปแล้ว ก็คงต้องขอเพิ่มเติมในส่วนของข้อควรระวัง ก็คือ ถ้าหากท่านนำน้ำมันมะกรูดไปสัมผัสกับผิวโดยตรงและเมื่อท่านโดนแสงแดดก็จะส่งผลให้เกิดอาการแพ้แดด (photo toxicity) เกิดเป็นรอยแดงหรือรอยไหม้ได้ ดังนั้นจึงควรเพิ่มความระมัดระวังในการสัมผัสและควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสม เพราะแม้ว่าจะโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้น้อย แต่ก็มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นกับใครสักคนได้เสมอ สุดท้ายนี้ เราหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่ท่านผู้อ่านและผู้ติดตามผลงานทุกท่าน