อย่าฝากทั้งชีวิตไว้กับรายได้ทางเดียว
อย่าฝากทั้งห้องไว้กับไฟหลอดเดียว อย่าฝากทั้งชีวิตไว้กับรายได้ทางเดียว
เรียกได้ว่าถ้าใครได้ติดตามข่าวสารบ้านเมืองก็คงจะรู้ดีว่า บ้านเมื่องเรานั้นเศรษฐกิจเริ่มแย่
การที่เราทำงานประจำหลายคนอาจจะบ่นว่าการเป็นพนักงานประจำ ก็ไม่ต่างจากการ
ทำงานเช้าชามเย็นชาม ตื่นเช้าไปทำงาน ตอนเย็นก็กลับบ้าน ไม่ได้มีอะไรน่าตื่นเต้นมากนัก
งานที่ทำก็เหมือน ๆ กันทุกวัน บางครั้งก็เต็มไปด้วยความเครียดจากการทำงานค่อนข้างสูง
แต่ถึงแม้จะบ่นไปอย่างนั้น คนทำงานหลายคนก็ยังเลือกที่
จะเป็นพนักงานประจำอยู่ดี ด้วยเหตุผลหลายอย่างที่แตกต่างกันไป
และก็มีหลายเหตุผลที่หลายคนนั้นไม่ชอบที่จะทำงานประจำ
แถมยังมีข่าวปิดตัวลงของบริษัทมากมายได้ปิดตัวลงและเลิกจ้างพนักงานมากกว่า 400 ชีวิต และวันนี้
เรานั้นมีบทความดีๆ เผื่อว่าใครนั้นอยากอ่านค่ะ แล้วจะได้คิดดูว่า
“ถ้าวันนึงเราเจอเหตุกา รณ์แบบนั้น เราจะมีทางไปหรือเปล่า”
รายได้ทางเดียวเหมือนมี หลอดไฟดวงเดียวในห้อง เพราะได้เท่าเดิมทุกเดือน แม้กำลังไฟจะแรงมาก
แต่ถ้าหลอดขาด ทั้งห้องก็มืดมิด บางคนบอกว่า ทำงานประจำ มีอาชีพ ที่มั่นคง นั่นไม่เสมอไป
เพราะว่า มันไม่มีอะไรแน่นอนในชีวิตเราสักอย่าง
รายได้หลายทาง เหมือนมีหลอดไฟหลายดวง แม้แต่ละหลอดจะกำลังไม่แรงมาก แต่ก็ส่องให้ห้องสว่างได้
และหากหลอดใดขาดลง หลอดอื่นก็ยังส่องให้ความสว่างห้องได้อยู่ ลองคิดง่ายๆ ว่าถ้าพรุ่งนี้เราตกงาน
ครอบครัวเราจะอยู่ได้ไหม ถ้าหากคุณมีแผนสองแผนสามรองรับเอาไว้แล้ว นั่นย่อมแสดงว่าคุณมีหลอดไฟหลายดวง
และพร้อมเสมอหากหลอดใหหลอดนึงดับไป
เราอยู่ในยุคที่อยากรู้อะไร ก็ศึกษาได้แค่ปลายนิ้วพิมพ์ google ความประมาทที่สุดของยุคนี้
จึงเป็นการหยุดทำตัวเองให้เก่งขึ้น หยุดพัฒนาตัวเอง เพราะคิดว่า
ชีวิตก็มั่นคงดี เดี๋ยวสิ้นเดือนเงินก็มาแต่ไม่เคยตระหนักว่า
วิกฤตก็มาได้ทุกเมื่อเช่นกัน ความมั่นคง ไม่ได้วัดกันที่ ในยามปกติ…เราหาได้มากเท่าไร?
แต่วัดกันตอนที่ในยามวิกฤต เรายังมีรายได้เข้าเท่าไร อย่าฝากทั้งห้องไว้กับไฟหลอดเดียว
อย่าฝากทั้งชีวิตไว้กับรายได้ทางเดียว
ประสบการณ์การทำงาน ไม่ได้อยู่ที่ว่าใคร search google ได้เร็วกว่ากัน
แต่อยู่ที่คุณแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีแค่ไหน ซึ่งการแก้ปัญหาได้ นั่นย่อมหมายถึง
คุณต้องมีความรู้อยู่ในหัวอย่างหนาแน่นพอที่จะประมวลผลความรู้ทั้งหมด ออกมาได้
อ้างอิงจาก: ข้อคิดดีๆ ในชีวิตประจำวัน