ส่องเคล็ดลับ! มอยเจอร์ไรเซอร์ เลือกยังไงไม่ให้หน้ามัน ไม่อุดตันรูขุมขน?
สำหรับสาวๆ ที่มีปัญหาผิวแห้ง เกิดริ้วรอยง่ายแล้ว สกินแคร์ที่ต้องใช้ทุกวันอย่างขาดไม่ได้เลยคงหนีไม่พ้นมอยเจอร์ไรเซอร์ ตัวช่วยสำคัญที่มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนังซึ่งมีหลายรูปแบบ ทั้ง ขี้ผึ้ง โลชั่น และครีม แต่การบำรุงผิวด้วยสกินแคร์หลายๆ ตัวก็อาจทำให้สาวๆ หลายคนมีปัญหาหน้ามันได้ แต่จะให้เลี่ยงไม่ใช้สารบำรุงผิวเลยก็คงจะเป็นทางเลือกที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก วันนี้เราจึงมีวิธีเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับสาวหน้ามันมาฝาก รับรองว่าผิวจะเด้งชุ่มชื้นเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือปัญหาหน้ามันจะหมดไป ส่วนจะมีวิธีเลือกอย่างไรบ้างนั้น ตามมาดูพร้อมกันเลย
- ไม่มีน้ำมันเป็นส่วนประกอบ
สำหรับสาวหน้ามันควรเลือกครีมหรือโลชั่นบำรุงผิวแบบ Oil Free หรือที่ไม่มีน้ำมันเป็นส่วนประกอบ โดยสามารถดูได้จากฉลากข้างผลิตภัณฑ์ เพราะการใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีน้ำมันจะยิ่งทำให้เราหน้ามันมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ควรเลือกสกินแคร์ที่ระบุว่าไม่อุดตันรูขุมขน (non-comedogenic) ด้วย เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวโดยไม่อุดตันรูขุมขนซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิว
- ไม่มีส่วนผสมของสาร Occlusive
Occlusive หรือสารปิดกั้นไม่ให้น้ำซึมผ่าน เป็นส่วนประกอบของมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีคุณสมบัติช่วยป้องกันไม่ให้น้ำภายในผิวหนังซึมออกสู่ภายนอก โดยสารในกลุ่มนี้ได้แก่ Petrolatum, Lanolin และ dimethicone เป็นต้น อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวมักมีเนื้อที่ค่อนข้างหนา จึงไม่เหมาะสำหรับสาวผิวมัน เพราะเหนอะหนะง่ายและทำให้หน้ามันมากกว่าเดิมด้วย
- ไม่มีส่วนผสมของสารผลัดเซลล์ผิว
แม้ว่าสารผลัดเซลล์ผิวอย่าง AHA, BHA, กรดซาลิไซลิก และเรตินอล จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่อุดตันตามรูขุมขน รวมทั้งผลัดเซลล์ผิวเก่าออกไปแล้วเผยผิวหน้าที่สว่างใสออกมาได้ อย่างไรก็ตาม ส่วนผสมต่างๆ เหล่านี้ก็อาจทำให้ผิวแห้ง ง่ายต่อการระคายเคือง และอาจทำให้ผิวหนังผลิตน้ำมันออกมาทดแทนความชื้นที่หายไปมากกว่าเดิมได้ ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของสารผลัดเซลล์ผิว และไม่ควรสครับผิวหน้าเกิน 2 ครั้งต่อสัปดาห์
และทั้งหมดนี้เป็นเคล็ดลับการเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับสาวผิวมัน โดยวิธีการใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ให้ได้ผลที่สุด ควรทาหลังทำความสะอาดผิวหน้าหรือหลังอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ โดยใช้นิ้วมือคลึงเบาๆ ให้เนื้อครีมกระจายทั่วผิวหน้า ซึ่งจะช่วยให้สกินแคร์ซึมสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม หากพบว่ามีอาการระคายเคืองหรือมีอาการแพ้ อักเสบ หรือแดงเกิดขึ้น ควรหยุดใช้แล้วปรึกษาแพทย์ผิวหนังทันที