คำสารภาพบาปของ “สามี” ที่แต่งงานกันมา 12 ปี ฟังแล้วสะเทือนใจมาก
เป็นเรื่องราวของสมาชิกผู้ใช้พันทิปท่านหนึ่งได้โพสต์ร่ายยาวถึงสามีตัวเอง โดยมีข้อความระบุว่า ปีนี้เป็นปีที่ 12 ของการแต่งงานค่ะ ก็เลยจัดเตรียมสิ่งพิเศษให้กับสามีสุดที่รักเพื่อตอบแทนความน่ารักของเค้า ตลอด 12ปีที่คบกัน เค้ารับผิดชอบครอบครัวดีมากๆค่ะ ดูแลลูกทั้ง 2 อย่างที่เรียกว่าอบอุ่นสุดๆ
เราจัดเตรียมทริปของเราสองคนอย่างดี ฝากลูกไว้กับคุณแม่ ซึ่งปกติเราจะมีทริปครอบครัว1ครั้ง. และทริปสำหรับเรากับสามี 1ครั้งต่อปี
สามีเราเป็นพนักงานบริษัทค่ะ ลาพักร้อนได้ติดกันประมาณ 10 วัน เราก็จัดทริปนี้ 6วันแล้วก็กะว่ากลับมามีเวลาพักซักวันสองวันก่อนไปทำงาน จะได้ไม่เหนื่อยมาก สามีเราก็จะมีกลุ่มเพื่อนสนิทอยู่ไม่มาก. ไปงานไหนก็จะเจอกับกลุ่มเดิมๆจนเราเองก็สนิทกับกลุ่มเพื่อนเค้าไปด้วยเพราะเจอกันมาตั้งแต่เราเป็นแฟนกัน
เท่าที่สังเกตุเราว่าเพื่อนสามีเราน่ารักทุกคนนะ กิน ดื่มตามสไตร์ผู้ชายแต่ก็มีความรับผิดชอบกันทุกคน ส่วนใหญ่ก็มีครอบครัวมีลูกกันเกือบทั้งหมดทั้งแก็งค์ บ้ากันไปพักๆ บางทีก็ฮิตเล่นเครื่องเสียง ก็เฮโลกันไปคลองถม บางอารมณ์ก็บ้าแต่งรถตามเพื่อน 2-3ปีที่ผ่านมานี้ก็ตามกระแสไปวิ่งตามงานต่างๆซึ่งเราก็ไปกะเค้าด้วย
แต่เมื่อต้นเดือนสิงหาที่ผ่านมาเค้าได้ไปนั่งสมาธิและเริ่มปฏิบัติธรรมตามเพื่อนๆกลุ่มของเค้า ตอนแรกเราเองก็ไปด้วยแต่ไปมา 2-3 ทีก็ไม่ได้เกิดศรัทธาอะไรมากมาย พวกเพื่อนๆของเค้ายังบอกเลยว่าเฉยๆไม่ได้รู้สึกว่าจิตใจจะปลอดโปร่งอะไรมากมายก็เลิกๆกันไปตามแต่ใจแต่ละคน แต่สามีเราเหมือนว่าเค้ารู้สึกดี เค้าไปบ่อยมากๆงานวิ่งไม่ได้ไปเลย
ไปวัดแล้วก็หาเวลาปฏิธรรมที่บ้าน นั่งสมาธิ เปิดยูทูปว่าคติธรรมจากพระโน้นพระนี้มาฟัง เราก็โอเคนะแต่ก็รู้สึกแปลกๆ. ที่เค้าเปลี่ยนไปมากๆ นอนกับเค้าก็ไม่เหมือนก่อน เค้าจะไม่ซุกซนเหมือนก่อน เหมือนมีสติอยู่ในทุกขณะแม้แต่ตอนจะนอน
วันที่เราไปเที่ยวกันเราสนุกกับทริปนี้มากเหมือนมาฮันนีมูนกันอีกทีนึง เค้าก็น่ารักกับเราเสมอ คืนก่อนกลับเราก็สนุกกันสุดเหวี่ยงหาร้านอาหารทานกันแล้วก็หอบไวน์มากินที่ห้องของโรงแรมเรากันต่อ เราทั้งสองเริ่มมึนๆตึงๆกันได้ที่ เราโอบกอดเค้าแค้าแล้วขอบคุณเค้า เราก็บอกว่าเราโชคดีจังเลยที่มีเค้าเป็นสามี อยู่กับเรานานๆนะ อย่าทิ้งกัน อยู่กันจนแก่ไปเลยนะ ซึ่งเราเองก็เป็นคนอย่างงี้อยู่แล้ว เราก็พูดบ่อยๆแล้วแต่โอกาศ แต่ครั้งนี้เรางงมาก เค้าน้ำตาไหลออกมา พร้อมกับฟูมฟายเหมือนเด็กๆแล้วก็บอกกับเราว่าเค้าไม่ใช่คนดีอย่างที่เราคิดหรอกนะ……..
เราก็งงมากถึงมากที่สุด เราก็คิดว่าเค้าเมาแต่ทุกครั้งที่เค้าเมามันก็ไม่ได้เป็นอย่างงี้นิ. เราก็ลูบหัวเค้าช้าๆให้เค้าเย็นลงเค้าก็เหมือนมีสติกลับมายกมือเราออกจากหัวเค้าและก็บอกกับเราว่า อย่าทำให้เค้ารู้สึกผิดมากกว่านี้เลย…………
สำหรับเราตอนนั้นเราเริ่มจะจิตตกแล้ว คิดว่ามันต้องมีไรที่มันแย่ๆแน่เลย แต่ก็พยายามใจเย็นๆเข้าไว้แล้วก็คุยกับสามีเรา….
ตะเองมีไรรึเปล่า…คุยกันได้นะ ตะเองจะให้อภัยเค้ามั้ยหล่ะกับสิ่งที่ผ่านมาอ่ะ..สามีเราเริ่มบทสนทนา. ใจเราตอนนั้นบอกตามตรงเราคิดในเรื่องที่แย่ที่สุดไปแล้วแต่ก็ยังประคองบทสนทนานั้นไว้เพื่อที่จะทำให้สถานการณ์มันไม่แย่ไปกว่านั้น
เค้าเงียบ…แกว่งแก้วไวน์ไปมา แล้วไม่พูดอะไรเป็น 10 นาที ห้องเงียบแล้วก็เย็นมากในความรู้สึกของเราตอนนั้น
ตะเองมีเมียน้อยหรอ……เราเริ่มกลั้นไม่อยู่ จึงถามออกไป ก็ไม่ได้เรียกว่าอย่างงั้นหรอก…………สามีเราตอบ
เชี้ยแระ…แม่งง เราเริ่มกะวนกะวายอยากให้มันเล่ายิ้มก็เอาแต่แกว่งแก้วไปมา ยอมรับว่าตอนนั้นก็เริ่มขึ้นเหมือนกัน แฟนเราก็คงสังเกตุท่าทางเรา เค้าเข้ามากอดเรา บอกเราว่าเค้าอยากจะบอกสิ่งที่มันเป็นความผิดของเค้าให้เราฟัง ให้เราให้อภัยเค้า เรากับเค้าจะได้ไม่ติดค้างกันในชาตินี้ พระอาจารย์บอกว่าเค้าไม่สามารถนั่งสมาธิได้เพราะมีเรื่องบาปกรรมที่ทำกับคู่ครอง หากเราเปิดใจเค้าเปิดใจให้อภัยกัน ไม่มีไรติดค้างกันจิตใจจะบริสุทธิ์และต้องเลิกทำบาป ชีวิตคู่ของเราถึงจะไปรอด
โห……ตอนนั้นนะยิ้มหลากหลายอารมณ์มาก ทั้งอยากถีบ ทั้งอยากฟัง ทั้งไม่อยากฟัง ทั้งสะอิดสะเอียนกับคำที่มันพูดเกี่ยวกับธรรมมะบ้าบอไรก็ไม่รู้
มันก็เริ่มบอกว่า………ความจริงต่างๆ…………ซึ่งเราจะสรุปให้ฟังว่า มันไปตีหม้อบ่อยมาก ตะก่อนก็ลงอ่าง แต่ใส่ถุงทุกครั้ง มันบอกว่าพูดตามตรงเอากับเราไม่มันส์ ไม่ถึงใจ แต่มันรักเรานะ แต่เรื่องอย่างว่ามันขอกินนอกบ้านมันสุดกว่า เอากับเราไม่สุด
ต่อมามันบอกมันติดใจนวดกะปู๋ สบายใจกว่า ไม่ต้องเอา มี ผญ.มาชักให้มัน ซึ่ง เด็กๆสาวๆขาวๆทั้งนั้น ไม่รู้มันโกหกรึเปล่า มันบอกว่าเฉลี่ยไปเดือนละครั้งถ้าเลิกงานเร็วมันจะรีบไป
ยังไม่หมด…มันเคยเอากับลูกน้องมันตอนเมา ตอนไปหาลูกค้าต่างจังหวัดด้วยกัน ตอนนั้นเราน่าจะมีลูกแล้ว อีผู้หญิงที่มันสารภาพมาเราก็เสือกรู้จักด้วย แต่มันบอกว่ามีไรกันท่ี ตจว.ครั้งนั้นแล้วจบจริงๆ มันสารภาพว่าตอนกลับมาที่ กทม.มันก็กะจะเคลมต่อแต่อีผู้หญิงกลัวแฟนรู้เลยไมสานต่อ ก็ไม่รู้ว่ามันโกหกรึเปล่านะ
เราอึ้งไปหมดเลยกับสิ่งที่มันพูด โกรธมั้ย โกรธมากนะ แต่อีกอารมณ์นึงทำไมถึงรู้สึกว่าเรากับมันไม่ติดค้างกันยังไงก็ไม่รู้ เราไม่รู้จะพูดไรกับมันเลย น้ำตาก็ไหลออกมา มันก็นั่งซึมบนโซฟา เราบินกลับเราขอแยกที่กับมันด้วยบอกมันว่าขอคิดไรเงียบๆคนเดียว
จนตอนนี้ก็ผ่านมาอาทิตย์นึงแล้ว เราว่าเราให้อภัยมันนะ แล้วเราว่ามันคงไม่ทำอีก เราก็ไม่รู้จะพูดยังไงดี เราว่ามันเห็นแก่ตัวนะ จะอ้างว่าเอากับเราไม่มันส์ ต้องไปเอากับเด็กข้างนอก อยากจะบอกว่ายิ้มมีไรที่ไม่ยอมมันบ้างอ่ะ หนังกี่แผ่นที่มันเคยดูแล้วเห็นในหนังโป๊ทำไรแล้วมันอยากมาทำกับเรา มันไม่หนุกหรอกนะบางอย่างแต่เราก็ยอมเพราะเรารักมัน แต่ดูสิ่งที่มันให้กลับคืนกับเราซิ เศร้าว่ะ คิดเรื่องลูกไว้สบายใจที่สุด
อ้างอิงจาก: https://www.xn--42c2dgos8bxc2dtcg.com/229501/