โพสต์ยาวเหยียด !! หนุ่มอมเงินลุง อ้างไม่ใช่ผู้ต้องหาแค่คู่กรณี ลั่นทำความดีมาตลอดชีวิต

ก่อนหน้านี้ได้มีการนำเสนอเรื่องราวของคุณลุงท่านหนึ่งอายุ 70 ปีแล้ว ซึ่งได้รับเงินเยียวยาจากรัฐ 5000 บาท และมีวัยรุ่นทำตัวเป็นพลเมืองดีมาช่วยกดเงินให้ แต่กันบอกคุณลุงว่า เงินเยียวยาได้รับแค่ 1000 บาท เรียกว่าเป็นประเด็นร้อนแรงที่มีชาวเน็ตเข้ามาต่อว่าเป็นจำนวนมาก

จากกรณีที่นายบุญใหล มอมขุนทด หรือ ตาล้าน อายุ 71 ปี อาชีพขายเฉาก๊วย พักอาศัยที่ ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ถูกนายพัฒนา อายุ 21 ปี ทำทีอาสาลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยา ตามมาตรการช่วยเหลือประชาชนได้รับผลกระทบจากแพร่ระบาดโควิด-19 ของรัฐบาล เนื่องจากไม่รู้เรื่องและทำไม่เป็น

โดยใชับัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาปากช่อง ที่ตาล้านใช้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ต่อมาวันที่ 15 เม.ย. นายพัฒนาแจ้งตาล้านว่าได้รับ SMS แล้ว ก่อนพาไปที่ตู้เอทีเอ็ม หน้าร้านสะดวกซื้อบนถนนธนะรัชต์ กม.4 นายพัฒนาฉวยโอกาสที่อาสากดเงินแทนตาล้าน โอนเงินต่างธนาคารผ่านระบบ ORFT เข้าบัญชีตัวเอง 3,975 บาท หักค่าธรรมเนียมธนาคาร 25 บาท แล้วกดเงินสด 1,000 บาทให้โดยที่ตาล้านไม่รู้ ภายหลังความแตกเพราะชาวบ้านระบุว่า รัฐบาลโอนเงินเยียวยามาให้ 5,000 บาท แล้วเมื่อปรับสมุดบัญชีพบว่านายพัฒนาแอบโอนเงินเข้าบัญชีตัวเอง ตาล้านจึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา กระทั่งตำรวจชุดสืบสวน ไปควบคุมตัวนายพัฒนามาดำเนินคดี เมื่อวันที่ 16 เม.ย. ที่ผ่านมา นายพัฒนาให้การรับสารภาพ

“สื่อเกรดต่ำบอกผมไปยืมเงินญาติพี่น้องเอามาจ่ายคืนลุง อันนี้ก็ไม่จริงครับ เมื่อเวลาประมาณบ่ายยังมีสื่อเส็งเคร็งออกมาโพสต์อยู่เลยครับว่า ยังจับตัวไม่ได้ ยังไม่คืนเงิน จนทัวร์ลงมาในอินบ๊อกเพื่อตามให้ลุง ตอนนั้นตอบไม่ทันจริงๆ แต่จะขอตอบจากโพสต์นี้ละกันครับ และอันนี้บอกนะครับว่าเจรจานัดคืนกันตั้งแต่เวลาประมาณ 11 โมงแล้ว”

ด้านคอมเม้นต์