หนุ่มทะเลาะกับแฟน จะกระโดดสะพานภูมิพล จนท.ต้องกล่อมกว่า 3 ชั่วโมง สุดท้ายโดนล็อกตัว

เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 01/05/63 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงใต้ จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่ามีชาย 1 ราย ปีนออกไปอยู่บนขอบสะพานภูมิพล 2 ขามุ่งหน้าพระราม 3 ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินทางเข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุบริเวณกลางสะพานภูมิพล 2 ซึ่งมีความสูงจากแม่น้ำเจ้าพระยากว่า 50 เมตร พบนาย บุญลัก หรือ โต ไม่ทราบนามสกุล อายุ 29 ปี ออกไปยืนอยู่ที่ขอบสะพานนอกรั้วราวเหล็ก ไม่ยอมพูดหรือเจรจากับใคร ขณะที่ พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี ผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ได้พยายามเข้าเจรจาเกลี่ยกล่อมอยู่นาน แต่ไม่เป็นผล ชายคนดังกล่าวยังคงยืนปล่อยมือจากราวเหล็กหันหน้าออกไปทางแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นที่น่าหวาดเสียว

จนกระทั่งเวลาผ่านไปกว่า 3 ชั่วโมง นายบุญลัก ได้ต่อรองกับเจ้าหน้าที่ ขอรถยนต์ 1 คัน เพื่อจะขับไปหาแฟนสาวที่อนุสาวรีย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้วางแผน ก่อนนำรถยนต์เก๋งมาจอดติดเครื่องยนต์ให้ พร้อมด้วยเงินเติมน้ำมันอีก 500 บาท พร้อมทั้งปิดการจราจรเคลียร์พื้นที่ให้ทุกคนออกห่างจากรถ แต่นายบุญลัก ยังคงลังเลอยู่พักใหญ่ก่อนที่จะยอมปีนกลับเข้ามาด้านในและมาเดินวนดูรอบๆ อยู่หลายรอบ ขณะที่นายบุญลักเผลอเดินเข้ามาจะขึ้นรถ

เจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสามูลนิธิได้กรูกันเข้าชาร์จล็อกตัวนายบุญลัก เอาไว้ได้ แต่นายบุญลัก ได้พยายามขัดขืน เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการล็อคกุญแจมือก่อนที่จะพามาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก สภ.สำโรงใต้

จากการสอบถามนาย มงคล ฤทธิโยธิน อายุ 42 ปี เพื่อนร่วมงาน ได้เล่าว่า ปกติแล้วนายบุญลัก มักจะมีปากเสียงกับแฟนสาวอยู่บ่อยครั้งจนกลายเป็นเรื่องปกติ โดยก่อนเกิดเหตุนายบุญลัก ได้มีปากเสียงกับแฟนสาวอีก ก่อนที่จะเดินออกมาจากห้องพัก ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ตนเดินสวนมา และได้ถามนายบุญลัก ว่าจะไปไหน นายบุญลัก ได้บอกว่าเดี๋ยวไปเจอกันที่กลางสะพานภูมิพล ก่อนที่จะนายบุญลัก จะขี่รถจักรยานยนต์ออกไป

ซึ่งตนก็ยังยืนงงอยู่ว่าจะไปทำไมกลางสะพานภูมิพล จนกระทั่งหัวหน้างานมาถามหานายบุญลัก ที่บ้านตนจึงบอกว่า นายบุญลัก ได้บอกว่าไปเจอกันที่กลางสะพานภูมิพล ตนและหัวหน้าจึงได้ขับรถตามที่กลางสะพานภูมิพล พบนายบุญลัก ออกไปยืนอยู่ที่ด้านนอกราวสะพานฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว จึงได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่มาให้การช่วยเหลือดังกล่าว