สัญญาณอันตราย ทั่วไทยมี 368,806 หน่วยรอขายอยู่
ณ วันนี้ ทั่วประเทศไทยมีจำนวนหน่วยขายของผู้ประกอบการพัฒนาที่ดินรอขายอยู่รวมถึง 368,806 หน่วย รวมเป็นเงิน 1,354,940 ล้านบาท เท่ากับ 42% ของงบประมาณแผ่นดินไทย หรือเฉลี่ย 3.674 ล้านบาท และเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มี 223,519 หน่วย มูลค่ารวมกันประมาณ 954,121 ล้านบาท หรือเฉลี่ยเป็นเงินหน่วยละ 4.269 ล้านบาท
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) กล่าวว่าศูนย์ข้อมูลเป็นหน่วยงานที่สำรวจข้อมูลอย่างกว้างขวาง และต่อเนื่องที่สุดในประเทศไทย พบว่า ณ เดือนเมษายน 2563 พบว่า ในเวลานี้ยังมีสินค้าในมือของผู้ประกอบการพัฒนาที่ดินอยู่ทั้งหมด 223,519 หน่วยรอผู้มาซื้ออยู่ โดยมีมูลค่ารวมกันประมาณ 954,121 ล้านบาท หรือเฉลี่ยเป็นเงินหน่วยละ 4.269 ล้านบาทเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล หากประมาณการรวมทั่วประเทศ คาดว่าน่าจะมีจำนวนรวมถึง 368,806 หน่วย รวมเป็นเงิน 1,354,940 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 3.674 ล้านบาทต่อหน่วย
เฉพาะในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ปรากฏว่า สินค้าสำคัญกลุ่มใหญ่ที่สุดขายในราคา 2-3 ล้านบาท จำนวน 69,354 หน่วย หรือ 31% หรือราวหนึ่งในสามของทั้งหมด รองลงมาเป็นในระดับราคา 3-5 ล้านบาท จำนวน 58,817 หน่วย หรือ 26% สำหรับสินค้าราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นระดับราคาค่อนข้างต่ำมีอยู่รวมกันในตลาดเพียง 23% ของทั้งหมด หรือราว 50,677 หน่วย
ห้องชุดเป็นสินค้าที่เหลือขายอยู่มากที่สุดโดยห้องชุดเหลือขายอยู่ 95,558 หน่วย หรือ 43% ของสินค้าทั้งหมด รองลงมาคือ ทาวน์เฮาส์ จำนวน 69,482 หน่วย (31%) และบ้านเดี่ยว 37,129 หน่วย (17%) ห้องชุดที่มีหน่วยรอขายมากที่สุดอยู่ที่ระดับราคา 2-3 ล้านบาท จำนวน 30,546 หน่วย ในมูลค่ารวม 74,991 ล้านบาท ส่วนทาวน์เฮาส์ที่เหลือขายมากที่สุดคือทาวน์เฮาส์ในระดับราคา 2-3 ล้านบาทเช่นกัน จำนวนทั้งสิ้น 34,255 หน่วย รวมมูลค่าถึง 85,955 ล้านบาท บ้านแฝดเหลือขายอยู่มากที่สุดในระดับราคา 3-5 ล้านบาท จำนวน 11,530 หน่วย มีมูลค่ารวมกันถึง 44,698 ล้านบาท และบ้านเดี่ยวเหลือขายอยู่มากที่สุดในระดับราคา 5-10 ล้านบาท จำนวน 14,598 หน่วย มูลค่ารวม 101,225 ล้านบาท
ภาวะในขณะนี้กลุ่มที่น่าห่วงใยที่สุดก็คือกลุ่มห้องชุด เพราะหากสร้างไม่แล้วเสร็จก็ไม่สามารถเข้าอยู่ได้ทั้งหมด ต่างจากสินค้าแนวราบที่ยังสามารถก่อสร้างเป็นระยะๆ ได้ ในจำนวน 223,519 หน่วยที่รอขายอยู่นี้ สร้างเสร็จ 100% มีเพียง 16% หรือ 35,763 หน่วย ในกรณีห้องชุดอย่างเดียวที่รอขายอยู่ 95,558 หน่วยนั้น ที่เสร็จ 100% มี 23% หรือ 21,978 หน่วยเท่านั้น ที่เหลือหากมีวิกฤติเกิดขึ้น ก็คงสร้างค้างเติ่งไว้ และอาจกลายเป็นอาคารสร้างค้างเช่นที่เคยเกิดขึ้นในปีวิกฤติ 2540
ดร.โสภณ ประมาณการว่าถ้าไม่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ๆ เลย สินค้าเหล่านี้จะขายได้หมดภายในเวลา 2 ปีเพราะภาวะขณะนี้การขายค่อนข้างช้า