วิธีลดน้ำหนักไวแบบนักมวย 1เดือน ลดได้ถึง 10 กิโลกรัม
การลดน้ำหนักแบบนักมวยจริง ๆ เป็นการลดน้ำหนักที่ต้องใช้วินัยและความพยายามอย่างมาก ซึ่งการลดน้ำหนักแบบนักมวยนั้น บางอย่างอาจไม่ได้เหมาะกับคนทั่วไป เนื่องจากบางอย่างผิดหลักวิทยาศาสตร์การกีฬา เช่น ออกกำลังกายอย่างหักโหม การใส่เสื้อลดน้ำหนักเพื่อรีดน้ำออกจากร่างกายซึ่งเป็นการทรมานร่างกาย หรือบางอย่างก็ผิดหลักทางการแพทย์ เช่น การอดอาหารหรือลดการกินน้ำก่อนขึ้นชก 3-4 วัน โดยความรู้และประสบการณ์ต่าง ๆ ที่จะกล่าวถึงในบทความนี้มาจากเจ้าของยิมมวยไทยแห่งหนึ่ง (สมาชิกหมายเลข 1243219) จากกระทู้ pantip.com/topic/33625535 ครับ
นักมวยลดน้ำหนักกันครั้งละเท่าไร ?
โดยปกติแล้วภายใน 1 เดือน นักมวยไทยจะต้องลดน้ำหนักให้ได้ประมาณ 8-10 กิโลกรัม หรือมากกว่า 15 กิโลกรัม ในกรณีที่นักมวยห่างหายจากเวทีไปนาน โดยน้ำหนักที่ต้องการลดจะขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวปัจจุบันกับน้ำหนักในพิกัดที่ต้องลดเพื่อขึ้นชก อย่างเช่นถ้าน้ำหนักปัจจุบันหนัก 60 กิโลกรัม ถ้าหัวหน้าค่ายสั่งให้ขึ้นชกในพิกัด 52 กิโลกรัม นักมวยก็ต้องลดน้ำหนักมาอยู่ในพิกัดที่หัวหน้าค่ายสั่งให้ได้
ทำไมต้องลดน้ำหนักเยอะขนาดนั้น ?
เพราะมวยเป็นกีฬาที่ต้องใช้น้ำหนักในการแบ่งรุ่น โดยปกติแล้วนักมวยจะมี "น้ำหนักธรรมชาติ" ที่ไม่ว่าจะซ้อมหนักแค่ไหนน้ำหนักก็จะลงมาอยู่ที่น้ำหนักธรรมชาตินี้ ซึ่งเจ้าของค่ายมวยต่างรู้ดีว่าถ้าอยากจะให้นักมวยได้เปรียบเรื่องรูปร่างจะต้องให้นักมวยลดน้ำหนักลงมาอีก 3 กิโลกรัม ทำให้เหมือนได้ชกกับนักมวยที่ตัวเล็กกว่า และสาเหตุหลักอีกอย่างก็คือ หัวหน้าค่ายเป็นคนสั่งให้ลดน้ำหนัก ถ้านักมวยไม่ลดน้ำหนักก็ไม่ได้ขึ้นชก ทำให้ไม่ได้เงินค่าตัว เพราะนักมวยทุกคนจะได้รับค่าจ้างจากการขึ้นชกเท่านั้น ไม่ใช่รับเงินค่าจ้างเป็นรายเดือน
โปรแกรมการซ้อมและลดน้ำหนัก
โดยทั่วไปนักมวยไทยจะมีโปรแกรมการชกบนเวทีมาตรฐาน (เวทีลุมพินี หรือ เวทีราชดำเนิน) เดือนละ 1 ครั้ง ซึ่งตารางการฝึกก็จะเริ่มต้นใหม่ทุก ๆ เดือน ดังนี้ครับ
- วันที่ 1-5 : วันแห่งการพักผ่อน ก่อนการขึ้นชกครั้งถัดไป โดยทั่วไปแล้วนักมวยส่วนใหญ่หลังขึ้นชกบนเวทีมาตรฐาน หัวหน้าค่ายจะสั่งให้นักมวยหยุดพักผ่อน ซึ่งนักมวยก็จะนำเงินที่ได้มาไปใช้กินเลี้ยงกับเพื่อนพี่น้อง จึงส่งผลทำให้น้ำหนักตัวพุ่งพรวดในระยะเวลาอันรวดเร็ว
- วันที่ 6 : เริ่มเข้าสู่โปรแกรมการซ้อม เมื่อกลับมาที่ค่ายทางเทรนเนอร์จะให้นักมวยกิน "ยาน้ำระดมพล" ขวดละประมาณ 35 บาท (ภาพจาก : สมาชิกหมายเลข 1059903) ซึ่งเป็นยาระบายอ่อน ๆ เพื่อขับของเสียออกจากร่างกาย โดยนักมวยเชื่อว่าเลือดที่ช้ำอยู่ภายในจะถูกถ่ายออกมาเหมือนการขับพิษ โดยจะกินกันตอนท้องว่าง ซึ่งคนทั่วไปกินแค่ 2-3 ช้อนชา แต่นักมวยจะต้องซัดกันเข้าไปถึงครึ่งขวดหรือเกือบหมดทั้งขวด และบอกได้เลยว่ามีรสขมมาก วันที่กินยานี้จะทำให้นักมวยถ่ายประมาณ 4-5 ครั้ง วันนั้นทั้งวันนักมวยจะมีอาการเพลียสุด ๆ แทบออกไปไหนไม่ได้เลย แค่ขั้นตอนนี้น้ำหนักก็ลดไปได้ประมาณ 1 กิโลกรัมแล้ว จากนั้นก็สามารถกินอาหารอย่างอื่นได้ตามสบาย (ทางการแพทย์ออกมายืนยันแล้วนะครับว่า การกินยาน้ำระดมพลไม่ได้ช่วยในเรื่องการขับเลือดที่ช้ำออกจากร่างกาย ที่เขียนมาอยากให้เห็นถึงวิถีของนักมวยเท่านั้น อย่าไปกินเล่นเองที่บ้านนะครับ อันตราย)

- วันที่ 7-9 : วอร์มร่างกายเบา ๆ วันรุ่งขึ้นหลังจากกินยาน้ำระดมพลแล้ว ทางเทรนเนอร์จะให้นักมวยวอร์มร่างกายด้วยการวิ่งเบา ๆ 8-10 กิโลเมตร ในช่วงเช้าและกลางวัน และช่วงบ่ายก็จะนอน และวิ่งอีก 5-6 กิโลเมตรในช่วงกลางบ่ายเป็นต้นไป ซึ่งการวอร์มร่างกายจะทำประมาณ 2-3 วันเท่านั้น
- วันที่ 10-26 : เข้าสู่ตารางการฝึกแบบจริงจัง เมื่อร่างกายเริ่มกลับเข้าที่เข้าทางแล้ว ตารางการฝึกก็จะเข้มข้นมากขึ้นจนใกล้ถึงวันชก โดยจะฝึกตั้งแต่วันจันทร์-เสาร์ (หยุดทุกวันอาทิตย์) ส่วนตารางการฝึกก็จะเป็นดังนี้ครับ
- 05.30 น. เทรนเนอร์จะปลุกนักมวยมาวิ่งในตอนเช้าเป็นระยะทาง 10 กว่ากิโลเมตร (ใช้เวลา 50 นาที)
- 06.30 น. นักมวยวิ่งกลับถึงค่ายเพื่อทำการล้างหน้าล้างตา พันผ้าพันมือ ยืดเส้นยืดสาย และเตรียมตัวชกลม วอร์มร่างกายต่ออีก 15 นาที
- 06.45 น. หลังการยืดเส้นยืดสายและชกลมเรียบร้อยแล้ว นักมวยจะเริ่มใส่นวมและลงซ้อมเตะเป้ากับเทรนเนอร์ เป็นเวลา 4 ยก ยกละ 3 นาที พัก 2 นาที และเตะกระสอบทรายอีก 4 ยก ยกละ 3 นาที พัก 2 นาที (ใช้เวลา 45 นาที)
- 07.30 น. จะเริ่มมีการปล้ำแขน ไล่แขน และเล่นเวทนิดหน่อย
- 08.00 น. เมื่อซ้อมเสร็จ นักมวยจะอาบน้ำ กินข้าว พักผ่อน และจะงีบหลับตอนเที่ยง ๆ แล้วตื่นขึ้นมาซ้อมอีกทีตอนบ่าย 3 โมง
- 15.45 น. วิ่งช่วงบ่ายอีกประมาณ 5 กิโลเมตร
- 16.15 น. เมื่อวิ่งเสร็จและกลับถึงค่าย จะกระโดดเชือกอีก 15 นาที
- 16.30 น. พันมือ ชกลม และยืดเส้นยืดสายอีกเป็นเวลา 15 นาที
- 16.45 น. ปล้ำแขน เล่นเชิง และเตะเป้า อีกเป็นเวลา 1 ชั่วโมง
- 17.45 น. เล่มกล้าม เล่นเวท (เล่มกล้ามท้อง กล้ามแขน และดึงข้อ) อีกประมาณ 1 ชั่วโมง
- 18.45 น. ถึงเวลาอาบน้ำ กินข้าว และพักผ่อนตามอัธยาศัย
- 22.00 น. ปิดไฟแล้วนอน

***ส่วนเรื่องการกินระหว่างการซ้อมนั้น นักมวยจะกินกันเยอะมาก ๆ หรือข้าวประมาณ 2 จานพูน ๆ (ถึงจะกินเยอะมาก แต่ก็สามารถลดน้ำหนักไปได้ประมาณ 6-7 กิโลกรัมแล้วเป็นอย่างน้อยในช่วงการฝึก 17 วันนี้ครับ) ถ้าเราซ้อมได้ประมาณ 1/3 ของนักมวย พร้อมกับคุมอาหาร แค่เลือกกิน แต่ไม่ถึงกับต้องอดอาหาร ก็จะสามารถลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็วเกือบเท่านักมวยแล้วครับ และจากตารางจะเห็นได้ว่าใน 1 วัน จะใช้เวลาออกกำลังกายไปเกือบ 5 ชั่วโมงแล้ว แล้วใน 5 ชั่วโมงที่ว่านี้ก็ไม่ได้ออกกันเบา ๆ แต่เน้นออกอย่างหนักหน่วง ซึ่งผลลัพธ์จากการซ้อมหนักขนาดนี้ จะทำให้ไขมันในร่างกายถูกเบิร์นไปจนเกือบหมดทุกส่วนครับ - วันที่ 27 ช่วงเริ่มทรมานของการลดน้ำหนัก ในวันนี้เทรนเนอร์จะให้นักมวยคุมเรื่องอาหารการกิน จากกินข้าวมื้อละ 2 จาน จะให้ลดเหลือมื้อละ 1 จาน การซ้อมวิ่งในตอนเช้าก็จะมีการใส่ชุดลดน้ำหนักแล้วออกวิ่งเพื่อทำการรีดน้ำหนักออกจากร่างกายให้ได้มากที่สุด ส่วนการซ้อมก็จะลดดีกรีความหนักลง จากเดิมเตะเป้าและเตะกระสอบอย่างละ 4 ยก ก็จะเหลือเพียง 3 ยก ส่วนการปล้ำแขนจากเดิม 1 ชั่วโมงก็จะลดเหลือ 20 นาที
- วันที่ 28 เริ่มลดน้ำหนักอย่างจริงจัง อาหารที่เคยกินวันละ 3 มื้อ จะลดเหลือแค่ 2 มื้อ เช้าและเย็น โดยในแต่ละมื้อจะให้กินแต่เนื้อสัตว์ งดการกินแป้ง ส่วนการซ้อมจากเดิมที่ต้องตื่นขึ้นมาวิ่งตอนเวลา 05.30 น. ก็จะให้เริ่มวิ่งตอน 09.00 แทน เพื่อให้โดนแดดแรง ๆ พร้อมกับใส่ชุดลดน้ำหนัก (เหมือนเตาอบ) และที่ทรมานที่สุดก็คือ "การห้ามกินน้ำ" ไม่ว่าจะเหนื่อยหรือหิวน้ำแค่ไหนก็ห้ามกิน แต่ทำได้เพียงแค่จิบเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในคอเท่านั้น ส่วนการซ้อมในช่วงเย็นก็จะมีแค่การวิ่งพร้อมกับใส่ชุดลดน้ำหนักตอน 16.00 น. ในกลางแดด และการชกลมเบา ๆ
- วันที่ 29 การลดน้ำหนักจะเริ่มโหดมากขึ้น โดยจะลดข้าว ลดน้ำจากเดิม แต่ยังคงเน้นการวิ่งเหมือนเดิมพร้อมกับใส่ชุดลดน้ำหนัก (สำหรับคนทั่วไปคงไม่ต้องถึงกับไปหาซื้อชุดลดน้ำหนักมาใส่นะครับ เพราะชุดนี้มันช่วยได้แค่รีดน้ำในร่างกายออกมาแค่ชั่วคราวเท่านั้น ซึ่งตามหลักแล้วมันไม่ได้ช่วยให้ผอมลงครับ ยิ่งถ้าคุณต้องวิ่งกลางแดดด้วย อาจจะเป็นลมไปได้ง่าย ๆ เลยล่ะ)

- วันที่ 30 ยังคงลดน้ำหนักโดยใช้โปรแกรมเดิม เมื่อน้ำหนักของนักมวยเริ่มลงมาใกล้พิกัดที่ต้องการขึ้นชกแล้ว เช่น ชกแล้ว 112 ปอนด์ น้ำหนักตัวในนี้ควรจะอยู่ที่ 113 ปอนด์ เพื่อในวันถัดไปนักมวยจะต้องลดน้ำหนักหน้าเวทีอีกครั้งหนึ่ง
- วันที่ 31 การชั่งน้ำหนักในวันตัดสิน การชั่งน้ำหนักถ้าเป็นมวยสากล วันชั่งน้ำหนักกับวันชกจะคนละวันกัน แต่ถ้าเป็นมวยไทย การชั่งน้ำหนักจะชั่งกันในตอนเช้า เวลา 06.30 น. แล้วชกกันตอนกลางคืนในวันเดียวกัน ในวันชั่งจริง เทรนเนอร์จะพยายามให้น้ำหนักเกินประมาณ 1 ปอนด์ (0.45 กิโลกรัม) พอชั่งครั้งที่ 1 เสร็จแล้ว ทางเทรนเนอร์ก็จะให้นักมวยใส่เสื้อรีดน้ำหนัก แล้ววิ่งรอบสนามสัก 2-3 รอบ น้ำหนักที่เกินมา 1 ปอนด์ก็จะหายไปพอดีกับพิกัดนักมวย เรียกได้ว่าลดน้ำหนักกันจนถึงวินาทีสุดท้ายเลยทีเดียว ! โดยในมื้อเช้ามื้อแรก นักมวยจะยังกินข้าวไม่ได้เยอะ เพราะดื่มน้ำไปเยอะ อาจจะกินได้แค่ 1 จาน พอประมาณ 8 โมงเช้า พี่เลี้ยงก็จะพานักมวยไปเช็กอินเข้าที่พัก เพื่อให้นักมวยงีบหลักสัก 2-3 ชั่วโมง แล้วตื่นมากินข้าวเที่ยง ซึ่งมื้อนี้นักมวยจะเริ่มกินข้าวได้เยอะ จากนั้นนักมวยก็จะกลับไปนอนที่โรงแรมต่ออีกรอบ แล้วจะตื่นขึ้นมาตอนบ่ายสี่ พร้อมกับกินข้าวเย็นเพื่อเก็บแรงไว้เตรียมชกในช่วงเวลา 2-3 ทุ่ม (ในระยะเวลาแค่ 12 ชั่วโมง นักมวยจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นถึง 4-5 กิโลกรัม เนื่องจากดื่มน้ำและทานอาหารเข้าไปเยอะ) หลังชกเสร็จ นักมวยก็จะได้กลับไปพักผ่อนอีก 5 วัน ถ้ามีรายการชกในเดือนถัดไป ตารางการซ้อมก็จะกลับมาเริ่มใหม่เหมือนเดิม

อย่างที่ทราบไปแล้วว่าการฝึกหลายอย่างของมวยไทยนั้นหลาย ๆ อย่างจะขัดกับหลักวิทยาศาสตร์การกีฬาและหลักการแพทย์ หากคนทั่วไปทำตามโปรแกรมดังกล่าวก็อาจทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายได้ แต่อย่างไรก็ตาม มวยไทยก็ถือเป็นเครื่องมือชั้นยอดในการลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี ถ้าคุณอยากออกกำลังกายด้วยมวยไทยจริง ๆ แนะนำให้ไปฝึกกับยิมมวยจริง ๆ เลยจะดีกว่าครับ ไม่แนะนำให้ไปทดลองเองที่บ้าน :)
คนทั่วไปจะลดน้ำหนักให้ได้เกิน 10 กิโลกรัมใน 1 เดือน จะทำได้ไหม ?
คำตอบคือ ทำได้สบายครับ ภายใต้เงื่อนไขหลายอย่าง ๆ โดยจขกท.ได้ยกตัวอย่างการลดน้ำหนักของผู้เข้าแข่งขัน The biggest loser asia season 2
จากตารางจะเห็นได้ว่า Starting Weight กับน้ำหนักที่จบใน Week ที่ 4 เป็นต้นไป ผู้เข้าแข่งขันทุกคนที่อยู่จนครบเดือน สามารถลดน้ำหนักได้เกิน 10 กิโลกรัมทั้งหมด เพราะฉะนั้นสำหรับคนที่อ้วนมาก ๆ และต้องการลดน้ำหนัก สิ่งที่ทำได้ง่ายที่สุดก็คือ "การควบคุมอาหาร" (ไม่ใช่งดอาหารนะครับ) โดยแนะนำให้เลือกรับประทานอาหารถูกปากเราและมีประโยชน์ ถ้าคุณเปลี่ยนวิธีการกินอาหารได้ก็สามารถลดน้ำหนักไปได้เยอะแล้วครับ (เพราะอาหารมีส่วนในการลดน้ำหนักมากถึง 70% ส่วนการออกกำลังกายมีส่วนเพียง 30%) ส่วนการออกกำลังกายก็เริ่มจากเบาสุด เช่น การเดินรอบบ้าน หรือหาวิธีออกกำลังกายที่เราสามารถมีความสุขกับมันได้ โดยที่เราไม่รู้สึกทรมานในการออกกำลังกาย ถ้าทำได้ติดต่อกันสัก 1 เดือน รับรองได้เลยว่าน้ำหนักลดลงอย่างแน่นอนครับ ที่หลายคนเลือกเล่นมวยไทยก็เพราะมันสนุกนี่แหละครับ นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้คนเล่นมวยไทยประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักมากกว่าการออกกำลังกายด้วยวิธีอื่น สรุปสั้น ๆ ก็คือ "เราต้องมีความสุขกับการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และสนุกกับการออกกำลังกายครับ (จขกท.)"
การกินมีผลมากน้อยแค่ไหน ?
ถ้าจะเปรียบเทียบง่าย ๆ สำหรับคนที่ต้องการจะลดน้ำหนัก 20 กิโลกรัม ถ้าคุณออกกำลังกายอย่างจริงจังทุกวัน แต่ก็ยังกินแบบตามใจปากอยู่เหมือนเคย คุณอาจต้องใช้เวลาถึง 5 เดือน กว่าจะลดน้ำหนักได้ถึง 20 กิโลกรัม แต่ถ้าคุณควบคุมอาหารให้ดี ๆ คุณอาจใช้เวลาเพียง 2 เดือนเท่านั้น ! ถ้าไม่สะดวกหาอาหารที่ถูกหลักโภชนาการ คุณอาจเลือกซื้ออาหารคลีนแบบ Delivery ให้มาส่งถึงที่เลยก็ได้ครับ หรือค้นหาข้อมูลในเว็บเกี่ยวกับ "เมนูอาหารคลีน" ก็มีให้เลือกทำได้เองหลายสูตรเลยครับ ถ้าสนใจแนวทางนี้ก็ลองไปตามต่อในกระทู้ที่เกริ่นไว้ด้านบนเลยครับ
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
สภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย
2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชง
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
กองกำลังพิเศษ BHQ ทรยศฮุนเซน แอบไปซบ อก สมรังสี
ปมปริศนาการจากไป! พ่อแม่ 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา' อายัดศพ หลังทราบผลชันสูตร
"ประธานสหภาพฯ" บริษัทไดกิ้น เปิดใจหลังสั่งปิดงาน! ชี้ ยังต้องได้โบนัส
ปมปริศนาการจากไป! พ่อแม่ 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา' อายัดศพ หลังทราบผลชันสูตร
"เป็กกี้ ศรีธัญญา" โพสต์แซ่บถึง "นิยาย" ที่แสนสนุก ใครคือเจ้าของเรื่องตัวจริง?
กองกำลังพิเศษ BHQ ทรยศฮุนเซน แอบไปซบ อก สมรังสี
เหนือความเชื่อ! "ซูเปอร์ฟูลมูน" เรื่องที่เราอาจไม่เคยรู้...
“ย้อนวันวานอาหารจานละ 2-3 บาท กินอิ่มทั้งบ้านด้วยเงินไม่กี่บาท ราคาน่ารักที่วันนี้หาไม่ได้แล้ว”
“ย้อนวันวานอาหารจานละ 2-3 บาท กินอิ่มทั้งบ้านด้วยเงินไม่กี่บาท ราคาน่ารักที่วันนี้หาไม่ได้แล้ว”
ทำไมต้องหย่ากัน หลังถูกคดีความ? เหตุผลที่ฟังดูดราม่า…แต่จริงกว่าที่คิด
นี่คือสิ่งมีชีวิตที่สูงที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก Redwood และ Sequoia
Unseen ไทยแลนด์ เกาะรูปหัวใจ "ทุ่งทะเลหลวง" สุโขทัย
