ใครเคยโดนเพื่อนบูลลี่บ้าง
สวัสดีเพื่อนๆทุกคน จ้าวเวหาคนเดิม วันนี้เราจะมาเล่าเรื่องตอนสมัยม.ต้น ที่โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งย่านรามคำแหง ขอสงวนชื่อโรงเรียนนะ เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา ขอบอกก่อนเลยว่าเราเป็นเด็กคนนึงที่ขี้อายมาก ไม่ใช่เกิดมาแล้วขี้อายนะ จริงๆเป็นคนกล้าแสดงออกทุกเรื่องตั้งแต่เด็กเลย แต่เราจะขี้อายเวลาเจอคนไม่รู้จักหรือไม่สนิท เราจะกลายเป็นคนพูดน้อย ขี้อายทันที เมื่ออยู่กับคนแปลกหน้าหรือไม่รู้จักกันมาก่อน ตอนเราเข้าเรียนม.ต้นที่โรงเรียนนี้ เราปรับตัวไม่ได้เลย เพราะเหมือนทุกคนจะเข้ากันได้ดี ยกเว้นเราคนนึงที่เข้ากับใครไม่ได้เลย
ใจจริงเราอยากคุยกับเพื่อนใหม่ทุกคนนะ แต่เราไม่รู้จะเริ่มต้นบทสนทนายังไงดี กลัวพูดไปแล้วเพื่อนใหม่ไม่ชอบ เราเป็นคนพูดตรงด้วยแหละ จะว่าปากร้ายมั้ย ก็ในระดับนึง ออกแนวแซะๆ วี้ดวิ้วๆมากกว่า มีเพื่อนคนนึงมาทักและคุยกับเรา แต่เราไม่ได้ตอบเค้าเพราะเราไม่กล้าคุย เพื่อนคนนั้นเลยไปคุยกับเพื่อนคนอื่นว่าเราหยิ่ง เราไม่ยอมคุยกับใครเลย ทีนี้เลยโดนเพื่อนแอนตี้ทั้งห้องเลยจ้า ไม่ว่าจะทำอะไรก็จะโดนเพื่อนแกล้งอยู่ตลอด เวลามีงานกลุ่มแล้วอาจารย์ให้แบ่งกลุ่มกัน เราจะกลายเป็นเศษทันที แล้วอาจารย์ก็จะถามเพื่อนกลุ่มอื่นว่า มีใครอยากให้เราไปอยู่กลุ่มด้วยมั้ย
ผลที่ออกมาคือทุกคนเงียบหมดเลย ไม่มีใครอยากให้เราอยู่ในกลุ่ม ทีนี้อาจารย์รู้ก็เลยช่วยจับกลุ่มให้เอง เราเป็นบุคคลที่ไม่มีตัวตนที่สุดในโรงเรียนเลยก็ว่าได้ เราจะหายไปก็ไม่มีใครสนใจด้วยซ้ำ ตอนนั้นเครียดมากจนอยากลาออกจากโรงเรียน เคยเอาเรื่องนี้ไปคุยกับแม่ว่าโดนเพื่อนแอนตี้ แม่ก็ไปคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ก็ดูไม่ค่อยใส่ใจอะไรเรานะ แถมยังบอกแม่เราอีกว่า เราทำตัวแปลกแยกจากคนอื่นเอง เพื่อนเข้าไปคุยด้วย เราก็ไม่ยอมตอบ ทีนี้แม่เราเลยไปคุยกับอาจารย์ฝ่ายปกครองเรื่องนี้แหละ ดีนะ ได้อาจารย์ฝ่ายปกครองผู้หญิงคนนึงช่วยเหลือทุกอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องเรียนหรือเรื่องเพื่อน
อาจารย์คนนี้บอกกับเราว่า "มีปัญหาอะไร มาปรึกษาอาจารย์ได้ทุกเรื่องเลยนะ อาจารย์ยินดีช่วยเหลือทุกอย่าง" แล้วยิ้มให้ด้วยความจริงใจ ใจดีมากจนเราเกรงใจ แต่เวลาเรามีปัญหาอะไร เราก็เล่าให้อาจารย์คนนี้ฟังทุกเรื่อง จนผ่านไปขึ้นปีที่ 2 เราเริ่มโดนเพื่อนแอนตี้หนักกว่าเดิม แต่ไม่ใช่ทั้งห้องแล้วนะ ตอนนี้มีแค่กลุ่มนึงที่ไม่ชอบเรา เป็นกลุ่มผู้หญิงในห้องที่ออกแนวแต๊ดๆ ชอบแซวผู้ชายอ่ะ นางไม่ชอบเราจ้า เพราะตอนนี้เราไปอยู่แก๊งผู้ชาย อารมณ์เหมือนเต้ยฮอร์โมนส์เลย ที่โดนเพื่อนหาว่าแรด ชอบอ่อยผู้ชายอ่ะ ที่เรามาอยู่แก๊งผู้ชายเพราะว่าเพื่อนผู้ชายไม่ได้เม้าท์มอยอะไรเรา เป็นเพื่อนที่จริงใจทุกคน เวลาเล่นอะไรกันก็หยอกล้อ สนุกสนาน เฮฮาปกติ แต่ยังไม่เคยโดนเขียนโต๊ะว่าแรดไรงี้นะ แค่โดนนินทาเฉยๆ แต่เราก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะเราคบเพื่อนด้วยความจริงใจ ไม่ได้คบเพราะค่านิยมหรือวัตถุนิยมอะไร
ด้วยความตอนนั้นมีเพื่อนกะเทยคนนึงมานั่งโต๊ะข้างเรา นางเป็นคนชอบคุยจ้า เม้าท์เก่งมาก นางก็มาชวนเราคุยนู่นนี่ แรกๆเราก็ไม่กล้าคุยนะ หลังๆเราเริ่มรู้สึกถูกชะตากับเพื่อนคนนี้ ตั้งแต่นั้นมาเรากับเพื่อนคนนี้ก็กลายเป็นเพื่อนสนิทกันเลย และเรื่องที่อยากเล่าให้ทุกคนฟังคือ เราเคยโดนตั้งฉายาว่า "หงส์" ไม่ใช่ตั้งเพราะความสวย สง่าอะไรนะ เพื่อนที่ไม่ชอบเราตั้งเพราะความหยิ่งของเรา แต่เราไม่ได้หยิ่ง เราแค่ไม่สนิทเลยไม่รู้จะคุยอะไรกับพวกนางไง ความพีคอยู่ตรงนี้จ้า เพื่อนคนนั้นที่ตั้งฉายาให้เรา นางโพสเฟสด่าเราละแท็กมาด้วยจ้า บอกก่อนตอนนั้นเราเพิ่งหัดเล่นเฟสครั้งแรก เพราะไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับแอพอะไรมากมาย เราก็เลยเม้นต์ถามเพื่อนคนนั้นว่าด่าเราทำไมหรอ เราไม่เคยทำอะไรให้แกเลยนะ เพื่อนคนนั้นก็เม้นต์ตอบเราว่า เรามันนิสัยไม่ดี หยิ่ง แรด ชอบคุยกับเพื่อนผู้ชายคนนั้นคนนี้ไปทั่ว ชอบทำตัวเป็นคนดี เวลาเพื่อนด่าหรือว่าอะไรก็ไม่เคยโกรธ ทำเป็นให้อภัยเพื่อนทุกคนเสมอ ตอแหลเอย สร้างภาพบ้าง บลาๆๆ
เราเลยตอบเม้นต์เพื่อนคนนั้นว่า เราไม่เคยทำอะไรแบบนั้นเลยนะ ที่เราคุยกับเพื่อนผู้ชายเพราะเราสนิทใจมากกว่าที่จะคุยกับเพื่อนผู้หญิง ละเราไม่เคยทำตัวแรดเลย อย่าว่าแต่อ่อยผู้ชายอะไรเลย หน้าเรายังไม่แต่งด้วยซ้ำ ตอนนั้นหน้าสดเป็นผีเลยจ้า ด้วยความแต่งหน้าไม่เป็นแหละ รัดผมรวบตึง หน้านี่ตลกมากอ่ะ 5555 นึกตอนนั้นก็ขำตัวเองเนอะ พอคุยกันไปซักพัก นางก็เม้นต์เชิงตำหนิเราหนักกว่าเดิมอ่ะ ด่าแบบรุนแรงมาก แต่พิมพ์บอกไม่ได้เพราะมีแต่คำหยาบคาย ทีนี้เราหมดความอดทนแล้ว เราโมโหไง พิมพ์ดีก็แล้ว อธิบายก็แล้ว ยังไม่เข้าใจไม่ยอมจบซักที เลยเม้นต์ตอบกลับไปว่า "ถ้าแกยังมาด่าเราหรือพูดอะไรแบบนี้อีก เราจะบอกเพื่อนในห้องนะว่าแกมาด่าเราก่อนอ่ะ" เพื่อนคนนั้นนางเลยเม้นต์ตอบเราว่า "ก็ลองไปบอก ดูสิว่าจะมีใครเชื่อเรามั้ย" เราเลยตอบว่า "คนเราทำอะไรอยู่ ก็ย่อมรู้ดีแก่ใจป่ะ คนไม่ดีไปอยู่ที่ไหนก็ไม่มีใครอยากคบหรอก" ไปจ้า ทีนี้คราวซวยมาตกที่เราอย่างแรงเลย ประเด็นคือตั้งแต่ที่เราเม้นต์ตอบนางไป
นางก็ไม่ตอบอะไรเราอีกเลย เช้าวันต่อมา เราโดนเพื่อนๆมารุมถามว่า "ไปพิมพ์ด่าเพื่อนแบบนั้นทำไม นิสัยไม่ดีเลยนะ" เราก็งงแดกเลยสิ "พิมพ์ด่าอะไรอ่ะ ไม่ได้พิมพ์ด่าเลยนะ" เพื่อนคนนั้นเลยเอาเม้นต์ที่เราคุยกับเพื่อนคนเมื่อวานที่ด่าเราให้ดู ที่งงคือมีแต่ข้อความที่เราเม้นต์จ้า ข้อความที่นางเม้นต์ด่าเราหายไปหมดเลย นางฉลาดไง ลบเม้นต์ที่ด่าเราออก เหลือแต่เม้นต์ที่เราไปด่านาง ทีนี้เพื่อนทั้งห้องเลยเข้าใจผิดคิดว่าเราไปด่านาง เข้าใจป่ะ! อยู่ดีๆเราจะไปเม้นต์ด่าคนอื่นทำไม ด่าไปคนที่ดูไม่ดีก็คือตัวเราเองอยู่แล้ว อีเพื่อนคนนั้นที่ตอแหลก็สร้างภาพทำเป็นคนดี ร้องไห้สะอึกสะอื้นบอกว่า "อย่าไปว่าเราเลย เรื่องแค่นี้เราไม่ถือโทษโกรธหรอก ยังไงก็เป็นเพื่อนกัน" ละหันมายิ้มเยาะใส่เราโดยที่เพื่อนคนอื่นไม่เห็น
โอ้โห ยิ่งกว่าละครน้ำเน่าซะอีก แต่เพื่อนกะเทยที่เป็นเพื่อนสนิทเราก็อยู่ข้างเรานะ นางบอกว่าไม่เชื่อหรอกว่าเราจะเป็นคนพิมพ์ด่าอะไรแบบนั้น นางเชื่อในตัวเราว่าเราเป็นคนดี ใสซื่อ โดนหลอกง่ายมาก บางทีเพื่อนกะเทยหลอกเราไม่ว่าจะเรื่องอะไร เราเชื่อหมดทุกเรื่องเลยนะ เพื่อนกะเทยบอกว่า อย่าไปเชื่อคนง่าย อย่าให้ใครมาเอาเปรียบ ถ้าใครร้ายกับเรา เราต้องร้ายกว่า 2 เท่า ตั้งแต่นั้นมา เราเลยเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่ฉลาดและร้ายกว่าเดิม ไม่สิ ต้องบอกว่าไม่เชื่อคนง่ายขนาดนั้นแล้ว และไม่ยอมให้ใครเอาเปรียบมากกว่า รู้จักสู้และต่อกรกับคนที่ร้ายใส่เราได้
ผ่านไป 2 อาทิตย์ มีเพื่อนคนนึงที่หวังดีกับเรา ก็เอาเม้นต์ที่อีเพื่อนตอแหลคนนั้นด่าเราไว้มาให้เพื่อนในห้องดู ทีนี้เพื่อนในห้องที่เคยด่า เคยแอนตี้เราก็รู้ความจริงแล้วว่าเราเป็นคนดีจริง ไม่ได้ตอแหล เพื่อนๆทุกคนเลยมาขอโทษเราที่เข้าใจเราผิดไป เราเลยบอกว่า "ไม่โกรธพวกแกหรอก เพราะเรารู้ดีแก่ใจว่าทำอะไรไว้ กรรมนั้นจะสนองคนทำไม่ดีเอง พวกแกไม่ผิดหรอก เพราะพวกแกไม่รู้ แต่วันหลังอย่าฟังความข้างเดียวล่ะ อยากรู้อะไรให้มาถามเราดีกว่านะ เราพร้อมตอบทุกข้อสงสัย" (พร้อมอมยิ้มเบาๆ)
ตัดภาพไปที่อีเพื่อนตอแหลคนนั้น ผลกรรมที่ก่อไว้กับเราได้สนองมันแล้วจ้า มันโดนเพื่อนๆแอนตี้ทั้งห้องเลย เหมือนที่เราเคยโดนอ่ะ ไม่มีใครคุยกับนางเลย ขนาดเพื่อนสนิทนางยังไม่ยอมคุยกับนางเลย ตัดนางออกจากแก๊ง ถามว่าใจจริงเราก็สงสารนางนะ แต่นางเป็นคนก่อเรื่องทั้งหมดขึ้นเอง ให้นางได้รับรู้รสชาติของการโดนแอนตี้แบบเราบ้าง จะได้รู้สึก
เรากับเพื่อนกะเทยก็กลับมาใช้ชีวิตปกติสุข ไม่มีอะไรให้ต้องดราม่าอีกแล้ว และนี่คือเรื่องราวของเรากับการโดนเพื่อนบูลลี่และแอนตี้ในเวลาเดียวกัน อ้อ ลืมเล่าอีกอย่าง ตอนเราโดนเพื่อนแอนตี้อยู่ เราไม่มีเพื่อนนั่งกินข้าว ทุกคนนั่งกินข้าวด้วยกันในโรงอาหาร แต่เราต้องพกข้าวกล่องไปแอบนั่งกินคนเดียวตามโต๊ะม้าหินอ่อน ชีวิตดูน่าสงสารเนอะ แม่เคยถามเราว่า "ทำไมต้องพกข้าวกล่องไปกินที่โรงเรียนด้วย ที่โรงเรียนไม่มีข้าวขายหรอ" เราบอกแม่ว่า "มีค่ะ แต่ไม่มีเพื่อนนั่งกินข้าวด้วย เลยต้องห่อไปกินคนเดียว" ตอนนั้นแม่สงสารเรามาก แต่แม่ก็ช่วยได้แค่พูดปลอบใจเรา จบแล้วจ้า เดี๋ยวกระทู้หน้าจะมาเล่าเรื่องเพื่อนกะเทยที่สนิทกับเราให้ฟังนะ รับรองฟังแล้วแซ่บแน่นอน กระทู้นี้ลาไปก่อน สวัสดีจ้าา