ไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคติดเชื้อรุนแรงในมนุษย์หลายชนิดล้วนมีค้างคาวเป็นแหล่งรังโรค
ไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคติดเชื้อรุนแรงในมนุษย์หลายชนิด เช่น Ebola, Nipah, SARS หรือ MERS ล้วนมีค้างคาวเป็นแหล่งรังโรค (Reservoir) ในขณะที่ไวรัสเหล่านี้เมื่อติดเชื้อข้ามสปีชีส์มาที่มนุษย์ จะก่อให้เกิดอาการรุนแรงมีอัตราการเสียชีวิตที่สูงมาก แต่เคยสงสัยบ้างหรือไม่ว่า
ทำไมไวรัสเหล่านี้ไม่ก่อให้เกิดโรค หรือ อาการรุนแรงใดๆในค้างคาวเลย มีอะไรพิเศษในร่างกายของค้างคาวที่ไม่เหมือนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทั่วไป หรือ ไวรัสเหล่านั้นถูกอะไรในเซลล์ค้างคาวควบคุมไว้อยู่ คำถามดังกล่าวมีความพยายามหาคำตอบมาอธิบายอยู่ แต่ดูเหมือนว่าองค์ความรู้ที่มีอยู่ในปัจจุบันยังไม่ค่อยชัดเจนเท่าที่ควร
งานวิจัยชิ้นล่าสุดในวารสาร mSphere โดยทีมวิจัยจาก US-CDC และ สถาบันวิจัย Robert Koch Institute ในประเทศเยอรมันนี ได้ประสบความสำเร็จในการเหนี่ยวนำ เซลล์ไขกระดูก (Bone marrow) ของ ค้างคาว ชนิด Egyptian rousette bat ให้เป็น Dendritic cell (DC) ได้ ค้างคาวชนิดนี้ที่เป็นแหล่งรังโรคสำคัญของไวรัสหลายชนิด โดยในงานวิจัยนี้ใช้ไวรัส Marburg ซึ่งเป็นไวรัสตระกูลเดียวกับไวรัส Ebola ที่สามารถเกิดอาการติดเชื้อรุนแรงสูงมากๆในมนุษย์ โดยไวรัสดังกล่าวจะใช้ DC เป็นเซลล์ที่เป็น target สำคัญ
เมื่อทดสอบการเพิ่มจำนวนของไวรัส Marburg ใน DC ของค้างคาว พบว่า ไวรัสติดเข้าสู่ DC ของค้างคาวได้ใกล้เคียงกับการติดเชื้อของไวรัสใน DC ของมนุษย์ แต่เมื่อติดเข้าสู่เซลล์ดังกล่าวแล้ว นักวิจัยพบความแตกต่างในระดับการควบคุมการแสดงออกของยีนต่างๆ ที่เกิดขึ้นใน DC ของค้างคาวที่ติดเชื้อ คือ มีการกระตุ้นการแสดงออกของยีนที่เกี่ยวข้องกับการต้านการเพิ่มจำนวนของไวรัส (antiviral responses)โดย IFN เช่น PKR , IFIT1 , IFIT2 , ISG15, และ OAS3 อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งปกติยีนเหล่านี้จะถูกไวรัสยับยั้งแทบทั้งหมดใน DC ของมนุษย์ ข้อมูลที่น่าสนใจมากๆอีกชิ้นหนึ่งคือ DC ของค้างคาวที่ถูกไวรัสติดเชื้อจะมีการยับยั้งการแสดงออกของยีนของ cytokine ชื่อว่า IL-33 ในขณะที่ DC ของมนุษย์มีการสร้าง IL-33 ออกมาสูงมาก ซึ่งงานวิจัยในโรคติดเชื้อหลายชนิดชี้ชัดว่า cytokine ชนิดนี้ เป็นตัวการสำคัญที่จะไปเพิ่มความรุนแรงของโรค เช่น อาการไข้เลือดออกชนิดรุนแรงมักเกี่ยวข้องกับ IL-33 หรือ ภาวะตับอักเสบรุนแรงจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบก็เกี่ยวข้องโดยตรงกับ IL-33 จึงเป็นไปได้ว่า ความสามารถของ DC ค้างคาวในการยับยั้ง IL-33 น่าจะเป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติของเซลล์นี้
องค์ความรู้ในงานวิจัยนี้ถึงแม้ว่าจะยังไม่ตอบคำถามที่เห็นภาพทั้งหมด แต่อย่างน้อยเป็นการแสดงให้เห็นว่า โฮสต์มีวิวัฒนาการใช้ควบคุมไวรัสที่ก่อให้เกิดโรครุนแรงได้ คุณสมบัติดังกล่าวอาจจะเป็นประโยชน์ต่อการนำมาใช้ป้องกัน หรือ รักษาโรคติดเชื้อไวรัสรุนแรงดังกล่าวได้ ผู้สนใจสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ (Open Access) ที่ https://msphere.asm.org/content/4/6/e00728-19
อ้างอิงจาก: https://www.facebook.com/avctbiotec/videos/175321276901434
https://www.facebook.com/avctbiotec/posts/508247606432623