กลุ่มปลูกพริกอินทรีย์โอด แล้งน้ำ ราคาตก ฝากนักการเมืองอย่าดีแต่รับปาก.. (มีคลิป)
นางสมใจ ครุฑตำคำ เกษตรกรกลุ่มวิสาหกิจชุมชนธนาคารต้นไม้ บ้านหนองหอยโนนศาลา ต.เชียงเครือ อ.เมืองสกลนคร เผยว่า ได้ร่วมกับเพื่อบ้านจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนธนาคารต้นไม้ ขึ้น ขณะนี้มีสมาชิกจำนวน 30 ราย ตนมีป่าจำนวน 13 ไร่ ในที่ดิน 43 ไร่ เป็นพื้นที่ทำนา และปลุกป่าอีกส่วนหนึ่ง และจัดทำเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านเศรษฐกิจพอเพียง ปลูกทุกอย่างที่กินได้ ที่เหลือแจกจ่าย ก่อนนำไปจำหน่าย นอกจากนั้นยังมีกลุ่มปลูกพริก ที่เป็นทั้ง อินทรีย์และเคมี แต่ทุกกลุ่มกำลังพบกับปัญหาภัยแล้งในปีนี้ สมาชิกหลายคนต้องต่อสู้กับเรื่องน้ำ เพราะจะเป็นปัญหาทุกปี เคยทำเรื่องและขอไปทางท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การช่วยเหลือแต่ก็ไม่เคยได้ แม้จะเคยออกมาดูถึงพื้นที่แล้วก็ตาม จึงเป็นปัญหาทุกปี
นายสมบัติ นึกชอบ อายุ 51 ปี เกษตรกรกลุ่มปลูกพริกอินทร์ บ้านโนนศาลา ต.เชียงเครือ กล่าวว่า ขณะนี้พริกของกลุ่มที่ปลูกใช้สารเคมี ทราบว่าวันนี้ราคากิโลกรัมละ 17-20 บาท โดยทั่วไป แต่พริกที่ปลูกของกลุ่มอินทรีย์ นั้น อยู่ที่ กิโลกรัมละ 75-80 บาท ถือว่าพริกมีราคาตกต่ำหากเทียบกับปีที่ผ่านมาในระยะเดียวกันแต่เรื่องราคา คงพอทนได้ แต่วันนี้ ปัญหาของเกษตรกร คือเรื่องน้ำ เพราะแหล่งน้ำแห้งขอด หาลำบาก ที่มีอยู่เริ่มหมดไปแล้ว
“วันนี้เกษตรกรไม่ได้ต้องการอะไรมาก อยากฝากถึงรัฐบาลให้หันมาดูแลขาวบ้านด้วยโดยเฉพาะปัญหาเรื่องน้ำขาดแคลน และจะแล้งซ้ำซากแบบนี้ตลอดมา เมื่อถึงหน้าแล้ง เกษตรกรจะพากันลดพื้นที่ทำการเกษตรลง บางรายเคยทำจำนวน 4-5 ไร่ แต่วันนี้ลดเหลือ 1 งานเท่านั้น เพราะปัญหาน้ำ บางรายลงทุนนำน้ำใต้ดินขึ้นมาใช้ แต่ก็ไม่คุ้มทุนที่ลงไปเพราะน้ำอยู่ลึก และเสี่ยต่อการลงทุนเปล่าเมื่อเจาะหรือขุดแล้วไม่มีน้ำ วิธีแก้ปัญหาของเกษตรกรก็คือลดพื้นที่ ใช้น้ำแบบน้ำหยด นำฟางมาคลุมไว้เพื่อให้ชุ่มน้ำ จึงอยากฝากหน่วยงานที่เคยรับปากกับชาวบ้านไว้ และโดยเฉพาะนักการเมืองที่พูดไว้ อย่าลืมว่าชาวบ้านเขายังจำได้ไม่เคยลืม”
ทีม ข่าว นสพ.คน นคร สกล...รายงาน