วิกฤตภัยแล้งน้ำแห้งคลอง ปทุมธานี (มีคลิป)
ปทุมธานี วิกฤตภัยแล้งน้ำแห้งคลอง ส่งผลให้ อ.ศาลาครุ อ.หนองสามวังอ.หนองเสือ ไม่มีน้ำหล่อเลี้ยงพืชผลทางการเกษตร และนำน้ำไปใช้อุปโภคบริโภค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากสถานการณ์ภัยแล้ง ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ส่งผลทำให้น้ำในคลองสิบสองของ อ. ศาลาครุ อ.หนองสามวัง อ.หนองเสือ ตลอดทั้งลำคลองน้ำแห้งขอดคลองทำให้เห็นสันดินโผล่เป็นช่วงๆ ส่งผลให้ชาวบ้านที่ต้องอาศัยน้ำเพื่อทำการเกษตรไม่มีน้ำที่จะสูบขึ้นมาใช้หล่อเลี้ยงต้นข้าว บางรายต้องปล่อยทิ้งให้ต้นข้าวยืนต้นตายไปหลายสิบไร่
จากการเปิดเผยของ นายอนุชา ศรีคัชชะ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 อ.ศาลาครุ อ.หนองสามวัง อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ฯ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าปัญหาภัยแล้งในปีนี้คาดว่าหนักกว่าทุกปีที่ผ่านมาในรอบหลายสิบปี โดยเฉพาะปีนี้จะเห็นได้จากน้ำในลำคลองที่แห้งสนิท ถือว่าภัยแล้งในปีนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นปี และยังต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนกว่าจะเข้าสู่ฤดูฝน อย่างไรก็ตาม ทางหน่วยงานทั้งภาครัฐและหน่วยงานต่างๆได้ตระหนักถึงความเดือดร้อนของชาวบ้านในครั้งนี้ เร่งช่วยกันแก้ไขและบรรเทาปัญหาภัยแล้งขาดแคลนน้ำ ได้ระดมนำเครื่องสูบน้ำจำนวน สี่เครื่องมาติดตั้งที่หมู่ หนึ่งของตำบล นพรัตน์ เพื่อสูปน้ำจากคลอรรพีพัฒน์เพื่อเข้าไปหล่อเลี้ยงแจกจ่ายยังคลอง 11_12 และคลองสกัด 5 ระยะทางถึง กว่า 50 กิโลเมตร ในพื้นที่ของ 6 ตำบลและอีกสองเครื่องมาติดตั้งใว้ ที่ด้านหน้าประตูระบายน้ำคลองสิบสองติดกับคลองรังสิตเพื่อสูบน้ำจากคลองรังสิตเข้าไปยังคลองสิบสองเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในครั้งนี้ให้กับชาวบ้าน
อย่างไรก็ตามต้องขอฝากประชาสัมพันธ์ถึงเกษตรกรช่วงนี้ ต้องขอให้ใช้น้ำอย่างประหยัด โดยเฉพาะเกษตรกรผู้ที่เก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้วในระยะนี้ต้องขอความร่วมมือให้ชะลอหรือหยุดทำการเกษตรไปก่อนในช่วงนี้ เพื่อที่จะได้ให้เกษตรกรบางรายที่ต้นข้าวที่มีอายุที่อยู่ในระยะใกล้จะเก็บเกี่ยวได้มีน้ำไปหล่อเลี้ยงต้นข้าวเพื่อจะได้ช่วยกันลดการศูนย์เสียให้น้อยลง โดยช่วยกันประคับประคองให้พ้นวิกฤตในครั้งนี้ โดยเฉลี่ยแบ่งปันน้ำที่ทางต้นน้ำสูบเข้ามาให้เพื่อแบ่งปันให้ปลายน้ำได้ สูบน้ำเพื่อประคับประคองไม่ให้เกิดการแย่งน้ำกัน และตนต้องขอขอบคุณแทนชาวบ้านทั้งสามอำเภอที่กำลังได้รับความเดือดร้อนจากภัยแล้งในปีนี้ โดยเฉพาะทางหน่วยงานภาครัฐ กรรมชนประธาน อบจ. อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่ได้สนับสนุนนำเครื่องสูบน้ำมาติดตั้งเพื่อสูบน้ำเข้ามาให้กับชาวบ้านเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
ส่วนทางด้านนายชูชาติ เบี้ยทอง ชาวบ้านหมู่ 7 บอกว่าภัยแล้งปีนี้มาเร็วกว่าทุกปี จะเห็นได้ว่านี่เพิ่งจะเดือนมกราคม ก็เกิดน้ำแห้งคลองเสียแล้ว ถ้าเทียบกับทุกปี ปีนี้ถือว่าแล้งหนักแล้งนาน โดยเฉพาะต้นข้าวที่ตนปลูกไว้หลายสิบไร่ตอนนี้กำลังตั้งท้องไกล้ออกรวงอีกห้าสิบวันจึงจะเก็บเกี่ยวได้ ตอนนี้ก็ไม่มีน้ำที่จะสูบขึ้นไปหล่อเลี้ยงเพราะตนนั้นอยู่ปลายน้ำ จึงคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรต่อไป ?